สัญญาอมตะ ตอนที่ 9

กระทู้คำถาม
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มังกรวิเศษหลุดเข้าอุโมงค์แห่งกาลเวลาเพราะมนุษย์ผู้หนึ่งเข้าไปแตะต้องสิ่งวิเศษสำคัญ มันสามารถสลายและแยกตัวออกได้หลายร่างโดยทุกร่างมีพลังอำนาจเท่าเทียมกัน เจ้ามังกรหลบหนีผู้ทรงอำนาจทั้งสี่แยกตัวออกเป็นเจ็ดส่วนในเส้นทางแห่งกาลเวลา ชิ้นส่วนสีม่วงมีความวิวัฒน์ทางความคิดมากที่สุดต่อสู้กับพี่น้องอีกหกชิ้น ในช่วงเวลาแห่งการฆ่าฟัน ชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็ร่วงหลุดสู่ช่วงเวลาที่แตกต่างกัน 
 
            ชิ้นส่วนสีเขียวต่อสู้ขัดขืนการดูดกลืนสุดชีวิต! แม้จะเป็นแค่ชิ้นส่วนทว่าเจ้าสีม่วงก็เจริญมากขึ้นจนสามารถใช้เวทมนตร์ได้แล้ว พวกมันหลบหนีการไล่ล่าจนเหลือแค่ชิ้นส่วนสีเขียวกับน้ำเงินเท่านั้น ชิ้นส่วนสีเขียวพุ่งเข้ารับเวทมนตร์แทนชิ้นส่วนสีน้ำเงินที่อ่อนแรงมากจนถูกแช่แข็งและหลุดออกสู่ภายนอกในที่สุด
 
            สถานที่ที่ชิ้นส่วนสีเขียวหล่นลงไปคือท้องทะเลกว้างทางใต้ของทวีปใหญ่ เมื่อคิดว่าปลอดภัยมันก็เริ่มกระบวนการก่อร่างทันที แกนดั้งเดิมของมันคือมังกรจึงเปลี่ยนรูปไปเป็นมังกรน้ำที่อาศัยอยู่ในทะเลเปิด ลำตัวยาวเหยียดราวจะรัดพันขุนเขาประกอบด้วยเกล็ดสีเขียวสดใสต่างกับมังกรน้ำบริเวณนั้น และชื่อที่มันได้รับเมื่อถูกแบ่งออกมาคือ อินวิเดีย!
 
            ด้วยความแค้นที่มีต่อชิ้นส่วนสีม่วงมันรีบใช้เวทมนตร์เพื่อตามหาชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่อาจรอดได้เช่นกัน ชิ้นส่วนอื่นต่างเคยต่อกรกับผู้ทรยศทว่าพบแต่ความล้มเหลว บางตนโดนผนึกเพื่อดูดกลืนพลัง บางตนหลบซ่อน บางตนเฝ้ารอโอกาส แถมบนแผ่นดินยังมีสิ่งที่พวกมันกลัวจับใจเดินทางไปมาเสียทั่วอีก ผ่านไปนานกว่าห้าสิบปีกว่ามันจะยอมแพ้ อินวิเดียทำตัวเยี่ยงมังกรน้ำธรรมดาที่ฟังแค่สัญชาตญาณ มันออกค้นหากลุ่มมังกรเพื่อจับคู่โดยตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งกับอย่างอื่นอีก
 
            กระนั้นเจ้าชิ้นส่วนสีเหลืองก็ยังมอบความหวังให้ หากมันสามารถเกลี้ยกล่อมสิ่งที่น่ากลัวจับใจให้เป็นพวกได้ก็มีความหวังเรื่องสังหารชิ้นส่วนสีม่วง ความทรงจำตกค้างของพวกมันยังจำความน่ากลัวไร้ก้นบึ้งนั้นได้ดี มันเหมือนกับห้วงแห่งความโลภที่ไม่มีวันเติมเต็มได้!
 
            ไม่นานนักอินวิเดียก็ไปเข้ากับฝูงมังกรน้ำกลุ่มหนึ่งและพบมังกรน้ำหญิงที่มันคิดว่างดงามที่สุด แม้รูปลักษณ์จะต่างกันแต่เมื่อมังกรมีความรักแล้วย่อมไม่สนสิ่งใด พวกมันสองตัวสร้างรังขึ้นในที่ราบก้นสมุทรใกล้เทือกเขาใต้ทะเลโดยหารู้ไม่ว่าจุดนั้นถูกจับจองไว้โดยเหล่ามนุษย์!
 
            รังของอินวิเดียไม่ทันสร้างเสร็จสิ่งปลูกสร้างลอยน้ำขนาดยักษ์ของมนุษย์ก็ค่อย ๆ เคลื่อนที่จากผิวน้ำลงมาขยี้ส่วนหนึ่งจนแหลกคาตา! มันเหมือนเมืองในโดมแก้วที่ยึดติดกับพื้นใต้ทะเลทันที เมื่อบริเวณรังถูกคุกคามทั้งสองตัวก็เข้าจู่โจมโดยสัญชาตญาณ! สิ่งปลูกสร้างคล้ายเมืองทำการตอบโต้เช่นกัน ร่างของเจ้าตัวเมียขาดกะรุ่งกะริ่งจนน้ำทะเลกลายเป็นสีเขียวด้วยเลือดมังกร ส่วนอินวิเดียถูกฉีดสารทำความเย็นใส่จนกลายเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมา!
 
            ก่อนสติที่คลุ้มคลั่งของอินวิเดียจะดับลงมันก็คิดได้ มันยอมลดตัวเป็นมังกรธรรมดาเพื่อให้ได้อยู่อย่างสงบสุข ถึงอย่างนั้นเหล่ามนุษย์ก็มาทำลายความสุขหนึ่งเดียวอย่างป่าเถื่อนเสียแรงที่พวกมันไม่ทวงถามสิทธิ์ในการคงอยู่ด้วยพลังที่มี เมื่อใดที่มันหลุดจากการแช่แข็งได้พวกมนุษย์จะต้องถูกทำลาย มันจะกัดกินพวกคนในสิ่งปลูกสร้างนั่นให้ได้ก่อนค่อยขึ้นไปอาละวาดบนพื้นดินให้สาแก่ใจ! 
 
            ผ่านไปยี่สิบปีกว่าร่างที่เป็นน้ำแข็งจะละลายจนขยับได้อย่างอิสระ อินวิเดียรีบออกหาอาหารเก็บตุนพลังงานเพื่อการแก้แค้นจนสามารถจู่โจมอาคารใต้น้ำได้อีกครั้ง คราวนี้ไฟแห่งโทสะปลุกความคิดอ่านและความทรงจำเก่าแก่เรื่องเวทมนตร์จนต่อต้านอาวุธต่าง ๆ ของสิ่งปลูกสร้างนั้นได้ ด้วยความอาฆาตทำให้มันประวิงเวลาให้มนุษย์ข้างในนั้นหมดหวังอย่างช้า ๆ จนกลายเป็นอาหารของมันในที่สุด ต้องใช้เวลาเกือบปีมันจึงสามารถทำลายอาวุธป้องกันได้ทั้งหมดโดยไม่ทำลายโดมแก้ว!
 
            ในตอนนั้นชิ้นส่วนสีเหลืองก็ติดต่อมาว่ามันพบสิ่งที่น่ากลัวจับใจแล้วและพวกมันคือเป้าหมายของสิ่งที่น่ากลัวนั้น ชิ้นส่วนสีเหลืองกล่อมมันว่าหากร่วมมือกันจะต้องเอาชนะและกำจัดชิ้นส่วนสีม่วงก่อนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้แน่ ซึ่งตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวนั้นกำลังไปหาอินวิเดียเพื่อให้มันทดสอบว่าพอมีหวังหรือไม่
 
            อินวิเดียผู้ถูกรายล้อมด้วยความโกรธสบถอย่างหยาบคายว่าอวาร์ริเทียชักนำศัตรูมาสู่พวกพ้อง! บัดนี้มันไม่สนใจอะไรอีกแล้วนอกจากการเข่นฆ่าเหล่ามนุษย์ที่พรากคู่ของมันไป กระทั่งมันสัมผัสได้ว่าชิ้นส่วนสีน้ำเงินกำลังลงมาใต้ทะเลด้วยพาหนะของพวกมนุษย์ ข้างในนั้นมีกลิ่นของสิ่งที่น่ากลัวจับใจอยู่ด้วย!...
 
 
            ผู้เป็นอมตะหาวหวอดเพราะแทบไม่ได้พักนอนเลยตั้งแต่เหตุประหลาดในโรงแรม ลักซูเรียใช้ผ้าขนหนูปิดบังเส้นผมตามเขาเหมือนถูกทากาวแล้วพล่ามเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับวิมานในอากาศ ซึ่งเซธไม่มีปัญญาอธิบายให้นางหายเข้าใจผิดทำได้แค่ปล่อยตามที่ท่านผู้นั้นแนะนำ
 
            “ฉันเชื่อว่าเมื่อคุณพ้นคำสาปแล้วเราจะต้องแต่งงานกันได้แน่นอน ส่วนคนรักของคุณที่เกิดใหม่ฉันจะเลี้ยงดูจนโตเป็นสาวเอง ถึงตอนนั้นคุณคงไม่มองเธออย่างนั้นอีกแล้ว” ลักซูเรียผลิตความฝันเกี่ยวกับเซธและนางอย่างต่อเนื่อง 
 
            เรื่องการเกิดใหม่ของโซลาน่าท่านผู้นั้นบอกว่ามีวิธีแก้ปัญหาอยู่ เซธจะไม่พ้นจากการเป็นอมตะจนกว่าคนรักที่มาเกิดใหม่จะโตจนสามารถคบหากันได้เช่นเดิม เพราะฉะนั้นไม่มีทางเป็นอย่างที่นางมังกรครึ่งมนุษย์วาดฝันเด็ดขาด
 
            ผู้เป็นอมตะหันไปสนใจเรือดำน้ำที่เทียบท่าอย่างใคร่รู้ เรือดำน้ำลำยาวขนาดรถบัสคันใหญ่ทาสีขาวเหมือนเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว หลังคาเป็นราวจับกับช่องเปิดมีสภาพสมบุกสมบันแสดงว่าผ่านกาลเวลามาพักใหญ่ เซธเคยขึ้นเรือค้าขายข้ามทวีปแต่ยังไม่เคยนั่งเรือดำน้ำเลยสักครั้ง เขาไม่ค่อยชอบพาหนะสมัยใหม่แต่เรือดำน้ำคงต่างไปกระมัง อาจไม่สั่นสะเทือนหรือร้อนอบอ้าว 
 
            ท่านผู้นั้นพูดคุยกับพนักงานเสร็จก็บอกว่าพวกเขาจะนั่งเรือดำน้ำนี้ไปยังศูนย์วิจัยใต้สมุทรของสหพันธรัฐ เสียงเหล็กลั่นเบา ๆ เมื่อฝาบนของพาหนะดำน้ำถูกเปิดออกให้ทุกคนเข้าไปในห้องโดยสาร ภายในเป็นแถวยาวเหมือนรถประจำทางที่แล่นใต้น้ำได้ เซธผู้ไม่ถูกโรคกับเทคโนโลยีคิดว่าพอรับได้เมื่อเทียบกับเครื่องบิน เขาไม่อยู่ชมความสามารถใต้น้ำมากนักเพราะเผลอหลับด้วยความเพลีย 
 
            ในภวังค์ครึ่งหลับครึ่งตื่นเซธมองเห็นชายหญิงสองคนเดินมาด้วยกัน คนหนึ่งผอมสูงผมสีเหลืองซีดมัดเป็นหางม้าท่าทางเบื่อเล็กน้อยแต่ยังทนเดินไปข้างหน้า อีกคนเป็นหญิงผมเขียวกำลังเดินพูดกับชายคนดังกล่าวอยู่ฝ่ายเดียว ตอนนั้นเองที่ความริษยาถึงที่สุดกัดกินเครื่องในของผู้เป็นอมตะจนร้อนไหม้ เขาต้องการนางมาครองไว้ผู้เดียว หมอนั่นไม่สมควรได้ใกล้ชิดนาง เขาจะต้องทำให้นางมีความสุขมากกว่าแน่ ความคิดที่ต้องการทำลายและช่วงชิงผุดขึ้นเหมือนเห็ดในฤดูใบไม้ร่วงจนควบคุมไม่ได้!
 
            ‘ถ้าถามข้า ปล่อยให้มันหลับไปพร้อมอดีตดีกว่า’ 
 
            เสียงแทรกของท่านผู้นั้นลบทุกอย่างจนสิ้นทำให้เซธลืมตาแล้วตั้งคำถามกับตัวเองทันที เหตุใดเขาจึงรู้สึกแบบนั้นทั้งที่ไม่เคยรู้จักสองคนในนิมิตดังกล่าว ความคิดนั้นมันเกินกว่าความอิจฉา มันคือความต้องการฆ่าฟันอีกฝ่ายเพื่อแย่งสิ่งที่ต้องการมา 
 
            เซธหันไปมองท่านผู้นั้นเพราะมั่นใจว่าเป็นเสียงของทางนั้นแน่นอน ตอนนี้ฝ่าบาทของเขากำลังหมกมุ่นกับเอกสารบางอย่างอยู่ พอท่านผู้นั้นรู้ตัวหันมามองก็มาบอกให้ลักซูเรียเพลา ๆ อาการวุ่นวายลงบ้างเพราะผู้เป็นอมตะต้องการพักผ่อนก่อนการต่อสู้  ไม่ได้แสดงอาการว่ามาช่วยเซธจนหลุดจากนิมิตเลย
 
            “ใกล้เข้ามาแล้ว หนึ่งในพวกนั้น” ลักซูเรียร้องทักขึ้น “อินวิเดีย!” 
 
            คลื่นเสียงความถี่สูงสาดซัดเรือดำน้ำเหมือนคำทักทายจากอสูรร้าย นั่นเรียกให้เซธถอดเข็มขัดขึ้นมาเตรียมพร้อมทั้งที่อยู่ในเหล็กดำน้ำ ฝ่ายลักซูเรียก็พูดคุยกับพี่น้องราวกับสามารถสื่อสารผ่านเรือเหล็กได้ฉะนั้น
 
            “เดี๋ยวก่อนอินวิเดีย นี่ฉันเองจำไม่ได้หรือ ลักซูเรียอย่างไรละ!” ลักซูเรียแสดงอาการสับสนออกมาอย่างไม่ซ่อนเร้น “ทำไมนายจึงเกลียดมนุษย์อย่างนั้น คุยกันก่อน”
 
            การกระทบกันระหว่างคลื่นเสียงกับเรือดำน้ำสร้างเสียงแหลมอื้ออึงเป็นลางร้าย ลักซูเรียบอกให้ทุกคนหาอะไรจับไว้ทันที! ภาพใต้น้ำนอกหน้าต่างวงกลมเปลี่ยนไป เงาดำปานงูยักษ์เลื้อยฉวัดเฉวียนรอบเรือดำน้ำทรงกระบอก ลำตัวที่ไม่อาจคาดคะเนความยาวได้ปัดเรือให้กระเด็นไปมาเหมือนลูกบอลในสนาม เจ้าหน้าที่ในเรือต่างกรีดร้องหนีตายกันจ้าละหวั่นแต่ทำได้เพียงยึดจับบางอย่างเท่านั้น!
 
            เรือดำน้ำไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อรับการเล่นสนุกของมังกรโบราณจึงส่งเสียงประท้วงอย่างน่าเสียวไส้ โชคยังเข้าข้างทุกคนที่เรือหลุดลอยขึ้นสู่ผิวน้ำพอดีกับผนังด้านหนึ่งถูกแหวกเป็นรูโหว่ ทุกคนกล่าวขอบคุณเสาค้ำจุนเมื่อมองเห็นท้องฟ้าและคลื่นลมซัดสาดก่อนอพยพขึ้นไปด้านนอกเรือก่อนจะจมเพราะน้ำทะลักเข้ามา
 
(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่