ถ้าพูดถึงเรื่องปืนไรเฟิลแบบโบราณของจีนเนี่ยจะต้องนึกถึง Hanyang 88 หรือไม่ก็ปืนเจียงไคเช็คแต่ในตอนนี้ผมจะแนะนำให้รู้จักกับปืนไรเฟิลเมาเซอร์อีกแบบของจีนขอแนะนำให้รู้จักกับ Mauser 1907
ปืนชนิดนี้เกิดจากการที่กองทัพราชวงศ์ชิงต้องการแทนที่ปืน Hanyang 88 ที่ค่อนข้างจะสมัยแล้วในขณะนั้นโดยได้นำปืนเมาเซอร์ Model 1904 มาเป็นแบบและจะใช้กระสุนขนาด 6.8x57 mm ที่ถูกพิจารณาแล้วว่าเหมาะสมกว่าสำหรับทหารจีนที่ตัวเล็กกว่าชาวยุโรปโดยทำสัญญาซื้อขายกับบริษัท DWM พร้อมทั้งทำการตั้งสายการผลิตในโรงงานสรรพาวุธที่กวางตุ้งด้วยเรียกได้เลยว่าเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วทั้งการซื้อจากเยอรมันโดยตรงและจะผลิตเองในจีนด้วย
แต่การปฏิวัติซินไฮ่ในปี 1911 ก็ทำให้ทุกอย่างต้องชะงักลงและเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ปืนหลักพันกระบอกที่ถูกเก็บเอาไว้ในเยอรมันนียังไม่ได้ทำการส่งไปจีนก็ถูกกองทัพเยอรมันยึดไปใช้พร้อมกับแปลงลำกล้องให้เป็นขนาด 7.92x57mm ตามมาตรฐานกองทัพเยอรมัน
ปืนไรเฟิลชนิดนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการทั้งหมด 3 ชื่อและชื่อเล่นอีก 1 ชื่อ
ดังต่อไปนี้ Guang Xu Type 33 เป็นชื่อที่ใช้เรียกในสมัยราชวงศ์ชิง
Type 1 เป็นชื่อที่ใช้เรียกในสมัยสาธารณรัฐเก่า (ก่อนเจียงไคเช็คและพรรคก๊กมินตั๋งเข้าปกครองแผ่นดินใหญ่และสถาปนาสาธารณรัฐจีนที่ก๊กมินตั๋งปกครองขึ้นมา) Type 1 ถูกเปลี่ยนขนาดลำกล้องให้กลับไปใช้ขนาด 7.92x57 mm เหมือนกับ Hanyang 88 ด้วยเหตุผลด้านการส่งกำลังบำรุง
Type 4 ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการชื่อสุดท้ายของปืนไรเฟิลชนิดนี้
** ผมหาเหตุผลไม่เจอว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนชื่อจาก Type 1 เป็น Type 4 **
และสุดท้ายชื่อเล่นของมันคือ Gong 98 ซึ่งมีที่มาจากชื่อของโรงงานผลิตอาวุธแห่งสุดท้ายที่ผลิตพวกมันออกมานั่นก็คือโรงงานใน Gongxian
Model 1907 Carbine
ยอดการผลิตทั้งหมดอยู่ที่ 200,000 กระบอก ก่อนจะปิดสายการผลิตทั้งหมดในปี 1935
ปืนไรเฟิลชนิดนี้อยู่ในความขัดแย้งในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ของจีนมาตลอดตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างขุนศึกด้วยกันเองในยุคขุนศึกของจีน
การกรีฑาทัพขึ้นเหนือของกองทัพก๊กมินตั๋งหรือเรียกง่ายๆอีกอย่างว่าสงคราปราบขุนศึกเพื่อรวมชาติเป็นหนึ่งเดียวของเจียงไคเช็กนั่นเอง
และแน่นอนว่าถูกใช้ในสงครามกลางเมืองจีนยกที่ 1 ระหว่างการปราบปรามคอมมิวนิสต์อย่างรุนแรงก่อนที่เจียงไคเช็กจะถูกมัดมือชกบังคับให้เป็นพันธมิตรกับกองกำลังคอมมิวนิสต์เพื่อต่อสู้กับการรุกรานของจักรวรรดิญี่ปุ่นซึ่งต่อมาความขัดแย้งนี้จะรู้จักกันในนามสงครามจีนญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ปืนไรเฟิลชนิดนี้ถูกรายงานว่ามีการใช้งานครั้งสุดท้ายจริงๆนั่นก็คือการถูกใช้โดยกองกำลังเรดการ์ดในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมในแผ่นดินใหญ่ช่วงยุค 1960s
และนี่ก็คือเรื่องราวของปืนไรเฟิลยุคเก่าของจีนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักและผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกมันอย่างเป็นทางการว่าอะไรดีด้วย...แล้วแต่คุณเลยก็แล้วกัน
https://en.wikipedia.org/wiki/Mauser_Model_1904
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 799 Chinese Model 1907 Rifle
ปืนชนิดนี้เกิดจากการที่กองทัพราชวงศ์ชิงต้องการแทนที่ปืน Hanyang 88 ที่ค่อนข้างจะสมัยแล้วในขณะนั้นโดยได้นำปืนเมาเซอร์ Model 1904 มาเป็นแบบและจะใช้กระสุนขนาด 6.8x57 mm ที่ถูกพิจารณาแล้วว่าเหมาะสมกว่าสำหรับทหารจีนที่ตัวเล็กกว่าชาวยุโรปโดยทำสัญญาซื้อขายกับบริษัท DWM พร้อมทั้งทำการตั้งสายการผลิตในโรงงานสรรพาวุธที่กวางตุ้งด้วยเรียกได้เลยว่าเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วทั้งการซื้อจากเยอรมันโดยตรงและจะผลิตเองในจีนด้วย
แต่การปฏิวัติซินไฮ่ในปี 1911 ก็ทำให้ทุกอย่างต้องชะงักลงและเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ปืนหลักพันกระบอกที่ถูกเก็บเอาไว้ในเยอรมันนียังไม่ได้ทำการส่งไปจีนก็ถูกกองทัพเยอรมันยึดไปใช้พร้อมกับแปลงลำกล้องให้เป็นขนาด 7.92x57mm ตามมาตรฐานกองทัพเยอรมัน
ปืนไรเฟิลชนิดนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการทั้งหมด 3 ชื่อและชื่อเล่นอีก 1 ชื่อ
ดังต่อไปนี้ Guang Xu Type 33 เป็นชื่อที่ใช้เรียกในสมัยราชวงศ์ชิง
Type 1 เป็นชื่อที่ใช้เรียกในสมัยสาธารณรัฐเก่า (ก่อนเจียงไคเช็คและพรรคก๊กมินตั๋งเข้าปกครองแผ่นดินใหญ่และสถาปนาสาธารณรัฐจีนที่ก๊กมินตั๋งปกครองขึ้นมา) Type 1 ถูกเปลี่ยนขนาดลำกล้องให้กลับไปใช้ขนาด 7.92x57 mm เหมือนกับ Hanyang 88 ด้วยเหตุผลด้านการส่งกำลังบำรุง
Type 4 ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการชื่อสุดท้ายของปืนไรเฟิลชนิดนี้
** ผมหาเหตุผลไม่เจอว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนชื่อจาก Type 1 เป็น Type 4 **
และสุดท้ายชื่อเล่นของมันคือ Gong 98 ซึ่งมีที่มาจากชื่อของโรงงานผลิตอาวุธแห่งสุดท้ายที่ผลิตพวกมันออกมานั่นก็คือโรงงานใน Gongxian
Model 1907 Carbine
ยอดการผลิตทั้งหมดอยู่ที่ 200,000 กระบอก ก่อนจะปิดสายการผลิตทั้งหมดในปี 1935
ปืนไรเฟิลชนิดนี้อยู่ในความขัดแย้งในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ของจีนมาตลอดตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างขุนศึกด้วยกันเองในยุคขุนศึกของจีน
การกรีฑาทัพขึ้นเหนือของกองทัพก๊กมินตั๋งหรือเรียกง่ายๆอีกอย่างว่าสงคราปราบขุนศึกเพื่อรวมชาติเป็นหนึ่งเดียวของเจียงไคเช็กนั่นเอง
และแน่นอนว่าถูกใช้ในสงครามกลางเมืองจีนยกที่ 1 ระหว่างการปราบปรามคอมมิวนิสต์อย่างรุนแรงก่อนที่เจียงไคเช็กจะถูกมัดมือชกบังคับให้เป็นพันธมิตรกับกองกำลังคอมมิวนิสต์เพื่อต่อสู้กับการรุกรานของจักรวรรดิญี่ปุ่นซึ่งต่อมาความขัดแย้งนี้จะรู้จักกันในนามสงครามจีนญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ปืนไรเฟิลชนิดนี้ถูกรายงานว่ามีการใช้งานครั้งสุดท้ายจริงๆนั่นก็คือการถูกใช้โดยกองกำลังเรดการ์ดในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมในแผ่นดินใหญ่ช่วงยุค 1960s
และนี่ก็คือเรื่องราวของปืนไรเฟิลยุคเก่าของจีนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักและผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกมันอย่างเป็นทางการว่าอะไรดีด้วย...แล้วแต่คุณเลยก็แล้วกัน
https://en.wikipedia.org/wiki/Mauser_Model_1904