1007 พยัคฆ์ร้ายทวงแค้นระห่ำโลก เรื่องย่อ เจมส์ บอนด์ สายลับ MI6 ขับรถจากทะเลสาบการ์ดาโดยมีมิสเตอร์ไวต์อยู่ท้ายรถ เขาถูกคนร้ายขับรถไล่ตามแต่หนีรอดมาได้ บอนด์พาตัวไวต์ไปหา M หัวหน้าของเขาที่เมืองซีเอนา ประเทศอิตาลี M สอบสวนไวต์ถึงองค์กร "ควอนตัม" แต่ถูกมิตเชลล์ สายลับสองหน้าของควอนตัมที่ทำงานเป็นบอดี้การ์ดของตนโจมตี ไวต์หนีไปได้ ส่วนบอนด์ไล่ตามมิตเชลล์ไปและยิงเขาเสียชีวิต บอนด์และ M กลับไปที่ลอนดอนและค้นห้องพักของมิตเชลล์ ซึ่งชี้ไปที่เฮติ บอนด์ไปที่นั่นและสู้กับสเลท นักฆ่าที่ถูกส่งมาฆ่าคามิลล์ คนรักของนักธุรกิจ โดมินิค กรีน บอนด์สืบจนพบว่ากรีนให้ความช่วยเหลือนายพลเมดราโน อดีตนายพลชาวโบลิเวียที่ต้องการขึ้นเป็นประธานาธิบดี และนายพลเมดราโนยังเป็นผู้ที่ฆ่าครอบครัวของคามิลล์
บอนด์ช่วยคามิลล์จากนายพลเมดราโน ก่อนจะตามกรีนไปที่การแสดง ตอสกา ที่เมืองเบรเกนซ์ ประเทศออสเตรีย บอนด์ลอบฟังการประชุมและระบุตัวสมาชิกของควอนตัม แต่ถูกจับได้ ระหว่างหลบหนี เฮนส์ บอดี้การ์ดของสมาชิกควอนตัมถูกฆ่าหลังสู้กับบอนด์ M จึงอนุมานว่าบอนด์ฆ่าเขาและสั่งยกเลิกพาสพอร์ตและบัตรเครดิตของบอนด์ บอนด์เดินทางไปที่อิตาลีเพื่อพบกับเพื่อนเก่า เรอเน แมตธิส ที่นั่นบอนด์พบกับสตรอเบอรี ฟิลด์ส เจ้าหน้าที่ที่ M ส่งมาเพื่อพาตัวบอนด์กลับลอนดอน แต่บอนด์ล่อลวงเธอและไปที่งานระดมทุนของกรีน บอนด์พบกับคามิลล์อีกครั้งและรอดจากการต่อสู้กับตำรวจโบลิเวียที่ทำงานให้นายพลเมดราโน แต่แมตธิสเสียชีวิต
วันต่อมา บอนด์และคามิลล์ขึ้นเครื่องบินเพื่อสำรวจพื้นที่ที่องค์กรควอนตัมถือครอง เครื่องบินของพวกเขาถูกยิงตก บอนด์และคามิลล์กระโดดร่มมาลงที่หลุมยุบและพบความจริงว่าองค์กรควอนตัมตั้งใจจะผูกขาดการจัดการแหล่งน้ำในโบลิเวียเพื่อประโยชน์ของตนเอง บอนด์กลับไปที่เมืองลาปาซและพบ M ซึ่งบอกว่าฟิลด์สถูกฆ่าโดยมีน้ำมันชโลมอยู่ทั่วร่าง บอนด์ไปที่บาร์เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ CIA เฟลิกซ์ เลเทอร์ ผู้ซึ่งบอกบอนด์ว่ากรีนและนายพลเมดราโนจะพบกันที่โรงแรมในทะเลทรายอาตากามา
ที่โรงแรมในทะเลทราย กรีนซึ่งตอนนี้ถือครองสิทธิ์ควบคุมแหล่งน้ำส่วนใหญ่ในโบลิเวีย ยื่นคำขาดให้เขาเป็นผู้เดียวที่สามารถควบคุมการซื้อขายน้ำได้ ด้านบอนด์ลอบเข้าไปในโรงแรมและยิงหัวหน้าตำรวจที่ทรยศแมตธิสเสียชีวิต บอนด์สู้กับกรีน ส่วนคามิลล์สู้กับนายพลเมดราโน ซึ่งถูกคามิลล์ยิงเสียชีวิต ก่อนที่บอนด์ คามิลล์และกรีนที่ถูกจับตัวได้จะหนีออกจากโรงแรมที่กำลังไฟไหม้ บอนด์เค้นข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรควอนตัมกับกรีน ก่อนจะปล่อยกรีนทิ้งไว้กลางทะเลทรายกับน้ำมันเครื่องหนึ่งกระป๋อง
บอนด์เดินทางไปที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซียเพื่อพบกับยูซุฟ คาบิรา อดีตคนรักของเวสเปอร์ ลินด์ที่กำลังล่อลวงสายลับชาวแคนาดา บอนด์ไว้ชีวิตคาบิราและออกมาเจอ M ซึ่งแจ้งข่าวว่ากรีนถูกพบเป็นศพอยู่กลางทะเลทราย ถูกยิงสองนัดและมีน้ำมันเครื่องอยู่ในกระเพาะอาหาร M ขอให้บอนด์กลับมาทำงาน แต่บอนด์เดินจากไปพร้อมกับตอบว่าเขาไม่เคยลาออก ก่อนจะทิ้งสร้อยของเวสเปอร์ลงบนหิมะ 2ไททานิค เรื่องย่อ ในปี ค.ศ. 1996 นักล่าสมบัติ บร็อค เลิฟเว็ตต์ และทีมของเขาขึ้นเรือวิจัยชื่อว่า อคาเดมิก มิสติสลาฟ เคลดิช เพื่อค้นหาซากเรือแตกของ อาร์เอ็มเอส ไททานิก และ หัวใจมหาสมุทร สร้อยคอเพชรหายาก พวกเขากู้ตู้นิรภัยซึ่งมีภาพวาดของหญิงสาวใส่แค่สร้อยคอ ลงวันที่ 14 เมษายน 1912 วันที่เรือชนภูเขาน้ำแข็ง[Note 1] โรส ดอว์สัน แคลเวิร์ต ผู้หญิงที่อยู่ในรูปวาด ขึ้นเรือ เคลดิช และเล่าประสบการณ์บนเรือ ไททานิก ให้เลิฟเว็ตต์ฟัง
ในปี ค.ศ. 1912 ที่เซาแทมป์ตัน โรส เดวิตต์ บูเคเตอร์ ผู้โดยสารชั้นหนึ่งอายุ 17 ปี มาพร้อมกับ แคล ฮอคลีย์ คู่หมั้นของเธอ และ รูธ แม่ของเธอ ขึ้นเรือหรูหราชื่อว่า ไททานิก รูธเน้นย้ำกับโรสว่าการแต่งงานของโรสจะช่วยแก้ปัญหาด้านการเงินของครอบครัวและช่วยรักษาสถานะชนชั้นสูงเอาไว้ โรสรู้สึกอึดอัดใจเรื่องการแต่งงาน เธอจึงปีนรั้วกั้นท้ายเรือและพยายามที่จะฆ่าตัวตาย แจ็ก ดอว์สัน ศิลปินผู้ยากจน ได้เข้ามาห้ามและพยายามเกลี่ยกล่อมเธอ หลังจากแจ็กช่วยโรสได้แล้ว เจ้าหน้าที่ของเรือพร้อมกับแคลและ สไปเซอร์ เลิฟจอย คนรับใช้ของแคล มาพบทั้งสองคน โรสบอกแคลว่าเธอกำลังมองลงไปแล้วแจ็กเข้ามาช่วยเธอไม่ให้ตกลงไป แคลจึงให้รางวัลแจ็กโดยเชิญเขาให้ไปร่วมรับประทานอาหารกับพวกเขาในห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง แจ็กกับโรสเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ แม้ว่าเลิฟจอยและรูธจะระแวงเขา หลังจากอาหารเย็น โรสได้เข้าร่วมงานเลี้ยงของผู้โดยสารชั้นสามอย่างลับๆ กับแจ็ก
โรสตระหนักถึงความไม่พอใจของแคลและรูธ เธอจึงบอกปฏิเสธความรักของแจ็กที่มีให้กับเธอ แต่ต่อมาโรสรู้ตัวว่าเธอชอบเขามากกว่าแคล หลังจากนัดพบกันที่หัวเรือตอนพระอาทิตย์ตก โรสพาแจ็กไปที่ห้องส่วนตัวของเธอ เธอขอให้แจ็กวาดภาพเธอเปลือยกายโดยใส่แค่สร้อยคอหัวใจมหาสมุทรซึ่งเป็นของหมั้นของแคล พวกเขาหลบหนีเลิฟจอยและมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันภายในรถยนต์ในห้องเก็บของใต้ท้องเรือ บนดาดฟ้าด้านหน้า พวกเขาเห็นการปะทะกันของเรือกับภูเขาน้ำแข็งและได้ยินเจ้าหน้าที่และผู้สร้างเรือพูดคุยถึงความร้ายแรงของมัน แคลพบภาพวาดโรสของแจ็กกับบันทึกดูถูกจากเธอในตู้นิรภัยของเขาพร้อมกับสร้อยคอ เมื่อแจ็กกับโรสพยายามที่จะบอกแคลเรื่องเรือชนภูเขาน้ำแข็ง แคลตอบโต้ด้วยการให้เลิฟจอยแอบใส่สร้อยคอไว้ในกระเป๋าเสื้อของแจ็ก และกล่าวว่าเขาเป็นขโมย แจ็กถูกจับและถูกคุมขังในห้องของเจ้าหน้าที่ควบคุมเรือ แคลใส่สร้อยคอไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขาเอง
ขณะที่เรือกำลังจมลง โรสหนีแคลกับแม่ของเธอซึ่งได้ขึ้นเรือบด ไปช่วยปลดปล่อยแจ็ก บนดาดฟ้าเรือ แคลได้พบแจ็กกับโรสอีกครั้ง แคลและแจ็กสนับสนุนให้โรสขึ้นเรือบด แคลอ้างว่าได้ตกลงกับเจ้าหน้าที่ไว้แล้วว่าจะลงเรืออีกลำหนึ่งกับแจ็ก ซึ่งแท้จริงแล้วแจ็กไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ขณะที่เรือบดกำลังลดระดับลง โรสรู้ตัวว่าเธอไม่สามารถแยกห่างจากแจ็กได้ เธอจึงโดดกลับขึ้นเรือ แคลเอาปืนพกของเลิฟจอยแล้วไล่ตามยิงโรสกับแจ็กไปจนถึงในห้องรับประทานอาหารชั้นหนึ่ง หลังเขาใช้กระสุนหมดแล้วจึงลดละ และมานึกได้ว่าใส่สร้อยคอเพชรไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุมที่เขาสวมให้กับโรส ต่อมาเขาได้ขึ้นเรือบดโดยอุ้มเด็กที่หลงกับแม่และอ้างตัวว่าเขาเป็นพ่อ เพื่อที่จะได้ลงเรือลำนั้น
หลังจากหนีแคลพ้นและเอาตัวรอดจากน้ำที่ทะลักมาตามเส้นทางห้องโดยสารในเรือ แจ็กกับโรสกลับมาที่ดาดฟ้าเรือ เรือบดได้ออกเดินทางไปหมดแล้ว เหตุการณ์เลวร้ายลง มีผู้โดยสารเสียชีวิตจากการพลัดตกเรือ หรือกระแทกกับของแข็งต่างๆเมื่อเรือหักครึ่งทำให้ท้ายเรือจมลงหมาสมุทรอย่างรวดเร็ว แจ็กกับโรสปีนขึ้นไปอยู่ด้านบนของท้ายเรือเพื่อยื้อเวลาก่อน ที่เรือจะจมลงไปหมด เขาช่วยเธอให้ขึ้นไปบนซากประตูไม้ที่ลอยน้ำอยู่ แต่ว่าเพียงพอให้พ้นน้ำได้สำหรับคนเดียวเท่านั้น แจ็กให้กำลังใจและยืนยันกับโรสว่าเธอจะได้ตายในตอนชราบนเตียงอันอบอุ่นของเธอ สุดท้ายแจ็กก็เสียชีวิตด้วยภาวะตัวเย็นเกิน[8] และโรสได้รับการช่วยเหลือจากเรือบดที่พายกลับมา
ต่อมา อาร์เอ็มเอส คาร์พาเทีย ได้ช่วยเหลือเหล่าผู้รอดชีวิตขึ้นเรือ โรสหลบซ่อนแคลขณะที่เรือเดินทางไปนครนิวยอร์ก โรสได้เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น โรส ดอว์สัน โรสกล่าวว่าต่อมาเธอได้อ่านหนังสือพิมพ์พบว่า แคลนั้นฆ่าตัวตายเนื่องจากเหตุการณ์ตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีทตก ค.ศ. 1929 กลับมาในปัจจุบัน เลิฟเว็ตต์ตัดสินใจยกเลิกการค้นหาของเขาหลังได้ยินเรื่องราวของโรส ที่ท้ายเรือของ เคลดิช โรสได้นำสร้อยเพชรหัวใจมหาสมุทร ซึ่งอยู่ในความครอบครองของเธอมาตลอด หย่อนมันลงไปในทะเลเหนือซากเรือ ภาพเหตุการณ์ตัดมาขณะที่เธอดูเหมือนกำลังหลับหรือเสียชีวิตบนเตียงของเธอ[9] มีรูปภาพของเธอแสดงให้เห็นถึงการผจญภัยและชีวิตที่เป็นอิสระ
โรสวัยสาวได้พบกับแจ็กอีกครั้งที่บันไดใหญ่ในเรือไททานิก และได้รับการปรบมือจากผู้ที่เสียชีวิตบนเรือ 3ไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน เรื่องย่อ คืนชีพกองทัพโจรสลัดสยองโลก แก้ไข
ดูบทความหลักที่: คืนชีพกองทัพโจรสลัดสยองโลก
เอลิซาเบธ สวอนน์ สูกสาวของข้าหลวงแห่งพอร์ตรอยัล ถูกลูกเรือของเรือแบล็กเพิร์ลนำโดยกัปตันเฮกเตอร์ บาร์บอสซ่าลักพาตัวไป วิล เทอร์เนอร์ เพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของเอลิซาเบธจึงได้ทำการชักชวนกัปตันแจ็ก สแปร์โรว์ ร่วมมือกับเขาในการพาตัวเอลิซาเบธกลับคืนมา
สงครามปีศาจโจรสลัดสยองโลก แก้ไข
ดูบทความหลักที่: สงครามปีศาจโจรสลัดสยองโลก
ลอร์ด คัตเลอร์ เบ็คเก็ตต์ ผู้แทนของบริษัทการค้าอีสต์อีนเดีย ได้นำหมายจับมาแสดงเพื่อจับกุม วิล เอลิซาเบธ และเจมส์ นอริงตัน ในข้อหาร่วมกันปล่อยตัวแจ็ค สแปร์โรว์ แต่ลอร์ดเบ็คเก็ตต์ได้ยื่นข้อเสนอให้วิลไปตามหาแจ็กแล้วนำเข็มทิศวิเศษของแจ็กมาให้เขา ขณะเดียวกัน แจ็ก สแปร์โรว์ ก็พยายามหลบหนีหนี้เลือดที่ติดค้างไว้กับเดวี่ โจนส์
ผจญภัยล่าโจรสลัดสุดขอบโลก แก้ไข
ดูบทความหลักที่: ผจญภัยล่าโจรสลัดสุดขอบโลก
ลอร์ด คัตเลอร์ เบ็คเก็ตต์ควบคุมเหนือเดวี่ โจนส์และเรือฟลายอิ้งดัตซ์แมน และเริ่มการกวาดล้างเหล่าโจรสลัดอย่างจริงจัง วิล เทอร์เนอร์และเหล่าลูกเรือของเรือแบล็คเพิร์ลต้องการจะต่อสู้กับบริษัทอีสต์อีนเดียเทรดดิ้งกัมปะนีจึงได้เดินทางไปช่วยเหลือแจ็ก สแปร์โรว์จากก้นทะเล เพราะแจ็กเป็นหนึ่งในเก้าเจ้าโจรสลัดที่มีเหรียญ 8 เรียลโบราณ เพื่อการเรียกตัวเทพธิดาแห่งท้องทะเลให้ช่วยเหลือพวกเขา
ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก แก้ไข
ดูบทความหลักที่: ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก
เรื่องราวของการตามหาน้ำพุแห่งวัยเยาว์ในตำนาน มีส่วนผสมของมนต์ดำวูดู, ซอมบี้, ศาสตราจาร์ยแขนเดียวและบรรดาผู้คนในยุคโบราณที่เคยมีชีวิตอยู่จริง เช่น นักสำรวจชาวสเปน Juan Ponce de Leon และ เคราดำ (Blackbeard) โจรสลัดที่น่าสะพรึงกลัว
สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ แก้ไข
ดูบทความหลักที่: สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ
กัปตันแจ๊กอยู่ในยุคตกต่ำ ความเชื่อมั่นในลูกเรือเป็นศูนย์ และศัตรูเก่าแก่อย่าง "กัปตันอามันโด ซาลาซาร์"
คาเบียร์ บาร์เดน) กลับมาจากคำสาปในสามเหลี่ยมปีศาจ โดยมีจิตมุ่งหมายล้างแค้นมายังแจ็ก ในขณะเดียวกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง "กัปตันบาร์บอสซ่า" ที่เรืองอำนาจจนตั้งตัวเป็นบริษัทค้าขายและมีกองเรือเป็นของตัวเอง ต้องถูกแย่งชิงอำนาจโดยเรือมฤตยู "ไซเลนท์แมรี่" ส่วน " เฮนรี่ เทอร์เนอร์" ลูกชายของวิลและอลิซาเบธต้องค้นหา "ตรีศูลของโพไซดอน" ซึ่งจะใช้ลบล้างคำสาปแห่งทะเลปลดปล่อยวิลผู้ถูกสาปไว้กับเรือฟลายอิ้ง ดัดซ์แมน [2] จูราสสิค พาร์ค กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์ เรื่องย่อ จอห์น แฮมมอนด์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทชีววิศวกรรมชื่ออินเจน (InGen) ได้สร้างธีมพาร์คชื่อจูราสสิค พาร์คไว้บนเกาะอิสลา นูบลาร์ เป็นธีมพาร์คที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์ที่ถูกโคลนขึ้น แต่หลังจากเกิดเหตุคนงานพาร์คคนหนึ่งถูกเวโลซีแรปเตอร์ฆ่า ผู้ลงทุนเรียกร้องผ่านทนาย โดนัลด์ เกนนาโร ให้มีการนำผู้เชี่ยวชาญมาดูพาร์คเพื่อรับรองว่ามันปลอดภัย เกนนาโรเชิญเอียน มัลคอล์ม นักคณิตศาสตร์มาในขณะที่แฮมมอนด์เชิญนักบรรพชีวินวิทยา ดร. อลัน แกรนต์ และนักบรรพพฤกษศาสตร์ ดร.เอลลี แซตต์เลอร์ มาเยี่ยมชมพาร์ค เมื่อทั้งคณะมาถึงพวกเขาทึ่งที่ได้เห็นแบรคิโอซอรัสและฝูงพาราซอโรโลฟัสตัวเป็นๆ
ที่ศูนย์รับรอง พวกเขาทัวร์ห้องแล็บและได้เรียนรู้ว่านักวิทยาศาสตร์สามารถโคลนไดโนเสาร์ได้ด้วยการสกัดดีเอ็นเอจากเลือดไดโนเสาร์ซึ่งพบในยุงในก้อนอำพัน แต่เนื่องจากดีเอ็นเอที่สกัดได้มีสภาพไม่สมบูรณ์นักวิทยาศาสตร์จึงใช้ดีเอ็นเอของกบเติมเต็มช่องว่างที่หายไปดังกล่าว ไดโนเสาร์ทั้งหมดถูกโคลนให้เป็นตัวเมียเพื่อป้องกันการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ
หลานๆ ของแฮมมอนด์ เล็กซ์และทิม เมอร์ฟีเดินทางมาถึงและร่วมกับคณะผู้เชี่ยวชาญเพื่อไปทัวร์พาร์คในขณะที่แฮมมอนด์คอยดูพวกเขาจากห้องควบคุม ทัวร์ไม่เป็นไปตามที่คาดหลังจากไดโนเสาร์ไม่
ถ้าหนังเรื่องนี้เป็นละครไทยขึ้นมาจะเป็นยังไงลองแคสมาดูหน่อยและจะฉายช่องใหนระหว่าง 1thairath 2 ช่อง3 3 ช่อง7
บอนด์ช่วยคามิลล์จากนายพลเมดราโน ก่อนจะตามกรีนไปที่การแสดง ตอสกา ที่เมืองเบรเกนซ์ ประเทศออสเตรีย บอนด์ลอบฟังการประชุมและระบุตัวสมาชิกของควอนตัม แต่ถูกจับได้ ระหว่างหลบหนี เฮนส์ บอดี้การ์ดของสมาชิกควอนตัมถูกฆ่าหลังสู้กับบอนด์ M จึงอนุมานว่าบอนด์ฆ่าเขาและสั่งยกเลิกพาสพอร์ตและบัตรเครดิตของบอนด์ บอนด์เดินทางไปที่อิตาลีเพื่อพบกับเพื่อนเก่า เรอเน แมตธิส ที่นั่นบอนด์พบกับสตรอเบอรี ฟิลด์ส เจ้าหน้าที่ที่ M ส่งมาเพื่อพาตัวบอนด์กลับลอนดอน แต่บอนด์ล่อลวงเธอและไปที่งานระดมทุนของกรีน บอนด์พบกับคามิลล์อีกครั้งและรอดจากการต่อสู้กับตำรวจโบลิเวียที่ทำงานให้นายพลเมดราโน แต่แมตธิสเสียชีวิต
วันต่อมา บอนด์และคามิลล์ขึ้นเครื่องบินเพื่อสำรวจพื้นที่ที่องค์กรควอนตัมถือครอง เครื่องบินของพวกเขาถูกยิงตก บอนด์และคามิลล์กระโดดร่มมาลงที่หลุมยุบและพบความจริงว่าองค์กรควอนตัมตั้งใจจะผูกขาดการจัดการแหล่งน้ำในโบลิเวียเพื่อประโยชน์ของตนเอง บอนด์กลับไปที่เมืองลาปาซและพบ M ซึ่งบอกว่าฟิลด์สถูกฆ่าโดยมีน้ำมันชโลมอยู่ทั่วร่าง บอนด์ไปที่บาร์เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ CIA เฟลิกซ์ เลเทอร์ ผู้ซึ่งบอกบอนด์ว่ากรีนและนายพลเมดราโนจะพบกันที่โรงแรมในทะเลทรายอาตากามา
ที่โรงแรมในทะเลทราย กรีนซึ่งตอนนี้ถือครองสิทธิ์ควบคุมแหล่งน้ำส่วนใหญ่ในโบลิเวีย ยื่นคำขาดให้เขาเป็นผู้เดียวที่สามารถควบคุมการซื้อขายน้ำได้ ด้านบอนด์ลอบเข้าไปในโรงแรมและยิงหัวหน้าตำรวจที่ทรยศแมตธิสเสียชีวิต บอนด์สู้กับกรีน ส่วนคามิลล์สู้กับนายพลเมดราโน ซึ่งถูกคามิลล์ยิงเสียชีวิต ก่อนที่บอนด์ คามิลล์และกรีนที่ถูกจับตัวได้จะหนีออกจากโรงแรมที่กำลังไฟไหม้ บอนด์เค้นข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรควอนตัมกับกรีน ก่อนจะปล่อยกรีนทิ้งไว้กลางทะเลทรายกับน้ำมันเครื่องหนึ่งกระป๋อง
บอนด์เดินทางไปที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซียเพื่อพบกับยูซุฟ คาบิรา อดีตคนรักของเวสเปอร์ ลินด์ที่กำลังล่อลวงสายลับชาวแคนาดา บอนด์ไว้ชีวิตคาบิราและออกมาเจอ M ซึ่งแจ้งข่าวว่ากรีนถูกพบเป็นศพอยู่กลางทะเลทราย ถูกยิงสองนัดและมีน้ำมันเครื่องอยู่ในกระเพาะอาหาร M ขอให้บอนด์กลับมาทำงาน แต่บอนด์เดินจากไปพร้อมกับตอบว่าเขาไม่เคยลาออก ก่อนจะทิ้งสร้อยของเวสเปอร์ลงบนหิมะ 2ไททานิค เรื่องย่อ ในปี ค.ศ. 1996 นักล่าสมบัติ บร็อค เลิฟเว็ตต์ และทีมของเขาขึ้นเรือวิจัยชื่อว่า อคาเดมิก มิสติสลาฟ เคลดิช เพื่อค้นหาซากเรือแตกของ อาร์เอ็มเอส ไททานิก และ หัวใจมหาสมุทร สร้อยคอเพชรหายาก พวกเขากู้ตู้นิรภัยซึ่งมีภาพวาดของหญิงสาวใส่แค่สร้อยคอ ลงวันที่ 14 เมษายน 1912 วันที่เรือชนภูเขาน้ำแข็ง[Note 1] โรส ดอว์สัน แคลเวิร์ต ผู้หญิงที่อยู่ในรูปวาด ขึ้นเรือ เคลดิช และเล่าประสบการณ์บนเรือ ไททานิก ให้เลิฟเว็ตต์ฟัง
ในปี ค.ศ. 1912 ที่เซาแทมป์ตัน โรส เดวิตต์ บูเคเตอร์ ผู้โดยสารชั้นหนึ่งอายุ 17 ปี มาพร้อมกับ แคล ฮอคลีย์ คู่หมั้นของเธอ และ รูธ แม่ของเธอ ขึ้นเรือหรูหราชื่อว่า ไททานิก รูธเน้นย้ำกับโรสว่าการแต่งงานของโรสจะช่วยแก้ปัญหาด้านการเงินของครอบครัวและช่วยรักษาสถานะชนชั้นสูงเอาไว้ โรสรู้สึกอึดอัดใจเรื่องการแต่งงาน เธอจึงปีนรั้วกั้นท้ายเรือและพยายามที่จะฆ่าตัวตาย แจ็ก ดอว์สัน ศิลปินผู้ยากจน ได้เข้ามาห้ามและพยายามเกลี่ยกล่อมเธอ หลังจากแจ็กช่วยโรสได้แล้ว เจ้าหน้าที่ของเรือพร้อมกับแคลและ สไปเซอร์ เลิฟจอย คนรับใช้ของแคล มาพบทั้งสองคน โรสบอกแคลว่าเธอกำลังมองลงไปแล้วแจ็กเข้ามาช่วยเธอไม่ให้ตกลงไป แคลจึงให้รางวัลแจ็กโดยเชิญเขาให้ไปร่วมรับประทานอาหารกับพวกเขาในห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง แจ็กกับโรสเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ แม้ว่าเลิฟจอยและรูธจะระแวงเขา หลังจากอาหารเย็น โรสได้เข้าร่วมงานเลี้ยงของผู้โดยสารชั้นสามอย่างลับๆ กับแจ็ก
โรสตระหนักถึงความไม่พอใจของแคลและรูธ เธอจึงบอกปฏิเสธความรักของแจ็กที่มีให้กับเธอ แต่ต่อมาโรสรู้ตัวว่าเธอชอบเขามากกว่าแคล หลังจากนัดพบกันที่หัวเรือตอนพระอาทิตย์ตก โรสพาแจ็กไปที่ห้องส่วนตัวของเธอ เธอขอให้แจ็กวาดภาพเธอเปลือยกายโดยใส่แค่สร้อยคอหัวใจมหาสมุทรซึ่งเป็นของหมั้นของแคล พวกเขาหลบหนีเลิฟจอยและมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันภายในรถยนต์ในห้องเก็บของใต้ท้องเรือ บนดาดฟ้าด้านหน้า พวกเขาเห็นการปะทะกันของเรือกับภูเขาน้ำแข็งและได้ยินเจ้าหน้าที่และผู้สร้างเรือพูดคุยถึงความร้ายแรงของมัน แคลพบภาพวาดโรสของแจ็กกับบันทึกดูถูกจากเธอในตู้นิรภัยของเขาพร้อมกับสร้อยคอ เมื่อแจ็กกับโรสพยายามที่จะบอกแคลเรื่องเรือชนภูเขาน้ำแข็ง แคลตอบโต้ด้วยการให้เลิฟจอยแอบใส่สร้อยคอไว้ในกระเป๋าเสื้อของแจ็ก และกล่าวว่าเขาเป็นขโมย แจ็กถูกจับและถูกคุมขังในห้องของเจ้าหน้าที่ควบคุมเรือ แคลใส่สร้อยคอไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขาเอง
ขณะที่เรือกำลังจมลง โรสหนีแคลกับแม่ของเธอซึ่งได้ขึ้นเรือบด ไปช่วยปลดปล่อยแจ็ก บนดาดฟ้าเรือ แคลได้พบแจ็กกับโรสอีกครั้ง แคลและแจ็กสนับสนุนให้โรสขึ้นเรือบด แคลอ้างว่าได้ตกลงกับเจ้าหน้าที่ไว้แล้วว่าจะลงเรืออีกลำหนึ่งกับแจ็ก ซึ่งแท้จริงแล้วแจ็กไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ขณะที่เรือบดกำลังลดระดับลง โรสรู้ตัวว่าเธอไม่สามารถแยกห่างจากแจ็กได้ เธอจึงโดดกลับขึ้นเรือ แคลเอาปืนพกของเลิฟจอยแล้วไล่ตามยิงโรสกับแจ็กไปจนถึงในห้องรับประทานอาหารชั้นหนึ่ง หลังเขาใช้กระสุนหมดแล้วจึงลดละ และมานึกได้ว่าใส่สร้อยคอเพชรไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุมที่เขาสวมให้กับโรส ต่อมาเขาได้ขึ้นเรือบดโดยอุ้มเด็กที่หลงกับแม่และอ้างตัวว่าเขาเป็นพ่อ เพื่อที่จะได้ลงเรือลำนั้น
หลังจากหนีแคลพ้นและเอาตัวรอดจากน้ำที่ทะลักมาตามเส้นทางห้องโดยสารในเรือ แจ็กกับโรสกลับมาที่ดาดฟ้าเรือ เรือบดได้ออกเดินทางไปหมดแล้ว เหตุการณ์เลวร้ายลง มีผู้โดยสารเสียชีวิตจากการพลัดตกเรือ หรือกระแทกกับของแข็งต่างๆเมื่อเรือหักครึ่งทำให้ท้ายเรือจมลงหมาสมุทรอย่างรวดเร็ว แจ็กกับโรสปีนขึ้นไปอยู่ด้านบนของท้ายเรือเพื่อยื้อเวลาก่อน ที่เรือจะจมลงไปหมด เขาช่วยเธอให้ขึ้นไปบนซากประตูไม้ที่ลอยน้ำอยู่ แต่ว่าเพียงพอให้พ้นน้ำได้สำหรับคนเดียวเท่านั้น แจ็กให้กำลังใจและยืนยันกับโรสว่าเธอจะได้ตายในตอนชราบนเตียงอันอบอุ่นของเธอ สุดท้ายแจ็กก็เสียชีวิตด้วยภาวะตัวเย็นเกิน[8] และโรสได้รับการช่วยเหลือจากเรือบดที่พายกลับมา
ต่อมา อาร์เอ็มเอส คาร์พาเทีย ได้ช่วยเหลือเหล่าผู้รอดชีวิตขึ้นเรือ โรสหลบซ่อนแคลขณะที่เรือเดินทางไปนครนิวยอร์ก โรสได้เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น โรส ดอว์สัน โรสกล่าวว่าต่อมาเธอได้อ่านหนังสือพิมพ์พบว่า แคลนั้นฆ่าตัวตายเนื่องจากเหตุการณ์ตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีทตก ค.ศ. 1929 กลับมาในปัจจุบัน เลิฟเว็ตต์ตัดสินใจยกเลิกการค้นหาของเขาหลังได้ยินเรื่องราวของโรส ที่ท้ายเรือของ เคลดิช โรสได้นำสร้อยเพชรหัวใจมหาสมุทร ซึ่งอยู่ในความครอบครองของเธอมาตลอด หย่อนมันลงไปในทะเลเหนือซากเรือ ภาพเหตุการณ์ตัดมาขณะที่เธอดูเหมือนกำลังหลับหรือเสียชีวิตบนเตียงของเธอ[9] มีรูปภาพของเธอแสดงให้เห็นถึงการผจญภัยและชีวิตที่เป็นอิสระ
โรสวัยสาวได้พบกับแจ็กอีกครั้งที่บันไดใหญ่ในเรือไททานิก และได้รับการปรบมือจากผู้ที่เสียชีวิตบนเรือ 3ไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน เรื่องย่อ คืนชีพกองทัพโจรสลัดสยองโลก แก้ไข
ดูบทความหลักที่: คืนชีพกองทัพโจรสลัดสยองโลก
เอลิซาเบธ สวอนน์ สูกสาวของข้าหลวงแห่งพอร์ตรอยัล ถูกลูกเรือของเรือแบล็กเพิร์ลนำโดยกัปตันเฮกเตอร์ บาร์บอสซ่าลักพาตัวไป วิล เทอร์เนอร์ เพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของเอลิซาเบธจึงได้ทำการชักชวนกัปตันแจ็ก สแปร์โรว์ ร่วมมือกับเขาในการพาตัวเอลิซาเบธกลับคืนมา
สงครามปีศาจโจรสลัดสยองโลก แก้ไข
ดูบทความหลักที่: สงครามปีศาจโจรสลัดสยองโลก
ลอร์ด คัตเลอร์ เบ็คเก็ตต์ ผู้แทนของบริษัทการค้าอีสต์อีนเดีย ได้นำหมายจับมาแสดงเพื่อจับกุม วิล เอลิซาเบธ และเจมส์ นอริงตัน ในข้อหาร่วมกันปล่อยตัวแจ็ค สแปร์โรว์ แต่ลอร์ดเบ็คเก็ตต์ได้ยื่นข้อเสนอให้วิลไปตามหาแจ็กแล้วนำเข็มทิศวิเศษของแจ็กมาให้เขา ขณะเดียวกัน แจ็ก สแปร์โรว์ ก็พยายามหลบหนีหนี้เลือดที่ติดค้างไว้กับเดวี่ โจนส์
ผจญภัยล่าโจรสลัดสุดขอบโลก แก้ไข
ดูบทความหลักที่: ผจญภัยล่าโจรสลัดสุดขอบโลก
ลอร์ด คัตเลอร์ เบ็คเก็ตต์ควบคุมเหนือเดวี่ โจนส์และเรือฟลายอิ้งดัตซ์แมน และเริ่มการกวาดล้างเหล่าโจรสลัดอย่างจริงจัง วิล เทอร์เนอร์และเหล่าลูกเรือของเรือแบล็คเพิร์ลต้องการจะต่อสู้กับบริษัทอีสต์อีนเดียเทรดดิ้งกัมปะนีจึงได้เดินทางไปช่วยเหลือแจ็ก สแปร์โรว์จากก้นทะเล เพราะแจ็กเป็นหนึ่งในเก้าเจ้าโจรสลัดที่มีเหรียญ 8 เรียลโบราณ เพื่อการเรียกตัวเทพธิดาแห่งท้องทะเลให้ช่วยเหลือพวกเขา
ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก แก้ไข
ดูบทความหลักที่: ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก
เรื่องราวของการตามหาน้ำพุแห่งวัยเยาว์ในตำนาน มีส่วนผสมของมนต์ดำวูดู, ซอมบี้, ศาสตราจาร์ยแขนเดียวและบรรดาผู้คนในยุคโบราณที่เคยมีชีวิตอยู่จริง เช่น นักสำรวจชาวสเปน Juan Ponce de Leon และ เคราดำ (Blackbeard) โจรสลัดที่น่าสะพรึงกลัว
สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ แก้ไข
ดูบทความหลักที่: สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ
กัปตันแจ๊กอยู่ในยุคตกต่ำ ความเชื่อมั่นในลูกเรือเป็นศูนย์ และศัตรูเก่าแก่อย่าง "กัปตันอามันโด ซาลาซาร์"คาเบียร์ บาร์เดน) กลับมาจากคำสาปในสามเหลี่ยมปีศาจ โดยมีจิตมุ่งหมายล้างแค้นมายังแจ็ก ในขณะเดียวกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง "กัปตันบาร์บอสซ่า" ที่เรืองอำนาจจนตั้งตัวเป็นบริษัทค้าขายและมีกองเรือเป็นของตัวเอง ต้องถูกแย่งชิงอำนาจโดยเรือมฤตยู "ไซเลนท์แมรี่" ส่วน " เฮนรี่ เทอร์เนอร์" ลูกชายของวิลและอลิซาเบธต้องค้นหา "ตรีศูลของโพไซดอน" ซึ่งจะใช้ลบล้างคำสาปแห่งทะเลปลดปล่อยวิลผู้ถูกสาปไว้กับเรือฟลายอิ้ง ดัดซ์แมน [2] จูราสสิค พาร์ค กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์ เรื่องย่อ จอห์น แฮมมอนด์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทชีววิศวกรรมชื่ออินเจน (InGen) ได้สร้างธีมพาร์คชื่อจูราสสิค พาร์คไว้บนเกาะอิสลา นูบลาร์ เป็นธีมพาร์คที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์ที่ถูกโคลนขึ้น แต่หลังจากเกิดเหตุคนงานพาร์คคนหนึ่งถูกเวโลซีแรปเตอร์ฆ่า ผู้ลงทุนเรียกร้องผ่านทนาย โดนัลด์ เกนนาโร ให้มีการนำผู้เชี่ยวชาญมาดูพาร์คเพื่อรับรองว่ามันปลอดภัย เกนนาโรเชิญเอียน มัลคอล์ม นักคณิตศาสตร์มาในขณะที่แฮมมอนด์เชิญนักบรรพชีวินวิทยา ดร. อลัน แกรนต์ และนักบรรพพฤกษศาสตร์ ดร.เอลลี แซตต์เลอร์ มาเยี่ยมชมพาร์ค เมื่อทั้งคณะมาถึงพวกเขาทึ่งที่ได้เห็นแบรคิโอซอรัสและฝูงพาราซอโรโลฟัสตัวเป็นๆ
ที่ศูนย์รับรอง พวกเขาทัวร์ห้องแล็บและได้เรียนรู้ว่านักวิทยาศาสตร์สามารถโคลนไดโนเสาร์ได้ด้วยการสกัดดีเอ็นเอจากเลือดไดโนเสาร์ซึ่งพบในยุงในก้อนอำพัน แต่เนื่องจากดีเอ็นเอที่สกัดได้มีสภาพไม่สมบูรณ์นักวิทยาศาสตร์จึงใช้ดีเอ็นเอของกบเติมเต็มช่องว่างที่หายไปดังกล่าว ไดโนเสาร์ทั้งหมดถูกโคลนให้เป็นตัวเมียเพื่อป้องกันการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ
หลานๆ ของแฮมมอนด์ เล็กซ์และทิม เมอร์ฟีเดินทางมาถึงและร่วมกับคณะผู้เชี่ยวชาญเพื่อไปทัวร์พาร์คในขณะที่แฮมมอนด์คอยดูพวกเขาจากห้องควบคุม ทัวร์ไม่เป็นไปตามที่คาดหลังจากไดโนเสาร์ไม่