vivo นั้นได้เปิดตัวรับต้นเดือนกันยายนด้วยการต่อยอดรุ่น Y มาเป็นรุ่น Y21 ที่เปลี่ยนงานออกแบบใหม่ทั้งหมดในด้านหลัง มาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้นแถมยังใช้สแกนนิ้วในด้านข้าง Side-Mounted Fingerprint Scanner และยังคงจุดเด่นแบตแน่นๆเยอะๆ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 18W ด้วยส่วนทางด้านสเปกหันมาใช้งาน Helio P35 แล้วเช่นกันและฝาหลังออกแบบใหม่ลวดลายสวยงาม พร้อมกับไม่มีสแกนนิ้วมาเกะกะแล้วด้วยเช่นกัน ก็ถือว่าทำราคาและสเปกออกมาตอบโจทย์สาวกได้ดี กล้องหน้าหลังยังคงไว้ใจได้เลย ฟีเจอร์การถ่ายให้มาเหมือนเดิมครับ ละลายหลัง ฉากหลังขาวดำเป็นต้น และ รูหูฟังก็ยังคงใส่มาให้นะไม่ได้ตัดออกด้วยครับในรุ่นนี้
สเปกของทาง vivo Y21 นั้นถือว่ามีสเปกอะไรที่ใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ มาพร้อมกับหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว หน้าจอ IPS ความละเอียด HD+ และ กล้องหน้า 8 MP ทางด้านกล้องหลังนั้นให้มา 3 ตัว เป็นเลนส์หลัก 13 ล้านพิกเซล กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Bokeh 2 ล้านพิกเซล และ สแกนนิ้วด้านข้างใช้เวลาแค่ 0.33 วินาที + ยังมีเทคโนโลยี Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย ทางด้านสเปกนั้นมาพร้อมกับ Helio P35 พร้อมด้วย RAM 4GB ที่มากับเทคโนโลยี Extended RAM STORAGE 64GBและ 128GB ยังมาพร้อมช่องใส่ซิมแบบ Triple card slot พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI ประหยัดพลังงาน และในครั้งนี้ มาพร้อมกับ USB TYPE C แล้วนะครับ รวมถึงกล้องหลังนั้นน่าเสียดายไม่มีเลนส์มุมกว้างหรือโหมดกลางคืนมาให้นะ แต่โหมดต่างๆ ฟังก์ชั่นการถ่ายรูป ทั้ง Face Beauty หรือ Portrait Light Effects โฟกัสแบบ PDAF นั้นยังคงมีมาให้อยู่ครับ
vivo Y21 วางจำหน่ายโดยรุ่น 64GB ราคาอยู่ที่ 5,699 บาทและรุ่น 128GB ราคาอยู่ที่ 6,199 บาท โดยมีให้เลือกถึง 3 สีด้วยกัน ได้แก่ Metallic Blue ( สีน้ำเงินอมม่วง ) , Diamond Glow ( สีเพชรเรืองแสง )
UNBOX
- ตัวเครื่อง vivo Y21
- ที่ชาร์จ 18W
- สายชาร์จ USB TYPE-C
- เคสใส TPU
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
เคสที่เเถมมาของ vivo Y21 ถือว่ามีความหนาอยู่พอประมาณ วัสดุงานเหมือนกับเคสที่เเถมมากับรุ่นก่อนๆ กันกระเเทกได้ดีในระดับนึง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับ รวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ส่วนตรงพอร์ตชาร์จอะไรต่างๆนั้นมีจุกปิดมาให้เหมือนเดิมตามเเบบฉบับของ vivo ที่เเถมมาเหมือนกับในรุ่นก่อน
ด้วยตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ แต่ในแง่ของความสูงหรือหนาอาจจะไม่ได้สูงมากนักครับในรุ่นนี้ ตัวเคสภาพรวมปกป้องได้ดีแต่อาจจะไม่ได้หนามากนัก เวลาตกก็สามารถกระแทกได้ในระดับนึง แบบไม่หนักมากนะครับ
DESIGN
งานออกแบบในสี้นี้นั้นทาง vivo ใช้ชื่อสีว่า Diamond Glow พื้นผิวที่ออกแบบด้วยนวัตกรรมใหม่นี้ได้รับการออกแบบเหมือนเพชรที่เจียระไนอย่างปราณีต ส่องแสงประกายให้ความหรูหราและรู้สึกสบายตา และยังใช้งานออกแบบตัวเครื่องให้มีความโค้ง 2.5D เพื่อให้พอดีกับมือมอบความรู้สึกสัมผัสตัวเครื่องที่บางและเบา พร้อมด้วยดีไซน์ที่สวยสะดุดตา สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ก็ถ้ามองกันตรงๆฝาหลังที่มีความสวยงาม การจัดวางของชุดกล้องอยู่บนตัวเครื่องที่มีความบาง แต่ยังให้แบตความจุ 5,000mAh
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้ยังคงการออกแบบอิงแบบเดิมที่ใช้งาน หน้าจอ Halo FullView Display IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ แบบติ่งหยดน้ำแต่ที่ชอบคือมีการสู้แสงที่ทำได้ดีเลยทีเดียวและมุมมองการใช้งานถือว่าโอเคอย่างมากเมื่อเทียบกับราคา
หน้าจอขอบบนนั้นเราจะเห็นว่ามีกล้องหน้า 8MP พร้อมกับการแทรกเซนเซอร์อะไรต่างๆไว้ข้างบนรวมถึงลำโพงเวลาคุยโทรศัพท์ครับ ส่วนขอบอะไรนั้นก็มีความหนาประมาณนึง ตามในเรทราคาของมันถือว่าพอรับได้ในจุดนี้
แต่ขอบหน้าจอด้านล่างนั้นจะค่อนข้างหนาพอสมควรถ้ามองในแง่เรทราคาประมาณนี้ก็จะได้ประมาณนี้ในหลายๆตัวครับส่วนการควบคุมนั้นต้องบอกว่ารองรับการเปลี่ยนแปลงได้เยอะ สลับปุ่ม หรือใช้งานแบบท่าทางได้ด้วยเช่นกัน
ในด้านล่างนั้นแอบบ่นนิดหน่อยยังคงใช้งาน Micro-USB ครับ ส่วนลำโพงหลักในด้านซ้าย พร้อมกับรูไมค์และรู 3.5มม.ในด้านขวาสุด ส่วนบอดี้นั้นจะเป็นพลาสติกเล่นสีเงินใกล้เคียงกับฝาหลัง และฝาหลังโค้งนิดๆตรงขอบแต่เรียบๆตรงกลาง
ในส่วนขอบด้านซ้ายนั้นจะไม่มีช่องอะไรเลย เป็นการดีไซน์ที่เรียบ ในส่วนของขอบจะไม่ได้โค้งมนแบบรุ่นก่อน แต่จะเป็นการตัดให้มันมีเหลี่ยมมากขึ้น
ในส่วนของขอบด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าเป็นช่องของถาดซิม รองรับ Triple Slot รองรับการใช้งานได้ดีเพิ่มความจุ
และทางด้านขอบด้านขวานั้นในรุ่นนี้ที่มาพร้อมกับสแกนนิ้วในด้านขวาที่เป็นปุ่ม Power ในตัวซึ่งสแกนนิ้วได้เร็วมาก และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงนั้นจะมีมาให้อยู่ในด้านบนครับ
ในส่วนของฝาหลังนั้นเราจะไม่เห็นที่สแกนนิ้วมาตั้งแต่รุ่นก่อนแล้ว ฝาหลังสีที่มีความเรียบร้อย แต่ยังมีการเล่นลวดลายตัดสลับ ตามชื่อสี Diamond Glow ที่ให้เห็นถึงเหลี่ยมคมของเงา เปรียบเหมือนเพชร การวางกล้องนั้นเราจะเห็นว่าในมุมซ้ายด้านบนเหมือนเดิมแต่มีการขยายให้คล้ายๆกับรุ่นพี่อยู่และการจัดวางต่างๆแต่ยังคงเรียงกัน 2 กล้องเรียงลงมาเหมือนเดิมพร้อมไฟแฟลช ในส่วนของด้านล่างเครื่องทางซ้าย จำเป็นตำแหน่งของโลโก้ที่เขียนในแนวนอน
กล้องหลังนั้นจะให้มา 2 ตัว ในความละเอียด เลนส์หลัก 13MP F2.2 ที่รองรับโฟกัสแบบ PDAF และมาพร้อมกับ เลนส์มาโคร ระยะ 4 เซนติเมตร 2MP F2.4 ส่วนทางด้านงานออกแบบเปลี่ยนดีไซน์จากรุ่น Y20 เล็กน้อยตามสมัยมากขึ้น
SPEC
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11
- หน้าจอ Halo FullView™ Display IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ แบบติ่งหยดน้ำ
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35
- RAM 4GB (รองรับ Extended RAM+1GB)
- ความจุ 64GB+128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 2 ตัว (13MP F2.2 + 2MP F2.4 )
- กล้องหน้า 8MP F2.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- พอร์ต USB TYPE-C , ช่องเสียบรูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จไว 18W
- น้ำหนัก 182 กรัม / ขนาด 164.26×76.08×8.00 มม.
- Accelerometer, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Virtual Gyroscope, E-compass, Side-Mounted Fingerprint Scanner
- USB TYPE C , Wi-Fi, Bluetooth 5.0, FM, OTG
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Helio P35 พร้อมกับ Storage 64GB และ 128GB จัดเต็มด้วย RAM 4GB ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 292.87 MB/s – เขียนไปได้ที่ 239.31 MB/s ส่วน DRL L3 ในแอป Netflix รองรับ SD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 108944 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 167/893 คะแนน ถือว่าการใช้งานทั่วไปอยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว
SYSTEM UI
ทางด้านระบบนั้นยังคงใช้ Funtouch OS 11.1 รูปแบบใหม่ ด้วยการออกแบบกลับสู่ความเรียบง่าย สัมผัสสะดวกยิ่งขึ้น และนำเสนอภาพที่กระชับ เป็นธรรมชาติ สมจริง มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้กับคุณ
การแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ส่วนการตั้งค่าหลังจากรุ่นก่อนๆค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่าง แต่ครั้งนี้เลื่อนลงมาจากด้านบนแบบรุ่นก่อนๆของทาง vivo ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ และหน้าตามีการเปลี่ยนแปลงจากตอน OS11 อยู่พอสมควรเลยแหละครับ
Storage 64 GB และ 128 GB การใช้งานการเก็บข้อมูลบอกเลยว่าเหลือๆ และในส่วนของ Y21 RAM ขนาด 4GB และมาพร้อมด้วย Extended RAM 2.0 เพื่อคอยซัพพอร์ตหน่วยความจำ RAM ตัวหลัก มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่น โดยจะดึงพื้นที่ของหน่วยความจำภายใน ROM เป็นจำนวน 1GB เพื่อเสริมพื้นที่ RAM ให้มากขึ้น ทำให้คุณสามารถสลับการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น มอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่น วิดีโอ หรือรูปภาพต่างๆ อีกทั้งยังมีหน่วยประมวลผล octa-core ที่มอบพลังการเล่นที่เกมส์ดุเดือดและสนุกสนาน
อีกส่วนที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ถือว่าเป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆในการใช้งานครับทั้งตัว Animation เปลี่ยนได้หลากหลายมากๆครับทั้ง หน้าตาตอนชาร์จ เป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆทำให้นึกถึงใน Android ยุคก่อนๆที่รูทและปรับเปลี่ยนหน้าตา Effect อะไรกันได้หรือจะเป็นการปรับแต่งอื่นๆถือว่าเป็นค่ายที่ปรับได้เยอะที่สุดเลยแหละ
Gesture แน่นอนว่ารองรับเหมือนกันทั้งแคปหน้าจอรวมถึงการเตือนเวลายกหรือจะเป็น Smart Feature ทั้งหมดแนบหูแล้วรับอะไรพวกนั้นครับและปุ่มการนำทางนั้นสามารถเปลี่ยนได้ด้วยทั้งรูปแบบ และ การจัดวางหรือเต็มจอครับ
[SR] รีวิว vivo Y21 จัดเต็มแบต 5,000mAh พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น !!
vivo นั้นได้เปิดตัวรับต้นเดือนกันยายนด้วยการต่อยอดรุ่น Y มาเป็นรุ่น Y21 ที่เปลี่ยนงานออกแบบใหม่ทั้งหมดในด้านหลัง มาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้นแถมยังใช้สแกนนิ้วในด้านข้าง Side-Mounted Fingerprint Scanner และยังคงจุดเด่นแบตแน่นๆเยอะๆ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 18W ด้วยส่วนทางด้านสเปกหันมาใช้งาน Helio P35 แล้วเช่นกันและฝาหลังออกแบบใหม่ลวดลายสวยงาม พร้อมกับไม่มีสแกนนิ้วมาเกะกะแล้วด้วยเช่นกัน ก็ถือว่าทำราคาและสเปกออกมาตอบโจทย์สาวกได้ดี กล้องหน้าหลังยังคงไว้ใจได้เลย ฟีเจอร์การถ่ายให้มาเหมือนเดิมครับ ละลายหลัง ฉากหลังขาวดำเป็นต้น และ รูหูฟังก็ยังคงใส่มาให้นะไม่ได้ตัดออกด้วยครับในรุ่นนี้
สเปกของทาง vivo Y21 นั้นถือว่ามีสเปกอะไรที่ใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ มาพร้อมกับหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว หน้าจอ IPS ความละเอียด HD+ และ กล้องหน้า 8 MP ทางด้านกล้องหลังนั้นให้มา 3 ตัว เป็นเลนส์หลัก 13 ล้านพิกเซล กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Bokeh 2 ล้านพิกเซล และ สแกนนิ้วด้านข้างใช้เวลาแค่ 0.33 วินาที + ยังมีเทคโนโลยี Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย ทางด้านสเปกนั้นมาพร้อมกับ Helio P35 พร้อมด้วย RAM 4GB ที่มากับเทคโนโลยี Extended RAM STORAGE 64GBและ 128GB ยังมาพร้อมช่องใส่ซิมแบบ Triple card slot พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI ประหยัดพลังงาน และในครั้งนี้ มาพร้อมกับ USB TYPE C แล้วนะครับ รวมถึงกล้องหลังนั้นน่าเสียดายไม่มีเลนส์มุมกว้างหรือโหมดกลางคืนมาให้นะ แต่โหมดต่างๆ ฟังก์ชั่นการถ่ายรูป ทั้ง Face Beauty หรือ Portrait Light Effects โฟกัสแบบ PDAF นั้นยังคงมีมาให้อยู่ครับ
vivo Y21 วางจำหน่ายโดยรุ่น 64GB ราคาอยู่ที่ 5,699 บาทและรุ่น 128GB ราคาอยู่ที่ 6,199 บาท โดยมีให้เลือกถึง 3 สีด้วยกัน ได้แก่ Metallic Blue ( สีน้ำเงินอมม่วง ) , Diamond Glow ( สีเพชรเรืองแสง )
UNBOX
- ตัวเครื่อง vivo Y21
- ที่ชาร์จ 18W
- สายชาร์จ USB TYPE-C
- เคสใส TPU
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
เคสที่เเถมมาของ vivo Y21 ถือว่ามีความหนาอยู่พอประมาณ วัสดุงานเหมือนกับเคสที่เเถมมากับรุ่นก่อนๆ กันกระเเทกได้ดีในระดับนึง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับ รวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ส่วนตรงพอร์ตชาร์จอะไรต่างๆนั้นมีจุกปิดมาให้เหมือนเดิมตามเเบบฉบับของ vivo ที่เเถมมาเหมือนกับในรุ่นก่อน
ด้วยตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ แต่ในแง่ของความสูงหรือหนาอาจจะไม่ได้สูงมากนักครับในรุ่นนี้ ตัวเคสภาพรวมปกป้องได้ดีแต่อาจจะไม่ได้หนามากนัก เวลาตกก็สามารถกระแทกได้ในระดับนึง แบบไม่หนักมากนะครับ
DESIGN
งานออกแบบในสี้นี้นั้นทาง vivo ใช้ชื่อสีว่า Diamond Glow พื้นผิวที่ออกแบบด้วยนวัตกรรมใหม่นี้ได้รับการออกแบบเหมือนเพชรที่เจียระไนอย่างปราณีต ส่องแสงประกายให้ความหรูหราและรู้สึกสบายตา และยังใช้งานออกแบบตัวเครื่องให้มีความโค้ง 2.5D เพื่อให้พอดีกับมือมอบความรู้สึกสัมผัสตัวเครื่องที่บางและเบา พร้อมด้วยดีไซน์ที่สวยสะดุดตา สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ก็ถ้ามองกันตรงๆฝาหลังที่มีความสวยงาม การจัดวางของชุดกล้องอยู่บนตัวเครื่องที่มีความบาง แต่ยังให้แบตความจุ 5,000mAh
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้ยังคงการออกแบบอิงแบบเดิมที่ใช้งาน หน้าจอ Halo FullView Display IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ แบบติ่งหยดน้ำแต่ที่ชอบคือมีการสู้แสงที่ทำได้ดีเลยทีเดียวและมุมมองการใช้งานถือว่าโอเคอย่างมากเมื่อเทียบกับราคา
หน้าจอขอบบนนั้นเราจะเห็นว่ามีกล้องหน้า 8MP พร้อมกับการแทรกเซนเซอร์อะไรต่างๆไว้ข้างบนรวมถึงลำโพงเวลาคุยโทรศัพท์ครับ ส่วนขอบอะไรนั้นก็มีความหนาประมาณนึง ตามในเรทราคาของมันถือว่าพอรับได้ในจุดนี้
แต่ขอบหน้าจอด้านล่างนั้นจะค่อนข้างหนาพอสมควรถ้ามองในแง่เรทราคาประมาณนี้ก็จะได้ประมาณนี้ในหลายๆตัวครับส่วนการควบคุมนั้นต้องบอกว่ารองรับการเปลี่ยนแปลงได้เยอะ สลับปุ่ม หรือใช้งานแบบท่าทางได้ด้วยเช่นกัน
ในด้านล่างนั้นแอบบ่นนิดหน่อยยังคงใช้งาน Micro-USB ครับ ส่วนลำโพงหลักในด้านซ้าย พร้อมกับรูไมค์และรู 3.5มม.ในด้านขวาสุด ส่วนบอดี้นั้นจะเป็นพลาสติกเล่นสีเงินใกล้เคียงกับฝาหลัง และฝาหลังโค้งนิดๆตรงขอบแต่เรียบๆตรงกลาง
ในส่วนขอบด้านซ้ายนั้นจะไม่มีช่องอะไรเลย เป็นการดีไซน์ที่เรียบ ในส่วนของขอบจะไม่ได้โค้งมนแบบรุ่นก่อน แต่จะเป็นการตัดให้มันมีเหลี่ยมมากขึ้น
ในส่วนของขอบด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าเป็นช่องของถาดซิม รองรับ Triple Slot รองรับการใช้งานได้ดีเพิ่มความจุ
และทางด้านขอบด้านขวานั้นในรุ่นนี้ที่มาพร้อมกับสแกนนิ้วในด้านขวาที่เป็นปุ่ม Power ในตัวซึ่งสแกนนิ้วได้เร็วมาก และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงนั้นจะมีมาให้อยู่ในด้านบนครับ
ในส่วนของฝาหลังนั้นเราจะไม่เห็นที่สแกนนิ้วมาตั้งแต่รุ่นก่อนแล้ว ฝาหลังสีที่มีความเรียบร้อย แต่ยังมีการเล่นลวดลายตัดสลับ ตามชื่อสี Diamond Glow ที่ให้เห็นถึงเหลี่ยมคมของเงา เปรียบเหมือนเพชร การวางกล้องนั้นเราจะเห็นว่าในมุมซ้ายด้านบนเหมือนเดิมแต่มีการขยายให้คล้ายๆกับรุ่นพี่อยู่และการจัดวางต่างๆแต่ยังคงเรียงกัน 2 กล้องเรียงลงมาเหมือนเดิมพร้อมไฟแฟลช ในส่วนของด้านล่างเครื่องทางซ้าย จำเป็นตำแหน่งของโลโก้ที่เขียนในแนวนอน
กล้องหลังนั้นจะให้มา 2 ตัว ในความละเอียด เลนส์หลัก 13MP F2.2 ที่รองรับโฟกัสแบบ PDAF และมาพร้อมกับ เลนส์มาโคร ระยะ 4 เซนติเมตร 2MP F2.4 ส่วนทางด้านงานออกแบบเปลี่ยนดีไซน์จากรุ่น Y20 เล็กน้อยตามสมัยมากขึ้น
SPEC
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11
- หน้าจอ Halo FullView™ Display IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ แบบติ่งหยดน้ำ
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35
- RAM 4GB (รองรับ Extended RAM+1GB)
- ความจุ 64GB+128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 2 ตัว (13MP F2.2 + 2MP F2.4 )
- กล้องหน้า 8MP F2.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- พอร์ต USB TYPE-C , ช่องเสียบรูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จไว 18W
- น้ำหนัก 182 กรัม / ขนาด 164.26×76.08×8.00 มม.
- Accelerometer, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Virtual Gyroscope, E-compass, Side-Mounted Fingerprint Scanner
- USB TYPE C , Wi-Fi, Bluetooth 5.0, FM, OTG
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Helio P35 พร้อมกับ Storage 64GB และ 128GB จัดเต็มด้วย RAM 4GB ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 292.87 MB/s – เขียนไปได้ที่ 239.31 MB/s ส่วน DRL L3 ในแอป Netflix รองรับ SD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 108944 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 167/893 คะแนน ถือว่าการใช้งานทั่วไปอยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว
SYSTEM UI
ทางด้านระบบนั้นยังคงใช้ Funtouch OS 11.1 รูปแบบใหม่ ด้วยการออกแบบกลับสู่ความเรียบง่าย สัมผัสสะดวกยิ่งขึ้น และนำเสนอภาพที่กระชับ เป็นธรรมชาติ สมจริง มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้กับคุณ
การแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ส่วนการตั้งค่าหลังจากรุ่นก่อนๆค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่าง แต่ครั้งนี้เลื่อนลงมาจากด้านบนแบบรุ่นก่อนๆของทาง vivo ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ และหน้าตามีการเปลี่ยนแปลงจากตอน OS11 อยู่พอสมควรเลยแหละครับ
Storage 64 GB และ 128 GB การใช้งานการเก็บข้อมูลบอกเลยว่าเหลือๆ และในส่วนของ Y21 RAM ขนาด 4GB และมาพร้อมด้วย Extended RAM 2.0 เพื่อคอยซัพพอร์ตหน่วยความจำ RAM ตัวหลัก มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่น โดยจะดึงพื้นที่ของหน่วยความจำภายใน ROM เป็นจำนวน 1GB เพื่อเสริมพื้นที่ RAM ให้มากขึ้น ทำให้คุณสามารถสลับการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น มอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่น วิดีโอ หรือรูปภาพต่างๆ อีกทั้งยังมีหน่วยประมวลผล octa-core ที่มอบพลังการเล่นที่เกมส์ดุเดือดและสนุกสนาน
อีกส่วนที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ถือว่าเป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆในการใช้งานครับทั้งตัว Animation เปลี่ยนได้หลากหลายมากๆครับทั้ง หน้าตาตอนชาร์จ เป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆทำให้นึกถึงใน Android ยุคก่อนๆที่รูทและปรับเปลี่ยนหน้าตา Effect อะไรกันได้หรือจะเป็นการปรับแต่งอื่นๆถือว่าเป็นค่ายที่ปรับได้เยอะที่สุดเลยแหละ
Gesture แน่นอนว่ารองรับเหมือนกันทั้งแคปหน้าจอรวมถึงการเตือนเวลายกหรือจะเป็น Smart Feature ทั้งหมดแนบหูแล้วรับอะไรพวกนั้นครับและปุ่มการนำทางนั้นสามารถเปลี่ยนได้ด้วยทั้งรูปแบบ และ การจัดวางหรือเต็มจอครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้