ตากระตุกบอกเหตุจริงไหม เรางมงายเองรึเปล่า?

กระทู้คำถาม
คือเราเป็นคนที่ตากระตุกบ่อยมาก ตั้งแต่เด็กๆเลย แต่ด้วยความเป็นเด็กไม่ค่อยได้สังเกตุว่ามันคืออาการที่เกิดจากอะไร แต่พอช่วงเริ่มโตอายุซัก 17ปี เริ่มนั่งสังเกตุพฤติกรรมของตัวเอง จนอายุประมาณ18-19ปี เริ่มสรุปอาการตากระตุกด้วยตัวเองว่ามันคือเซนต์บอกเหตุ แต่ช่วงแรกที่เริ่มสักเหตุเราแค่คิดว่า เอ๊ะเราเล่นมือถือมากไปรึเปล่า ใช้คอมมากเกินไปรึเปล่า ทำให้ตาล้า ตากระตุก เราได้ทำการทดลองหยุดเล่นมือถือเยอะๆลง ทดลองอยู่หลายครั้ง บางครั้งกระตุกบ้างไม่กระตุกบ้าง ซึ่งขอเริ่มบอกจากตรงนี้นะคะ ว่าอาการตากระตุกของเราเนี่ย ไม่ได้กระตุกที่เดิมซ้ำๆ  เราใช้เวลาในการสังเกตุอาการตากระตุกและเหตุการที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตากระตุกมาตลอดระยะเวลาหลายปี อาการตากระตุกในตำแหน่งที่ต่างๆรอบดวงตา ทั้งข้างซ้ายและขวามันบอกเหตุร้ายและเหตุดีกับเรา เราสามารถระบุได้100%เลยว่าเหตุที่จะเกิดเรื่องดี หรือร้าย และใครคือคนที่มีดหตุนั้นร่วมกับเรา เราสามารถรู้ได้เลยว่ามันเป็นเหตุการอะไร หรือจะเกิดเรื่องดีหรือร้ายกับคนในครอบครัวเรา ประมาณนี้ ซึ่งช่วงที่เราสังเกตุแรกๆ เราก็คิดว่าเราฟลุ๊คล่ะมั้งงง เพราะเรายึดหลังขวาร้ายซ้ายดีตามที่ได้ยินมาตั้งแต่จำความได้ ขอบอกเบื้องต้นว่า พ่อของเราท่านบวชตั้งแต่เรา5ขวบจนตอนนี้เราจะอายุ22แล้ว และเราคิดว่าท่านคงจะบวชตลอดชีวิต ท่านเป็นพระสายวัดป่า วัดถ้ำกระบอก ท่านเป็นสายโลกุตะระธรรม ซึ่งเคร่งสัจจะมาก หากรับสัจจะแล้วทำไม่ได้ คือแรงมาก ซึ่งเราเคยเจอมากับตัว ซึงเรามีป้า2คนที่เค้าอาศัยอยู่ต่างประเทศเนี่ยจะลงมาไทยบ่อยมาก ป้าทั้ง2สรัทธาในพ่อเรามาก และเราต้องไปทำบุญด้วยตลอด เรียกได้ว่าบ่อยมากเดินสายทำบุญนอนโลงศพมั่งล่ะ เปิดตาที่3บ้างล่ะ มีบางครั้งที่นั่งสมาธินานมากๆ เราช่วงที่เราทำบุญบ่อยๆเราชอบเห็นอะไรแปลกในสมาธิเรา เราร้องไห้ออกมาดังมากระหว่างที่นั่งสมาธิ จริงๆเราเหมือนเริ่มรู้สึกตัวว่าร้องไห้ แต่มันหยุดไม่ได้ เเล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราร้องเสียงดังเพราะหูมันชาไปหมด แต่เรายังคงเห็นอะไรแปลกๆเวลานั่งสมาธิ จนหลวงพ่อ(พ่อของเรา) บอกว่าเรามีเซนต์นะ มีคนคอยดูแล ทำตัวดีๆ ประมาณนี้ เเต่เราเองด้วยความไม่ค่อยเชื่อมากขนาดนั้น ก็รับฟังแต่ก็ไม่อะไร เนี่ยย เรามีอาการตากระตุกที่เราสั่งเกตุอะ เรามานั่งนึกถึงคำที่หลวงพ่อพูดว่าเรามีเซนต์แต่เราก็แอบคิดว่าเรางมงายเองมั้ย แต่ระยะเวลาที่สังเกตุมากับเหตุการที่เกิดขึ้นมันตรงหมดเลย 
ตัวอย่างเหตุการ -วันนั้นเราตากระตุกข้างขวา ซึ่งกระตุกช่วงบนๆของหางตาเราเกือบถึงคิ้ว เวลาที่คิ้วกระตุกเนี่ยจะถีรัวติดกันและหายไป และจะมาอีกในเวลาใกล้เคียงกัน5-10นาที ประมาณ1-3ครั้ง นี่คือเหตุบอกรางของเรา  ก็คือตำแหน่งที่ดวงตากระตุกแบบนี้คือ เรากำลังจะมีเหตุทะเลาะหรือมีปากเสียงกับผู้ใหญ่ในบ้านเราซึ่งเราระบุได้เลยว่าคือป้าของเราเอง ในใจลึกๆเรารู้ด้วยว่าจะเกิดเหตุทะเลาะเรื่องอะไร ซึ่งหมายความว่าถ้าหากกระตุกแถวหางตาเรื่องนี้จะเกี่ยวกับผู้ใหญ่ที่อายุตั้งแต่40ปีขึ้นไป ดีมาก,ร้ายมาก หรือดีน้อย,ร้ายน้อย ขึ้นอยู่กับระดับความสูงเริ่มจากจะระดับหางตาไปถึงหางคิ้ว ถ้าระดับเปลือกกลางตาคือเรื่องของคนรุ่นเดียวกัน-30ปี ดีมาก,ร้ายมาก หรือดีน้อย,ร้ายน้อย ขึ้นอยู่กับระดับความสูงตั้งแต่ตำแหน่งกระตุกไปถึงของคิ้ว แต่ถ้าช่วงล่างของใต้ตาเนี่ยคือจะเป็นคนที่อายุน้อยกว่า ดีมาก,ร้ายมาก หรือดีน้อย,ร้ายน้อย ขึ้นอยู่กับว่ากระตุกไปทางไหนของใต้ตา 
ถ้ากระตุกไปทางหัวตาคือน้อย ถ้าไปทางหางตาคือมาก ทั้งหมดนี้จะดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับข้างซ้ายหรือขวา พอจะนึกออกมั้ยคะ อาจจะพูดแล้วงง แต่อธิบายได้ประมาณนี่ค่ะ ซึ่งเราเองเหมือนรู้ในใจว่าจะเกิดอะไรเราสามารถหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นั้นได้ด้วยค่ะ ซึ่งพอสักเหตุมาซักพักคือเริ่มเชื่อว่าตัวเองมีเซนต์ เพราะจากการที่เจออะไรแปลกๆ ตอนเด็กๆเนี่ยจะเห็นอะไรแปลกๆ พอโตมาเริ่มไม่เห็นแต่สัมผัสได้ทางความรู้สึก โดนอำแบบมองเห็นเต็มตาล่าสุดคือช่วงอายุ11มั้งคะ เห็นเต็มตาเลยคือผู้ชายตัวใหญ่ๆสีดำมายืนทับอกเรา3คน  แล้วก็มีรับสัจจะไปแล้วไม่ทำ โดนเจ้ากรรมนายเวรมาเตือนด้วยการเค้าหน้าต่างแรงมากห้องแทบถล่ม เลยคิดว่าเรามีเซนต์ แต่ก็อาจจะงมงายก็ได้ ช่วงอายุถึง20เกือบ21 เริ่มไม่ค่อยไม่อาการตากระตุกบอกเหตุแล้ว แต่เวลากระตุกเรารู้ตัวว่ามันคือกระตุกเพราะตาล้า ไม่มีความรู้สึกถึงความเตือนภัยหรือบอกเหตุอะไรเลย เพราะเราเหมือนขาดสัจจะที่รับไว้ตั้งแต่เด็ก ยอมรับเลยว่าเราแหกกฎสัจจะที่รับไว้เยอะมากและร้ายแรงมาก ซึ่งในขณะที่เราแหกกฎเรารู้ตัวนะ แต่ก็ยังทำ เลยคิดว่านี่เป็นเหตุให้เราไม่สามารถรับรู้อะไรจากตากระตุกได้อีกเลย แต่พักหลังเราเริ่มมานับถือศาสนาศริสต์ เริ่มนับถือ เเละเชื่อในพระเจ้า เวลาที่เราขอพรท่าน เราได้เสมอเลย แต่เรายังไม่ได้รับเชื่อและเข้าไปเป็นศาสนาคริสต์โดยตรงนะคะ ยังคงกึ่งๆ เพราะรู้สึกผูกพันธ์กัยศาสนาพุทธด้วย จึงเอาคำสอนดีๆของทั้ง2ศาสนามาใช้ ซึ่งเราเสียอาการตากระตุกบอกเหตุไป คือเรามีความรู้สึกใหม่เวลาเจอสถานการณ์ประจันหน้า เรารู้สึกได้ว่าถ้าหาดเราต้องตัดสินใจอะไร มันจะไม่ผิดพลาด เหมือนมีอะไรดลใจเราให้เลือกสิ่งที่ควรเลือกได้ หรือเราเป็นคนมั่นใจในตัวเองและเป็นคนกล้าได้กล้าเสียและสู้มากกับการทำอะไรก็ตาม เลยอยากถามว่าแบบมีใครมีอาการแบบเรามั้ย แล้วที่เราเป็นอยู่คือเรางมงาย หรือเรามีเซนต์จริง คือถ้ามีจริงเสียดายมากเลยอะ มันหายไปแล้วว ใครหลงเข้ามาอ่านบอกเราหน่อยน้าาาาาาา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่