เล่าต่อ ตอนเดินเท้าขึ้น ภูเขาไฟฟูจียาม่า

กระทู้สนทนา
ค่ำนั้น เราเตรียมตัว ตามที่หัวหน้าทัวร์แนะนำ เน้นให้ตามลำดับ  สำคัญ  เช่น แว่นดำกันแดดกันแสงสะท้อนหิมะที่ขาวโพลน จ้ามาก ทำนัยตาเจ็บได้  น้ำ  เสบียงของขบเคี้ยว หมวกหนา เสื้อหนา ถุงมือ ถุงเท้า ซึ่งใครขาดอะไรก็ซื้อจากร้านในโรงแรม  หากขึ้นไปซื้อตาม rest station ยิ่งสูงคงยิ่งแพง   บัสออกจากโรงแรมราวสองทุ่ม  วิ่งผ่านทะเลสาป ฮาโกเน่ ผิวน้ำระยิบระยับสวยติดตายังนึกเห็นภาพ ในเมโมรี่ เก่าแก่พอได้อยู่ ก็ฝากไว้ก่อน เอาไว้กลางวันของรุ่งขึ้นคงจะพาเราเที่ยวรอบๆทะเลสาปชื่อเสียงอันดับต้นๆของญี่ปุ่นอีกรอบหนึ่ง
บัสเลาะเลี้ยวพาเราเข้าเขตเชิงเขา "ฟูจี ซัง"เรียกตามคนญี่ปุ่นกะละกัน  ถนนวนไต่รอบขึ้น ฟูจีซัง ถนนสวนกัน สองเลน ไหล่ทางเป็นกรวดหิน ลาว่า จากภูเขาไฟ สีดำไปตลอดข้างถนน  บัสใหญ่เริ่มทดเกียร์ต่ำไต่ขึ้น แบบช้าลงเรื่อยๆ เริ่มต้นจากเชิงเขา ฟูจี ซัง จะมีผู้คนเดินขึ้นจากตีนเขาขึ้นไปเลยก็เยอะมาก น่าจะเป็น พวกเด็กวัยทีน แบกเป้ เดินแข่งกับรถบัสที่คลานอุ้ยอ้าย อย่าสนุกสนาน คนเดินขึ้นกันเป็นสาย ไม่เปลี่ยวไม่น่ากลัวตลอดทางขึ้น ทราบว่าจากตีนเขา มีเส้นทางเดินเท้าขึ้น ฟูจี ซัง  ได้ถึง 4 route trails แต่คนนิยมเดินขนานไปกับ ถนนทางรถยนต์มากกว่า
บัสคลานช้าๆ วนไป วนมา น่าจะเกิน 2 ชั่วโมง ก็เข้าจอด ใน main parking lot  ของความสูงชั้นที่ 5 ฟูจี ซัง 5th station / elevation จำไม่ได้แล้วว่า ความสูงที่ลานจอดรถหลักนี้ น่าจะ 2,000 เมตร ราวๆนั้น  ที่จำแม่นคือ ฟูจีซัง สูงจากระดับน้ำทะเล เกือบ 4,000 เมตรละครับ  แค่ลงรถที่ลานจอดนี่ก็สั่น งั่กๆแล้ว  ธันวาคม ของ ฟูจีซัง หิมะคลุมหนาหลายนิ้ว  ขาวโพลนคล้ายเวลากลางวันเลย  ณ.สเตชั่นที่ 5 นี้มีที่ เคบิน สร้างเป็นโรงนามุงแฝก หนาให้ความอบอุ่นดีระดับหนึ่ง  เคบินที่พักรองรับนักท่องเที่ยว น่าจะรับได้เป็นพันๆคน บริเวณเป็นลานกว้างใหญ่มากๆ มีทั้งเคบินโรงนาและร้านอาหารรองรับ นักท่องเที่ยวได้เกือบตลอดปี  ผมจำฤดูที่เขาปิด งดไม่ให้เข้าไม่ได้ แต่แน่ๆ คือมีช่วงปิดครับ  หัวหน้านำทัวร์พาพวกเราแวะพัก ดื่มน้ำชา กินของว่างกันพักใหญ่  ก่อนออกเดินเท้าจาก สเตชั่นที่ 5 ใช้เส้นทางเดิน Yoshida route เพื่อเดินขึ้นไปเข้า เคบิน ที่พักแรมบนลาน สเตชั่นที่ 6  เราก็เดินปีนเขาสูงชันขึ้นไปตามรอยที่คนเดินกรุย หิมะล่วงหน้าไว้เป็นเทือก หินกรวดสีดำ ลาว่า ของภูเขาไฟเป็นหินนิ่มไม่แข็ง จึงเดินไม่ลื่น  น่าจะราวตีหนึ่ง เราก็ถึงชั้นที่ 6 ของฟูจีซัง และได้เข้าที่พัก แบบเคบินโรงนา  ที่นอนเป็น bunk bed  ซ้อนกัน 3 ชั้นเหมือนในตู้นอนรถไฟ  มีรองเท้า tobi ฟางเคลือบยาง เพิ่มความอุ่น  ให้เปลี่ยนใส่แทนรองเท้า ก่อนลงนอนทั้งชุดเต็มยศหนาๆกันหนาว แถมมีผ้านวมหนาตึ้บให้ห่มเพิ่มอีกผืน ไม่งั้นทนอุณหภูมิ ติดลบ ต่ำถึง -35 องศา ที่ยุคนั้นยังใช้"เซ็นติเกรด" อยู่ พบกันตอนหน้าครับ   ติดตามว่าใครจะเก่งขึ้น ฟูจีซัง ถึงชั้นที่ 10th station ได้บ้างครับ (มีคน claim  1 คนครับ แหะๆไม่มี พยานรับรอง)  Sayonara. สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่