[SR] รีวิว MSI GE76 RAIDER ตัวเทพ i9-11980HK + RTX 3080 จอ 17.3 นิ้ว 4K 120Hz !


 
MSI แบรนด์ที่ต้องบอกเลยว่ามีความน่าสนใจทั้งเรื่องของ การออกแบบ สายเกมมิ่งรวมถึงเป็นค่ายที่โดดเด่นในเรื่องของการทำ Gaming Notebook รวมถึงสเปกที่จัดเต็มและการระบายความร้อนต่างๆและในรุ่นนี้เป็นตัวเทพประจำปีของ MSI 2021 เลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ สเปก ความแรง การออกแบบ หรือ ทางด้านราคาที่ทำให้ตัวนี้มีค่าตัว 128,990 บาท แอบคุ้มกว่าตัวแรกด้วยนะ และ ยังมาพร้อมกับขนาด 17.3 นิ้ว 4K และ สเปกอื่นๆที่จัดเต็มรองรับทั้งการทำงานระดับสูง หรือ ว่าจะเป็นการเล่นเกมแบบโหดๆจัดเต็ม ที่เหลือๆในการเล่นเกมมืออาชีพ การเป็น สตรีมเมอร์ หรือ แม้แต่การทำงานเรนเดอร์ระดับสูง ด้วย CPU – GPU ที่เป็นตัวระดับบนสุดของตระกูล ทำงานร่วมกับงานออกแบบที่โดดเด่น และ ฟีเจอร์การใช้งานที่ไม่ธรรมดาในรุ่น MSI GE76 RAIDER พร้อมกับ i9 11980HK จาก intel ครับ
 

 
MSI GE76 Raider  มาพร้อมกับการใช้งานสเปกระดับเทพทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น CPU ตัวเทพ Intel Core i9-11980H ความเร็ว 2.6GHz-5GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด (16 MB L3 Cache Smart Cache) พร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3080 16GB DDR6 ก็บข้อมูลติดตั้งแบบ SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อตติดตั้งมาแล้วที่ความจุ 2TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 64GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz พร้อมรองรับ Dual Channel พร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 17.3″ ที่ความละเอียด 4K Ultra HD (3840 x 2160 พิกเซล) 120Hz ใช้งาน พาเนลคุณภาพสูง IPS + sRGB 100% พร้อมเทคโนโลยี การปรับแสงสีจอ MSI True Color Technology และมาพร้อมกับการใช้งาน ลำโพงจากแบรนด์ Dynaudio แบบ Duo Wave Speaker พร้อมซอฟต์แวร์เสียง Nahimic เวอร์ชัน 3 ที่จะยิงออกมาข้างหน้าและข้างซ้าย ขวา 4 ตำแหน่งนั้นเอง และยังคง มาพร้อม Windows 10 แท้ ส่วนทางด้านการเชื่อมต่อครบๆ แน่นอนว่าขนาด 17 นิ้วแบบนี้ให้มาครบ USB 3.2 Type-C Gen2 + Type-A USB 3.1 Gen 2 + 1x RJ45+(4K / 120Hz) HDMI + mini-DisplayPort + Thunderbolt 4 + ช่องหูฟัง 3.5 มม. ที่รองรับ Hi-Res Audio รวมกัน ไม่ได้แยก ไมค์กับหูฟัง แอบแปลกใจเล็กน้อย ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายเองนั้น ใช้งาน Wi-Fi 6E AX + Bluetooth 5.1 + Killer Double shot Pro ทำให้เล่นได้นิ่งมากขึ้นครับ
 

 

 
MSI GE76 RAIDER ตัวนี้จะมาพร้อมกับในรุ่น 11UH-212TH ตัวนี้ มาพร้อมกับ หน้าจอ 17.3″ 4K 120Hz Gaming Laptop i9-11980HK 64GB พร้อมกับ 2TB  และใช้งานการ์ดจอ RTX3080 Win10 ส่วนในประเทศไทยเองนั้นมาพร้อมกับการเปิดราคาที่ 128,990 บาท ถ้ามองเทียบกับรุ่นเดิมที่ 159,900 บาทครับ
 

 

 
UNBOX
 
ตัวกล่องนั้นตามแบบฉบับของค่ายนี้มักจะมีกล่องใหญ่ และกล่องย่อยข้างใน เพราะว่าจะแถมกระเป๋าเป้ใส่เข้ามาให้ครับ ส่วนอุปกรณ์การใช้งานต่างๆที่ให้มาก็พื้นฐานเหมือนกับรุ่นอื่นๆของค่ายครับ แต่รุ่นนี้สเปกโหดทำให้การใช้งานที่ชาร์จ Power Adaptor นั้นใช้งานกำลังสูงมากๆและมีขนาดใหญ่ รวมถึง หนักมากเช่นกันในการใช้งานตัวนี้ครับ
 
- ตัวเครื่อง MSI GE76 RAIDER 11UH-212TH
- กระเป๋าเป้ MSI
- Power Adaptor กำลังไฟ 280W
- คู่มือการใช้งาน
 

 
DESIGN
 
งานออกแบบนั้นยังคงไม่ได้เปลี่ยนอะไรจากรุ่นปีก่อนหน้านี้ทั้งดีไซน์ วัสดุรวมถึงโทนสีตัวเครื่องนั้นจะเหมือนกันทั้งหมด และยังคงโดดเด่นในเรื่องแสงสีไฟด้านหน้าเช่นกัน Mystic Light ที่เป็นแถบ 3 มิติสวยงามอีกทั้งงานประกอบ คุณภาพวัสดุไม่ธรรมดาเช่นกัน พร้อมกับอลูมิเนียมคุณภาพสูง สีไทเทเนียมเงินแบบด้านอมฟ้านิดหน่อยแต่ด้วยขนาด 17.3นิ้ว แน่นอนว่าทำให้การพกพาใช้งานไม่เหมาะเท่าไร เพราะตัวนี้สเปกแน่น และ เครื่องใหญ่ หนา และ หนักเอาเรื่อง มาพร้อมกับน้ำหนักรวม 2.9 กิโลกรัม และ หนา 25.9 มม.เลยทีเดียวครับตัวนี้ พร้อมกับ แบต 4 Cell 99.9 Whr เลยเช่นกัน ทั้งนี้ก็พอเข้าใจได้กับเรื่องสเปก และกลุ่มเป้าหมายสำหรับตัวนี้ที่ไม่เน้นพกพาครับ
 

 

 

 
ในรุ่นนี้งานออกแบบต่างๆนั้นจะคล้ายๆกับ GE66 GE76 Raider ก่อนหน้านี้เปลี่ยนแปลงไม่เยอะกันมาก และเน้นในเรื่องการออกแบบที่แนวดุดัน พร้อมกับวัสดุที่เน้นสีเงินไทเทเนียมโทนสว่าง แต่ด้านในนั้นจะเป็นสีดำด้านนั้นเอง เรียกได้ว่าตัดกันได้อย่างลงตัว และพื้นผิวสัมผัสบอกเลยว่าทำได้น่าสนใจเนียนและดูมีคุณภาพสูง ทางด้านฝาหลังนั้นเราจะเห็นว่าการขึ้นโลโก้ทำได้สวยหรูหราเกิน Gaming ตัวอื่นๆแต่น่าเสียดายว่าไม่มีแสงสีอะไรในด้านหลังตรงโลโก้เลยแม้แต่น้อย และหน้าจอนั้นรองรับการกางได้ 145 องศา ซึ่งยังคงใส่แสงสีไฟด้านหน้า Mystic Light แบบ Panoramic Aurora เข้ามาเช่นเดิมทำให้เด่นขึ้นเมื่อใช้งาน และสามารถปรับแต่งได้อิสระมากๆเช่นกัน
 

 

 

 
ขอบหน้าจอนั้นถือว่ากลางๆอาจจะไม่ได้บางมากนักในส่วนข้างบน แต่ก็ปกติในเรื่องของบรรดา Gaming ที่ไม่ได้เน้นมากนักเพราะตัวนี้ขนาด 17.3นิ้ว ทำให้ไม่ต้องเน้นพกพาอะไรมาก แต่ถือว่าบางขึ้นกว่าแต่ก่อนเรื่อยๆครับ และกล้องหน้า พร้อมกับไมค์ยังคงใส่เข้ามาให้ในขอบด้านบน และงานออกแบบขอบหน้าจอ และหน้าจอเป็นแบบด้านทั้งหมดดูเนียนตาสวยงามเป็นชิ้นเดียวกันได้ดี ไม่มีขอบยางอะไรเด่นๆขึ้นมา ทำให้ดูสวยดูพรีเมี่ยมมากขึ้นส่วนโลโก้ MSI เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดแล้ว ใช้งานโลโก้ใหม่ ที่มองไปมาแอบคล้ายกับคำว่า แรง ในภาษาไทย แต่ที่ชอบคือการใช้งานวัสดุแบบด้านเรียบๆจนบางมุมนั้นคล้ายกับเป็นพื้นผิวเดียวกับทางหน้าจอเลย ส่วนโลโก้ก็ทำให้ตัวเครื่องดูทันสมัยขึ้น
 

 

 

 
ในแง่ของการพับหน้าจอต่างๆนั้นตัวนี้รองรับการกางได้ 145 องศา อาจจะไม่ได้กว้างมากนัก แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว เพราะว่าจะเน้นในเรื่องของความแข็งแรงเป็นหลักมากกว่า ตัวดูดลมเข้าออกนั้นจะเน้นๆด้านหลังทำให้ต้องมีช่องระบายขนาดใหญ่เสริมเข้ามามากขึ้น ทั้งข้างซ้ายขวา และ ด้านหลัง รวมถึง ด้านใต้เครื่องเช่นกัน ข้อพับต่างๆนั้นซ่อนในด้านหน้าได้เนียนและสวย รวมถึงการเปิดปิดเองนั้น สามารถดึงขึ้นมือเดียวได้แบบสบายๆ และการออกแบบด้านนอกจะมีคล้ายกับ เส้นสายที่เสริมเข้ามาส่วนข้อพับทำให้ดูมีอะไรมากขึ้น ดูดุดันกว่าแบบเรียบๆ
 

 

 

 
ในงานออกแบบด้านหน้านั้นเราจะเห็นว่า มีช่องลำโพงในด้านหน้ามาให้ข้างๆแป้นพิมพ์ และยังคงไม่ได้ตัด Numpad ออกไปด้วยเช่นกัน รวมถึงปุ่มเปิดปิดในด้านมุมขวา และเมื่อมามองด้านฐานเครื่องนั้นจะเห็นว่ามีงานออกแบบเล็กๆน้อย แต่เท่าที่ดูนั้นแอบธรรมดาไปนิดหน่อยเมื่อเทียบกับราคาของมัน ในแง่เส้นสาย การออกแบบความพรีเมี่ยมในฐานนั้นไม่ได้เน้นมาก แต่ช่องระบายอากาศก็ให้มาเพียงพอต่อการดูดลมเข้า และมียางรองให้มาพร้อมใช้งานทั้งหมด
 

 

 

 
เมื่อเปิดฝาหลังขึ้นมานั้นเราจะเห็นว่า งานการจัดวางข้างในเองนั้นทำได้ดีเลยทีเดียวมาพร้อมกับ ฮีทไปป์ขนาดใหญ่ 6 เส้น และพัดลมแยกซ้าย ขวา พร้อมกับดูดอากาศ ปล่อยลมได้ทั้ง ซ้าย ขวา รวมถึงในด้านหลัง 2 ช่องเน้นๆเลยทีเดียว ส่วน RAM นั้นให้มาเต็มๆ สูงสุดแล้วที่ 64GB ( 32GB x 2 Dual Channel )  และรองรับ  SSD M.2 NVMe PCIe ทั้งหมด 2 ช่อง ซึ่งให้มาแล้ว 1 แบบ 2TB และมีแผ่นกราไฟท์ ระบายความร้อน และ ซิลิโคนมาให้ทั้งหมดในการปิด RAM – SSD เรียกได้ว่ารองรับการระบายความร้อนเน้นๆ เลยทีเดียว ส่วนทางด้านลำโพงนั้นมาพร้อมกับ Duo Wave Speaker ขนาดใหญ่ และส่งเสียงออกได้แน่นมากขึ้นในการวางแบบขยับได้ และ ยิงออก 4 ทิศทางแบบนี้ มาพร้อมกับแบตขนาดใหญ่มากๆที่ 99.9Whr รองรับการใช้งานสบายๆเวลาไม่ได้เสียบใช้งานกับไฟ
 

 

 

 
ทางด้านงานแสงสีให้มาจัดเต็มเน้นๆในด้านหน้า แต่น่าเสียดายว่าไม่มีข้างๆ หรือ ตรงโลโก้ด้านหลังหรือฝาหลังนั้นเอง ซึ่งในด้านหน้าให้มาเป็น Light Bar Mystic Light แบบ Panoramic Aurora  ที่สามารถปรับแต่งได้ถึง 16.8 ล้านสี แยกเม็ดสีไฟได้อิสระมากๆครับ และ เคลื่อนไหวเนียนตาและสวยมากจริงๆ พร้อมกับแสงสีไฟตรง คีย์บอร์ดที่เป็นแบบ RGB Pre-Key เป็นอย่างดี ก็พอทำให้สีสันในการใช้งานนั้นไม่เรียบมากไป แต่น่าจะมีให้ตรงฝาหลังอีกนิด
 

 
SPEC
 
- SCREEN 17.3″ ความละเอียด 4K UHD 2560×1440 IPS 120Hz
- CPU Intel Core i9-11980HK 2.6GHz 8 Cores 16 Threads Max 5GHz
- RAM 64GB DDR4 3200MHz
- Storage 2TB NVMe PCIe Gen4x4 SSD
- GPU NVIDIA GeForce RTX 3080 16GB GDDR6
- OS Windows 10 Home Advanced
- Network Killer WiFi 6E+BT5.2
- I/O 1x USB-C Thunderbolt 4, 1x USB-C 3.2 Gen2, 1x USB-A 3.2 Gen2, 2x USB-A 3.2 Gen1, HDMI 2.1, MiniDP, Card Reader, RJ45, 3.5mm
- 2 Years Limited Warranty
- 2.9 kg / 397 x 284 x 25.9 mm
- 280W adapter + 99Whr
 

 
PERFORMANCE
 
เรื่องของประสิทธิภาพนั้นถือว่าสบายไว้ใจได้ครับ ไม่ว่าจะทำงานโหดแค่ไหน เพราะตัวนี้สเปกน่าจะแรงที่สุดแล้ว มาพร้อมกับ ตัวเทพ Intel Core i9-11980H ความเร็ว 2.6GHz-5GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด (16 MB L3 Cache Smart Cache) พร้อมการ์ดจอรุ่นล่าสุด NVIDIA GeForce RTX 3080 16GB DDR6 มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อตติดตั้งมาแล้วที่ความจุ 2TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 64GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz พร้อมรองรับ Dual Channel ทำให้ ทั้งการเล่นเกมแบบกินสเปกโหดๆ หรือว่ากินพื้นที่การใช้งานก็รองรับได้ อีกทั้งเปิดหลายโปรแกรมพร้อมกันได้แบบไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย
 

 
ชื่อสินค้า:   MSI GE76 RAIDER
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่