ทุกคนทราบกันดีว่า สิ่งที่เป็นสัญญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา ก็คือ พระรัตนตรัย ประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
ทั้ง 3 คำนี้ เป็นคำในภาษาไทยที่แปลมาจากภาษาบาลี สมัยพุทธกาลไม่ได้ใช้คำนี้
คำว่าพระพุทธหมายถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมหมายถึงพระธรรมคำสั่งสอน
ประเด็นอยู่ตรงคำว่าพระสงฆ์ เพราะถ้าดูจากต้นฉบับภาษาบาลีจะใช้คำว่า สาวกสงฆ์ (สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ)
ถ้าดูในเนื้อหาของคำว่าสาวกสงฆ์ ซึ่งมีอธิบายในพระไตรปิฏกหรือในบทสวดต่างๆ เช่น บทสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ หรือบทสวดอิติปิโส เป็นต้น ได้อธิบายไว้ว่า สาวกสงฆ์ หมายถึงอริยบุคคล 8 จำพวก ได้แก่ โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล ไปจนถึงพระอรหัตตมรรค อรหัตตผล
ในเมื่อคนไทยเราใช้คำว่าพระสงฆ์ แทนที่คำว่าสาวกสงฆ์ จึงเท่ากับว่าคำนี้เป็นคำเฉพาะสำหรับเรียกพระสาวกในพระรัตนตรัย
อีกทั้งในพระไตรปิฏก พระอรรถกถาจารย์ (ซึ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแปลพระไตรปิฏกเป็นภาษาไทย) ได้ขยายความไว้ด้วยว่า คำว่าพระสงฆ์หมายถึงพระอริยสงฆ์เท่านั้น ไม่รวมสมมุติสงฆ์ และสามารถเป็นได้ทั้งพระภิกษุและฆราวาส
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคำว่า "สงฆ์" ซึ่งในความหมายของคำๆ นี้ จริงๆ แล้วแปลว่าหมู่หรือคณะ ถูกใช้ในความหมายอื่นๆ ด้วย เช่น คณะสงฆ์ เป็นต้น บางคนเอาประเด็นนี้มาอ้างเพื่อจะเรียกพระภิกษุว่าพระสงฆ์ ก็ขอให้ทำความเข้าใจด้วยว่า คำว่าพระสงฆ์ถูกนำไปใช้เรียกพระสาวกสงฆ์ในพระรัตนตรัย ดังนั้น คำนี้กลายเป็นคำเฉพาะสำหรับเรียกพระอริยะเช่นกัน
ส่วนพระโดยทั่วไปที่ไม่ใช่พระอริยะ หรือยังไม่บรรลุธรรม เราเรียกว่า พระภิกษุ ยังไม่จัดอยู่ในพระรัตนตรัย (แต่เป็นส่วนหนึ่งของพุทธบริษัท ซึ่งประกอบด้วย พระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา)
ที่จริงผมอยากอธิบายให้ชัดเจนกว่านี้ แต่เพราะการเขียนเป็นตัวหนังสือมันยากกว่าการอธิบายเป็นคำพูด แต่ก็หวังว่าอธิบายเท่านี้น่าจะเข้าใจ
ทำความเข้าใจคำว่า "พระสงฆ์" กับ "พระภิกษุ"
ทั้ง 3 คำนี้ เป็นคำในภาษาไทยที่แปลมาจากภาษาบาลี สมัยพุทธกาลไม่ได้ใช้คำนี้
คำว่าพระพุทธหมายถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมหมายถึงพระธรรมคำสั่งสอน
ประเด็นอยู่ตรงคำว่าพระสงฆ์ เพราะถ้าดูจากต้นฉบับภาษาบาลีจะใช้คำว่า สาวกสงฆ์ (สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ)
ถ้าดูในเนื้อหาของคำว่าสาวกสงฆ์ ซึ่งมีอธิบายในพระไตรปิฏกหรือในบทสวดต่างๆ เช่น บทสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ หรือบทสวดอิติปิโส เป็นต้น ได้อธิบายไว้ว่า สาวกสงฆ์ หมายถึงอริยบุคคล 8 จำพวก ได้แก่ โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล ไปจนถึงพระอรหัตตมรรค อรหัตตผล
ในเมื่อคนไทยเราใช้คำว่าพระสงฆ์ แทนที่คำว่าสาวกสงฆ์ จึงเท่ากับว่าคำนี้เป็นคำเฉพาะสำหรับเรียกพระสาวกในพระรัตนตรัย
อีกทั้งในพระไตรปิฏก พระอรรถกถาจารย์ (ซึ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแปลพระไตรปิฏกเป็นภาษาไทย) ได้ขยายความไว้ด้วยว่า คำว่าพระสงฆ์หมายถึงพระอริยสงฆ์เท่านั้น ไม่รวมสมมุติสงฆ์ และสามารถเป็นได้ทั้งพระภิกษุและฆราวาส
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคำว่า "สงฆ์" ซึ่งในความหมายของคำๆ นี้ จริงๆ แล้วแปลว่าหมู่หรือคณะ ถูกใช้ในความหมายอื่นๆ ด้วย เช่น คณะสงฆ์ เป็นต้น บางคนเอาประเด็นนี้มาอ้างเพื่อจะเรียกพระภิกษุว่าพระสงฆ์ ก็ขอให้ทำความเข้าใจด้วยว่า คำว่าพระสงฆ์ถูกนำไปใช้เรียกพระสาวกสงฆ์ในพระรัตนตรัย ดังนั้น คำนี้กลายเป็นคำเฉพาะสำหรับเรียกพระอริยะเช่นกัน
ส่วนพระโดยทั่วไปที่ไม่ใช่พระอริยะ หรือยังไม่บรรลุธรรม เราเรียกว่า พระภิกษุ ยังไม่จัดอยู่ในพระรัตนตรัย (แต่เป็นส่วนหนึ่งของพุทธบริษัท ซึ่งประกอบด้วย พระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา)
ที่จริงผมอยากอธิบายให้ชัดเจนกว่านี้ แต่เพราะการเขียนเป็นตัวหนังสือมันยากกว่าการอธิบายเป็นคำพูด แต่ก็หวังว่าอธิบายเท่านี้น่าจะเข้าใจ