หลักประกันการคุ้มครองผู้บริโภคตาม พ.ร.บ. ขายตรงและตลาดแบบตรงฯ

พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมาใช้บริการผ่านระบบออนไลน์กันมากขึ้น “การวางหลักประกัน” การประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง จึงเป็นมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าหรือบริการจากธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

      ในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ ซึ่งจะเป็นหลักประกันได้ว่า ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจะได้รับการคุ้มครองจากผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง หากผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายสินค้าหรือบริการ หรือถูกเพิกถอนทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกำหนดให้ผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ต้องวางหลักประกันต่อนายทะเบียน เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงการวางหลักประกันการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2561

      การวางหลักประกันหรือวงเงินหลักประกัน จึงเป็นมาตรการเยียวยาผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจริง และเป็นการชดเชยความเสียหายเป็นจำนวนเงินแก่ผู้บริโภคตามกฎหมาย เมื่อผู้บริโภคได้รับสิทธิในการคุ้มครองจากการซื้อสินค้าหรือบริการธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง หากท่านได้ซื้อสินค้าหรือบริการในธุรกิจดังกล่าวคราวใด โดยเฉพาะผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ สคบ. ขอแนะนำว่าให้เลือกร้านค้าออนไลน์ หรือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงต่อ สคบ. ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ซึ่งหากท่านได้รับความเสียหาย ก็จะได้รับการเยียวยาและชดเชย ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ผ่านการจดทะเบียนขายตรงและตลาดแบบตรงได้ที่ www.ocpb.go.th
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่