อารยธรรม SONY นั้นถือว่ายังคงคำนี้ได้ดีสำหรับค่ายนี้ ในเรือธงของตัวเองนั้นก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ได้ไปตามงานออกแบบเหมือนกับค่ายอื่นๆ ทั้งรูปทรงของตัวเครื่อง การใช้งานหน้าจอแบบไม่มีรู ไม่มีติ่ง หรือจะเป็นการวางตำแหน่งลำโพงที่กลับมาใช้งานวางข้างหน้าทั้งหมดแล้วถือว่าเป็นจุดที่อะไรหลายๆอย่างเปิดตัวมาลงตัวมากขึ้น ทั้งรู 3.5มม. ลำโพงแบบวางหน้า ระบบกล้องที่ปรับมาดีขึ้น พัฒนาโหมดต่างๆมาดีขึ้น การใส่ใช้งานแบตที่ดีมากขึ้น 4,000 mAh อีกทั้งหน้าจอยังคงโดดเด่นให้มาแน่นๆที่ 4K OLED HDR เป็นหน้าจอที่สวย และอัตราส่วนเหมาะแก่การดูหนัง หรือจะเป็น งานประกอบที่แน่นและสวย ถือว่าเป็น XPERIA ที่ลงตัวที่สุดเท่าที่เคยเห็นการจัดสเปกมาเลยก็ว่าได้ แต่ในการใช้งานจริงนั้นจะเป็นยังไง ในหลายๆเรื่องเรามาอ่านกันเลยครับ สำหรับ SONY XPEIRA 1 II เรือธงรุ่นล่าสุด แม้ชื่อรุ่นแอบมึนๆในการตั้งก็ตามว่าจะเป็น 1 หรือ 2 แต่เรียกกันง่ายๆว่ารุ่น XPERIA 1 มาร์ค 2
Xperia 1 II (อ่านว่า มาร์คทู) มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว Cinema Wide 21:9 ความละเอียด 4K และรองรับ HDR และใช้เทคโนโลยี Motion Blur Reduction ให้ความลื่นเทียบเท่าจอ 90Hz ทางด้านของชิปเซตจะใช้ชิปเซต Snapdragon 865 ที่มาพร้อม Ram 8GB และในส่วนของกล้องหลังของมันจะมี 3 ตัวประกอบด้วย 12MP + เลนส์กว้าง 12MP + เลนส์เทเล 12MP และเซนเซอร์ 3D iToF (indirect Time-of-Flight) เจ้าสมาร์ทโฟนจะใช้เลนส์ของ ZEISS ที่เคลือบด้วย T* (T-Star) ที่ช่วยป้องกับการสะท้อนแสง ทำให้การแสดงผลรูปภาพและถ่ายภาพมีประสิทธิภาพขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Cinema Pro ที่ช่วยให้ถ่ายวีดีโอได้ในอัตราส่วน 21:9 ในความละเอียด 4K, HDR ส่งผลให้ถ่ายในวิดิโอในสภาพย้อนแสง และแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น และแน่นอนว่ารูหูฟัง 3.5 มม.นั้นกลับมาแล้วพร้อมกับรองรับระบบเสียง 360 Reality Audio ให้เข้ามาอยู่กับมือถือของตัวเองและใช้งานกับหูฟังได้ทุกรุ่น และใส่ DSEE Ultimate สำหรับการอัพสเกลเสียงให้ดีขึ้นเทียบเท่า Lossless ได้ด้วย ทางด้านแบตนั้นให้มาที่ 4,000 mAh รองรับชาร์จไว Power Deliver 21W และ รองรับชาร์จไร้สายด้วยเช่นกัน ซึ่งยังคงเน้นในเรื่องของงานประกอบเทพๆงานออกแบบสวยงามตามสไตล์ SONY รูปทรงเหลี่ยมยาวๆ พร้อมกับรองรับ กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP65/68 แต่น่าเสียดายว่ากล้องหน้านั้นยังคงเป็นตัวเดิมเหมือนกับรุ่นก่อน ที่ 8MP (f/2.0) ที่ใช้เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/ 4 และส่วนของลำโพงนั้นเป็นลำโพงคู่ วางด้านหน้าและระบบ Dymanic Vibration สั่นตามเสียงนั้นยังคงใส่เข้ามาให้ใช้งานกันเหมือนเดิมครับสำหรับ เรือธงรุ่นล่าสุดของค่าย อารยธรรม
SONY XPERIA 1 II เครื่องศูนย์ไทยนั้น ราคาเปิดมาที่ 35,990 บาท ตัวมือถือจะมาพร้อมกับสี ม่วงและดำ
UNBOX
- ตัวเครื่อง SONY XPERIA 1 II
- ที่ชาร์จ Adaptor รองรับ 18W
- สายชาร์จ USB-C ไป USB-C
- หูฟัง InEar แบบ 3.5 มม. พร้อมจุก 3 ขนาด
- คู่มือ
- เคสใส ไม่มีแถมมาให้แล้ว ***
DESIGN
หน้าจอมาพร้อมกับหน้าจอ อัตราส่วนแบบ 21:9 และ หน้าจอเป็นหน้าจอแบบ OLED 6.5 นิ้ว ความละเอียด 4K Cinema Wide ระบบประมวลผลภาพ BRAVIA X1 ยังคงไม่มีติ่งหน้าจอ ถือว่ารักษาการออกแบบที่ดีไว้ได้ ขอบหน้าจอล่างทำได้บาง แต่ด้านบนนั้นยังมีพอสมควร หน้าจอแบนไม่โค้ง เป็นหน้าจอแบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้า
ส่วนขอบด้านบน นั้นจะเห็นว่าหนากว่าด้านอื่นๆด้วยการออกแบบหน้าจอของมันทำให้มาหนาส่วนข้างบนแทน และ เป็นที่อยู่ของไฟแจ้งเตือน Led ที่มุมซ้าย เซนเซอร์ต่างๆ กล้องหน้า ลำโพงตัวที่ 2 พวกนี้ครับยังมีความหนานิดหน่อย แต่ตำแหน่งลำโพงในรุ่นนี้จะเปลี่ยนจากรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน เอาไปไว้บนขอบสุดด้านบนมากขึ้น
ขอบด้านล่างหน้าจอนั้นทำได้บางขึ้นเยอะเลยเพราะการออกแบบหน้าจอทำได้ดีขึ้น และไปหนาในส่วนข้างบนแทนที่เป็นที่อยู่ขอบพวกลำโพง กล้องหน้าต่างๆ ส่วนปุ่มควบคุมนั้นก็เป็นปกติแบบ Android 10 เต็มหน้าจอทั้งหมด
ขอบเครื่อง มีความเหลี่ยมสันชัดเจนมากกว่าเดิม จะเห็นว่าดีไซน์นั้นมีความเป็นตัวเองมากๆ แม้จะมองจากด้านข้างพร้อมกับถาดซิมแบบที่เป็นแบบเปิดได้เลยไม่ต้องใช้ที่จิ้มซิม รองรับ Hybrid Slot และมาพร้อมกับซีลกันน้ำรองรับ IP68
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นว่าเป็นปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง พร้อมกับปุ่ม Power ที่เป็นแบบสแกนนิ้วในตัว และรองรับการใช้งานกดลงไปได้แล้วครับ ถือว่าสะดวกมากๆ และมาพร้อมกับปุ่ม ชัตเตอร์สำหรับเข้ากล้องด่วนรวมถึงการถ่ายในโหมดทั่วไปและโปรเช่นกัน
ขอบเครื่องด้านบนจะเห็นการกลับมาของรู 3.5มม. และ ไมค์ตัดเสียงที่ใส่เข้ามาให้ในด้านนี้ และจะเห็นว่าขอบเครื่องนั้นมีความเหลี่ยนสันอย่างชัดเจนในมุมมองนี้
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเห็นว่ามีรู USB-C 3.1 และไมค์สำหรับรับเสียงและตัดเสียงได้ด้วย งานออกแบบนั้นจะแตกต่างกับรุ่น 1 แบบชัดเจนทั้งการวางและงานออกแบบ
ฝาหลังของเครื่องนั้นมีความเรียบง่ายและมีความเหลี่ยนสันแบบชัดเจน ฝาหลังนั้นเป็นแบบเรียบทั้งหมดพร้อมกับสีม่วงที่เป็นแบบโครเมี่ยมนิดๆ จะไม่ได้เป็นสีม่วงเข้าครับ จะเป็นม่วงอมเทาที่แทรกด้วยกระจกเงาทำให้มีความโดดเด่นและเป็นสีเอกลักษณ์อีกทีของค่ายนี้ โดยรวมถือว่าสีสวยและเด่นมากๆแต่ฝาหลังแอบเป็นรอยได้ง่ายในการใช้งานเพราะ ทั้งหน้าจอ และฝาหลังเป็นกระจกทั้งหมด อาจจะต้องระวังครับ ส่วนตำแหน่งกล้องย้ายไปมุมซ้ายจากเดิมที่เป็นตรงกลางในรุ่นก่อน ถือว่าใช้ถ่ายง่ายขึ้นในการจัดมุม
ทางด้านกล้องหลังนั้นไม่ได้มีความนูนเพิ่มเติมอะไรมากนักแต่เด่นๆคือการเขียนว่าเป็นเลนส์ ZEISS ที่เคลือบ T Coating ใส่เข้ามาให้ และทางด้านสเปกกล้อง และ เซนเซอร์อะไรนั้นยังคงจัดเต็มครับ แต่น่าเสียดายว่าไม่ได้มีเลนส์ซูมโหดๆแบบเรือธงค่ายอื่นเท่าไรนัก กล้องหลัง 12MP (f/1.7) ที่ใช้เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/1.7″, Hybrid OIS/EIS, เลนส์กว้าง 135° 12MP (f/2.2), เลนส์เทเล 34° 12MP (f/2.4), Hybrid OIS/EIS ที่สามารถซูมได้ 2x และสามารถถ่ายวีดีโอ slow motion 2K ได้ที่ 120 fps, เซนเซอร์ 3D iToF เท่านั้น
SPEC
- หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว (1644×3840พิกเซล) 4K OLED HDR อัตราส่วน 21:9 , 100% DCI-P3 color gamut, X1, เทคโนโลยีลด Motion Blur , ทำจากกระจก Corning Gorilla Glass 6
- ชิปเซต Snapdragon 865 7nm มาพร้อมการ์ดจอ Adreno 650
- RAM 8GB, Storage 256GB ที่ใส่ microSD card เพิ่มได้ถึง 1TB
- Android 10
- ซิมคู่แบบ Hybrid (nano + nano / microSD)
- กล้องหลัง 12MP (f/1.7) ที่ใช้เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/1.7″, Hybrid OIS/EIS, เลนส์กว้าง 135° 12MP (f/2.2), เลนส์เทเล 34° 12MP (f/2.4), Hybrid OIS/EIS ที่สามารถซูมได้ 2x และสามารถถ่ายวีดีโอ slow motion 2k ได้ที่ 120 fps, เซนเซอร์ 3D iToF
- กล้องหน้า 8MP (f/2.0) ที่ใช้เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/ 4, ขนาดพิกเซล 1.12μm, และถ่ายภาพมุมกว้างได้ 84°
- รูแจ็ค 3.5mm, ลำโพง Stere, Dolby Atmos, DSEE Ultimate, Stereo Recording, Qualcomm aptX HD audio
- ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้างตัวเครื่อง
- ขนาดตัวเครื่อง: 166 × 72 × 7.9mm; น้ำหนัก: 181g
- มาตรฐานกันน้ำ (IP65/IP68)
- 5G (sub-6GHz) / 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz / 5GHz) 2 x 2 MIMO, Bluetooth 5.1, GPS/ GLONASS, NFC, USB 3.1 Type-C
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 21W USB-PD, ชาร์จไร้สายแบบ Qi
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้จัดเต็มมาพร้อมกับ CPU Snapdragon 865 ตัวล่าสุดมาพร้อมกับ RAM 8GB และ ทำคะแนน Antutu ไปได้ที่ 547253 คะแนนครับ ส่วนเรื่องของหน่วยความจำเป็นแบบ UFS 3.0 อ่านเขียนได้ที่ 1557 MB/S และ 382 MB/s ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นเป็น DRM L1 ตามปกติของค่ายนี้ครับ รองรับดูหนังสูงสุดครับ NETFLIX HD และ Geekbench นั้นทำคะแนนไปได้ 892 และ 3223 คะแนนครับถือว่าทำได้ดีในภาพรวมแม้อาจจะไม่ได้คะแนนเวอร์มากนักแต่ในด้านการใช้งานจริงระบบจัดการของ SONY ทำออกมาได้ลื่นไหลและเสถียรมากๆอีกค่าย และมีการอัปเดตที่ไวอันดับต้นๆของบรรดา Android เลยทีเดียวสำหรับค่ายนี้ครับ
SYSTEM UI
ทางด้านระบบนั้นมาพร้อมกับ Android 10 ค่อนข้างเพียวมากๆตามสไตล์ SONY ครับ มีการเปลี่ยนแปลงแทรกเข้ามาแค่นั้นนิดหน่อยในส่วนของฟีเจอร์ต่างๆของค่ายครับ ตัวระบบลื่นไหลเอามากๆและสเถียรอีกทั้งยังอัปเดตได้ไวไม่แพ้ Google Pixel เลย ทางด้านตัวนาฬิกาก็มาคงสไตล์เดิมและมีเลขแจ้งเตือนมุมแอป จุดแจ้งเตือนอะไรมาให้ครับตัวการควบคุมนั้นมาแบบ Android 10 ใช้งานแบบ GESTURE เต็มรูปแบบมากขึ้นกว่าเดิมเลย
ทางด้าน Quick Setting นั้นจะมาพร้อมกับโทนเข้มสีฟ้า พร้อมกับไอคอนกลมๆรวมถึงการจัดการวางปุ่มอะไรได้ และสามารถปรับแสงด้านบนได้ ส่วนการแบ่งหน้าจอนั้นจะทำได้ดีเพราะหน้าจอยาวๆ ทำให้การแบ่งหน้าจอนั้นทำได้ดีและใช้งานได้เต็มที่มากขึ้นหน้าจอที่แบ่งรองรับหลายๆแอป และมีให้เลือกแอปคู่ได้เลยแบบสำเร็จครับง่ายๆเลยนั้นเอง
ตัวแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google แน่นอนว่าใช้งานได้ดีและค่อนข้างเสถียร รวมถึงพิมพ์ได้ง่ายถนัดสำหรับตัวแอดมิน ส่วนเรื่องของ RAM นั้นจะมาพร้อมกับ 8 GB ใช้งานไป 3.9 GB และความจำเครื่อง 256 GB ใช้งานได้ 236GB
Gesture การควบคุมต่างๆนั้นก็ยังมีมาให้ค่อนข้างครบทั้งเรื่องของตัว SideSense ที่แตะขอบหน้าจอเครื่อง แต่รุ่นนี้ไม่ใช่จอโค้งแอบแตะยากมากๆไม่เหมือน XZ3 ส่วนเรื่องหน้าจอ Ambient ก็ยังมีมาให้และปรับแต่งได้นิดหน่อยครับ
[SR] รีวิว SONY XPERIA 1 MARK II เรือธงเลนส์ ZEISS โหมดถ่ายเทพ พร้อมจอ 4K HDR !
อารยธรรม SONY นั้นถือว่ายังคงคำนี้ได้ดีสำหรับค่ายนี้ ในเรือธงของตัวเองนั้นก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ได้ไปตามงานออกแบบเหมือนกับค่ายอื่นๆ ทั้งรูปทรงของตัวเครื่อง การใช้งานหน้าจอแบบไม่มีรู ไม่มีติ่ง หรือจะเป็นการวางตำแหน่งลำโพงที่กลับมาใช้งานวางข้างหน้าทั้งหมดแล้วถือว่าเป็นจุดที่อะไรหลายๆอย่างเปิดตัวมาลงตัวมากขึ้น ทั้งรู 3.5มม. ลำโพงแบบวางหน้า ระบบกล้องที่ปรับมาดีขึ้น พัฒนาโหมดต่างๆมาดีขึ้น การใส่ใช้งานแบตที่ดีมากขึ้น 4,000 mAh อีกทั้งหน้าจอยังคงโดดเด่นให้มาแน่นๆที่ 4K OLED HDR เป็นหน้าจอที่สวย และอัตราส่วนเหมาะแก่การดูหนัง หรือจะเป็น งานประกอบที่แน่นและสวย ถือว่าเป็น XPERIA ที่ลงตัวที่สุดเท่าที่เคยเห็นการจัดสเปกมาเลยก็ว่าได้ แต่ในการใช้งานจริงนั้นจะเป็นยังไง ในหลายๆเรื่องเรามาอ่านกันเลยครับ สำหรับ SONY XPEIRA 1 II เรือธงรุ่นล่าสุด แม้ชื่อรุ่นแอบมึนๆในการตั้งก็ตามว่าจะเป็น 1 หรือ 2 แต่เรียกกันง่ายๆว่ารุ่น XPERIA 1 มาร์ค 2
Xperia 1 II (อ่านว่า มาร์คทู) มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว Cinema Wide 21:9 ความละเอียด 4K และรองรับ HDR และใช้เทคโนโลยี Motion Blur Reduction ให้ความลื่นเทียบเท่าจอ 90Hz ทางด้านของชิปเซตจะใช้ชิปเซต Snapdragon 865 ที่มาพร้อม Ram 8GB และในส่วนของกล้องหลังของมันจะมี 3 ตัวประกอบด้วย 12MP + เลนส์กว้าง 12MP + เลนส์เทเล 12MP และเซนเซอร์ 3D iToF (indirect Time-of-Flight) เจ้าสมาร์ทโฟนจะใช้เลนส์ของ ZEISS ที่เคลือบด้วย T* (T-Star) ที่ช่วยป้องกับการสะท้อนแสง ทำให้การแสดงผลรูปภาพและถ่ายภาพมีประสิทธิภาพขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Cinema Pro ที่ช่วยให้ถ่ายวีดีโอได้ในอัตราส่วน 21:9 ในความละเอียด 4K, HDR ส่งผลให้ถ่ายในวิดิโอในสภาพย้อนแสง และแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น และแน่นอนว่ารูหูฟัง 3.5 มม.นั้นกลับมาแล้วพร้อมกับรองรับระบบเสียง 360 Reality Audio ให้เข้ามาอยู่กับมือถือของตัวเองและใช้งานกับหูฟังได้ทุกรุ่น และใส่ DSEE Ultimate สำหรับการอัพสเกลเสียงให้ดีขึ้นเทียบเท่า Lossless ได้ด้วย ทางด้านแบตนั้นให้มาที่ 4,000 mAh รองรับชาร์จไว Power Deliver 21W และ รองรับชาร์จไร้สายด้วยเช่นกัน ซึ่งยังคงเน้นในเรื่องของงานประกอบเทพๆงานออกแบบสวยงามตามสไตล์ SONY รูปทรงเหลี่ยมยาวๆ พร้อมกับรองรับ กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP65/68 แต่น่าเสียดายว่ากล้องหน้านั้นยังคงเป็นตัวเดิมเหมือนกับรุ่นก่อน ที่ 8MP (f/2.0) ที่ใช้เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/ 4 และส่วนของลำโพงนั้นเป็นลำโพงคู่ วางด้านหน้าและระบบ Dymanic Vibration สั่นตามเสียงนั้นยังคงใส่เข้ามาให้ใช้งานกันเหมือนเดิมครับสำหรับ เรือธงรุ่นล่าสุดของค่าย อารยธรรม
SONY XPERIA 1 II เครื่องศูนย์ไทยนั้น ราคาเปิดมาที่ 35,990 บาท ตัวมือถือจะมาพร้อมกับสี ม่วงและดำ
UNBOX
- ตัวเครื่อง SONY XPERIA 1 II
- ที่ชาร์จ Adaptor รองรับ 18W
- สายชาร์จ USB-C ไป USB-C
- หูฟัง InEar แบบ 3.5 มม. พร้อมจุก 3 ขนาด
- คู่มือ
- เคสใส ไม่มีแถมมาให้แล้ว ***
DESIGN
หน้าจอมาพร้อมกับหน้าจอ อัตราส่วนแบบ 21:9 และ หน้าจอเป็นหน้าจอแบบ OLED 6.5 นิ้ว ความละเอียด 4K Cinema Wide ระบบประมวลผลภาพ BRAVIA X1 ยังคงไม่มีติ่งหน้าจอ ถือว่ารักษาการออกแบบที่ดีไว้ได้ ขอบหน้าจอล่างทำได้บาง แต่ด้านบนนั้นยังมีพอสมควร หน้าจอแบนไม่โค้ง เป็นหน้าจอแบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้า
ส่วนขอบด้านบน นั้นจะเห็นว่าหนากว่าด้านอื่นๆด้วยการออกแบบหน้าจอของมันทำให้มาหนาส่วนข้างบนแทน และ เป็นที่อยู่ของไฟแจ้งเตือน Led ที่มุมซ้าย เซนเซอร์ต่างๆ กล้องหน้า ลำโพงตัวที่ 2 พวกนี้ครับยังมีความหนานิดหน่อย แต่ตำแหน่งลำโพงในรุ่นนี้จะเปลี่ยนจากรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน เอาไปไว้บนขอบสุดด้านบนมากขึ้น
ขอบด้านล่างหน้าจอนั้นทำได้บางขึ้นเยอะเลยเพราะการออกแบบหน้าจอทำได้ดีขึ้น และไปหนาในส่วนข้างบนแทนที่เป็นที่อยู่ขอบพวกลำโพง กล้องหน้าต่างๆ ส่วนปุ่มควบคุมนั้นก็เป็นปกติแบบ Android 10 เต็มหน้าจอทั้งหมด
ขอบเครื่อง มีความเหลี่ยมสันชัดเจนมากกว่าเดิม จะเห็นว่าดีไซน์นั้นมีความเป็นตัวเองมากๆ แม้จะมองจากด้านข้างพร้อมกับถาดซิมแบบที่เป็นแบบเปิดได้เลยไม่ต้องใช้ที่จิ้มซิม รองรับ Hybrid Slot และมาพร้อมกับซีลกันน้ำรองรับ IP68
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นว่าเป็นปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง พร้อมกับปุ่ม Power ที่เป็นแบบสแกนนิ้วในตัว และรองรับการใช้งานกดลงไปได้แล้วครับ ถือว่าสะดวกมากๆ และมาพร้อมกับปุ่ม ชัตเตอร์สำหรับเข้ากล้องด่วนรวมถึงการถ่ายในโหมดทั่วไปและโปรเช่นกัน
ขอบเครื่องด้านบนจะเห็นการกลับมาของรู 3.5มม. และ ไมค์ตัดเสียงที่ใส่เข้ามาให้ในด้านนี้ และจะเห็นว่าขอบเครื่องนั้นมีความเหลี่ยนสันอย่างชัดเจนในมุมมองนี้
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเห็นว่ามีรู USB-C 3.1 และไมค์สำหรับรับเสียงและตัดเสียงได้ด้วย งานออกแบบนั้นจะแตกต่างกับรุ่น 1 แบบชัดเจนทั้งการวางและงานออกแบบ
ฝาหลังของเครื่องนั้นมีความเรียบง่ายและมีความเหลี่ยนสันแบบชัดเจน ฝาหลังนั้นเป็นแบบเรียบทั้งหมดพร้อมกับสีม่วงที่เป็นแบบโครเมี่ยมนิดๆ จะไม่ได้เป็นสีม่วงเข้าครับ จะเป็นม่วงอมเทาที่แทรกด้วยกระจกเงาทำให้มีความโดดเด่นและเป็นสีเอกลักษณ์อีกทีของค่ายนี้ โดยรวมถือว่าสีสวยและเด่นมากๆแต่ฝาหลังแอบเป็นรอยได้ง่ายในการใช้งานเพราะ ทั้งหน้าจอ และฝาหลังเป็นกระจกทั้งหมด อาจจะต้องระวังครับ ส่วนตำแหน่งกล้องย้ายไปมุมซ้ายจากเดิมที่เป็นตรงกลางในรุ่นก่อน ถือว่าใช้ถ่ายง่ายขึ้นในการจัดมุม
ทางด้านกล้องหลังนั้นไม่ได้มีความนูนเพิ่มเติมอะไรมากนักแต่เด่นๆคือการเขียนว่าเป็นเลนส์ ZEISS ที่เคลือบ T Coating ใส่เข้ามาให้ และทางด้านสเปกกล้อง และ เซนเซอร์อะไรนั้นยังคงจัดเต็มครับ แต่น่าเสียดายว่าไม่ได้มีเลนส์ซูมโหดๆแบบเรือธงค่ายอื่นเท่าไรนัก กล้องหลัง 12MP (f/1.7) ที่ใช้เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/1.7″, Hybrid OIS/EIS, เลนส์กว้าง 135° 12MP (f/2.2), เลนส์เทเล 34° 12MP (f/2.4), Hybrid OIS/EIS ที่สามารถซูมได้ 2x และสามารถถ่ายวีดีโอ slow motion 2K ได้ที่ 120 fps, เซนเซอร์ 3D iToF เท่านั้น
SPEC
- หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว (1644×3840พิกเซล) 4K OLED HDR อัตราส่วน 21:9 , 100% DCI-P3 color gamut, X1, เทคโนโลยีลด Motion Blur , ทำจากกระจก Corning Gorilla Glass 6
- ชิปเซต Snapdragon 865 7nm มาพร้อมการ์ดจอ Adreno 650
- RAM 8GB, Storage 256GB ที่ใส่ microSD card เพิ่มได้ถึง 1TB
- Android 10
- ซิมคู่แบบ Hybrid (nano + nano / microSD)
- กล้องหลัง 12MP (f/1.7) ที่ใช้เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/1.7″, Hybrid OIS/EIS, เลนส์กว้าง 135° 12MP (f/2.2), เลนส์เทเล 34° 12MP (f/2.4), Hybrid OIS/EIS ที่สามารถซูมได้ 2x และสามารถถ่ายวีดีโอ slow motion 2k ได้ที่ 120 fps, เซนเซอร์ 3D iToF
- กล้องหน้า 8MP (f/2.0) ที่ใช้เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/ 4, ขนาดพิกเซล 1.12μm, และถ่ายภาพมุมกว้างได้ 84°
- รูแจ็ค 3.5mm, ลำโพง Stere, Dolby Atmos, DSEE Ultimate, Stereo Recording, Qualcomm aptX HD audio
- ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้างตัวเครื่อง
- ขนาดตัวเครื่อง: 166 × 72 × 7.9mm; น้ำหนัก: 181g
- มาตรฐานกันน้ำ (IP65/IP68)
- 5G (sub-6GHz) / 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz / 5GHz) 2 x 2 MIMO, Bluetooth 5.1, GPS/ GLONASS, NFC, USB 3.1 Type-C
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 21W USB-PD, ชาร์จไร้สายแบบ Qi
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้จัดเต็มมาพร้อมกับ CPU Snapdragon 865 ตัวล่าสุดมาพร้อมกับ RAM 8GB และ ทำคะแนน Antutu ไปได้ที่ 547253 คะแนนครับ ส่วนเรื่องของหน่วยความจำเป็นแบบ UFS 3.0 อ่านเขียนได้ที่ 1557 MB/S และ 382 MB/s ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นเป็น DRM L1 ตามปกติของค่ายนี้ครับ รองรับดูหนังสูงสุดครับ NETFLIX HD และ Geekbench นั้นทำคะแนนไปได้ 892 และ 3223 คะแนนครับถือว่าทำได้ดีในภาพรวมแม้อาจจะไม่ได้คะแนนเวอร์มากนักแต่ในด้านการใช้งานจริงระบบจัดการของ SONY ทำออกมาได้ลื่นไหลและเสถียรมากๆอีกค่าย และมีการอัปเดตที่ไวอันดับต้นๆของบรรดา Android เลยทีเดียวสำหรับค่ายนี้ครับ
SYSTEM UI
ทางด้านระบบนั้นมาพร้อมกับ Android 10 ค่อนข้างเพียวมากๆตามสไตล์ SONY ครับ มีการเปลี่ยนแปลงแทรกเข้ามาแค่นั้นนิดหน่อยในส่วนของฟีเจอร์ต่างๆของค่ายครับ ตัวระบบลื่นไหลเอามากๆและสเถียรอีกทั้งยังอัปเดตได้ไวไม่แพ้ Google Pixel เลย ทางด้านตัวนาฬิกาก็มาคงสไตล์เดิมและมีเลขแจ้งเตือนมุมแอป จุดแจ้งเตือนอะไรมาให้ครับตัวการควบคุมนั้นมาแบบ Android 10 ใช้งานแบบ GESTURE เต็มรูปแบบมากขึ้นกว่าเดิมเลย
ทางด้าน Quick Setting นั้นจะมาพร้อมกับโทนเข้มสีฟ้า พร้อมกับไอคอนกลมๆรวมถึงการจัดการวางปุ่มอะไรได้ และสามารถปรับแสงด้านบนได้ ส่วนการแบ่งหน้าจอนั้นจะทำได้ดีเพราะหน้าจอยาวๆ ทำให้การแบ่งหน้าจอนั้นทำได้ดีและใช้งานได้เต็มที่มากขึ้นหน้าจอที่แบ่งรองรับหลายๆแอป และมีให้เลือกแอปคู่ได้เลยแบบสำเร็จครับง่ายๆเลยนั้นเอง
ตัวแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google แน่นอนว่าใช้งานได้ดีและค่อนข้างเสถียร รวมถึงพิมพ์ได้ง่ายถนัดสำหรับตัวแอดมิน ส่วนเรื่องของ RAM นั้นจะมาพร้อมกับ 8 GB ใช้งานไป 3.9 GB และความจำเครื่อง 256 GB ใช้งานได้ 236GB
Gesture การควบคุมต่างๆนั้นก็ยังมีมาให้ค่อนข้างครบทั้งเรื่องของตัว SideSense ที่แตะขอบหน้าจอเครื่อง แต่รุ่นนี้ไม่ใช่จอโค้งแอบแตะยากมากๆไม่เหมือน XZ3 ส่วนเรื่องหน้าจอ Ambient ก็ยังมีมาให้และปรับแต่งได้นิดหน่อยครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้