🇹🇭มาลาริน💚8ก.ย.ป่วย14,176คน หายป่วย16,769คน วานนี้ฉีด 826,013โดส/10จว.ติดเชื้อสูง/โควิดแฝง5-6 เท่า/โควิดไทยลดลงรอบสป.

ปูเสื่อโควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 14,176 ราย เสียชีวิต 228 ราย หายป่วย 16,769 ราย

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 14,176 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 13,670 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 506 ราย ยอดติดเชื้อรวมระลอกเมษายน 1,293,656 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 1,322,519 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 228 ราย เสียชีวิตสะสม 13,511 ราย หายป่วยเพิ่ม 16,769 ราย หายป่วยสะสมระลอกเมษายน 1,138,938 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 142,644 ราย


https://www.sanook.com/news/8439762/



8 ก.ย.64 - เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ.เฉวตศรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงตอนหนึ่งว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 8 ก.ย. ได้แก่ กทม.3,691 ราย สมุทรปราการ 955 ราย ชลบุรี 846 ราย สมุทรสาคร 641 ราย ราชบุรี 528 ราย ระยอง 473 ราย พระนครศรีอยุธยา 388 ราย สงขลา 369 ราย นนทบุรี 362 ราย นราธิวาส 332 ราย

จะเห็นว่ามีเพียง กทม.จังหวัดเดียวเท่าที่มีผู้ติดเชื้อเกินหลักพัน ขณะที่การระบาดที่เป็นคลัสเตอร์ จากข้อมูลพบว่า ยังมีคลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับโรงงาน สถานประกอบ แคมป์คนงานอยู่ 318 คลัสเตอร์ทั่วประเทศ ตลาด ชุมชน ครอบครัว 131 คลัสเตอร์  ร้านอาหาร สถานบันเทิง 3 คลัสเตอร์ สำนักงาน โรงเรียน สถานศึกษา 12 คลัสเตอร์ นอกจากนี้ ยังพบการระบาดในวงสุรา วงพนัน พิธีกรรมทางศาสนา งานแต่ง งานศพ ตลอดจนในโรงพยาบาล จึงขอย้ำว่าทุกคนต้องระมัดระวังตัวเองทุกที่ทุกเวลา  



https://www.thaipost.net/main/detail/116046



เพี้ยนปักหมุดที่ปรึกษา ศบค. เผย ไทยอาจมีผู้ติดเชื้อโควิดแฝงมากกว่าตรวจจริง 5-6 เท่า หรืออีก 5-7 ล้านคน ขอทุกคนและทุกองค์กรต้องปฏิบัติตามระบบสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจคู่เรื่องสุขภาพ

วันที่ 8 ก.ย. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 ไทยและทั่วโลก อยู่ในช่วงขาขึ้นไว มี 2 ปัจจัยหลักคือ เนื่องจากมีโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา กระจายไปทั่วโลก ถึง 80-90% ส่วนประเทศไทยติดถึง 90% มีการแพร่ระบาดรวดเร็ว และไปทุกที่
 
นอกจากนี้ การศึกษาของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ทำการสุ่มสำรวจ โดยข้อมูลสอดคล้องกับตอนอู่ฮั่นระบาดเช่นเดียวกัน พบว่า คนที่ไม่มีอาการและไม่เคยตรวจโควิด เมื่อนำมาตรวจ พบว่าติดเชื้อถึง 5-6 เท่า ของตัวเลขผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน โดยตอนนี้คนติดเชื้อโควิด-19 ใน กทม. อยู่ที่ 250,000 คน เมื่อคูณตัวเลข 5-6 เท่า จะพบว่ามีคนติดเชื้ออีก 1.5 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มติดเชื้อแฝง ส่วนตัวเลขทั้งประเทศ ที่อยู่ประมาณ 1.2 ล้านราย คนที่ติดเชื้อแฝงจึงมีอยู่ประมาณ 5-7 ล้านคน ซึ่งกลุ่มนี้สามารถแพร่เชื้อได้ จึงเป็นเหตุผลที่มีการติดเชื้อในครอบครัว

ส่วนอีกข้อมูลคือเรื่อง วัคซีน แม้แต่ชนิด mRNA ที่มีการฉีดในต่างประเทศ ก็ยังพบการระบาดอีก จึงขอให้ประชาชนเข้าใจว่า วัคซีนทุกตัว แม้แต่ซิโนแวคไม่สามารถกันติดเชื้อ แต่ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง หรือเข้าไอซียูได้ โดยสามารถป้องกันได้ถึง 90% จึงขอให้ประชาชนรีบไปฉีดวัคซีน เพราะแพทย์ พยาบาล ทำงานหนักมาก
 
ทั้งนี้ หากจะคิดแบบเดิมคือการล็อกดาวน์นั้นไม่ได้แล้ว เพราะจะกระทบต่อตัวเลขรายได้เศรษฐกิจ ศบค.จึงผ่อนปรน เพราะต้องหาจุดสมดุลระหว่างเรื่องสุขภาพและเศรษฐกิจ แต่ทุกคนและทุกองค์กรต้องปฏิบัติตามระบบสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยทุกคนต้องกลับมาดูแลตัวเอง

ส่วนเป้าหมายการควบคุมโควิด-19 ที่เปลี่ยนไป เพราะภายในเดือน ธ.ค. นี้ ไม่มีทางที่ตัวเลขจะเป็นศูนย์ ด้วยเหตุผลตามข้างผล แต่ ศบค. มีเป้าหมายคือ..✏

1. จะดำเนินการให้ตัวเลขน้อยลง และให้ประชาชนดำเนินชีวิตได้ ตามแบบวิถีใหม่
2. ฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยให้มีสมดุลทางสุขภาพ
3. เปิดประเทศให้ได้ โดยให้คนไทยมีกิจกรรมร่วมกันได้ และต่างประเทศเข้ามาได้

https://www.thairath.co.th/news/politic/2188568



https://siamrath.co.th/n/278757

เม่าแพนด้า วันนี้ติดเชื้อสูงขึ้นมานิดๆ แต่คนหายป่วยยังมากกว่าค่ะ

ส่วนผู้เสียชีวิตจำนวนสูงเหมือนเดิม ซึ่งมาจากอาการป่วยหนักที่ต่อเนื่องจากรายงานที่ผ่านมา

วานนี้ฉีดวัคซีนสูงถึงแปดแสนกว่าโดส ทำให้ยอดรวมผู้ฉีดวัคซีนยิ่งเพิ่มมากขึ้น

โควิดแฝงอยู่ในประเทศถึง 5-6 เท่าของที่ป่วยอยู่ จึงต้องรู้ทันไว้ และดูแลตัวเองให้รอดปลอดภัยค่ะ

สัปดาห์ที่ผ่านมายอดติดเชื้อลดลง ยอดเสียชีวิตมีทิศทางลดลง
รัฐบาลและสธ.ดูแลประชาชนได้ยอดเยี่ยมค่ะ

ต้องขอบคุณแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าทุกท่านนะคะ

ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกค่ะ  เชิญติดตามนะคะ.....
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 8 กันยายน 2564 เวลา 12.30 น.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 8 กันยายน 2564 เวลา 12.30 น.

กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 8 กันยายน 2564 เวลา 13.30 น.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 8 กันยายน 2564


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพุธที่ 8 กันยายน 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/402741888010808


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันพุธที่ 8 กันยายน 2564

ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 14,176 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,322,519 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 11,940 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 506 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น  16 ราย
- ผู้ติดเชื้อในสถานกักกันของรัฐสะสม 5,033 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้  1,714 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 260,595 ราย)

เสียชีวิตรวม 13,511 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 228 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 1,166,364 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 16,769 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 142,644 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 13,654 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(3,691) ปริมณฑล (2,255) จังหวัดอื่น ๆ (7,708)

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้  16  ราย และเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่เชียงราย(4) สระแก้ว(3) กรุงเทพฯ(5) และ สตูล(4) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศแคนาดา  1 ราย
- จากประเทศอินโดนีเซีย 1 ราย
- จากประเทศตุรกี 1 ราย
- จากประเทศฟิลิปปินส์  2 ราย
- จากประเทศเมียนมา 2 ราย
- จากประเทศมาเลเซีย 4 ราย
- จากประเทศลาว 2 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 3 ราย

สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 222.7  ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.5 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.06 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 199.2  ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.45)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่  107,060 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 669,022 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 33  ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 38,130 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 32.2 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.4
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 29  และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 44 ของโลก

สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 420,402  ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,017 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 16,082 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,880,734 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่  18,547  ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 96,339 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,981 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 16,365  ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 10,781  ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่  14,208  ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 13,701 ราย

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/4136240016501539
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่