1.ผมได้ถือวิสาสะยืมกาน้ำร้อนที่อยู่หน้ากุฏิพระเพื่อนรูปหนึ่งมาใช้โดยไม่ได้บอกกล่าว ผมเอามาใช้แล้วตั้งไว้นานเป็นเดือน ลืมเอาไปคืน แต่เห็นแล้วว่าจะเอาไปคืนทุกครั้งแล้วลืมทุกที ล่าสุดผมได้นำไปคืน ปรากฎว่าพระเพื่อนรูปนั้นทำหน้างงๆแบบอะไรหรอ แกก็ไม่รู้ว่าแกมีกาน้ำร้อน หรือลืมไปแล้วไม่ทราบว่ามีกาน้ำร้อน ผมก็บอกแกไปว่าผมยืมไปไม่ได้บอก แกก็รับไป แกก็มาคิดทีหลังว่า แกให้ผมยืมไป ผมว่าไม่ใช่ผมถือวิสาสะไปไม่ได้บอก แกก็งงๆ แกเลยบอกว่ากานี้ไม่ใช่ของแกเป็นของส่วนกลาง ผมก็เลยไม่รู้ว่าผิดหรือถูกประการใดช่วยวินิจฉัยหน่อยครับ
2.ผมให้สามเณรช่วยเก็ยผ้าที่ตากอยู่ให้ผม และเณรก็ไม่รู้เก็บอังสะใครมาด้วย 1 ตัว ผมเลยถามเณรว่าอังสะใคร อังสะเณรมั้ย เณรบอกไม่ใช่ผมเลยตั้งคาไว้ที่ราวตากผ้าหน้ากุฏิผมเป็นสัปดาห์ไม่มีใครมาเอา ผมเลยเก็บเข้ากุดถือเอามาใช้ สักวันสองวันผมก็เลยเปลี่ยนใจหาเจ้าของดีกว่ากลัวจะอาบัติ เลยไปถามพระเพื่อนรูปเดียวกับข้อ 1 เลย ถามแกว่าอังสะแกมั้ย แกก็ไม่รู้ว่าอังสะแกหาย เลยเอาให้แกดู แกว่าใช่ของแก เลยให้แกไป อย่างนี้จะอาบัติมั้ยครับ??
ช่วยวินิจฉัยหน่อยครับอาจจะสับซ้อนไปหน่อย แต่เราก็ไม่สบายใจ
ช่วยวินิจฉัยอาบัติหน่อยครับว่าถูกหรือผิด
2.ผมให้สามเณรช่วยเก็ยผ้าที่ตากอยู่ให้ผม และเณรก็ไม่รู้เก็บอังสะใครมาด้วย 1 ตัว ผมเลยถามเณรว่าอังสะใคร อังสะเณรมั้ย เณรบอกไม่ใช่ผมเลยตั้งคาไว้ที่ราวตากผ้าหน้ากุฏิผมเป็นสัปดาห์ไม่มีใครมาเอา ผมเลยเก็บเข้ากุดถือเอามาใช้ สักวันสองวันผมก็เลยเปลี่ยนใจหาเจ้าของดีกว่ากลัวจะอาบัติ เลยไปถามพระเพื่อนรูปเดียวกับข้อ 1 เลย ถามแกว่าอังสะแกมั้ย แกก็ไม่รู้ว่าอังสะแกหาย เลยเอาให้แกดู แกว่าใช่ของแก เลยให้แกไป อย่างนี้จะอาบัติมั้ยครับ??
ช่วยวินิจฉัยหน่อยครับอาจจะสับซ้อนไปหน่อย แต่เราก็ไม่สบายใจ