ไม่รู้สินะ รู้สึกว่าวงการสมาร์ทโฟนยุคหลังมานี้ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจ แข่งกันทำแต่กล้องโหดๆ ยัดสเปคเทพๆ แล้วเอามาขาย รูปทรงก็คล้ายเดิม ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ หวือหวาเท่าสมัยก่อน ในฐานะที่อยู่วงการนี้มาเกือบ 20 ปี ช่วงนี้เป็นช่วงที่วงการมือถือน่าเบื่อที่สุด ว่าแล้วก็คิดถึงกระทู้นึงขึ้นมา เป็นกระทู้ TIMELINE โทรศัพท์มือถือในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2529 เป็นกระทู้ที่น่าสนใจและคิดว่าจะใช้เป็นแม่แบบในการเขียนสรุปเรื่องราวในวงการมือถือไทยตลอด 25 ปี ตั้งแต่เริ่มการก่อตั้งเครือข่ายมือถือในปี 2529 จนถึงช่วงเบ่งบานของสมาร์ทโฟนในปี 2554 ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เรื่องไหนที่คนยุคนั้นรู้ เรื่องไหนที่คนยุคนั้น อาจจะ หรือหลงลืมไปแล้ว วันนี้จะมาเล่าแบบเจาะลึกที่สุด ละเอียดที่สุด ชัดเจนที่สุด เท่าที่จะนึกออก เราจะมาย้อนวันวานแห่งวงการโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย แบบ Exclusive ที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา

ถ้าจะให้เล่าถึงวงการมือถือไทยแบบย้อนอดีตสุดๆ ต้องย้อนไปในปี 2529 เป็นปีที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (TOT) เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบอะนาล็อก NMT ความถี่ 470 เม็กกะเฮิตซ์ เป็นปีแรกสุด ของการให้บริการโทรศัพท์มือถือ (สมัยนั้นเรียกโทรศัพท์ “เคลื่อนที่”) ต่อมาในปี 2530 การสื่อสารแห่งประเทศไทย (CAT) ก็ได้เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบอะนาล็อก AMPS ความถี่ 800 เม็กกะเฮิตซ์ Band A ตามมา ความแตกต่างในยุคนั้นคือ เครื่องที่รองรับระบบ 470 จะเป็นทรงเหมือนกระติกน้ำอันใหญ่ๆ มีแบตเตอรี่อันใหญ่เท่าแบตเตอรี่รถ ถือทีนึงแสนจะลำบาก บางคนต้องมีคนช่วยถือเวลาเดินไปไหนต่อไหน ส่วนเครื่องที่รองรับระบบ 800 จะเป็นทรงกระดูกหมาอันใหญ่ๆ ใหญ่เกินจะใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงได้ แถมราคาก็แสนจะแพง สมัยนั้นถ้าใครไม่มีธุระที่ต้องติดต่อตลาดเวลา มือถือแทบจะไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย ส่วนมือถือที่เป็นรุ่นยอดนิยมในสมัยนั้นก็เห็นจะเป็น Motorola Dynatac, Ericsson Hotline, Dancall และก็ Mobira อัตราค่าโทรมีค่าบริการที่ต้องจ่ายเดือนละ 500 บาท ส่วนอัตราค่าโทรอยู่ที่ 3,8,12 บาทตามลำดับ และเวลาโทร ต้องหาที่โล่งอย่างสนามกอล์ฟ หรือขึ้นไปบนตึกชั้นสูงๆ ถึงจะโทรได้แบบไม่มีสัญญาณรบกวน (ใครอยู่ต่างจังหวัดก็ปีนต้นไม้โทรเอานะจ๊ะ)

สิ่งที่เรียกว่าเป็นวัฒนธรรมของคนที่มีมือถือในยุคนั้นชอบทำคือ ต้องวางมือถือไว้บนโต๊ะ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คนสังเกตเห็น แล้วเวลาคุยต้องคุยให้ดังที่สุดให้คนรอบข้างได้ยิน เพื่อให้เค้ารู้ว่าเรามีมือถือ (เป็นการอวดรวยของคนสมัยนั้น แต่ถ้าจะให้รวยจริง ต้องพกเพจเจอร์ติดตัวด้วยอีกหนึ่งเครื่องเพื่อการติดต่อแบบรวดเร็วทันใจ)

กระทั่งปี 2533 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (AIS) ได้เริ่มให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบอะนาล็อก NMT 900 เม็กกะเฮิตซ์ในชื่อ “Cellular 900” พัฒนาต่อเนื่องทั่วไทย ไม่ถูกจูน (จริงดิ?) ตามมาในปี 2534 บริษัท โททัล แอคเซส คอมมิวนิเคชั่น (TAC) ก็ได้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบอะนาล็อกตามมาในชื่อ “WorldPhone 800” โดยโทรศัพท์มือถือในยุคต่อมาได้พัฒนาให้มีขนาดเล็กลงจนสามารถใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อได้ โทรศัพท์รุ่นนั้นมือชื่อว่า Motorola Microtac เป็นโทรศัพท์กึ่งฝาพับดีไซน์หรู พร้อมจอแสดงหมายเลขสีแดงแปร๊ด วางจำหน่ายในไทยช่วงปี 2533 ส่วนรุ่นดังๆ ในบ้านเราตอนนั้นก็เช่น Nokia 900 และ Ericsson Hotline 900 Pocket วางจำหน่ายช่วงประมาณปี 2534 ส่วนร้านขายส่งโทรศัพท์มือถือร้านแรกๆ ในประเทศไทย อยู่ที่ห้างสรรพค้ามาบุญครอง เปิดเมื่อประมาณปี 2533 ชื่อร้านอะไรไปค้นเอาเอง ไม่ได้ค่าสปอนเซอร์ ทุกวันนี้ยังเปิดอยู่ เป็นร้านเก่าแก่ร้านนึงของมาบุญครองเลย