คุณว่าเราโง่มั้ย กรุณาอ่านให้จบ

อยากจะขอคำแนะนำ จากเพื่อนๆหน่อยค่ะ นึกว่าออกความคิดเห็นช่วยกันนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เรารู้จักผู้ชายคนหนึ่งคน Facebook เราเป็นฝ่ายทักไปคุยกับเขาก่อน เขาก็คุยกับเราดิ เราถามเขาว่า มีครอบครัวไหม คำตอบแล้วว่า แยกกันอยู่ ในความรู้สึกของเราตอนนั้น เราเข้าใจว่า เขาเลิกกับภรรยาไปแล้ว เพราะในเฟซ ไม่มีรูปภรรยาเลย เราคุยกับเขาประมาณ 3-4 เดือน เปิดกล้องตลอด คาสายนอนตลอด ก็ไม่เคยเห็นภรรยาของเขา จนกระทั่งเรานัดเจอกัน ได้เสียกัน หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 2 เดือน เขาก็ย้ายมาอยู่กับเรา ช่วงแรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เขาบอกว่าเขามีธุระต้องกลับบ้าน ที่บ้านไม่ค่อยมีสัญญาณ ต้องคอยดูแลพ่อกับแม่ อาจจะไม่มีเวลาคุยโทรศัพท์กับเรา เราก็เชื่อ หลังจากที่เขากลับไปได้ 2-3 วันก็มีเพื่อนของเขาใน Facebook แท็กรูปเด็กผู้หญิงคนนึง เพิ่งคลอด แล้วถามเขาว่า เด็กคนนี้คือใคร เขาต่อว่า เป็นหลานของเขาเอง เราก็เชื่อ โดยไม่ได้เอะใจว่านั่นคือลูกของเขา หลังจากนั้นผ่านไปอีก 2-3 เดือน ปรากฏว่า มีผู้หญิงคนหนึ่ง โทรมาเบอร์เขา แต่บังเอิญว่าเราเป็นคนรับสาย เขาบอกว่าเขาเป็นภรรยา ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากนั้นเราก็ถามเขา เขาก็ยอมรับว่าจริง แต่แยกกันอยู่นานแล้ว ในเวลานั้นเราตัดสินใจไม่ถูก ว่าควรจะเอายังไงดี เรายอมรับว่ารักเขามาก โดยปกติ เขาทำงาน ที่เซเว่นเป็นผู้ช่วย เขาจะโทรหาเราทั้งวัน ทั้งคืน ถ้าเข้ากะ หลังหลังมา 2:00 น 3:00 น สัญญาณมักจะหลุดหาย เขามักจะบอกว่าสัญญาณไม่ดี เราก็เชื่อ จนกระทั่งวันหนึ่งเราแอบกดโทรศัพท์ของเขาดู เห็นข้อความที่เขาคุยกับภรรยา ว่ายังรักและคิดถึงทั้งนั้นอยู่ เราก็เลยเอ่ยปากขอเลิกกับเขา เขาก็ไม่ยอมเลิก แต่เราได้แอบเอาเบอร์ของภรรยาเขามา แล้วตัดสินใจโทรไปคุยกับภรรยาของเขา เพราะอยากรู้ความจริง สิ่งที่เราได้รับรู้คือ เขาโกหกเรา และก็โกหกภรรยาของเขาด้วย หลังจากที่คุยกับภรรยาของเขาประมาณเดือนถึง 2 เดือน ซึ่งเราไม่เคยทะเลาะกันคุยกันเป็นปกติเหมือนพี่กับน้อง ภรรยา เขาขอลงมาที่กรุงเทพฯ เราก็ตัดสินใจส่งค่ารถให้เขากับลูกลงมา ปรากฏว่าคืนแรกนอนรวมกัน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอแฟนเราลงไปทำงานเท่านั้น ภรรยาเขาพูดกับเราว่า พี่คะ หนูขออยู่ กับผัวหนูแบบครอบครัวได้ไหม วันนั้น เราก็คุยกับแฟนเราว่า จะให้เราทำยังไง เขาก็เงียบไม่ตอบ เราก็เลยต้องไปนั่งอยู่หน้าเซเว่น 2 คืน 2 วัน โดยที่แฟนเรา ก็ไม่ได้มาตามเราขึ้นไปนอนที่ห้อง หลังจากนั้น พวกเขา กลับบ้านไป ด้วยกัน ผ่านไป 3 วัน แฟนเราลงมาพร้อมใบหย่า เราก็มั่นใจว่า เขาเลือกที่จะอยู่กับเราแล้ว แต่เราก็ยังแอบคุยกับภรรยาของเขาเสมอ เราไม่ได้เป็นฝ่ายโทรไปหาเขาก่อนนะ ส่วนมาก ภรรยาเขาจะเป็นคนโทรมาหาเรา ยิ่งคุยกัน ก็ยิ่งรู้สึกว่าเราโง่ เขาไปให้ความหวังกับภรรยาทางโน้นว่า จะกลับไปอยู่ด้วยกัน แต่เขาก็มาพูดกับเราว่า ตัดขาดไปแล้ว จนกระทั่ง เรามาค้าขายออนไลน์ โดยที่รับจ้างโพส และมีลูกค้ามาซื้อของกับเรา เป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท พอเราโอนเงิน ให้กับร้านค้าที่จ้างเราโพสขายของ ปรากฏว่าร้านค้าบล็อกเรา และลูกค้าก็คิดว่าเราโกงเงิน เราก็ให้แฟนเราไปยื่นเรื่องกู้กับธนาคารกสิกร แต่ว่ายอดยังไม่อนุมัติ เขาก็มีเหตุจำเป็นต้องกลับไปบ้านอีก เนื่องจากญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ลงสมัคร สจที่บ้าน หลังจากที่เขากลับบ้านไป แล้วทักแชท Facebook ไป เขาอ่านแต่ไม่เคยตอบ โทรไปก็ไม่รับสาย แล้วก็ไม่มีการทัก Facebook ใดๆกลับมา เรามีความรู้สึกว่าเขาทิ้งเรา ให้จมอยู่กับปัญหา เพราะทางลูกค้าติดต่อทนายความเพื่อดำเนินคดีกับเราแล้ว ในเวลานั้น เงินเดือนออก เขาก็ไม่ได้โอนค่าห้องมาให้เรา ค่ากินเราก็ไม่มี เราโดนบีบจากทุกๆทาง ที่พักก็ไม่มี หนี้สิน ก็ต้องจ่าย แล้วพยายามติดต่อถามเขาว่า บัตรเครดิต กู้กสิกรผ่านไหม เขาตอบเรากลับมาสั้นๆแค่ว่ามันไม่ผ่าน แต่ภรรยาของเขา แอบโทรมาหาเราและพวกกับเราว่า สามีเขาจะไม่กลับมาอยู่กับเราแล้วเขาตัดสินใจจะกลับไปอยู่ด้วยกันแล้ว โดยที่จะพาลูกๆไปทำงานกับญาติที่ภาคใต้ แล้วก็มาเยาะเย้ยกับเราว่า เขาไม่ได้ส่งเงินเดือนให้ใช่ไหม ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งร้องไห้ หลังจากนั้นเราก็ไปปรึกษากับน้องๆที่เราสนิท น้องๆก็เกิดการไม่พอใจขึ้น เนื่องจากว่าตอนที่เขาย้ายมาอยู่กับเราใหม่ๆ เขาไม่มีเงินสักบาทเราเป็นคนเช่าห้องให้อยู่ เงินกินทุกบาททุกสตางค์ก็อยู่ที่เราทั้งหมด แม้กระทั่งตอนที่ลูกเมียเขาลงมา ค่ารถค่ากินทั้งไปและกลับเราเป็นคนจ่ายให้ ตลอดเวลา 2 ปีที่อยู่ด้วยกันมา เขาทำงานที่ละ 1 เดือนถึง 2 เดือนย้ายงานบ่อยมาก ไม่เคยมีเงินก้อนให้เราเลย เงินเดือนออกมา ก็ไม่พอใช้ แต่ในเวลาที่เรากำลังลำบาก เขากลับติดต่อไม่ได้ จึงทำให้น้องๆที่สนิทสนมกับเราไม่พอใจ ส่งข้อความไปด่าทอค่อนข้างรุนแรง และอยู่ดีๆเขาก็ตัดสินใจกลับลงมา โดยมีเงินติดตัวลงมาแค่ 1,000 บาท เงินที่เขามีลงมา ไม่พอแม้กระทั่งจ่ายค่าห้อง ไม่พอแม้กระทั่งค่ากิน เพราะเขาลงมาครั้งนี้ เขาตกงาน ไม่มีงานทำ ในขณะที่เรา เจอปัญหาลูกค้าดำเนินคดี หลังจากนั้น เราก็ให้เขาไปทำงานกับเพื่อนที่นครปฐม ปรากฏว่า โทรศัพท์เขาเกิดปัญหา เราไปหาเขาที่นครปฐม แล้วก็ทำการแก้ไขโทรศัพท์ให้และลงทะเบียนแอปธนาคารให้เขาใหม่ ในขณะที่กำลังทดลองทำ app ธนาคารให้เขาอยู่ เราก็ดันไปเจอยอดการกู้บัตรเครดิต ที่เราให้เขาทำกู้ตอนนั้น เพื่อที่จะเอามาเคลียร์กับลูกค้าที่กำลังดำเนินคดีกับเรา พอเราถามว่ายอดเงินตัวนี้ไปไหน เขาตอบเรามาว่า เอาให้อดีตภรรยาเขาไปแล้ว เพื่อตัดปัญหา เราได้แต่เก็บความเสียใจเอาไว้ ไม่ได้พูดอะไร ตอนนั้นเราหาทางออกไม่ได้ แล้วติดต่อไปหาสามีเก่า เพื่อขอความช่วยเหลือ เขาช่วยเราจ่ายเงินลูกค้าที่กำลังดำเนินคดีให้กับเรา โดยที่ไม่ได้ต่อว่าหรือทับถมใดๆเลย แต่หลังจากนั้น แฟนเรารู้ว่าเราติดต่อกับสามีเก่า ตบตีเราเตะเรา จนน่วมไปทั้งตัว ถึงขั้นจะเอาขวดตีหัวเรา แต่เพื่อนเขามาช่วยเอาไว้ก่อน แต่เราก็ยังทน เพราะเรารักเขา ไม่ว่าเขาจะย้ายงานไปตรงไหน เราก็จะเที่ยวไปหาเขาอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาออกจากงานที่ทำกับเพื่อน เราต้องไปหากู้เงินมาเช่าบ้านให้เขาอีก หางานให้เขาทำอีก เพื่อนๆคิดว่า เขาจะหักหลังเราอีกไหม เราโง่มากไหมที่ช่วยเหลือเขา เราควรจะเดินต่อยังไงดี เราอยากเลิกกับเขานะ แต่เขาเคยพูดเอาไว้ว่า ถ้าเลิกกัน กูจะฆ่าหั่นศพ เหมือนไอซหีบเหล็กทำ เรายอมรับว่าเรากลัวตาย เรายอมรับว่ากลัวลูกเดือดร้อน เราควรจะทำยังไงต่อไปดี ถ้าเพื่อนอ่านแล้ว แนะนำเราหน่อยได้ไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่