พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย ใน State Quarantine กลับจากสิงคโปร์ หายป่วยเพิ่มอีก 1 ราย
สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศ ยอดสะสม 3,390 ราย มีผู้รักษาหายป่วยแล้วสะสม 3,219 ราย โดยขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 113 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
วันนี้ (21 ส.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโญธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศสิงคโปร์ และเข้า State Quarantine
สำหรับยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,390 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 ราย และตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จำนวน 453 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,219 ราย ส่วนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 113 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
ประวัติผู้ป่วยรายใหม่ เดินทางกลับจากประเทศสิงคโปร์ เป็นชายไทย อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานบริษัท/โรงงาน ถึงไทยเมื่อวันที่ 7 ส.ค. (เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 3 ราย) เข้าพัก State Quarantine จังหวัดชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 18 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
https://mgronline.com/qol/detail/9630000085773
สบายใจได้!ปลัดสธ.ย้ำตรวจเชื้อโควิดคนใกล้ชิดหญิง 2รายแล้วยังปกติ
21 ส.ค.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 2 หญิงไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และผ่านการกักกันตัวรัฐ แต่พบซากเชื้อโควิด-19 ว่าคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่นกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อินเดีย มีโอกาสที่จะติดเชื้อโควิด-19 ได้ บางคนเป็นแล้วหาย แต่เมื่อหายแล้วบางคนยังพบซากเชื้ออยู่ ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำในวันนี้ คือ ทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศไทยต้องผ่านการกักกันตัวอย่างน้อย 14 วัน และทำการตรวจเชื้อ ทั้งเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ทั้งนี้ เคสที่เกิดขึ้นล่าสุด พบเชื้อที่น้อยมาก แต่ก็ดำเนินการตรวจเพาะเชื้ออีกครั้ง ซึ่งจะทราบผลใน 7 วันและตรวจภูมิคุ้มกันมั่นใจเคสนี้ไม่ได้เพิ่งเป็น แต่เป็นมานานแล้ว
นพ.สุขุม กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ได้ติดตามญาติ พี่น้อง คนใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความมั่นใจ นำมาตรวจเชื้อ โดยขณะนี้พบว่า ทุกคนยังเป็นปกติ จึงอยากให้ทุกคนมั่นใจ และขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้พัฒนาแล็ป ในการตรวจเชื้อ ซึ่งได้ดำเนินการตรวจเชื้อไปแล้วถึง 8 แสนราย เทียบอัตราส่วน 16,000 คนต่อประชากร 1 ล้านคน พบคนติดเชื้อเพียงร้อยละ 0.5 เท่านั้น ถือว่าอยู่ในปริมาณที่น้อยมาก และนี่คือการติดตามและควบคุมได้ดี อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ศบค.จะรายงานให้นายกฯได้รับทราบถึงการตรวจเชื้อ และการติดตามในทุกขั้นตอน รวมถึงการรายงานสถานการณ์โควิด 19 ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะต่างประเทศที่มีการระบาดรอบ 2 และการเตรียมหาวัคซีน อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับประชาชนด้วย ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ 2 จังหวัด ที่พบซากเชื้อโควิดสบายใจได้ เพราะจากการตรวจเชื้อเบื้องต้นบุคคลใกล้ชิดยังไม่พบใครติดโควิด-19
นพ.สุขุม กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าพัฒนาวัคซีนในไทย มีทั้งการพัฒนาในมหาวิทยาลัย และความร่วมมือด้านวิชาการกับทางมหาวิทยาลัย ต่างประเทศ รวมถึงการจัดหาวัคซีนจากบริษัทอื่นๆ ซึ่งเร่งดำเนินการในเร็วๆ นี้
http://www.thaipost.net/main/detail/75110
‘
เกาหลีใต้’ ติดเชื้อพุ่งวันเดียว 324 คน สธ.เตือนไวรัสใน ‘โซล’ เสี่ยงแพร่กระจาย วอนเร่งตรวจเชื้อ-กักตัว
รอยเตอร์ – เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 324 รายในรอบ 24 ชั่วโมง นับเป็นวันที่ 8 ต่อเนื่องที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเกินร้อย ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขออกมาเตือนวันนี้ (21 ส.ค.) ว่าการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อนของโควิด-19 ในกรุงโซลมีแนวโน้มแพร่กระจายไปทั่วประเทศหลังการชุมนุมขับไล่รัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมเป็นพันๆ คน
แม้การติดเชื้อระลอกใหม่นี้จะเกิดขึ้นในหมู่สมาชิกโบสถ์เป็นหลัก ทว่าบางคนก็ไปร่วมการชุมนุมด้วย ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องประกาศเตือนให้ผู้ที่อยู่ในข่ายเสี่ยงมารับการตรวจโดยเร็ว เพื่อป้องกันไวรัสกลับมาแพร่ระบาดหนักจนอาจควบคุมไม่อยู่
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (KCDC) ยืนยันจำนวนผู้ป่วยใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงจนถึงเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดี (20 ส.ค.) รวมทั้งสิ้น 324 ราย นับเป็นสถิติรายวันสูงสุดตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. เป็นต้นมา และทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมของเกาหลีใต้ขยับไปอยู่ที่ 16,670 คน เสียชีวิต 309 คน
“นี่คือสถานการณ์ที่ร้ายแรงมาก” คิม กังลิป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทวรวงสาธารณสุข ระบุในงานแถลงข่าว พร้อมเผยว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังพยายามรวบรวมรายชื่อบุคคลที่เข้าร่วมประท้วงในกรุงโซล รวมถึงคนขับรถที่พาผู้ชุมนุมมาจากจังหวัดต่างๆ ด้วย
พนักงานสอบสวนโรคและตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือเพื่อระบุตำแหน่งของประชาชนราว 12,000 คนซึ่งอยู่ในพื้นที่ชุมนุม และกำลังขอความร่วมมือจากทางโบสถ์เพื่อให้ส่งรายชื่อสมาชิกทั้งหมดให้แก่ทางการ
เกาหลีใต้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบด้านการต่อสู้โควิด-19 ด้วยมาตรการ “ติดตาม, ทดสอบ และรักษา” ผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างกว้างขวางและเป็นระบบ ซึ่งช่วยชะลอการแพร่เชื้อให้ลดลงมาอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็กำลังหันกลับไปใช้วิธีเดิมเพื่อยับยั้งการกลับมาของโควิด-19 และขอร้องให้ประชาชนที่รู้ตัวว่าอาจจะเคยใกล้ชิดผู้ป่วยรีบเข้ารับการตรวจและกักกันตนเอง
กรุงโซลและเมืองอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงเริ่มนำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมกลับมาใช้ใหม่ เช่น ห้ามจัดกิจกรรมรวมคน, ห้ามประกอบพิธีกรรมภายในโบสถ์ รวมถึงสั่งปิดไนต์คลับ, บาร์คาราโอเกะ, ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ และคาเฟ่ไซเบอร์ต่างๆ
ขณะเดียวกัน แพทย์เกาหลีใต้หลายพันคนก็ประท้วงหยุดงานในวันศุกร์ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 เพื่อคัดค้านแผนของรัฐบาลที่จะทำการฝึกอบรมแพทย์รุ่นใหม่อีกหลายพันคน
รัฐบาลโซลมีแผนเพิ่มจำนวนนักศึกษาแพทย์อีก 4,000 คนในระยะ 10 ปีข้างหน้า โดยอ้างความจำเป็นที่จะต้องเตรียมบุคลากรด้านสาธารณสุขของประเทศให้พร้อมรับมือวิกฤตการณ์ที่คล้ายกับการระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ดี สมาคมแพทย์เกาหลีใต้ (KMA) ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดการประท้วงระบุว่า เกาหลีใต้มีแพทย์อยู่เป็นจำนวนมากเพียงพออยู่แล้ว
https://mgronline.com/around/detail/9630000085743
มันกลับมาแล้ว!ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อโควิดรายวัน4,700คน สูงสุดตั้งแต่คลายล็อกดาวน์
รอยเตอร์ - ฝรั่งเศสเมื่อวันพฤหัสบดี(20ส.ค.) รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) รายใหม่ 4,711 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่คลายล็อกดาวน์และเป็นระดับที่พบเห็นครั้งสุดท้ายในช่วงพีคสุดของการแพร่ระบาดในฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง
ระหว่างล็อกดาวน์ ในช่วงพีคสุดของการแพร่ระบาด ฝรั่งเศสพบเห็นผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันสูงสุด 7,578 คนในวันที่ 31 มีนาคม ทว่านับแต่นั้น มีไม่กี่วันที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันอยู่เหนือระดับ 4,500 คน ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนเมษายน
หลังจากมาตรการล็อกดาวน์สิ้นสุดลงในวันที่ 10 พฤษภาคม จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเคยลดลงสู่ระดับต่ำสุดเหลือเพียงแค่ 115 คนในวันที่ 24 พฤษภาคม และค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันรอบ 7 วันในช่วงไม่กี่วันหลังจากนั้น ลดลงสู่ระดับ 272 คน จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่นั้น ผู้ติดเชื้อใหม่รายวันได้หวนคืนสู่ระดับราวๆ 1,000 คนในช่วงปลายเดือนกรกฏาคม และจำนวนยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีกในช่วงกลางเดือนสิงหาคม โดยเวลานี้ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในรอบ 7 วันอยู่ที่เฉียดๆ 3,000 คน เป็นระดับที่พบเห็นครั้งสุดท้ายคือในช่วงกลางเดือนเมษายน
กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสบอกว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทำการตรวจเชื้อประชาชน 664,000 คน ส่งผลให้นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น พวกเขาได้ดำเนินการตรวจเชื้อไปแล้วกว่า 6 ล้านคน
ทางกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสพบว่าเปอร์เซ็นต์ของผู้มีผลตรวจออกมาเป็นบวกกำลังเพิ่มสูงขึ้นและอยู่ที่ระดับ 3.3% ในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 11-17 สิงหาคม จากระดับ 2.1% ในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม และเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากระดับ 1.5% ที่เคยพบเห็นในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม
แม้อัตราผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่จำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลค่อนข้างทรงตัว โดยลดลง 58 คน สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่คลายล็อกดาวน์ที่จำนวน 4,748 คน ขณะที่จำนวนผู้ที่นอนรักษาตัวในห้องไอซียูเพิ่มขึ้น 6 คนเป็น 380 คน ซึ่งเป็นระดับที่ทรงตัวมานานเกือบ 1 เดือนแล้ว
รัฐบาลบอกว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นผลจากข้อเท็จจริงที่ว่า เวลานี้ส่วนใหญ่แล้วไวรัสกำลังวนเวียนในหมู่คนหนุ่มสาว กลุ่มคนซึ่งไม่มีอาการรุนแรง
ทั้งนี้ฝรั่งเศสรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 12 คนในวันพฤหัสบดี(20ส.ค.) เป็นไปตามกรอบค่าเฉี่ยรายสัปดาห์ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 30,480 คน จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 229,814 คน
https://mgronline.com/around/detail/9630000085656
"
ง" เผยความหวัง สิ้นปีนี้ได้เห็น "วัคซีน" ป้องกัน "โควิด-19" แน่นอน
"ศ.นพ.ยง ภู่วรรณ" คาดสิ้นปีนี้มีโอกาสพบผู้ป่วย "โควิด-19" ทั่วโลกทะลุ 50 ล้านคน พร้อมเผยความคืบหน้า "วัคซีน" ภายในสิ้นปีนี้ได้เห็นแน่นอน
วันที่ 21 ส.ค. 2563 ศ.นพ.ยง ภู่วรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยควบคุมสถาการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ไว้ได้ดีมาก จนกระทั่งเป็น 1 ใน 7 ประเทศที่องค์การอนามัยโลกชื่นชม
สำหรับโอกาสที่จะควบคุมการระบาดของเชื้อภายในประเทศ จะเป็นไปได้นานแค่ไหนนั้น ต้องยอมรับก่อนว่าในต่างประเทศยังมีการระบาดอย่างหนัก ซึ่งตัวเลขขนาดนี้พุ่งเกิน 22 ล้านคนของทั่วโลก ซึ่งมีการคาดคะเนไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีผู้ป่วยติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านคน และอาจจะมีผู้เสียชีวิตถึง 1.5 ล้านคน เมื่อทุกคนเห็นถึงตัวเลขนี้ค่อนข้างที่จะตกใจ
แต่ขณะนี้ เรากำลังรอยารักษา เพื่อที่จะมาลดความรุนแรงของโรคได้ ถ้ามียารักษา แม้จะมีผู้ติดเชื้อ แต่ไม่เป็นปอดบวม และไม่เสียชีวิต ถือเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการ ส่วนสิ่งที่ต้องการมากขึ้นไปอีก คือ วัคซีน ซึ่งภายในสิ้นปีนี้ได้เห็นแน่นอน
สำหรับคำว่า จะเกิดระบาดรอบ 2 ไหมนั้น ถ้าเรามีมาตรการที่ดี เช่น ถ้ามีเคสที่หลุดเข้ามาแล้ว เราสามารถควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดใหญ่ได้ ถือเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง ซึ่งการระบาดของโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเกิดในผู้ใหญ่ก่อน โดยส่วนใหญ่จากหลายประเทศจะเริ่มระบาดจากเขตเมือง ซึ่งถ้าหากมีการระบาดแล้วเราควบคุมได้
หลายคนไม่อยากให้มีการระบาดระลอก 2 แต่ถ้าหากมีการระบาดจริงๆ ถ้าอยู่ในสถานะที่เราควบคุมได้ แล้วทุกคนสามารถดำรงชีวิตปกติ ทำมาหากินได้ ก็คงต้องยอมรับในประเด็นนั้น
ส่วนเรื่องที่คนพูดกันว่า การระบาดระลอก 2 เชื้อจะกลายพันธุ์ไหม ขอชี้แจงว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ หรือ ไวรัส ต่างก็มีวิวัฒนาการเหมือนกัน ขณะที่ไวรัสโควิด-19 มีการแบ่งตัวเร็วมาก เปรียบคือสามารถออกลูกหลานได้ เพราะฉะนั้นการตั้งชื่อสายพันธุ์ให้ไวรัส จะทำให้รู้ว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากที่ไหน ซึ่งจุดนี้จะมาช่วยในเรื่องของการระบาดวิทยา
https://www.thairath.co.th/news/local/1915329
ไทยยังไม่มีข่าวการติดเชื้อในประเทศ
รอดูผลการตรวจคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อไปค่ะ
เรายังไม่น่ากังวลเท่าตปท.นะคะ
สู้กันต่อไปค่ะ
🔴มาลาริน/21ส.ค.ไทยพบโควิด1ราย จากตปท. คนใกล้ชิดหญิง 2 รายปกติ เกาหลีใต้พบ 324คน ฝรั่งเศสพบ7,400 คน คาดสิ้นปีมีวัคซีน
พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย ใน State Quarantine กลับจากสิงคโปร์ หายป่วยเพิ่มอีก 1 ราย
สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศ ยอดสะสม 3,390 ราย มีผู้รักษาหายป่วยแล้วสะสม 3,219 ราย โดยขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 113 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
วันนี้ (21 ส.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโญธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศสิงคโปร์ และเข้า State Quarantine
สำหรับยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,390 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 ราย และตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จำนวน 453 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,219 ราย ส่วนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 113 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
ประวัติผู้ป่วยรายใหม่ เดินทางกลับจากประเทศสิงคโปร์ เป็นชายไทย อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานบริษัท/โรงงาน ถึงไทยเมื่อวันที่ 7 ส.ค. (เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 3 ราย) เข้าพัก State Quarantine จังหวัดชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 18 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
https://mgronline.com/qol/detail/9630000085773
สบายใจได้!ปลัดสธ.ย้ำตรวจเชื้อโควิดคนใกล้ชิดหญิง 2รายแล้วยังปกติ
21 ส.ค.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 2 หญิงไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และผ่านการกักกันตัวรัฐ แต่พบซากเชื้อโควิด-19 ว่าคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่นกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อินเดีย มีโอกาสที่จะติดเชื้อโควิด-19 ได้ บางคนเป็นแล้วหาย แต่เมื่อหายแล้วบางคนยังพบซากเชื้ออยู่ ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำในวันนี้ คือ ทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศไทยต้องผ่านการกักกันตัวอย่างน้อย 14 วัน และทำการตรวจเชื้อ ทั้งเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ทั้งนี้ เคสที่เกิดขึ้นล่าสุด พบเชื้อที่น้อยมาก แต่ก็ดำเนินการตรวจเพาะเชื้ออีกครั้ง ซึ่งจะทราบผลใน 7 วันและตรวจภูมิคุ้มกันมั่นใจเคสนี้ไม่ได้เพิ่งเป็น แต่เป็นมานานแล้ว
นพ.สุขุม กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ได้ติดตามญาติ พี่น้อง คนใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความมั่นใจ นำมาตรวจเชื้อ โดยขณะนี้พบว่า ทุกคนยังเป็นปกติ จึงอยากให้ทุกคนมั่นใจ และขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้พัฒนาแล็ป ในการตรวจเชื้อ ซึ่งได้ดำเนินการตรวจเชื้อไปแล้วถึง 8 แสนราย เทียบอัตราส่วน 16,000 คนต่อประชากร 1 ล้านคน พบคนติดเชื้อเพียงร้อยละ 0.5 เท่านั้น ถือว่าอยู่ในปริมาณที่น้อยมาก และนี่คือการติดตามและควบคุมได้ดี อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ศบค.จะรายงานให้นายกฯได้รับทราบถึงการตรวจเชื้อ และการติดตามในทุกขั้นตอน รวมถึงการรายงานสถานการณ์โควิด 19 ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะต่างประเทศที่มีการระบาดรอบ 2 และการเตรียมหาวัคซีน อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับประชาชนด้วย ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ 2 จังหวัด ที่พบซากเชื้อโควิดสบายใจได้ เพราะจากการตรวจเชื้อเบื้องต้นบุคคลใกล้ชิดยังไม่พบใครติดโควิด-19
นพ.สุขุม กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าพัฒนาวัคซีนในไทย มีทั้งการพัฒนาในมหาวิทยาลัย และความร่วมมือด้านวิชาการกับทางมหาวิทยาลัย ต่างประเทศ รวมถึงการจัดหาวัคซีนจากบริษัทอื่นๆ ซึ่งเร่งดำเนินการในเร็วๆ นี้
http://www.thaipost.net/main/detail/75110
‘เกาหลีใต้’ ติดเชื้อพุ่งวันเดียว 324 คน สธ.เตือนไวรัสใน ‘โซล’ เสี่ยงแพร่กระจาย วอนเร่งตรวจเชื้อ-กักตัว
รอยเตอร์ – เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 324 รายในรอบ 24 ชั่วโมง นับเป็นวันที่ 8 ต่อเนื่องที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเกินร้อย ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขออกมาเตือนวันนี้ (21 ส.ค.) ว่าการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อนของโควิด-19 ในกรุงโซลมีแนวโน้มแพร่กระจายไปทั่วประเทศหลังการชุมนุมขับไล่รัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมเป็นพันๆ คน
แม้การติดเชื้อระลอกใหม่นี้จะเกิดขึ้นในหมู่สมาชิกโบสถ์เป็นหลัก ทว่าบางคนก็ไปร่วมการชุมนุมด้วย ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องประกาศเตือนให้ผู้ที่อยู่ในข่ายเสี่ยงมารับการตรวจโดยเร็ว เพื่อป้องกันไวรัสกลับมาแพร่ระบาดหนักจนอาจควบคุมไม่อยู่
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (KCDC) ยืนยันจำนวนผู้ป่วยใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงจนถึงเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดี (20 ส.ค.) รวมทั้งสิ้น 324 ราย นับเป็นสถิติรายวันสูงสุดตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. เป็นต้นมา และทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมของเกาหลีใต้ขยับไปอยู่ที่ 16,670 คน เสียชีวิต 309 คน
“นี่คือสถานการณ์ที่ร้ายแรงมาก” คิม กังลิป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทวรวงสาธารณสุข ระบุในงานแถลงข่าว พร้อมเผยว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังพยายามรวบรวมรายชื่อบุคคลที่เข้าร่วมประท้วงในกรุงโซล รวมถึงคนขับรถที่พาผู้ชุมนุมมาจากจังหวัดต่างๆ ด้วย
พนักงานสอบสวนโรคและตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือเพื่อระบุตำแหน่งของประชาชนราว 12,000 คนซึ่งอยู่ในพื้นที่ชุมนุม และกำลังขอความร่วมมือจากทางโบสถ์เพื่อให้ส่งรายชื่อสมาชิกทั้งหมดให้แก่ทางการ
เกาหลีใต้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบด้านการต่อสู้โควิด-19 ด้วยมาตรการ “ติดตาม, ทดสอบ และรักษา” ผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างกว้างขวางและเป็นระบบ ซึ่งช่วยชะลอการแพร่เชื้อให้ลดลงมาอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็กำลังหันกลับไปใช้วิธีเดิมเพื่อยับยั้งการกลับมาของโควิด-19 และขอร้องให้ประชาชนที่รู้ตัวว่าอาจจะเคยใกล้ชิดผู้ป่วยรีบเข้ารับการตรวจและกักกันตนเอง
กรุงโซลและเมืองอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงเริ่มนำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมกลับมาใช้ใหม่ เช่น ห้ามจัดกิจกรรมรวมคน, ห้ามประกอบพิธีกรรมภายในโบสถ์ รวมถึงสั่งปิดไนต์คลับ, บาร์คาราโอเกะ, ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ และคาเฟ่ไซเบอร์ต่างๆ
ขณะเดียวกัน แพทย์เกาหลีใต้หลายพันคนก็ประท้วงหยุดงานในวันศุกร์ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 เพื่อคัดค้านแผนของรัฐบาลที่จะทำการฝึกอบรมแพทย์รุ่นใหม่อีกหลายพันคน
รัฐบาลโซลมีแผนเพิ่มจำนวนนักศึกษาแพทย์อีก 4,000 คนในระยะ 10 ปีข้างหน้า โดยอ้างความจำเป็นที่จะต้องเตรียมบุคลากรด้านสาธารณสุขของประเทศให้พร้อมรับมือวิกฤตการณ์ที่คล้ายกับการระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ดี สมาคมแพทย์เกาหลีใต้ (KMA) ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดการประท้วงระบุว่า เกาหลีใต้มีแพทย์อยู่เป็นจำนวนมากเพียงพออยู่แล้ว
https://mgronline.com/around/detail/9630000085743
มันกลับมาแล้ว!ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อโควิดรายวัน4,700คน สูงสุดตั้งแต่คลายล็อกดาวน์
รอยเตอร์ - ฝรั่งเศสเมื่อวันพฤหัสบดี(20ส.ค.) รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) รายใหม่ 4,711 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่คลายล็อกดาวน์และเป็นระดับที่พบเห็นครั้งสุดท้ายในช่วงพีคสุดของการแพร่ระบาดในฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง
ระหว่างล็อกดาวน์ ในช่วงพีคสุดของการแพร่ระบาด ฝรั่งเศสพบเห็นผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันสูงสุด 7,578 คนในวันที่ 31 มีนาคม ทว่านับแต่นั้น มีไม่กี่วันที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันอยู่เหนือระดับ 4,500 คน ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนเมษายน
หลังจากมาตรการล็อกดาวน์สิ้นสุดลงในวันที่ 10 พฤษภาคม จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเคยลดลงสู่ระดับต่ำสุดเหลือเพียงแค่ 115 คนในวันที่ 24 พฤษภาคม และค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันรอบ 7 วันในช่วงไม่กี่วันหลังจากนั้น ลดลงสู่ระดับ 272 คน จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่นั้น ผู้ติดเชื้อใหม่รายวันได้หวนคืนสู่ระดับราวๆ 1,000 คนในช่วงปลายเดือนกรกฏาคม และจำนวนยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีกในช่วงกลางเดือนสิงหาคม โดยเวลานี้ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในรอบ 7 วันอยู่ที่เฉียดๆ 3,000 คน เป็นระดับที่พบเห็นครั้งสุดท้ายคือในช่วงกลางเดือนเมษายน
กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสบอกว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทำการตรวจเชื้อประชาชน 664,000 คน ส่งผลให้นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น พวกเขาได้ดำเนินการตรวจเชื้อไปแล้วกว่า 6 ล้านคน
ทางกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสพบว่าเปอร์เซ็นต์ของผู้มีผลตรวจออกมาเป็นบวกกำลังเพิ่มสูงขึ้นและอยู่ที่ระดับ 3.3% ในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 11-17 สิงหาคม จากระดับ 2.1% ในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม และเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากระดับ 1.5% ที่เคยพบเห็นในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม
แม้อัตราผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่จำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลค่อนข้างทรงตัว โดยลดลง 58 คน สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่คลายล็อกดาวน์ที่จำนวน 4,748 คน ขณะที่จำนวนผู้ที่นอนรักษาตัวในห้องไอซียูเพิ่มขึ้น 6 คนเป็น 380 คน ซึ่งเป็นระดับที่ทรงตัวมานานเกือบ 1 เดือนแล้ว
รัฐบาลบอกว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นผลจากข้อเท็จจริงที่ว่า เวลานี้ส่วนใหญ่แล้วไวรัสกำลังวนเวียนในหมู่คนหนุ่มสาว กลุ่มคนซึ่งไม่มีอาการรุนแรง
ทั้งนี้ฝรั่งเศสรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 12 คนในวันพฤหัสบดี(20ส.ค.) เป็นไปตามกรอบค่าเฉี่ยรายสัปดาห์ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 30,480 คน จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 229,814 คน
https://mgronline.com/around/detail/9630000085656
"ง" เผยความหวัง สิ้นปีนี้ได้เห็น "วัคซีน" ป้องกัน "โควิด-19" แน่นอน
"ศ.นพ.ยง ภู่วรรณ" คาดสิ้นปีนี้มีโอกาสพบผู้ป่วย "โควิด-19" ทั่วโลกทะลุ 50 ล้านคน พร้อมเผยความคืบหน้า "วัคซีน" ภายในสิ้นปีนี้ได้เห็นแน่นอน
วันที่ 21 ส.ค. 2563 ศ.นพ.ยง ภู่วรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยควบคุมสถาการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ไว้ได้ดีมาก จนกระทั่งเป็น 1 ใน 7 ประเทศที่องค์การอนามัยโลกชื่นชม
สำหรับโอกาสที่จะควบคุมการระบาดของเชื้อภายในประเทศ จะเป็นไปได้นานแค่ไหนนั้น ต้องยอมรับก่อนว่าในต่างประเทศยังมีการระบาดอย่างหนัก ซึ่งตัวเลขขนาดนี้พุ่งเกิน 22 ล้านคนของทั่วโลก ซึ่งมีการคาดคะเนไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีผู้ป่วยติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านคน และอาจจะมีผู้เสียชีวิตถึง 1.5 ล้านคน เมื่อทุกคนเห็นถึงตัวเลขนี้ค่อนข้างที่จะตกใจ
แต่ขณะนี้ เรากำลังรอยารักษา เพื่อที่จะมาลดความรุนแรงของโรคได้ ถ้ามียารักษา แม้จะมีผู้ติดเชื้อ แต่ไม่เป็นปอดบวม และไม่เสียชีวิต ถือเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการ ส่วนสิ่งที่ต้องการมากขึ้นไปอีก คือ วัคซีน ซึ่งภายในสิ้นปีนี้ได้เห็นแน่นอน
สำหรับคำว่า จะเกิดระบาดรอบ 2 ไหมนั้น ถ้าเรามีมาตรการที่ดี เช่น ถ้ามีเคสที่หลุดเข้ามาแล้ว เราสามารถควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดใหญ่ได้ ถือเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง ซึ่งการระบาดของโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเกิดในผู้ใหญ่ก่อน โดยส่วนใหญ่จากหลายประเทศจะเริ่มระบาดจากเขตเมือง ซึ่งถ้าหากมีการระบาดแล้วเราควบคุมได้
หลายคนไม่อยากให้มีการระบาดระลอก 2 แต่ถ้าหากมีการระบาดจริงๆ ถ้าอยู่ในสถานะที่เราควบคุมได้ แล้วทุกคนสามารถดำรงชีวิตปกติ ทำมาหากินได้ ก็คงต้องยอมรับในประเด็นนั้น
ส่วนเรื่องที่คนพูดกันว่า การระบาดระลอก 2 เชื้อจะกลายพันธุ์ไหม ขอชี้แจงว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ หรือ ไวรัส ต่างก็มีวิวัฒนาการเหมือนกัน ขณะที่ไวรัสโควิด-19 มีการแบ่งตัวเร็วมาก เปรียบคือสามารถออกลูกหลานได้ เพราะฉะนั้นการตั้งชื่อสายพันธุ์ให้ไวรัส จะทำให้รู้ว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากที่ไหน ซึ่งจุดนี้จะมาช่วยในเรื่องของการระบาดวิทยา
https://www.thairath.co.th/news/local/1915329
ไทยยังไม่มีข่าวการติดเชื้อในประเทศ
รอดูผลการตรวจคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อไปค่ะ
เรายังไม่น่ากังวลเท่าตปท.นะคะ
สู้กันต่อไปค่ะ