SONY ได้เปิดตัว SONY XPERIA 1 III และ 5 III รวมถึง 10 III รุ่นล่าสุดในตลาดโลกเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับใส่ฟีเจอร์ กล้อง หน้าจออะไรมาให้จัดเต็มทั้งหมด รุ่นเรือธง XPERIA 1 III กันก่อนที่ครั้งนี้จัดเต็มที่สุดครับ มาพร้อมกับหน้าจอ 4K OLED HDR 120HZ รองรับการใช้งานเต็มที่ พร้อมกับ RAM 12GB สูงสุด และ STORAGE 256GB รวมถึงกล้องหลังมาพร้อมกับ 3 ตัว 12MP และ เลนส์ PERISCOPE ปรับระยะ รูรับแสงได้ และยังคงใช้งานดีไซน์หน้าตาแบบเดิมทั้งหมด รวมถึง ยังคงใส่ลำโพงคู่มาให้และเน้นระบบเสียงมากขึ้นกว่าเดิม ถือว่าเป็นการเสริมจุดให้ลงตัวมากขึ้นถ้ามองเทียบกับรุ่น 2 และ เรื่องกล้องยังคงเป็นจุดเด่นที่สุดของทางค่าย ทั้งการพัฒนาร่วมกับทางทีมกล้อง รวมถึงการเสริมระยะเลนส์เพิ่มเข้ามาแต่ทาง SONY เอง Hardware เทพมากๆ มาลุ้นกันว่ารอบนี้จะทำเรื่องของ Software ได้ดีขึ้นแค่ไหนกันและเรื่องของคุณภาพสำหรับสายถ่ายภาพจะเป็นยังไงนั้นมาดูกันได้เลย
SONY XPERIA 1 III หน้าจอถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งยังคงโดดเด่นที่เป็นหน้าจอ 4K เจ้าแรกที่รองรับ 120Hz และมาพร้อมคุณภาพสูง ให้หน้าจอมาที่ 6.5 นิ้ว ความละเอียด (1644x3840pixels) 4K OLED HDR Display อัตราส่วน 21:9 120Hz refresh rate, 100% DCI-P3 color gamut, X1 for mobile, lluminant D65 White point, 10 bit tonal gradation, Corning Gorilla Glass Victus protection จัดเต็มเลยทีเดียวครับ และยังทำ Software 240Hz ได้ด้วยสำหรับความเนียนที่มากขึ้น และไม่มีติ่ง ไม่มีกล้องหน้าเจาะรูเช่นเดิม ทางด้านสเปกนั้นยังคงใช้งาน Snapdragon 888 จัดเต็มด้วย RAM 12GB และ STORAGE 256GB ส่วนแบตเตอรี่นั้นมีความจุ 4,500mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว และรองรับการชาร์จไร้สายได้ด้วยเช่นกันครับ และ รองรับ มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP65/68 และใช้งานระบบเสียงรอบทิศทาง 360 Reality Audio และ DSEE Ultimate ที่ทำให้คุณภาพเสียงรองรับได้สบายในเรื่องของมิติเสียง และ ระบบเสียง HI-RES ครับสบายๆเลย และยังคงมีรู 3.5 มม. ใส่เข้ามาให้เช่นเดิมในรุ่นนี้ รวมถึงลำโพงคู่ในด้านหน้า และยังพัฒนาระบบระบายความร้อน และ การเพิ่มฟีเจอร์ตอบสนองต่อการเล่นเกมได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าดีไซน์จะไม่เปลี่ยนมากนักแต่พัฒนาสเปกดีขึ้น กล้องหลังถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากที่เป็นการพัฒนาในรุ่นนี้ยังคงพัฒนากับทีมกล้องได้ดีอย่างต่อเนื่องครับ กล้องหลังให้มาพร้อมกับ 12MP ทั้งหมด ทั้ง 3 ระยะ ในเลนส์หลักให้มาที่ 12MP F1.7 พร้อมกับ OIS และใช้งาน Exmor RS sensor ส่วนเลนส์มุมกว้าง 124 องศา 12MP F2.2 และ เลนส์ เทเล PERISCOPE ปรับระยะได้ให้มาที่ 12 MP 2X F2.3- 4X F2.8 ขนาด 1/2.9 นิ้ว รองรับสูงสุด 12.5X Hybrid Zoom และ มาพร้อม 3D ITOF SENSOR และ ZEISS T* Coating เช่นเดิมครับ อีกทั้งยังมี โฟกัสดวงตา และ แทรคโฟกัส รองรับ 20FPS ! ถิอว่าเรื่องกล้องไว้ใจได้ในแง่ของสเปก และ ภาพรวมน่าจะเป็นรุ่นที่จัดเต็มที่สุดของค่ายอารยธรรมแล้ว
PRICE
SONY XPERIA 1 MARK 3 ตัวนี้เปิดตัวในประเทศไทยด้วยราคา 42,990 บาท พร้อมกับสี ดำ , ม่วง
UNBOX
- ตัวเครื่อง SONY XPERIA 1 III ไม่มีฟิล์มหน้าจอมาให้
- Adaptor ชาร์จไฟ 30W PD
- สาย USB-C ไป USB-C
- คู่มือการใช้งาน
- ไม่มีหูฟัง หรือ เคส มาให้ในกล่อง ***
DESIGN
งานออกแบบนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือหนีจากรุ่นที่ 2 เท่าไรแน่นอนว่าทางค่ายเองก็พยายามรักษาเอกลักษณ์ของทางค่ายตัวเองได้ดี และส่วนตัวถือว่าดีไซน์มันลงตัวมากๆแล้วนะและการปรับมาใช้งานฝาหลังแบบกระจกด้านบอกเลยว่าน่าสนใจและดูพรีเมี่ยมมากกว่าเดิม รวมถึงการรักษาอะไรทำได้ง่ายขึ้น มาพร้อมกับกล้องหลังวางตำแหน่งเดิมแต่ใหญ่มากขึ้น ส่วนทางด้านน้ำหนัก ขนาดอะไรทำได้ดีเช่นเดิมไม่ได้หนักหรือหนาแต่อย่างใดและทรงแคบจับถือได้ง่าย
หน้าจอมาพร้อมกับหน้าจอ อัตราส่วนแบบ 21:9 และ หน้าจอเป็นหน้าจอแบบ OLED 6.5 นิ้ว ความละเอียด 4K 120Hz Cinema Wide ระบบประมวลผลภาพ BRAVIA X1 ยังคงไม่มีติ่งหน้าจอ ถือว่ารักษาการออกแบบที่ดีไว้ได้ ขอบหน้าจอล่างทำได้บาง แต่ด้านบนนั้นยังมีพอสมควร หน้าจอแบนไม่โค้ง เป็นหน้าจอแบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้า
ส่วนขอบด้านบน นั้นจะเห็นว่าหนากว่าด้านอื่นๆด้วยการออกแบบหน้าจอของมันทำให้มาหนาส่วนข้างบนแทน และ เป็นที่อยู่ของไฟแจ้งเตือน Led ที่มุมซ้าย เซนเซอร์ต่างๆ กล้องหน้า ลำโพงตัวที่ 2 พวกนี้ครับยังมีความหนานิดหน่อย แต่แอบรู้สึกว่าบางกว่ารุ่น 2 แต่ทั้งเรื่องของตำแหน่งกล้อง ลำโพงอะไรไม่ได้เปลี่ยนจากรุ่นที่แล้วเท่าไรครับ
ขอบด้านล่างหน้าจอนั้นทำได้บางขึ้นเยอะเลยเพราะการออกแบบหน้าจอทำได้ดีขึ้น และไปหนาในส่วนข้างบนแทนที่เป็นที่อยู่ขอบพวกลำโพง กล้องหน้าต่างๆ ส่วนปุ่มควบคุมนั้นก็เป็นปกติแบบ Android 11 เต็มหน้าจอทั้งหมด
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นว่าเป็นปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง พร้อมกับปุ่ม Power ที่เป็นแบบสแกนนิ้วในตัว และรองรับการใช้งานกดลงไปได้แล้วครับ ถือว่าสะดวกมากๆ และมาพร้อมกับปุ่ม ชัตเตอร์สำหรับเข้ากล้องด่วนรวมถึงการถ่ายในโหมดทั่วไปและโปรเช่นกันซึ่งจะมีปุ่มเพิ่มเข้ามา ตรงระหว่าง Power และ Shutter สำหรับสั่งงานพิเศษเช่นคำสั่งเสียงครับ ซึ่งรุ่น 2 จะไม่มีนะทำให้รองรับการใช้งานได้อิสระมากขึ้น เรียกได้ว่าปุ่มเยอะมากๆเลยทีเดียวในฝั่งขวานี้
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเห็นว่ามีรู USB-C 3.1 และไมค์สำหรับรับเสียงและตัดเสียงได้ด้วย งานออกแบบนั้นเรียกได้ว่าเหมือนกับ 2 มากๆ จนคล้ายกับรุ่นนี้เป็นการพัฒนาให้มันลงตัวขึ้นในหลายๆส่วนแต่บอดี้ยังคงเดิมนั้นเองครับ
ขอบเครื่อง มีความเหลี่ยมสันเช่นเดิมเลย จะเห็นว่าดีไซน์นั้นมีความเป็นตัวเองมากๆ แม้จะมองจากด้านข้างพร้อมกับถาดซิมแบบที่เป็นแบบเปิดได้เลยไม่ต้องใช้ที่จิ้มซิม รองรับ Hybrid Slot และมาพร้อมกับซีลกันน้ำรองรับ IP68
ขอบเครื่องด้านบนจะเห็นยังคงมีตำแหน่งของรู 3.5มม. และ ไมค์ตัดเสียงที่ใส่เข้ามาให้ในด้านนี้ และจะเห็นว่าขอบเครื่องนั้นมีความเหลี่ยนสันอย่างชัดเจนในมุมมองนี้ และมีความบางมากๆหน้าจอไม่โค้ง และ ฝาหลังก็เรียบตรง
ถ้ามองผ่านๆเราแทบจะไม่รู้เลยว่าตัวนี้เป็นรุ่นใหม่ ถ้าไม่เห็นกล้องขนาดใหญ่ในด้านล่างพร้อมกับ Periscope ในส่วนเลนส์ล่างสุดเพราะว่า SONY เองพยายามทำให้เรื่องของดีไซน์มีความเป็นตัวเองมากที่สุด และ แตกต่างกับค่ายอื่นๆและส่วนตัวชอบแนวทางค่ายนี้มากๆ มั่นใจและไม่ตามใครจริงๆ ทำให้เราได้ฝาหลังคล้ายเดิมแต่เปลี่ยนเป็นกระจกแบบด้าน สวยงามขึ้นทั้งผิวสัมผัสเนียนมือ ไม่มีรอยนิ้วมือ และเล่นกับแสงได้สวยงาม ตัดกับกล้องที่เป็นแบบเงาได้ดี
กล้องหลังถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากที่เป็นการพัฒนาในรุ่นนี้ยังคงพัฒนากับทีมกล้องได้ดีอย่างต่อเนื่องครับ กล้องหลังให้มาพร้อมกับ 12MP ทั้งหมด ทั้ง 3 ระยะ ในเลนส์หลักให้มาที่ 12MP F1.7 พร้อมกับ OIS และใช้งาน Exmor RS sensor ส่วนเลนส์มุมกว้าง 124 องศา 12MP F2.2 และ เลนส์ เทเล PERISCOPE ปรับระยะได้ให้มาที่ 12 MP 2X F2.3- 4X F2.8 ขนาด 1/2.9 นิ้ว รองรับสูงสุด 12.5X Hybrid Zoom และ มาพร้อม 3D ITOF SENSOR และ ZEISS T* Coating เช่นเดิมครับ อีกทั้งยังมี โฟกัสดวงตา และ แทรคโฟกัส รองรับ 20FPS !
SPEC
- 6.5-inch (1644x3840pixels) 4K OLED HDR Display with 21:9 aspect ratio, 120Hz refresh rate, 100% DCI-P3 color gamut, X1 for mobile, lluminant D65 White point, 10 bit tonal gradation, Corning Gorilla Glass Victus protection
- Octa Core Snapdragon 888 5nm Mobile Platform with Adreno 660 GPU
- 12GB RAM, 256GB (UFS 3.1) internal memory, expandable memory up to 1TB via microSD card
- Android 11
- Hybrid Dual SIM (nano + nano / microSD)
- กล้องหลัง 3 ตัว
* ความละเอียด 12MP Exmor RS sensor, ขนาด 1/1.7″ sensor, รูรับแสง f/1.7 Hybrid OIS/EIS,
* กล้องมุมกว้าง 12MP f/2.2 aperture 1/2.″124° ultra wide-angle,
* กล้องเทเล 12MP f/2.3 (70 mm), f/2.8 (105 mm) variable aperture 1/2.9″ telephoto lens, Up to 12.5x hybrid zoom,
* 3D iToF sensor, ZEISS T* coating, Real-Time Eye AF (Human, Animal), Real-Time Tracking
- กล้องหน้า ความละเอียด 8MP ขนาด 1/ 4″ Exmor RS sensor, f/2.0 1.12μm , 84° มุมกว้าง
- รูหูฟัง 3.5 mm พร้อมระบบเสียง 360 Reality Audio, 360 Reality Audio hardware decoding, 360 Spatial Sound19, Full-Stage stereo speakers, Dolby Atmos, DSEE Ultimate, Stereo Recording, Qualcomm aptX HD audio
- สแกนนิ้วด้านข้างเครื่อง
- มิติตัวเครื่อง : 165.1 × 71.12 × 7.62mm; หนัก: 187.1g
- กันน้ำ กันฝุ่น (IPX5/IPX8), Dust proof (IP6X)5
- รองรับ 5G (sub-6GHz) / 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz / 5GHz) 2 x 2 MIMO, Bluetooth 5.2, GPS/ GLONASS, NFC, USB 3.1 Type-C
- แบตเตอร์รี่ 4,500mAh รองรับการชาร์จไว 30W (USB PD) Charging, Battery Care, STAMINA Mode, รองรับการชาร์จไร้สาย Qi Wireless charging, Battery Share function
- มาพร้อมกับสี Frosted Black and Frosted Purple และ Frosted Silver
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้จัดเต็มมาพร้อมกับ CPU Snapdragon 888 ตัวล่าสุดมาพร้อมกับ RAM 12GB และ ทำคะแนน Antutu ไปได้ที่ 641158 คะแนนครับ ส่วนเรื่องของหน่วยความจำเป็นแบบ UFS 3.0 อ่านเขียนได้ที่ 1596 MB/S และ 732 MB/s ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นเป็น DRM L1 ตามปกติของค่ายนี้ครับ รองรับดูหนังสูงสุดครับ NETFLIX HDR และ Geekbench นั้นทำคะแนนไปได้ 1117 และ 2692 คะแนนครับถือว่าทำได้ดีในด้านการใช้งานจริงระบบจัดการของ SONY ทำออกมาได้ลื่นไหลและเสถียรมากๆอีกค่าย และมีการอัปเดตที่ไวอันดับต้นๆของบรรดา Android เลยทีเดียวสำหรับค่ายนี้ครับ และ หน้าจอ 4K OLED 120HZ ทำได้ประทับใจมากๆ
[SR] รีวิว SONY XPERIA 1 MARK 3 เรือธงรุ่นล่าสุด เลนส์ ZEISS เทเล 2 ระยะ พร้อมจอ 4K HDR 10Bit 120Hz !
SONY ได้เปิดตัว SONY XPERIA 1 III และ 5 III รวมถึง 10 III รุ่นล่าสุดในตลาดโลกเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับใส่ฟีเจอร์ กล้อง หน้าจออะไรมาให้จัดเต็มทั้งหมด รุ่นเรือธง XPERIA 1 III กันก่อนที่ครั้งนี้จัดเต็มที่สุดครับ มาพร้อมกับหน้าจอ 4K OLED HDR 120HZ รองรับการใช้งานเต็มที่ พร้อมกับ RAM 12GB สูงสุด และ STORAGE 256GB รวมถึงกล้องหลังมาพร้อมกับ 3 ตัว 12MP และ เลนส์ PERISCOPE ปรับระยะ รูรับแสงได้ และยังคงใช้งานดีไซน์หน้าตาแบบเดิมทั้งหมด รวมถึง ยังคงใส่ลำโพงคู่มาให้และเน้นระบบเสียงมากขึ้นกว่าเดิม ถือว่าเป็นการเสริมจุดให้ลงตัวมากขึ้นถ้ามองเทียบกับรุ่น 2 และ เรื่องกล้องยังคงเป็นจุดเด่นที่สุดของทางค่าย ทั้งการพัฒนาร่วมกับทางทีมกล้อง รวมถึงการเสริมระยะเลนส์เพิ่มเข้ามาแต่ทาง SONY เอง Hardware เทพมากๆ มาลุ้นกันว่ารอบนี้จะทำเรื่องของ Software ได้ดีขึ้นแค่ไหนกันและเรื่องของคุณภาพสำหรับสายถ่ายภาพจะเป็นยังไงนั้นมาดูกันได้เลย
SONY XPERIA 1 III หน้าจอถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งยังคงโดดเด่นที่เป็นหน้าจอ 4K เจ้าแรกที่รองรับ 120Hz และมาพร้อมคุณภาพสูง ให้หน้าจอมาที่ 6.5 นิ้ว ความละเอียด (1644x3840pixels) 4K OLED HDR Display อัตราส่วน 21:9 120Hz refresh rate, 100% DCI-P3 color gamut, X1 for mobile, lluminant D65 White point, 10 bit tonal gradation, Corning Gorilla Glass Victus protection จัดเต็มเลยทีเดียวครับ และยังทำ Software 240Hz ได้ด้วยสำหรับความเนียนที่มากขึ้น และไม่มีติ่ง ไม่มีกล้องหน้าเจาะรูเช่นเดิม ทางด้านสเปกนั้นยังคงใช้งาน Snapdragon 888 จัดเต็มด้วย RAM 12GB และ STORAGE 256GB ส่วนแบตเตอรี่นั้นมีความจุ 4,500mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว และรองรับการชาร์จไร้สายได้ด้วยเช่นกันครับ และ รองรับ มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP65/68 และใช้งานระบบเสียงรอบทิศทาง 360 Reality Audio และ DSEE Ultimate ที่ทำให้คุณภาพเสียงรองรับได้สบายในเรื่องของมิติเสียง และ ระบบเสียง HI-RES ครับสบายๆเลย และยังคงมีรู 3.5 มม. ใส่เข้ามาให้เช่นเดิมในรุ่นนี้ รวมถึงลำโพงคู่ในด้านหน้า และยังพัฒนาระบบระบายความร้อน และ การเพิ่มฟีเจอร์ตอบสนองต่อการเล่นเกมได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าดีไซน์จะไม่เปลี่ยนมากนักแต่พัฒนาสเปกดีขึ้น กล้องหลังถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากที่เป็นการพัฒนาในรุ่นนี้ยังคงพัฒนากับทีมกล้องได้ดีอย่างต่อเนื่องครับ กล้องหลังให้มาพร้อมกับ 12MP ทั้งหมด ทั้ง 3 ระยะ ในเลนส์หลักให้มาที่ 12MP F1.7 พร้อมกับ OIS และใช้งาน Exmor RS sensor ส่วนเลนส์มุมกว้าง 124 องศา 12MP F2.2 และ เลนส์ เทเล PERISCOPE ปรับระยะได้ให้มาที่ 12 MP 2X F2.3- 4X F2.8 ขนาด 1/2.9 นิ้ว รองรับสูงสุด 12.5X Hybrid Zoom และ มาพร้อม 3D ITOF SENSOR และ ZEISS T* Coating เช่นเดิมครับ อีกทั้งยังมี โฟกัสดวงตา และ แทรคโฟกัส รองรับ 20FPS ! ถิอว่าเรื่องกล้องไว้ใจได้ในแง่ของสเปก และ ภาพรวมน่าจะเป็นรุ่นที่จัดเต็มที่สุดของค่ายอารยธรรมแล้ว
PRICE
SONY XPERIA 1 MARK 3 ตัวนี้เปิดตัวในประเทศไทยด้วยราคา 42,990 บาท พร้อมกับสี ดำ , ม่วง
UNBOX
- ตัวเครื่อง SONY XPERIA 1 III ไม่มีฟิล์มหน้าจอมาให้
- Adaptor ชาร์จไฟ 30W PD
- สาย USB-C ไป USB-C
- คู่มือการใช้งาน
- ไม่มีหูฟัง หรือ เคส มาให้ในกล่อง ***
DESIGN
งานออกแบบนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือหนีจากรุ่นที่ 2 เท่าไรแน่นอนว่าทางค่ายเองก็พยายามรักษาเอกลักษณ์ของทางค่ายตัวเองได้ดี และส่วนตัวถือว่าดีไซน์มันลงตัวมากๆแล้วนะและการปรับมาใช้งานฝาหลังแบบกระจกด้านบอกเลยว่าน่าสนใจและดูพรีเมี่ยมมากกว่าเดิม รวมถึงการรักษาอะไรทำได้ง่ายขึ้น มาพร้อมกับกล้องหลังวางตำแหน่งเดิมแต่ใหญ่มากขึ้น ส่วนทางด้านน้ำหนัก ขนาดอะไรทำได้ดีเช่นเดิมไม่ได้หนักหรือหนาแต่อย่างใดและทรงแคบจับถือได้ง่าย
หน้าจอมาพร้อมกับหน้าจอ อัตราส่วนแบบ 21:9 และ หน้าจอเป็นหน้าจอแบบ OLED 6.5 นิ้ว ความละเอียด 4K 120Hz Cinema Wide ระบบประมวลผลภาพ BRAVIA X1 ยังคงไม่มีติ่งหน้าจอ ถือว่ารักษาการออกแบบที่ดีไว้ได้ ขอบหน้าจอล่างทำได้บาง แต่ด้านบนนั้นยังมีพอสมควร หน้าจอแบนไม่โค้ง เป็นหน้าจอแบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้า
ส่วนขอบด้านบน นั้นจะเห็นว่าหนากว่าด้านอื่นๆด้วยการออกแบบหน้าจอของมันทำให้มาหนาส่วนข้างบนแทน และ เป็นที่อยู่ของไฟแจ้งเตือน Led ที่มุมซ้าย เซนเซอร์ต่างๆ กล้องหน้า ลำโพงตัวที่ 2 พวกนี้ครับยังมีความหนานิดหน่อย แต่แอบรู้สึกว่าบางกว่ารุ่น 2 แต่ทั้งเรื่องของตำแหน่งกล้อง ลำโพงอะไรไม่ได้เปลี่ยนจากรุ่นที่แล้วเท่าไรครับ
ขอบด้านล่างหน้าจอนั้นทำได้บางขึ้นเยอะเลยเพราะการออกแบบหน้าจอทำได้ดีขึ้น และไปหนาในส่วนข้างบนแทนที่เป็นที่อยู่ขอบพวกลำโพง กล้องหน้าต่างๆ ส่วนปุ่มควบคุมนั้นก็เป็นปกติแบบ Android 11 เต็มหน้าจอทั้งหมด
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นว่าเป็นปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง พร้อมกับปุ่ม Power ที่เป็นแบบสแกนนิ้วในตัว และรองรับการใช้งานกดลงไปได้แล้วครับ ถือว่าสะดวกมากๆ และมาพร้อมกับปุ่ม ชัตเตอร์สำหรับเข้ากล้องด่วนรวมถึงการถ่ายในโหมดทั่วไปและโปรเช่นกันซึ่งจะมีปุ่มเพิ่มเข้ามา ตรงระหว่าง Power และ Shutter สำหรับสั่งงานพิเศษเช่นคำสั่งเสียงครับ ซึ่งรุ่น 2 จะไม่มีนะทำให้รองรับการใช้งานได้อิสระมากขึ้น เรียกได้ว่าปุ่มเยอะมากๆเลยทีเดียวในฝั่งขวานี้
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเห็นว่ามีรู USB-C 3.1 และไมค์สำหรับรับเสียงและตัดเสียงได้ด้วย งานออกแบบนั้นเรียกได้ว่าเหมือนกับ 2 มากๆ จนคล้ายกับรุ่นนี้เป็นการพัฒนาให้มันลงตัวขึ้นในหลายๆส่วนแต่บอดี้ยังคงเดิมนั้นเองครับ
ขอบเครื่อง มีความเหลี่ยมสันเช่นเดิมเลย จะเห็นว่าดีไซน์นั้นมีความเป็นตัวเองมากๆ แม้จะมองจากด้านข้างพร้อมกับถาดซิมแบบที่เป็นแบบเปิดได้เลยไม่ต้องใช้ที่จิ้มซิม รองรับ Hybrid Slot และมาพร้อมกับซีลกันน้ำรองรับ IP68
ขอบเครื่องด้านบนจะเห็นยังคงมีตำแหน่งของรู 3.5มม. และ ไมค์ตัดเสียงที่ใส่เข้ามาให้ในด้านนี้ และจะเห็นว่าขอบเครื่องนั้นมีความเหลี่ยนสันอย่างชัดเจนในมุมมองนี้ และมีความบางมากๆหน้าจอไม่โค้ง และ ฝาหลังก็เรียบตรง
ถ้ามองผ่านๆเราแทบจะไม่รู้เลยว่าตัวนี้เป็นรุ่นใหม่ ถ้าไม่เห็นกล้องขนาดใหญ่ในด้านล่างพร้อมกับ Periscope ในส่วนเลนส์ล่างสุดเพราะว่า SONY เองพยายามทำให้เรื่องของดีไซน์มีความเป็นตัวเองมากที่สุด และ แตกต่างกับค่ายอื่นๆและส่วนตัวชอบแนวทางค่ายนี้มากๆ มั่นใจและไม่ตามใครจริงๆ ทำให้เราได้ฝาหลังคล้ายเดิมแต่เปลี่ยนเป็นกระจกแบบด้าน สวยงามขึ้นทั้งผิวสัมผัสเนียนมือ ไม่มีรอยนิ้วมือ และเล่นกับแสงได้สวยงาม ตัดกับกล้องที่เป็นแบบเงาได้ดี
กล้องหลังถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากที่เป็นการพัฒนาในรุ่นนี้ยังคงพัฒนากับทีมกล้องได้ดีอย่างต่อเนื่องครับ กล้องหลังให้มาพร้อมกับ 12MP ทั้งหมด ทั้ง 3 ระยะ ในเลนส์หลักให้มาที่ 12MP F1.7 พร้อมกับ OIS และใช้งาน Exmor RS sensor ส่วนเลนส์มุมกว้าง 124 องศา 12MP F2.2 และ เลนส์ เทเล PERISCOPE ปรับระยะได้ให้มาที่ 12 MP 2X F2.3- 4X F2.8 ขนาด 1/2.9 นิ้ว รองรับสูงสุด 12.5X Hybrid Zoom และ มาพร้อม 3D ITOF SENSOR และ ZEISS T* Coating เช่นเดิมครับ อีกทั้งยังมี โฟกัสดวงตา และ แทรคโฟกัส รองรับ 20FPS !
SPEC
- 6.5-inch (1644x3840pixels) 4K OLED HDR Display with 21:9 aspect ratio, 120Hz refresh rate, 100% DCI-P3 color gamut, X1 for mobile, lluminant D65 White point, 10 bit tonal gradation, Corning Gorilla Glass Victus protection
- Octa Core Snapdragon 888 5nm Mobile Platform with Adreno 660 GPU
- 12GB RAM, 256GB (UFS 3.1) internal memory, expandable memory up to 1TB via microSD card
- Android 11
- Hybrid Dual SIM (nano + nano / microSD)
- กล้องหลัง 3 ตัว
* ความละเอียด 12MP Exmor RS sensor, ขนาด 1/1.7″ sensor, รูรับแสง f/1.7 Hybrid OIS/EIS,
* กล้องมุมกว้าง 12MP f/2.2 aperture 1/2.″124° ultra wide-angle,
* กล้องเทเล 12MP f/2.3 (70 mm), f/2.8 (105 mm) variable aperture 1/2.9″ telephoto lens, Up to 12.5x hybrid zoom,
* 3D iToF sensor, ZEISS T* coating, Real-Time Eye AF (Human, Animal), Real-Time Tracking
- กล้องหน้า ความละเอียด 8MP ขนาด 1/ 4″ Exmor RS sensor, f/2.0 1.12μm , 84° มุมกว้าง
- รูหูฟัง 3.5 mm พร้อมระบบเสียง 360 Reality Audio, 360 Reality Audio hardware decoding, 360 Spatial Sound19, Full-Stage stereo speakers, Dolby Atmos, DSEE Ultimate, Stereo Recording, Qualcomm aptX HD audio
- สแกนนิ้วด้านข้างเครื่อง
- มิติตัวเครื่อง : 165.1 × 71.12 × 7.62mm; หนัก: 187.1g
- กันน้ำ กันฝุ่น (IPX5/IPX8), Dust proof (IP6X)5
- รองรับ 5G (sub-6GHz) / 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz / 5GHz) 2 x 2 MIMO, Bluetooth 5.2, GPS/ GLONASS, NFC, USB 3.1 Type-C
- แบตเตอร์รี่ 4,500mAh รองรับการชาร์จไว 30W (USB PD) Charging, Battery Care, STAMINA Mode, รองรับการชาร์จไร้สาย Qi Wireless charging, Battery Share function
- มาพร้อมกับสี Frosted Black and Frosted Purple และ Frosted Silver
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้จัดเต็มมาพร้อมกับ CPU Snapdragon 888 ตัวล่าสุดมาพร้อมกับ RAM 12GB และ ทำคะแนน Antutu ไปได้ที่ 641158 คะแนนครับ ส่วนเรื่องของหน่วยความจำเป็นแบบ UFS 3.0 อ่านเขียนได้ที่ 1596 MB/S และ 732 MB/s ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นเป็น DRM L1 ตามปกติของค่ายนี้ครับ รองรับดูหนังสูงสุดครับ NETFLIX HDR และ Geekbench นั้นทำคะแนนไปได้ 1117 และ 2692 คะแนนครับถือว่าทำได้ดีในด้านการใช้งานจริงระบบจัดการของ SONY ทำออกมาได้ลื่นไหลและเสถียรมากๆอีกค่าย และมีการอัปเดตที่ไวอันดับต้นๆของบรรดา Android เลยทีเดียวสำหรับค่ายนี้ครับ และ หน้าจอ 4K OLED 120HZ ทำได้ประทับใจมากๆ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้