ก่อนอื่นผมก็ต้องขอสวัสดีทุกคนก่อนนะครับ ที่แวะเข้ามาอ่าน หรือหลงเข้ามาอ่าน ฮ่า ๆ
ก็สวัสดีทุกคนนะครับ วันนี้ผมอยากจะมาแชร์เรื่องราวของคนที่ ไม่แสดงออก อย่างผมเนี่ย หาแฟนกันยังไง ซึ่งตัวผมเองใช้พันทิพมาก็เกือบ ๆ เดือนได้แล้ว เห็นกระทู้อะไรมากมาย และวันนี้ผมเองอยากจะมาขอแชร์ หรือเล่าประสบการณ์ของตัวผมเองครับ
งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่านะ
ปัจจุบันผมอายุ 25 ปี ครับ ดูเด็ก ๆ อยู่ใช่ไหม ก็อาจจะใช่ ส่วนตัวผมชอบคนที่มีอายุมากกว่าตัวเองเลย เลข 30 นี้ คือ วัยกำลังน่ากินเลย ใช้คำนี้เลยละกัน หรือเป็นวัยที่ผมอยากรู้จัก เพราะในสังคมที่ผมอยู่ค่อนข้างมีแต่เพื่อนวัย 30 up ทำให้ผมเข้ากับคนง่าย และมีความคิดที่ไม่ค่อยเหมือนเพื่อนในวัยเดียวกัน (เทียบจากเพื่อนที่รู้จักนะ) ผมเองมีนิสัยที่ไม่แสดงออกเลยก็ว่าได้ ก็คงเหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป หรืออาจจะ ordinary เลย แต่ความทั่วไปของผมเลย ก็คือ ทุกครั้งเวลาที่ผมจะชอบใคร ผมจะทำตัวเองให้ดูดีขึ้น เก่งขึ้น ให้เหมาะสมกับเป้าหมายของเรา และคนที่ผมอยากรู้จักส่วนใหญ่ เขาคนนั้นก็ไม่แสดงออก และเป็นผู้ชายทั่ว ๆ ไป ไม่สาว ดูภายนอกก็คงจะแมน 100% และพี่ ๆ เชื่อผมไหมครับ คนที่ผมชอบส่วนใหญ่เนี่ยผมจีบติดทั้งนั้นเลย มันก็อาจไม่เชิงว่าจีบนะ แค่เรารู้จักกันในแบบที่มันควรจะเป็นทั่ว ๆ ไป นั้นคือ แบบเพื่อน ซึ่งอยากจะยกตัวอย่าง ดังนี้ครับ
แฟนคนแรกของผมเป็นหมอครับ คนนี้อายุยังไม่ถึง 30 แต่แค่เกือบ ๆ ช่วงก่อนโควิดเป็นช่วงที่ผมชอบวิ่งมาก ๆ เพราะช่วงลีนตัวเอง และผมก็ได้ลงงานวิ่งงานหนึ่ง และงานนี้แหละทำให้ผมได้เจอเขา เราทำความรู้จักกันตอนที่ผมขาผลิกครับ ด้วยตัวผมเองไม่เคยลงงานวิ่งมาก่อน อะไร ๆ มันก็ตื่นเต้นทั้งคนรอบข้าง ผู้เข้าแข่งขันก็เยอะแยะไปหมด ตื่นเต้นเลยก็ว่าได้ ... ขอตัดไปตอนที่ขาผลิกเลย พี่หมอเขาก็มาช่วยผมครับ เขาก็เป็นนักวิ่งคนหนึ่งนะ แต่เขาช่วยไม่สุด พาเข้าข้างทางแล้วก็วิ่งไปต่อ ซึ่งผมวิ่งต่อไม่ได้ 555 แต่พี่เขาวิ่งเสร็จก็กลับมาดูครับ ผมก็นั่งตรงนั้นทั้งเซง และเสียดายเงินที่ลงสมัคร แต่ไม่ดันเข้าเส้นชัย หลังจากที่พี่หมอกลับมาดู มันก็ทำให้ผมรู้สึกชอบเขา มันบอกไม่ถูกแหะแต่มันคงเป็น first impression ที่เราแบบเห้ยดีวะ พอช่วยเสร็จไม่ได้ขอ contact อะไรนะ แต่เราเองดื้อ ไปค้นในแฮชแท็กของงานวิ่ง ก็ไปเจอเขาอัพรูปพร้อมติดแฮชแท็ก เราก็ติดตามเขามาเรื่อย ๆ (ไม่ได้ follow ig) นะ แอบดู ๆ 555 เขาไปวิ่งที่สวนลุม ผมก็ไปวิ่ง ไม่ได้คิดว่าจะเจอหรอก เพราะเห็นเขาชอบไปวิ่ง สรุปเขาก็เห็นผม ผมเลยทักเขาสะเลย แล้วก็ทำความรู้จักกันในแบบเพื่อน จนมันเริ่มพัฒนามาเรื่อย ๆ แบบ งง ๆ แล้วก็ตามนั้น ได้เสียกันแบบ งง ๆ คบกันประมาณปีกว่า ๆ แล้วผมก็ไปเรียนต่อครับ (คนนี้จบแล้ว) ผมกำลังจะบอกว่า "เราชอบใคร เราแค่เอาตัวเองไปอยู่ในจุด ๆ นั้นครับ"
แฟนคนที่สองของผม(เกือบจะเป็นแฟน แต่เรา...) คนนี้ค่อนข้างที่จะไม่แสดงออกมาก ๆ มองก็คงไม่รู้ และผมไม่อยากรู้จัก เพราะชีวิตวุ่นวายทั้งงาน และการเรียนต่อ แต่คนที่สองเนี่ย เริ่มจากการที่ผมเบื่อวิ่ง ผมก็เริ่มเข้าฟิตเนส ดูแลตัวเอง ผมว่าทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า "ชอบคนแบบไหน ให้เอาตัวเองไปอยู่ในที่แบบนั้น" ผมชอบคนมีกล้าม ผมก็เอาตัวเองไปอยู่ในที่ ๆ คนกลุ่มนั้นควรอยู่ แต่ต้องไม่อึดอัดนะ แรก ๆ ก็ไม่คิดอะไร ไปเล่นเพื่ออยากให้หุ่นตัวเองดูดี (ในใจก็คิดว่า ถ้าเราดูดีมันก็คงดึงดูดคนเข้าหาเราได้) ผมเองแฮปปี้กับการเล่นกล้ามตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบัน การได้แฟนจากยิม คือ ผลพลอยได้ แต่ผลลัพธ์ของเราที่ตั้งไว้ คือ หุ่นที่ดี ซึ่งแฟนคนนี้ผมก็เล่นเครื่องเล่นปกติ ทุกครั้งที่ไปยิม ผมก็จะเจอเขาบ่อยแต่ไม่ได้ทักเลย อารมณ์เหมือนคนหยิ่ง ๆ สองคนมาเจอกัน แต่ด้วยความที่เจอกันบ่อยไม่ทักกัน วันนึงผมเล่นเครื่องเล่นผิดท่าครับ พี่เขาเลยเดินเข้ามาทักท้วงให้เล่นแบบนี้ ผมก็ตอบแค่ "ขอบคุณครับ" พี่เขาก็ไป อารมณ์เหมือน กุมาบอกแค่นี้แหละ รำคาญ เล่นก็ผิด 5555 แล้วมันก็จบลงแค่นั้น แต่ด้วยความที่อะไรก็ไม่รู้ วันหนึ่งผมไปนั่งร้านกาแฟแถวเซนพระราม 9 ผมก็เจอพี่เขามานั่ง เห็นกันทั้งคู่นะ แต่ก็หยิ่ง ด้วยความที่โต๊ะที่ผมนั่งครับ มีปลั๊กชาร์ตแบท แต่โต๊ะที่เขานั่งเป็นโต๊ะกลางที่มีปลั๊กลงดิน (ผมไม่แน่ใจว่าทำไมเขาไม่ชาร์ทตรงนั้น) แต่เขากลับเลือกเดินมานั่งด้วย เออ งง เหมืนกัน พอนั่งด้วยกันก็ถามเรื่องยิมนี้แหละ ประมาณว่ามาเล่นบ่อยไหม เป็นสมาชิกที่นี้นานยัง เราก็ตอบไป บลา ๆ แล้วก็แยกย้าย จากนั้นพี่เขาก็บอกว่า เวลาจะมาเล่นยิม ชวนผมก็ได้นะ ผมอยู่แถวนี้ และเชื่อไหม ผมไม่เคยชวนเลย เพราะไม่ได้ชอบ555 แต่ก็ยังเจอกันที่ยิมปกติ และอะไรไม่รู้นะ มันทำให้ผมกับพี่เขาได้มาคุยกัน แต่ไม่ได้ตอบตกลงเป็นแฟนนะครับ เพราะผมวุ่นวายกับชีวิตมากจริง ๆ ปัจจุบันก็เป็นพี่น้องกันปกติ นอกจากยิมก็ไม่มีอะไร เพราะผมวุ่นวายมาก 555 ส่วนคนนี้ ผมกำลังจะบอกว่า เมื่อเราทำตัวเองให้ดูดีแล้ว เดี๋ยวก็มีคนเข้าหาเราครับ เพราะช่วงนี้หุ่นผมค่อนข้างโอเคเลย แฮปปี้ที่มาได้ไกล และก็บรรลุจุดประสงค์ที่มีคนเข้าหา ประมาณนี้แหละ
และคนสุดท้ายครับ คนนี้ผมเจอในสายงาน เขาเป็นคนที่เก่งมาก ๆ เก่งที่ว่าคือ เก่งในสายงานตัวเอง เก่งในด้านการคิด และพูด ทำให้ผมรู้สึกคนนี้มีเสน่ห์มาก ๆ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ถ้าชอบใครแล้ว และฐานะทางสังคม เช่น การงาน ความรู้ เราไม่เท่ากัน หรือต่างกันมาก ๆ ผมจะเป็นคนที่ force ตัวเองมากขึ้น หมายถึงกดดันตัวเอง ทำตัวเองให้เก่งขึ้น ดูดีขึ้น ให้เหมาะและสมควรกับคนที่เราชอบ แต่ห้ามอึดอัดในสิ่งที่ทำนะ! มันสำคัญมาก คนนี้ครับ ผมใช้คำว่าแอบชอบเขามานานมาก เขาไม่แสดงออกเลย เป็นผู้ชายปกติ แต่ที่เรารู้ว่าเขาชอบผู้ชาย เพราะใน social ของเขา จะบอกว่าเปิดก็ไม่ได้ และปิดก็ไม่เชิง แต่ผมมีวิธีเช็คโดยส่วนตัวครับ คิดว่าคนอื่นน่าจะรู้จักนะ เช่น คนที่คุณชอบเขา following ใครบ้าง (ชายหญิง กี่เปอร์เซ็ต) มีใครแท็กรูปเขาบ้าง บลา ๆ จนผมก็ไปเจอข้อมูลว่าเออ เขาชอบผู้ชายนี้แหละ (แต่ยังไม่ชัวร์) ผมก็ใช้ชีวิต ดูแลตัวเอง พัฒนาตัวเอง (เกือบปีแหนะ) พอถึงเวลานึงที่ผมคิดว่า เหมาะสม หรือเวลาเหมาะแล้วที่เราจะต้องรู้จักกับเขาคนนี้สักที ผมก็เริ่มจากการไปในที่ ๆ เขาไป เขาไปร้านกาแฟ ผมก็ไปร้านกาแฟ (อาจดูน่ากลัวนะ) แต่ทำไมเราต้องรอให้พรมลิขิตมาขีดไว้ละ เราก็ลิขิตเองเลย ง่ายจะตาย ถ้าเรามั่นใจตัวเราแล้ว เราก็แค่ลุย (แต่อย่ามากไป เอาแค่พอดี น้ำนิ่งไหลลึก) และที่ทำให้เราเจอกันบ่อยก็เพราะไปเล่นแบทด้วยกันครับ ผมก็ไม่คุ้นหน้าเขานะ แต่เขาบอกมาเล่นบ่อยมาก เออบ่อยก็บ่อย (แต่ตูไม่เคยเห็นเลย) แล้วก็เล่นด้วยกันไปเรื่อย ๆ มันดีตรงที่เราเนี่ยเล่นเก่งมาก 555 (อวยตัวเอง) จนพี่เขาชอบมาคู่ผมแล้วก็เล่นด้วยกัน ทำความรู้จักกัน ปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นแฟนกันนะครับ แต่เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน (เฟื้อนหรอ 555) แต่แฮปปี้ พี่เขาเคยมาขอเป็นแฟนแล้วครับ จริง ๆ ใช้คำว่าขอก็ไม่ได้ อารมณ์เหมือนผู้ชายอายที่ต้องพูดอะ แต่ด้วยเขามีอายุ ก็ 30-31 มั้ง ผ่านโลกมาเยอะ เขาก็เปย ๆ ประมาณนั้นแหละ แต่ผมดื้อ ดื้อที่ว่าคือเล่นตัว เพราะเราพัฒนาตัวเองมาเพื่อยูเลยนะ เหมือนเราเอาชนะเขาได้อะ มันเลยเกิดตัวเลือกมากขึ้นในชีวิตครับ ซึ่งสถานะผมกับพี่เขาก็ค่อนข้างแบบอธิบายยาก ถ้าถามว่าเป็นแฟนกันแฮปปี้ไหมกับคนนี้ ตอบเลยว่าโคตร แต่เรามันดื้อเล่นตัว ไม่ได้กลัวเขาหายนะ เพราะถ้าเขาหายไปก็แฮปปี้ที่เขาได้เจอคนที่ดี แต่เซ้นผมมันบอกว่า คนนี้แหละจะเป็นแฟนผมแน่ แต่แค่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะผมก็แฮปปี้กับงาน และการพัฒนาตัวเอง เชื่อไหมที่ผมเล่าถึงคนนี้ผมยังอยากขอบคุณเขาเลยครับ ที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ อาจจะด้วยตัวเองที่มีนิสัย ไม่ชอบยอมแพ้ ชอบเอาชนะ กล้าได้กล้าเสีย ไม่รอ ชอบเดินชน เข้าหา แต่เรา "ต้องเหมาะสมด้วยนะ"
ไม่ใช่ชอบใครแล้วจุดที่เขายืน กับเรายืนมันต่างกัน แบบนั้นก็ไม่ไหว ทำตัวเองให้ดี พัฒนาตัวเองให้เก่ง เป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่หนีไปไหนหรอก ทำตัวเองให้ไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม มั่นใจในตัวเองเป็นเรื่องสำคัญครับ
อ้อ ผมอาจจะเป็นคนที่หน้าตาค่อนข้างดูได้ทุนเดิม มันเลยทำให้คนเข้าหาครับ แต่สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจคือ ความสามารถของตัวเอง เพราะการที่มีคนเข้าหามันก็ดี หรือเราเข้าหามันก็ดี แต่หลังจากนั้นหละ ถ้าจุดที่ยืนมันต่างกันมาก มันก็ไปไม่รอด ฉะนั้น เราต้องทำตัวให้เหมาะสมกับเขาครับ ถึงแม้ปลายทาง หรือเป้าหมายของเรามันไม่ใช่เขาคนนั้น อย่างน้อยเขาเหล่านั้นก็เป็น inspiration ให้เราเป็นคนที่ดีกว่าเดิมครับผม
Be the best version of yourself than ystrd krub : )
ขอบคุณครับ
ไม่แสดงออกก็หาแฟนได้นะ (เรื่องราวของผมเอง ช/ช)
ก็สวัสดีทุกคนนะครับ วันนี้ผมอยากจะมาแชร์เรื่องราวของคนที่ ไม่แสดงออก อย่างผมเนี่ย หาแฟนกันยังไง ซึ่งตัวผมเองใช้พันทิพมาก็เกือบ ๆ เดือนได้แล้ว เห็นกระทู้อะไรมากมาย และวันนี้ผมเองอยากจะมาขอแชร์ หรือเล่าประสบการณ์ของตัวผมเองครับ
งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่านะ
ปัจจุบันผมอายุ 25 ปี ครับ ดูเด็ก ๆ อยู่ใช่ไหม ก็อาจจะใช่ ส่วนตัวผมชอบคนที่มีอายุมากกว่าตัวเองเลย เลข 30 นี้ คือ วัยกำลังน่ากินเลย ใช้คำนี้เลยละกัน หรือเป็นวัยที่ผมอยากรู้จัก เพราะในสังคมที่ผมอยู่ค่อนข้างมีแต่เพื่อนวัย 30 up ทำให้ผมเข้ากับคนง่าย และมีความคิดที่ไม่ค่อยเหมือนเพื่อนในวัยเดียวกัน (เทียบจากเพื่อนที่รู้จักนะ) ผมเองมีนิสัยที่ไม่แสดงออกเลยก็ว่าได้ ก็คงเหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป หรืออาจจะ ordinary เลย แต่ความทั่วไปของผมเลย ก็คือ ทุกครั้งเวลาที่ผมจะชอบใคร ผมจะทำตัวเองให้ดูดีขึ้น เก่งขึ้น ให้เหมาะสมกับเป้าหมายของเรา และคนที่ผมอยากรู้จักส่วนใหญ่ เขาคนนั้นก็ไม่แสดงออก และเป็นผู้ชายทั่ว ๆ ไป ไม่สาว ดูภายนอกก็คงจะแมน 100% และพี่ ๆ เชื่อผมไหมครับ คนที่ผมชอบส่วนใหญ่เนี่ยผมจีบติดทั้งนั้นเลย มันก็อาจไม่เชิงว่าจีบนะ แค่เรารู้จักกันในแบบที่มันควรจะเป็นทั่ว ๆ ไป นั้นคือ แบบเพื่อน ซึ่งอยากจะยกตัวอย่าง ดังนี้ครับ
แฟนคนแรกของผมเป็นหมอครับ คนนี้อายุยังไม่ถึง 30 แต่แค่เกือบ ๆ ช่วงก่อนโควิดเป็นช่วงที่ผมชอบวิ่งมาก ๆ เพราะช่วงลีนตัวเอง และผมก็ได้ลงงานวิ่งงานหนึ่ง และงานนี้แหละทำให้ผมได้เจอเขา เราทำความรู้จักกันตอนที่ผมขาผลิกครับ ด้วยตัวผมเองไม่เคยลงงานวิ่งมาก่อน อะไร ๆ มันก็ตื่นเต้นทั้งคนรอบข้าง ผู้เข้าแข่งขันก็เยอะแยะไปหมด ตื่นเต้นเลยก็ว่าได้ ... ขอตัดไปตอนที่ขาผลิกเลย พี่หมอเขาก็มาช่วยผมครับ เขาก็เป็นนักวิ่งคนหนึ่งนะ แต่เขาช่วยไม่สุด พาเข้าข้างทางแล้วก็วิ่งไปต่อ ซึ่งผมวิ่งต่อไม่ได้ 555 แต่พี่เขาวิ่งเสร็จก็กลับมาดูครับ ผมก็นั่งตรงนั้นทั้งเซง และเสียดายเงินที่ลงสมัคร แต่ไม่ดันเข้าเส้นชัย หลังจากที่พี่หมอกลับมาดู มันก็ทำให้ผมรู้สึกชอบเขา มันบอกไม่ถูกแหะแต่มันคงเป็น first impression ที่เราแบบเห้ยดีวะ พอช่วยเสร็จไม่ได้ขอ contact อะไรนะ แต่เราเองดื้อ ไปค้นในแฮชแท็กของงานวิ่ง ก็ไปเจอเขาอัพรูปพร้อมติดแฮชแท็ก เราก็ติดตามเขามาเรื่อย ๆ (ไม่ได้ follow ig) นะ แอบดู ๆ 555 เขาไปวิ่งที่สวนลุม ผมก็ไปวิ่ง ไม่ได้คิดว่าจะเจอหรอก เพราะเห็นเขาชอบไปวิ่ง สรุปเขาก็เห็นผม ผมเลยทักเขาสะเลย แล้วก็ทำความรู้จักกันในแบบเพื่อน จนมันเริ่มพัฒนามาเรื่อย ๆ แบบ งง ๆ แล้วก็ตามนั้น ได้เสียกันแบบ งง ๆ คบกันประมาณปีกว่า ๆ แล้วผมก็ไปเรียนต่อครับ (คนนี้จบแล้ว) ผมกำลังจะบอกว่า "เราชอบใคร เราแค่เอาตัวเองไปอยู่ในจุด ๆ นั้นครับ"
แฟนคนที่สองของผม(เกือบจะเป็นแฟน แต่เรา...) คนนี้ค่อนข้างที่จะไม่แสดงออกมาก ๆ มองก็คงไม่รู้ และผมไม่อยากรู้จัก เพราะชีวิตวุ่นวายทั้งงาน และการเรียนต่อ แต่คนที่สองเนี่ย เริ่มจากการที่ผมเบื่อวิ่ง ผมก็เริ่มเข้าฟิตเนส ดูแลตัวเอง ผมว่าทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า "ชอบคนแบบไหน ให้เอาตัวเองไปอยู่ในที่แบบนั้น" ผมชอบคนมีกล้าม ผมก็เอาตัวเองไปอยู่ในที่ ๆ คนกลุ่มนั้นควรอยู่ แต่ต้องไม่อึดอัดนะ แรก ๆ ก็ไม่คิดอะไร ไปเล่นเพื่ออยากให้หุ่นตัวเองดูดี (ในใจก็คิดว่า ถ้าเราดูดีมันก็คงดึงดูดคนเข้าหาเราได้) ผมเองแฮปปี้กับการเล่นกล้ามตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบัน การได้แฟนจากยิม คือ ผลพลอยได้ แต่ผลลัพธ์ของเราที่ตั้งไว้ คือ หุ่นที่ดี ซึ่งแฟนคนนี้ผมก็เล่นเครื่องเล่นปกติ ทุกครั้งที่ไปยิม ผมก็จะเจอเขาบ่อยแต่ไม่ได้ทักเลย อารมณ์เหมือนคนหยิ่ง ๆ สองคนมาเจอกัน แต่ด้วยความที่เจอกันบ่อยไม่ทักกัน วันนึงผมเล่นเครื่องเล่นผิดท่าครับ พี่เขาเลยเดินเข้ามาทักท้วงให้เล่นแบบนี้ ผมก็ตอบแค่ "ขอบคุณครับ" พี่เขาก็ไป อารมณ์เหมือน กุมาบอกแค่นี้แหละ รำคาญ เล่นก็ผิด 5555 แล้วมันก็จบลงแค่นั้น แต่ด้วยความที่อะไรก็ไม่รู้ วันหนึ่งผมไปนั่งร้านกาแฟแถวเซนพระราม 9 ผมก็เจอพี่เขามานั่ง เห็นกันทั้งคู่นะ แต่ก็หยิ่ง ด้วยความที่โต๊ะที่ผมนั่งครับ มีปลั๊กชาร์ตแบท แต่โต๊ะที่เขานั่งเป็นโต๊ะกลางที่มีปลั๊กลงดิน (ผมไม่แน่ใจว่าทำไมเขาไม่ชาร์ทตรงนั้น) แต่เขากลับเลือกเดินมานั่งด้วย เออ งง เหมืนกัน พอนั่งด้วยกันก็ถามเรื่องยิมนี้แหละ ประมาณว่ามาเล่นบ่อยไหม เป็นสมาชิกที่นี้นานยัง เราก็ตอบไป บลา ๆ แล้วก็แยกย้าย จากนั้นพี่เขาก็บอกว่า เวลาจะมาเล่นยิม ชวนผมก็ได้นะ ผมอยู่แถวนี้ และเชื่อไหม ผมไม่เคยชวนเลย เพราะไม่ได้ชอบ555 แต่ก็ยังเจอกันที่ยิมปกติ และอะไรไม่รู้นะ มันทำให้ผมกับพี่เขาได้มาคุยกัน แต่ไม่ได้ตอบตกลงเป็นแฟนนะครับ เพราะผมวุ่นวายกับชีวิตมากจริง ๆ ปัจจุบันก็เป็นพี่น้องกันปกติ นอกจากยิมก็ไม่มีอะไร เพราะผมวุ่นวายมาก 555 ส่วนคนนี้ ผมกำลังจะบอกว่า เมื่อเราทำตัวเองให้ดูดีแล้ว เดี๋ยวก็มีคนเข้าหาเราครับ เพราะช่วงนี้หุ่นผมค่อนข้างโอเคเลย แฮปปี้ที่มาได้ไกล และก็บรรลุจุดประสงค์ที่มีคนเข้าหา ประมาณนี้แหละ
และคนสุดท้ายครับ คนนี้ผมเจอในสายงาน เขาเป็นคนที่เก่งมาก ๆ เก่งที่ว่าคือ เก่งในสายงานตัวเอง เก่งในด้านการคิด และพูด ทำให้ผมรู้สึกคนนี้มีเสน่ห์มาก ๆ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ถ้าชอบใครแล้ว และฐานะทางสังคม เช่น การงาน ความรู้ เราไม่เท่ากัน หรือต่างกันมาก ๆ ผมจะเป็นคนที่ force ตัวเองมากขึ้น หมายถึงกดดันตัวเอง ทำตัวเองให้เก่งขึ้น ดูดีขึ้น ให้เหมาะและสมควรกับคนที่เราชอบ แต่ห้ามอึดอัดในสิ่งที่ทำนะ! มันสำคัญมาก คนนี้ครับ ผมใช้คำว่าแอบชอบเขามานานมาก เขาไม่แสดงออกเลย เป็นผู้ชายปกติ แต่ที่เรารู้ว่าเขาชอบผู้ชาย เพราะใน social ของเขา จะบอกว่าเปิดก็ไม่ได้ และปิดก็ไม่เชิง แต่ผมมีวิธีเช็คโดยส่วนตัวครับ คิดว่าคนอื่นน่าจะรู้จักนะ เช่น คนที่คุณชอบเขา following ใครบ้าง (ชายหญิง กี่เปอร์เซ็ต) มีใครแท็กรูปเขาบ้าง บลา ๆ จนผมก็ไปเจอข้อมูลว่าเออ เขาชอบผู้ชายนี้แหละ (แต่ยังไม่ชัวร์) ผมก็ใช้ชีวิต ดูแลตัวเอง พัฒนาตัวเอง (เกือบปีแหนะ) พอถึงเวลานึงที่ผมคิดว่า เหมาะสม หรือเวลาเหมาะแล้วที่เราจะต้องรู้จักกับเขาคนนี้สักที ผมก็เริ่มจากการไปในที่ ๆ เขาไป เขาไปร้านกาแฟ ผมก็ไปร้านกาแฟ (อาจดูน่ากลัวนะ) แต่ทำไมเราต้องรอให้พรมลิขิตมาขีดไว้ละ เราก็ลิขิตเองเลย ง่ายจะตาย ถ้าเรามั่นใจตัวเราแล้ว เราก็แค่ลุย (แต่อย่ามากไป เอาแค่พอดี น้ำนิ่งไหลลึก) และที่ทำให้เราเจอกันบ่อยก็เพราะไปเล่นแบทด้วยกันครับ ผมก็ไม่คุ้นหน้าเขานะ แต่เขาบอกมาเล่นบ่อยมาก เออบ่อยก็บ่อย (แต่ตูไม่เคยเห็นเลย) แล้วก็เล่นด้วยกันไปเรื่อย ๆ มันดีตรงที่เราเนี่ยเล่นเก่งมาก 555 (อวยตัวเอง) จนพี่เขาชอบมาคู่ผมแล้วก็เล่นด้วยกัน ทำความรู้จักกัน ปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นแฟนกันนะครับ แต่เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน (เฟื้อนหรอ 555) แต่แฮปปี้ พี่เขาเคยมาขอเป็นแฟนแล้วครับ จริง ๆ ใช้คำว่าขอก็ไม่ได้ อารมณ์เหมือนผู้ชายอายที่ต้องพูดอะ แต่ด้วยเขามีอายุ ก็ 30-31 มั้ง ผ่านโลกมาเยอะ เขาก็เปย ๆ ประมาณนั้นแหละ แต่ผมดื้อ ดื้อที่ว่าคือเล่นตัว เพราะเราพัฒนาตัวเองมาเพื่อยูเลยนะ เหมือนเราเอาชนะเขาได้อะ มันเลยเกิดตัวเลือกมากขึ้นในชีวิตครับ ซึ่งสถานะผมกับพี่เขาก็ค่อนข้างแบบอธิบายยาก ถ้าถามว่าเป็นแฟนกันแฮปปี้ไหมกับคนนี้ ตอบเลยว่าโคตร แต่เรามันดื้อเล่นตัว ไม่ได้กลัวเขาหายนะ เพราะถ้าเขาหายไปก็แฮปปี้ที่เขาได้เจอคนที่ดี แต่เซ้นผมมันบอกว่า คนนี้แหละจะเป็นแฟนผมแน่ แต่แค่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะผมก็แฮปปี้กับงาน และการพัฒนาตัวเอง เชื่อไหมที่ผมเล่าถึงคนนี้ผมยังอยากขอบคุณเขาเลยครับ ที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ อาจจะด้วยตัวเองที่มีนิสัย ไม่ชอบยอมแพ้ ชอบเอาชนะ กล้าได้กล้าเสีย ไม่รอ ชอบเดินชน เข้าหา แต่เรา "ต้องเหมาะสมด้วยนะ"
ไม่ใช่ชอบใครแล้วจุดที่เขายืน กับเรายืนมันต่างกัน แบบนั้นก็ไม่ไหว ทำตัวเองให้ดี พัฒนาตัวเองให้เก่ง เป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่หนีไปไหนหรอก ทำตัวเองให้ไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม มั่นใจในตัวเองเป็นเรื่องสำคัญครับ
อ้อ ผมอาจจะเป็นคนที่หน้าตาค่อนข้างดูได้ทุนเดิม มันเลยทำให้คนเข้าหาครับ แต่สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจคือ ความสามารถของตัวเอง เพราะการที่มีคนเข้าหามันก็ดี หรือเราเข้าหามันก็ดี แต่หลังจากนั้นหละ ถ้าจุดที่ยืนมันต่างกันมาก มันก็ไปไม่รอด ฉะนั้น เราต้องทำตัวให้เหมาะสมกับเขาครับ ถึงแม้ปลายทาง หรือเป้าหมายของเรามันไม่ใช่เขาคนนั้น อย่างน้อยเขาเหล่านั้นก็เป็น inspiration ให้เราเป็นคนที่ดีกว่าเดิมครับผม
Be the best version of yourself than ystrd krub : )
ขอบคุณครับ