คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 13 กันยายน 2564 เวลา 12.30 น.


แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 13 กันยายน 2564 เวลา 12.30 น.

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันจันทร์ที่ 13 กันยายน 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/406038207681176

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันจันทร์ที่ 13 กันยายน 2564
ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 12,583 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,394,756 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 11,232 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 163 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 11 ราย
- ผู้ติดเชื้อในสถานกักกันของรัฐสะสม 5,080 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 1,177 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 269,339 ราย)
เสียชีวิตรวม 14,485 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 132 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 1,248,158 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 16,304 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 132,113 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 12,409 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(3,329) ปริมณฑล (1,678) จังหวัดอื่น ๆ (7,402)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 11 ราย และเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่นราธิวาส(2) กรุงเทพฯ(1) สระแก้ว(3) และ สตูล(5) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศกาตาร์ 1 ราย
- จากประเทศมาเลเซีย 7 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 3 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 225.4 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.6 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.06 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 202 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.61)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 35,450 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 677,988 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 33.2 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 31,374 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 32.4 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.5
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 29 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 43 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 431,833 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,345 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 16,530 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,979,698 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 19,198 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 99,504 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 2,040 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 17,357 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 11,773 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 12,026 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 15,279 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/4152255418233332


แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 13 กันยายน 2564 เวลา 12.30 น.

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันจันทร์ที่ 13 กันยายน 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/406038207681176

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันจันทร์ที่ 13 กันยายน 2564
ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 12,583 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,394,756 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 11,232 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 163 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 11 ราย
- ผู้ติดเชื้อในสถานกักกันของรัฐสะสม 5,080 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 1,177 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 269,339 ราย)
เสียชีวิตรวม 14,485 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 132 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 1,248,158 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 16,304 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 132,113 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 12,409 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(3,329) ปริมณฑล (1,678) จังหวัดอื่น ๆ (7,402)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 11 ราย และเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่นราธิวาส(2) กรุงเทพฯ(1) สระแก้ว(3) และ สตูล(5) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศกาตาร์ 1 ราย
- จากประเทศมาเลเซีย 7 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 3 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 225.4 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.6 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.06 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 202 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.61)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 35,450 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 677,988 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 33.2 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 31,374 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 32.4 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.5
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 29 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 43 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 431,833 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,345 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 16,530 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,979,698 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 19,198 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 99,504 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 2,040 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 17,357 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 11,773 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 12,026 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 15,279 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/4152255418233332
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน🌕13ก.ย.ป่วย12,583คน รักษาหาย16,304คน ตาย132คน วันนี้ติดเชื้อท้อป10โลก ฉีดวัคซีนอันดับ20โลก/ไฟเซอร์เพื่อเด็ก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 12,583 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 12,420 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 163 ราย ยอดติดเชื้อรวมระลอกเมษายน 1,365,893 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 1,394,756 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 132 ราย เสียชีวิตสะสม 14,485 ราย หายป่วยเพิ่ม 16,304 ราย หายป่วยสะสมระลอกเมษายน 1,220,732 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 132,113 ราย
"ชลฯ-ระยอง-นนท์" แซง "สมุทรปราการ-สมุทรสาคร" ใต้น่าห่วง
30 จว.ติดเชื้อใหม่ยังเกินร้อย กทม.ลดลงแต่ยังคงสูง สมุทรปราการ สมุทรสาคร สัญญาณดีลดต่อเนื่องต่ำกว่า 500 ในรอบหลายเดือน ขณะภาคใต้สถานการณ์ยังไม่น่าวางใจ
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.64 ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ข้อมูล ณ วันที่ 13 ก.ย.64 เวลา 01.00 น. ประเทศไทยยังคงพบผู้ติดเชื้อในทุกจังหวัด โดยจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดคือ กทม. ที่ 3,329 ราย แม้จะลดลงแต่ยังคงสูงอยู่ ตามด้วย ชลบุรี ที่ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ที่ 650 ราย ระยอง อันดับ 3 ที่ 647 ราย นนทบุรี มาอันดับ 4 ที่ 468 ราย ตามด้วยสมุทรปราการ และสมุทรสาคร ลดต่ำกว่าครึ่งพันเป็นครี้งแรกในรอบหลายเดือน สำหรับจังหวัดที่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่น้อยที่สุดคือ ลำปาง 2 ราย
ทั้งนี้ พบมี 30 จังหวัดที่พบผู้ป่วยติดเชื้อใหม่เกินร้อย โดยภาคกลางยังทรงอยู่ที่ 9 จังหวัดเดิมๆ แต่ตัวเลขค่อนข้างลดลง ขณะภาคใต้ยังต้องจับตา ด้วยยังพบติดเชื้อใหม่เกินร้อยยังอยู่ที่ 9 จังหวัด และตัวเลขหลายจังหวัดเพิ่มขึ้น รวมทั้งภาคตะวันออกที่ยังพบติดเชื้อใหม่เกินร้อยใน 5 จังหวัด ภาคตะวันตกติดเชื้อใหม่เกินร้อย 4 จังหวัด ภาคอีสานสถานการณ์เบาลงมาก ภาคเหนือยังคงเบาสุด ติดเชื้อใหม่ยังไม่เกินร้อย
ภาคกลาง ผู้ติดเชื้อใหม่เกินร้อยใน 9 จังหวัดประกอบด้วย กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และลพบุรี
ภาคใต้ ผู้ติดเชื้อใหม่เกินร้อยใน 9 จังหวัดคือ นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และระนอง
ภาคตะวันออก ผู้ติดเชื้อเกินร้อย 5 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และจันทบุรี
ภาคตะวันตก ติดเชื้อใหม่เกินร้อย 4 จังหวัดคือ ราชบุรี ตาก กาญจนบุรี และเพชรบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ติดเชื้อใหม่เกินร้อย 3 จังหวัดคือ นครราชสีมา สุรินทร์ และขอนแก่น
https://siamrath.co.th/n/280029
https://travel.trueid.net/detail/A5GQPOlbYkGX?utm_source=web-trueid&utm_medium=ctw&utm_term=clicklink&utm_campaign=travel_EpwDxDy0Jd17_relatecontent_travel_A5GQPOlbYkGX_19/01/2021
"อนุทิน"เผยวัคซีนไฟเซอร์จะมาถึงไทย 29 ก.ย.นี้ 2 ล้านโดส คาดเดือนตุลาคมเริ่มใช้ฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป และเป็นเข็ม 2 หรือเข็ม 3 ในผู้ใหญ่
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการจัดหาและการฉีดวัคซีนช่วงเดือนตุลาคม 2564 ว่า ประเทศไทยสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโดส โดยจะเข้ามาวันที่ 29 กันยายนนี้ก่อนจำนวน 2 ล้านโดส ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจรับรองรุ่นการผลิต (Lot Release) ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1 สัปดาห์ โดยทางบริษัทไฟเซอร์มีการทำเอกสารเพื่อตรวจสอบคุณภาพวัคซีนมาล่วงหน้า
ส่วนการตรวจรับรองรุ่นการผลิตและกระจายวัคซีนออกไปฉีดได้รวดเร็ว สำหรับที่เหลือจะทยอยส่งจนครบภายในสิ้นปี2564 ดังนั้น ช่วงเดือนตุลาคม –ธันวาคม 2564 จะมีวัคซีนเข้ามาจำนวนมาก ขณะที่จำนวนการฉีดวัคซีนเราเคยฉีดได้มากกว่า 9 แสนโดสต่อวันหากมีวัคซีนมากพอ คาดสามารถจัดได้ตามเป้าหมาย
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์คือเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งคณะกรรมการวิชาการกำลังหาข้อสรุป คาดว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสำหรับฉีดตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป ส่วนในผู้ใหญ่อาจใช้ฉีดเป็นเข็ม 2 หรือเข็ม 3 โดยการฉีดเข็ม 3 จะเริ่มช่วงต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ในผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น ส่วนผู้ที่รับแอสตราเซเนกา 2 เข็ม มีภูมิคุ้มกันสูงอยู่แล้ว ก็จะฉีดเข็ม 3 ในเวลาที่เหมาะสม อาจเป็นต้นปี 2565 เป็นต้นไป
https://www.naewna.com/politic/601903
ไทยยังฉีดวัคซีนเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน เป็นอันดับ 20 ของโลก
การบริหารจัดการวัคซีนทำได้ดีน่าปรบมือให้ค่ะ
สิ้นเดือนนี้ไทยจะได้ไฟเซอร์มาฉีดให้เด็กๆเข็มแรกและผู้ใหญ่เข็ม 2เข็ม3 ยินดีนะคะ
อย่างไรก็ตามต้องจำไว้ว่า...รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีค่ะ