สวัสดีครับ พอดีผมพึ่งเลิกกับแฟนมาได้สักพักนึงครับ เนื่องจากแฟนเก่าผมคนนี้เขารับนิสัยของผมไม่ได้และผมก็แอบไปทำในสิ่งที่เขาห้าม
สิ่งที่เรียกว่าเขารับนิสัยของผมไม่ได้ก็จะมี เช่น ขี้ลืม เก็บของไม่เป็นที่ ผมชอบเครียดคิดมาก อะไรประมาณนี้ครับ
ก่อนวันที่เลิกกันคือ เขาไม่คุยอะไรกับผมเลย ทั้งๆที่เราคุยกันมาดีๆแทบจะทุกวัน แล้ววันนั้นเขาก็เงียบ และเงียบไปประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่เขาจะบอกว่า "เมื่อไหร่จะย้ายออกไปจากนี้" ซึ่งตอนนั้นผมก็เสียใจครับ แต่ไม่พูดอะไร ก็ได้แต่เก็บของกลับไปห้องที่ตัวเองเคยอยู่มาตั้งนานก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับเขา
พอผมย้ายมาอยู่ที่ห้องผมเอง ผมก็ได้ตั้งสติแลล้วก็โทรถามเขา ทักหาเขาถามเหตุผลทุกอย่าง เขาก็บอกผมมาว่า ผมขี้ลืม เก็บของไม่เป็นที่ ผมชอบเครียดคิดมากทำให้คนรอบข้างคิดมากไปด้วย และก็เรื่องเงินที่ใช้ร่วมกันครับ ผมก็ได้แต่อธิบาย แต่ยิ่งอธิบายก็เหมือนเป็นการแก้ตัว มันเลยทำให้ผมโกรธนิดๆ แล้วก็พิมพ์อะไรไปทำให้เขาไม่พอใจอยู่พอสมควร แล้วหลังจากนั้นผมก็พยายามจะดึงทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมก็พยายามสงบสติตัวเองด้วยการไปเที่ยว แล้วเราก็คุยกันปกติ ขอโทษกันปกติ เหมือนจะมีหวังที่จะได้กลับไปหาเขา แต่...วันกลับเขาไม่ตอบผมเลย อ่านอย่างเดียว แลล้วเขาก็เหมือนจะโกรธผมอีกครั้งนึง ซึ่งผมก็พยายามถามเหตุผล ว่าผมทำอะไรผิดไปอีก แรกๆเขาก็ไม่บอก จนผมลองเดาเหตุผลนั้นมา
เหตุนั้นก็มีอยู่ว่า...เขาไม่พอใจ ที่ผมซื้อของฝากมาให้แต่เพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนผู้หญิงเป็นคนที่ทำให้เขากับผมได้รู้จักกันและเป็นคนติดต่อให้ผมได้ครบกันกับเขา แต่เนื่องจากผู้หญิงคนนั้นเขาเคยแอบชอบผมมาก่อน ซึ่งก็นานมาแล้ว ผ่านมา 3 ปีแลล้วครับ ตอนนี้เขาไม่ได้ชอบผมแล้วและเขาก็มีแฟนแล้ว ซึ่งแต่ก่อนผมครบกับแฟนเก่าผมแรกๆเพื่อนคนนี้ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ผมก็ไปกับแฟน เขาก็ไปกับแฟน ทั้ง 2 คู่เราไปไหนด้วยกัน และผมไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาคงเข้าใจ แต่มาวันนั้นแหละครับ วันที่ผมไปเที่ยวซื้อของมาฝากเพื่อนคนนั้นแต่ไม่ได้ซื้อมาฝากเขา เพราะแถวที่ผมไปเที่ยวมันเป็นป่า ไม่ค่อยมีอะไรฝาก ส่วนมากก็เป็นของที่เขาเคยซื้อแล้ว และผมก็เลยถามเอานี้ไหมๆ เขาก็บอกไม่เอาเปลลืองตังไม่ต้องซื้อมา ซึ่งผมก็ตั้งใจแหละว่าจะซื้ออะไรสักอย่างไปฝากเขา แต่ผมก็หาของที่จะซื้อไม่เจอ จนผมพูดกับตัวเองว่า "ไว้ถึง กทม. ค่อยหาซื้ออะไรอร่อยให้เขากิน แทนของฝากดีกว่า" จนผมมาถึง กทม. แล้วก็ซื้อกับข้าวอร่อยๆไปให้เขาและของที่เขาชอบไปให้ สุดท้ายเรื่องก็เกิดขึ้นอย่างที่ผมบอกนั้นแหละครับ เขาก็โกรธที่ผมไม่มีของฝากให้เขา แต่มีของฝากให้เพื่อนที่เขาบอกว่าไม่อยากให้ผมไปคุยด้วย ผมก็พยายามอธิบายให้เขาฟังว่า "เรารู้จักกันได้ครบกันก็เพราะเพื่อนคนนี้เลยนะ ทำไมถึงหึงไม่อยากให้คุย" เขาก็บอกว่าคุยไปเลย ไม่มีสิทธิ์อะไรจะห้ามเทอแล้ว ผมพยายามอธิบายอะไรซ้ำๆแบบนั้น จนผมโกรธ นิดๆ แล้วก็ว่าเขาไปว่า "มาให้ความหวังเราทำไม" แล้วทุกอย่างก็พังลง เขาอ่านแล้วไม่ตอบ บล็อกเบอร์ผม อันฟอทุกอย่าง ผมก็คิดว่า "เขาคงอยากจะอยู่เงียบๆคนเดียวสักพักก่อน" แต่แล้วประมาณ 5 วัน ผมก็พยายามจะสื่อสารกับเขาอีกทีนึง โดยมีช่องทางเดียวคือ ไลน์ เป็นช่องทางเดียวที่เขาไม่บล็อกผมใว้ ผมก็ถามสบายดีไหม และอารมณ์นั้นผมโครตจะคิดถึงเขาเลย ผมส่งคลิปที่เราไปเที่ยวด้วยกัน ภาพต่างๆที่มันเป็นความทรงจำไปให้เขาดูเพื่อถามเขาว่าคิดถึงเหมือนกันไหม
แต่เขาตอบกลับมาว่า "ต้องการอะไร" ผมก็บอกไปว่า "เป็นห่วง อยากคุยด้วย คิดถึง " เขาก็ตอบกลับผมต่างๆนาๆ จนมาเจอข้อความนึง เขาพิมพ์มาว่า " ไม่อยากทำผิดกับคนที่ทำให้เขายิ้มได้" เท่านั้นแหละครับ ผมนี้แทบจะร้องไห้เลย รู้เลยว่าเขามีคนคุยใหม่แล้ว...ผมก็ตัดสินใจถอยออกมา บอกแค่ว่าเขาทำถูกแล้ว
แล้วหลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ ผมก็ได้บังเอิญไปคุยกับเพื่อนที่เคยเจอกันมาก่อนตั้งแต่เรียนปี 1 จนพึ่งมาเจอกันตอนนั้นเขาก็กำลังเรียนครู ปี 5 แต่ผมก็เรียนจบไปแล้วแหละครับ ผมเรียนแค่ 4ปี แล้วเราก็ได้คุยกัน ถาม-ตอบกันอยู่พักใหญ่ สรุปเขาก็พึ่งเลิกกับแฟนมาได้ไม่ถึงปี ผมก็พึ่งเลลิกยังไม่ถึงเดือน อยู่ในช่วงทำใจ แต่ผมรู้สึกว่าเขาจะรู้สึกไปแล้วซึ่งชัดเจนอยู่พอสมควร เพราะโทรคุยกันทุกวัน ส่วนผมยังรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกชอบหรือรักเขา แต่ในใจลึกๆผมยังรอแฟนเก่าคนนั้นล่าสุดนี้อยู่ครับ เพราะคิดว่าเขาคงอาจจะพูดให้ผมตัดใจจากเขา และเลิกกันยังไม่ถึงเดือนเลยน่าจะมีโอกาสอีกครั้ง
ผมเลยอยากรู้ว่า...ผมคิดถูกไหมที่ทำแบบนี้ คือ รักษาน้ำใจเพื่อนคนนี้ไว้และรอแฟนเก่าที่จะกลับมา ซึ่งโอเคร ผมคิดผิดแน่นอน แต่อยากได้ข้อเสนอแนะจากคนที่อ่านกระทู้นี้ครับ ว่ามีแนวทางให้ผมทำยังไงบ้าง แน่นอนแหละว่า ผมก็ต้องตัดสินใจเอง แต่อย่างน้อยๆผมก็อยากได้แนวทาง ข้อเสนอจากคนอื่นๆหลายๆความคิดเพื่อประกอบแนวทาง และยอมรับความจริงให้ได้สักที ด่าผมได้เลยนะครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ารสชาติคำพูดบางคำอาจทำให้ผมคิดได้ก็ได้ครับ
ควรเลือกคนที่ทำให้เรายิ้มได้หรือคนที่เรารักมาก
สิ่งที่เรียกว่าเขารับนิสัยของผมไม่ได้ก็จะมี เช่น ขี้ลืม เก็บของไม่เป็นที่ ผมชอบเครียดคิดมาก อะไรประมาณนี้ครับ
ก่อนวันที่เลิกกันคือ เขาไม่คุยอะไรกับผมเลย ทั้งๆที่เราคุยกันมาดีๆแทบจะทุกวัน แล้ววันนั้นเขาก็เงียบ และเงียบไปประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่เขาจะบอกว่า "เมื่อไหร่จะย้ายออกไปจากนี้" ซึ่งตอนนั้นผมก็เสียใจครับ แต่ไม่พูดอะไร ก็ได้แต่เก็บของกลับไปห้องที่ตัวเองเคยอยู่มาตั้งนานก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับเขา
พอผมย้ายมาอยู่ที่ห้องผมเอง ผมก็ได้ตั้งสติแลล้วก็โทรถามเขา ทักหาเขาถามเหตุผลทุกอย่าง เขาก็บอกผมมาว่า ผมขี้ลืม เก็บของไม่เป็นที่ ผมชอบเครียดคิดมากทำให้คนรอบข้างคิดมากไปด้วย และก็เรื่องเงินที่ใช้ร่วมกันครับ ผมก็ได้แต่อธิบาย แต่ยิ่งอธิบายก็เหมือนเป็นการแก้ตัว มันเลยทำให้ผมโกรธนิดๆ แล้วก็พิมพ์อะไรไปทำให้เขาไม่พอใจอยู่พอสมควร แล้วหลังจากนั้นผมก็พยายามจะดึงทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมก็พยายามสงบสติตัวเองด้วยการไปเที่ยว แล้วเราก็คุยกันปกติ ขอโทษกันปกติ เหมือนจะมีหวังที่จะได้กลับไปหาเขา แต่...วันกลับเขาไม่ตอบผมเลย อ่านอย่างเดียว แลล้วเขาก็เหมือนจะโกรธผมอีกครั้งนึง ซึ่งผมก็พยายามถามเหตุผล ว่าผมทำอะไรผิดไปอีก แรกๆเขาก็ไม่บอก จนผมลองเดาเหตุผลนั้นมา
เหตุนั้นก็มีอยู่ว่า...เขาไม่พอใจ ที่ผมซื้อของฝากมาให้แต่เพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนผู้หญิงเป็นคนที่ทำให้เขากับผมได้รู้จักกันและเป็นคนติดต่อให้ผมได้ครบกันกับเขา แต่เนื่องจากผู้หญิงคนนั้นเขาเคยแอบชอบผมมาก่อน ซึ่งก็นานมาแล้ว ผ่านมา 3 ปีแลล้วครับ ตอนนี้เขาไม่ได้ชอบผมแล้วและเขาก็มีแฟนแล้ว ซึ่งแต่ก่อนผมครบกับแฟนเก่าผมแรกๆเพื่อนคนนี้ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ผมก็ไปกับแฟน เขาก็ไปกับแฟน ทั้ง 2 คู่เราไปไหนด้วยกัน และผมไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาคงเข้าใจ แต่มาวันนั้นแหละครับ วันที่ผมไปเที่ยวซื้อของมาฝากเพื่อนคนนั้นแต่ไม่ได้ซื้อมาฝากเขา เพราะแถวที่ผมไปเที่ยวมันเป็นป่า ไม่ค่อยมีอะไรฝาก ส่วนมากก็เป็นของที่เขาเคยซื้อแล้ว และผมก็เลยถามเอานี้ไหมๆ เขาก็บอกไม่เอาเปลลืองตังไม่ต้องซื้อมา ซึ่งผมก็ตั้งใจแหละว่าจะซื้ออะไรสักอย่างไปฝากเขา แต่ผมก็หาของที่จะซื้อไม่เจอ จนผมพูดกับตัวเองว่า "ไว้ถึง กทม. ค่อยหาซื้ออะไรอร่อยให้เขากิน แทนของฝากดีกว่า" จนผมมาถึง กทม. แล้วก็ซื้อกับข้าวอร่อยๆไปให้เขาและของที่เขาชอบไปให้ สุดท้ายเรื่องก็เกิดขึ้นอย่างที่ผมบอกนั้นแหละครับ เขาก็โกรธที่ผมไม่มีของฝากให้เขา แต่มีของฝากให้เพื่อนที่เขาบอกว่าไม่อยากให้ผมไปคุยด้วย ผมก็พยายามอธิบายให้เขาฟังว่า "เรารู้จักกันได้ครบกันก็เพราะเพื่อนคนนี้เลยนะ ทำไมถึงหึงไม่อยากให้คุย" เขาก็บอกว่าคุยไปเลย ไม่มีสิทธิ์อะไรจะห้ามเทอแล้ว ผมพยายามอธิบายอะไรซ้ำๆแบบนั้น จนผมโกรธ นิดๆ แล้วก็ว่าเขาไปว่า "มาให้ความหวังเราทำไม" แล้วทุกอย่างก็พังลง เขาอ่านแล้วไม่ตอบ บล็อกเบอร์ผม อันฟอทุกอย่าง ผมก็คิดว่า "เขาคงอยากจะอยู่เงียบๆคนเดียวสักพักก่อน" แต่แล้วประมาณ 5 วัน ผมก็พยายามจะสื่อสารกับเขาอีกทีนึง โดยมีช่องทางเดียวคือ ไลน์ เป็นช่องทางเดียวที่เขาไม่บล็อกผมใว้ ผมก็ถามสบายดีไหม และอารมณ์นั้นผมโครตจะคิดถึงเขาเลย ผมส่งคลิปที่เราไปเที่ยวด้วยกัน ภาพต่างๆที่มันเป็นความทรงจำไปให้เขาดูเพื่อถามเขาว่าคิดถึงเหมือนกันไหม
แต่เขาตอบกลับมาว่า "ต้องการอะไร" ผมก็บอกไปว่า "เป็นห่วง อยากคุยด้วย คิดถึง " เขาก็ตอบกลับผมต่างๆนาๆ จนมาเจอข้อความนึง เขาพิมพ์มาว่า " ไม่อยากทำผิดกับคนที่ทำให้เขายิ้มได้" เท่านั้นแหละครับ ผมนี้แทบจะร้องไห้เลย รู้เลยว่าเขามีคนคุยใหม่แล้ว...ผมก็ตัดสินใจถอยออกมา บอกแค่ว่าเขาทำถูกแล้ว
แล้วหลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ ผมก็ได้บังเอิญไปคุยกับเพื่อนที่เคยเจอกันมาก่อนตั้งแต่เรียนปี 1 จนพึ่งมาเจอกันตอนนั้นเขาก็กำลังเรียนครู ปี 5 แต่ผมก็เรียนจบไปแล้วแหละครับ ผมเรียนแค่ 4ปี แล้วเราก็ได้คุยกัน ถาม-ตอบกันอยู่พักใหญ่ สรุปเขาก็พึ่งเลิกกับแฟนมาได้ไม่ถึงปี ผมก็พึ่งเลลิกยังไม่ถึงเดือน อยู่ในช่วงทำใจ แต่ผมรู้สึกว่าเขาจะรู้สึกไปแล้วซึ่งชัดเจนอยู่พอสมควร เพราะโทรคุยกันทุกวัน ส่วนผมยังรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกชอบหรือรักเขา แต่ในใจลึกๆผมยังรอแฟนเก่าคนนั้นล่าสุดนี้อยู่ครับ เพราะคิดว่าเขาคงอาจจะพูดให้ผมตัดใจจากเขา และเลิกกันยังไม่ถึงเดือนเลยน่าจะมีโอกาสอีกครั้ง
ผมเลยอยากรู้ว่า...ผมคิดถูกไหมที่ทำแบบนี้ คือ รักษาน้ำใจเพื่อนคนนี้ไว้และรอแฟนเก่าที่จะกลับมา ซึ่งโอเคร ผมคิดผิดแน่นอน แต่อยากได้ข้อเสนอแนะจากคนที่อ่านกระทู้นี้ครับ ว่ามีแนวทางให้ผมทำยังไงบ้าง แน่นอนแหละว่า ผมก็ต้องตัดสินใจเอง แต่อย่างน้อยๆผมก็อยากได้แนวทาง ข้อเสนอจากคนอื่นๆหลายๆความคิดเพื่อประกอบแนวทาง และยอมรับความจริงให้ได้สักที ด่าผมได้เลยนะครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ารสชาติคำพูดบางคำอาจทำให้ผมคิดได้ก็ได้ครับ