ศึกชิงนาง
ณ โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมืองกวางโจว มีชายหนุ่มรูปงามสองนายกำลังนั่งกอดอกจ้องตากันไม่กะพริบ ทั้งสองเป็นสหายรักคู่หูกันมาตั้งแต่เด็ก แต่กลับต้องมาทะเลาะกัน เพราะดันไปรักแม่นางหลี่เฟ่ยสาวงามแห่งหมู่บ้านสามเซ่า นางถูกญาติสนิทที่อาศัยอยู่ด้วย ประกาศขายนางเพื่อให้พ้นไปจากชายคา ด้วยมีเงื่อนไขว่าชายใดต้องการนางทาสแสนงดงามนี้ ให้นำเงินมาลงขันห้าสิบตำลึงก่อนเข้าสู่แดนประลองยุทธ์เพื่อต่อสู้แย่งชิง จอมยุทธ์ที่สามารถชนะทุกท่านยืนหยัดเป็นคนสุดท้ายก็จะได้ตัวแม่นางหลี่เฟ่ยไปครอบครอง
“ตกลงเจ้ากับข้าต้องต่อสู้กันจริง ๆ ใช่ไหม เจิ้งหลง” เฟยหงจ้องเพื่อนเขม็ง ยิ้มเย็นชาให้กับหนุ่มหน้าหวานคิ้วหนาผิวอมขาวเก่งในเรื่องการฟันดาบ มีฉายาว่า
“เจิ้งหลงหล่อหน้าหวานดาบพิฆาต”
“ใช่ในเมื่อเจ้ากับข้ารักแม่นางหลี่เฟ่ยคนเดียวกัน ยกเว้นเจ้าจะยกนางให้ข้าเฟยหง” เจิ้งหลงจ้องเพื่อนกลับเขม็งไม่ลดละเช่นกัน จิกยิ้มนิดหนึ่งให้กับคู่หูมาดเข้มหน้าดุแต่ดันหล่อจมูกโด่งตาเหมือนเหยี่ยว เก่งในเรื่องกระบี่ มีฉายาว่า
“เฟยหงหล่อเข้มตาเหยี่ยวกระบี่ไร้เงา”
“ก็ได้ งั้นเจ้ากับข้ามาสู้กัน และมาดื่มด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย เสี่ยวเอ้อ เอาเหล้ามาอีกสองไห” เฟยหงตะโกนสั่งเจ้าของโรงเตี๊ยม
“ท่านจอมยุทธ์ทั้งสอง อย่าหาว่าข้าดูผิดต่อท่านทั้งสองเลยนะ ก่อนจะเอาเหล้าอีกสองไหได้โปรดช่วยจ่ายค่าอาหารกับเหล้าที่ท่านทั้งสองดื่มไปแล้วคนละไหมาให้ข้าก่อน” เสี่ยวเอ้อเดินมายืนอยู่หน้าคนทั้งสองด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ กลัวจะโดนชักดาบ
“ข้ารู้ว่าท่านไม่ไว้ใจพวกข้าทั้งสองคน ก็ได้ พวกข้าจะจ่าย ทั้งหมดนี่เท่าไหร่เสี่ยวเอ้อ หารสอง” เจิ้งหลง เงยหน้ามองเจ้าของร้านพูดเสียงยืดยาน พยายามทรงตัวเองไม่ให้โอนเอน
“ทั้งหมดนี่ก็ สิบตำลึงกับแปดอีแปะ”
“หารสอง ต้องจ่ายคนเท่าไร เสี่ยวเอ้อ” เฟยหงถามบ้างล้วงถุงเงินออกมาจากเอวตัวเอง
“คนละห้าตำลึงกับสี่อีแปะ” เสี่ยวเอ้อมองหน้าคนถาม คิดในใจเลขแค่นี้ทำไมมันคิดไม่ได้วะ
“ข้ามีเงินเยอะแยะ เห็นหรือยัง หยิบไปได้เลยเสี่ยวเอ้อ แล้วเอาเหล้ามาอีกสองไห วันนี้ข้าจะดื่มให้เมาเพื่อเป็นการสั่งลาคู่หูของข้าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่พรุ่งนี้ข้าอาจจะฆ่าเพื่อนของข้าด้วยดาบพิฆาต” เจิ้งหลงหนุ่มหน้าหวานวางถุงเงินให้กับเสี่ยวเอ้อบนโต๊ะ
“ข้าก็มีเยอะแยะ หยิบไปเลยเสี่ยวเอ้อแล้วรีบไปเอาเหล้ามาให้ข้า วันนี้ข้าจะดื่มให้เมาเพื่อเป็นการสั่งลาคู่หูของข้าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่พรุ่งนี้ข้าอาจจะฆ่าเพื่อนของข้าด้วยกระบี่ไร้เงา” เฟยหงหนุ่มหน้าเข้มเอาถุงเงินมาวางให้เสี่ยวเอ้อบนโต๊ะบ้าง
“ได้งั้นข้าขอยึดถุงเงินทั้งสองนี้ไว้ก่อนแล้วจะทอนให้กับท่านทั้งสอง หลังจากที่พวกท่านดื่มกันเต็มที่เรียบร้อยแล้ว” เสี่ยวเอ้อ ถือโอกาสยึดเอาถุงเงินทั้งสองถุงไปไว้กับตัวเองไว้ก่อน แล้วเดินเข้าไปในครัวหยิบเอาเหล้ามาให้สองหนุ่มเจ้าสำราญอีกคนละไห
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขออนุญาตลบเนื้อหาค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เรื่องสั้น.....ศึกชิงนาง.....
“ตกลงเจ้ากับข้าต้องต่อสู้กันจริง ๆ ใช่ไหม เจิ้งหลง” เฟยหงจ้องเพื่อนเขม็ง ยิ้มเย็นชาให้กับหนุ่มหน้าหวานคิ้วหนาผิวอมขาวเก่งในเรื่องการฟันดาบ มีฉายาว่า “เจิ้งหลงหล่อหน้าหวานดาบพิฆาต”
“ใช่ในเมื่อเจ้ากับข้ารักแม่นางหลี่เฟ่ยคนเดียวกัน ยกเว้นเจ้าจะยกนางให้ข้าเฟยหง” เจิ้งหลงจ้องเพื่อนกลับเขม็งไม่ลดละเช่นกัน จิกยิ้มนิดหนึ่งให้กับคู่หูมาดเข้มหน้าดุแต่ดันหล่อจมูกโด่งตาเหมือนเหยี่ยว เก่งในเรื่องกระบี่ มีฉายาว่า “เฟยหงหล่อเข้มตาเหยี่ยวกระบี่ไร้เงา”
“ก็ได้ งั้นเจ้ากับข้ามาสู้กัน และมาดื่มด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย เสี่ยวเอ้อ เอาเหล้ามาอีกสองไห” เฟยหงตะโกนสั่งเจ้าของโรงเตี๊ยม
“ท่านจอมยุทธ์ทั้งสอง อย่าหาว่าข้าดูผิดต่อท่านทั้งสองเลยนะ ก่อนจะเอาเหล้าอีกสองไหได้โปรดช่วยจ่ายค่าอาหารกับเหล้าที่ท่านทั้งสองดื่มไปแล้วคนละไหมาให้ข้าก่อน” เสี่ยวเอ้อเดินมายืนอยู่หน้าคนทั้งสองด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ กลัวจะโดนชักดาบ
“ข้ารู้ว่าท่านไม่ไว้ใจพวกข้าทั้งสองคน ก็ได้ พวกข้าจะจ่าย ทั้งหมดนี่เท่าไหร่เสี่ยวเอ้อ หารสอง” เจิ้งหลง เงยหน้ามองเจ้าของร้านพูดเสียงยืดยาน พยายามทรงตัวเองไม่ให้โอนเอน
“ทั้งหมดนี่ก็ สิบตำลึงกับแปดอีแปะ”
“หารสอง ต้องจ่ายคนเท่าไร เสี่ยวเอ้อ” เฟยหงถามบ้างล้วงถุงเงินออกมาจากเอวตัวเอง
“คนละห้าตำลึงกับสี่อีแปะ” เสี่ยวเอ้อมองหน้าคนถาม คิดในใจเลขแค่นี้ทำไมมันคิดไม่ได้วะ
“ข้ามีเงินเยอะแยะ เห็นหรือยัง หยิบไปได้เลยเสี่ยวเอ้อ แล้วเอาเหล้ามาอีกสองไห วันนี้ข้าจะดื่มให้เมาเพื่อเป็นการสั่งลาคู่หูของข้าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่พรุ่งนี้ข้าอาจจะฆ่าเพื่อนของข้าด้วยดาบพิฆาต” เจิ้งหลงหนุ่มหน้าหวานวางถุงเงินให้กับเสี่ยวเอ้อบนโต๊ะ
“ข้าก็มีเยอะแยะ หยิบไปเลยเสี่ยวเอ้อแล้วรีบไปเอาเหล้ามาให้ข้า วันนี้ข้าจะดื่มให้เมาเพื่อเป็นการสั่งลาคู่หูของข้าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่พรุ่งนี้ข้าอาจจะฆ่าเพื่อนของข้าด้วยกระบี่ไร้เงา” เฟยหงหนุ่มหน้าเข้มเอาถุงเงินมาวางให้เสี่ยวเอ้อบนโต๊ะบ้าง
“ได้งั้นข้าขอยึดถุงเงินทั้งสองนี้ไว้ก่อนแล้วจะทอนให้กับท่านทั้งสอง หลังจากที่พวกท่านดื่มกันเต็มที่เรียบร้อยแล้ว” เสี่ยวเอ้อ ถือโอกาสยึดเอาถุงเงินทั้งสองถุงไปไว้กับตัวเองไว้ก่อน แล้วเดินเข้าไปในครัวหยิบเอาเหล้ามาให้สองหนุ่มเจ้าสำราญอีกคนละไห
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขออนุญาตลบเนื้อหาค่ะ
ขอบคุณค่ะ