ต้อกระจก โรคตาใกล้ตัว โรคที่ผู้สูงอายุมักหลีกเลี่ยงไม่ได้



โรคตาใกล้ตัว : โรคต้อกระจก

ในโลกยุคปัจจุบันนี้มีโรคต่างๆมากมาย โรคหนึ่งซึ่งเป็นโรคเก่าแต่มีเทคโนโลยีใหม่ๆมาในการรักษา ก็คือโรคที่เกี่ยวกับตา พญ.หทัยรัตน์  พิพิธวิจิตรกร จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน จอประสาทตา และต้อหิน รพ.จักษุ รัตนิน ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโรคตาใกล้ตัวเราไว้ว่า
โรคที่เจอหลักๆ อันดับแรกก็คือโรคต้อกระจกแต่ต้อกระจกจริงๆไม่อยากให้บอกว่าเป็นโรคเพราะว่าจริงๆแล้ว ต้อกระจกเป็นขบวนการตามอายุเหมือนคนเราที่ผมหงอกเมื่อมีอายุมากขึ้น ในผู้ป่วยบางรายเมื่ออายุเริ่มเยอะขึ้น จะรู้สึกว่าสายตาทำงานเปลี่ยนไป อาจต้องการแว่นตาเพื่อให้การมองเห็นชัดเจนขึ้น โดยโรคหรืออาการเหล่านี้คืออาการที่มากับการเปลี่ยนแปลงของอายุ

โรคต้อกระจกเป็นโรคที่ผู้ป่วยทุกคนต้องเป็นเพียงแต่ว่าเป็นมาก เป็นน้อย เป็นเร็ว หรือเป็นช้า การเกิดของต้อกระจกคือการที่เลนส์แก้วตาขุ่น บางคนขุ่นที่ตรงผิว บางคนขุ่นในเนื้อเลนส์ ซึ่งการขุ่นของเลนส์เหล่านี้จะมีผลต่อระดับการมองเห็นคือ ในผู้ป่วยบางคนอาจจะเป็นแม่บ้าน สายตามัวลงก็อาจจะไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องทำอะไร หรือต้องไปแก้ไข เพราะอาการมัวยังเป็นในระดับที่ยังมองเห็นอยู่ ผู้ป่วยบางคนก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ มัว มัวเข้าก็คิดว่าไม่เป็นอะไรเพราะอายุเยอะ จึงเกิดอาการตามัวเป็นปกติ
 
โรคต้อกระจกสามารถป้องกันได้หรือไม่ ?
ต้อกระจกนี้จริงๆป้องกันไม่ได้ เหมือนที่เราไม่สามารถป้องกันให้ผิวเราไม่เหี่ยวไปตามอายุ เพียงแต่ว่าเราอาจจะชะลอให้อาการต้อกระจกช้าลงได้ ปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดต้อกระจกจะเกิดจากการที่โดนแสง UV อัลตราไวโอเลตที่มากับแสงแดด ฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราต้องไปออกแดดบ่อยๆหรือว่าขับรถก็ควรใส่แว่นที่สามารถกัน UV 100% ใส่แว่นกันแดดที่สามารถป้องกัน UV ได้ 
แว่นตาทั่วไปที่มีสีของเลนส์ที่หลากหลาย ไม่เกี่ยวการป้องกันรังสี UV ที่สำคัญคือเลนส์ของแว่นตาต้องมีการเคลือบกัน UV คือแว่นตาใสๆที่มีการเคลือบกัน UV ก็สามารถใช้ป้องกันได้
 
การรักษาต้อกระจก 
ต้อกระจกสามารถรักษาได้โดยการผ่าตัดสลายต้อ ซึ่งในปัจจุบันมีเทคโนโลยีอัลตร้าซาวด์เป็นมาตาฐานทั่วโลก การรักษาต้อกระจกตาด้วยอัลตร้าซาวด์ คือ การใช้พลังงานเสียงความถี่สูง เข้าไปทำให้เกิดความร้อนทำให้เลนส์แตกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วดูดเข้ามาในท่อ จากนั้นก็ใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่ หลังจากผ่าตัดเรียบร้อยหากไม่มีอาการแทรกซ้อน และผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด ส่วนใหญ่ภายใน 3-4 วัน ผู้ป่วยก็จะเห็นได้ค่อนข้างดี และข้อดีของการเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมนี้คือเลนส์นี้สามารถอยู่กับผู้ป่วยไปได้ตลอด เพราะเลนส์แก้วตาเทียมตัวนี้จะเป็นพลาสติกชนิดพิเศษเพราะฉะนั้นจะอยู่ในตาเราได้ตลอดไปเลย และจะไม่มีการเสื่อมสภาพ

บทความโดย : พญ. หทัยรัตน์ พิพิธวิจิตรกร

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่