กลายเป็นข่าวฮือฮาไปเมื่อ 2 วันก่อน ที่ทางกลุ่ม CP ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีก ด้วยการโยกกิจการ Lotus's ในประเทศไทยและมาเลเซีย มูลค่ารวม 217,949 ล้านบาท ไปอยู่ภายใต้ MAKRO นับเป็นการความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญต่อหุ้นกลุ่มซีพี ทั้ง CPALL CPF และ MAKRO
จนทำให้เมื่อวานหุ้น MAKRO ราคาเปิดรับเชิงบวกสูงสุด ราคาหุ้นดีดทำจุดสูงสุดที่ราคา 52.25 บาท ทำนิวไฮรอบ 3 ปีครึ่ง
รองลงมา คือ CPALL ที่ดีดทำจุดสูงสุดที่ราคา 67.75 บาท ทำนิวไฮรอบ 5 เดือน ก่อนปิดซื้อขายเช้านี้ด้วยราคา 66 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 1.54%
ส่วน ราคาหุ้นของ CPF เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ปิดซื้อขายภาคเช้า ด้วยราคา 27 บาท เท่ากับราคาเปิดช่วงเช้า
ส่วนบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่างๆ ดูเหมือนว่าดีลนี้ จะสร้างผลประโยชน์ให้เครือ CP ทั้งกลุ่ม สะท้อนจากการ Synergy ที่จะเกิดขึ้นมากมาย ช่วยต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงในระยะสั้นยังสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการขายหุ้น PO ของ MAKRO ได้อีกด้วย ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นโอกาสดีในการเพิ่มฟรีโฟลท ให้กับ MAKRO ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนการถือหุ้นรายย่อยต่ำเพียง 6.92% เท่านั้น
แล้วดีลนี้จะเกิดประโยชน์ในธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งในเครือซีพียังไง และทิศทางการเติบโตของหุ้นจะเป็นอย่างไรบ้าง?
1. ขยายธุรกิจอาหารสด (Fresh Market) ผ่าน แม็คโครและโลตัสส์ เพื่อเป็นผู้นำด้านค้าปลีก-ส่ง ในระดับภูมิภาค
2. เจาะตลาดได้ทั้งกลุ่ม B2B (MAKRO) และ B2C (Lotus's)
3. Synergy ธุรกิจในกลุ่มซีพี
4. ได้ประโยชน์จากการพัฒนา อีคอมเมิร์ซ และ O2O ทั้งในไทยและภูมิภาค
5. เพิ่มศักยภาพการบริหารพื้นที่เช่า Lotus's กว่า 1 ล้านตารางเมตร ช่วยเพิ่มกระแสเงินสด
6. CPALL ได้ประโยชน์สูงสุด งบดุลแข็งแกร่งขึ้นแม้หลังการรวม MAKRO และ Lotus’s อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิจะลดลงจาก 1.8 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 เป็น 1.3-1.5 เท่า
7. หลังโอนกิจการ Lotus's กลายเป็นบริษัทย่อยของ CPALL ส่งผลให้รายได้ CPALL เพิ่มขึ้นจาก 5.5 แสนล้านบาท เป็น 7.6 แสนล้านบาท จากเดิมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (เดิมถือหุ้น Lotus's 40%) จะรับรู้กำไรมากขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย คาดว่า Lotus's จะกลับไปทำกำไรปกติได้ที่ 7,000-8,000 ล้านบาท
8. เพิ่มจำนวนหุ้นและปลดล็อก Free Float ของ MAKRO จากเดิมเพียง 7% และ Market Cap เพิ่มจาก 2.09 แสนล้านบาท เป็น 4.86 แสนล้านบาท มีโอกาสกลับเข้าไปใน SET50
9. MAKRO รายได้เพิ่มขึ้นจาก 2.18 แสนล้านบาท เป็น 4.27 แสนล้านบาท กำไรสุทธิจาก 6,500 ล้านบาท เป็น 8,100 ล้านบาท แต่หนี้สินที่มีดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นจาก 8,100 ล้านบาท เป็น 127,100 ล้านบาท Net debt to EBIDA 0.2 เท่า เป็น 2.6 เท่า
10. ปัจจุบันเครือซีพีมีธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจค้าส่งอยู่ในภูมิคภาคเอเชีย ทั้งประเทศจีน มาเลเซีย อินเดีย กัมพูชา เมียนมา ภายใต้แบรนด์และรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย เป้าหมายการปรับโครงสร้างครั้งสำคัญนี้ เพื่อนำบริษัทในกลุ่มค้าปลีกขยายธุรกิจและแข่งขันกับผู้ประกอบการในเวทีระดับโลก และสานเป้าหมายประเทศไทยในการเป็น 'ครัวของโลก' ผ่านร้านค้าปลีกค้าส่งของเครือซีพี
10 เรื่องน่ารู้ MAKRO ควบรวมกิจการ Lotus's
จนทำให้เมื่อวานหุ้น MAKRO ราคาเปิดรับเชิงบวกสูงสุด ราคาหุ้นดีดทำจุดสูงสุดที่ราคา 52.25 บาท ทำนิวไฮรอบ 3 ปีครึ่ง
รองลงมา คือ CPALL ที่ดีดทำจุดสูงสุดที่ราคา 67.75 บาท ทำนิวไฮรอบ 5 เดือน ก่อนปิดซื้อขายเช้านี้ด้วยราคา 66 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 1.54%
ส่วน ราคาหุ้นของ CPF เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ปิดซื้อขายภาคเช้า ด้วยราคา 27 บาท เท่ากับราคาเปิดช่วงเช้า
ส่วนบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่างๆ ดูเหมือนว่าดีลนี้ จะสร้างผลประโยชน์ให้เครือ CP ทั้งกลุ่ม สะท้อนจากการ Synergy ที่จะเกิดขึ้นมากมาย ช่วยต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงในระยะสั้นยังสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการขายหุ้น PO ของ MAKRO ได้อีกด้วย ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นโอกาสดีในการเพิ่มฟรีโฟลท ให้กับ MAKRO ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนการถือหุ้นรายย่อยต่ำเพียง 6.92% เท่านั้น
2. เจาะตลาดได้ทั้งกลุ่ม B2B (MAKRO) และ B2C (Lotus's)
3. Synergy ธุรกิจในกลุ่มซีพี
4. ได้ประโยชน์จากการพัฒนา อีคอมเมิร์ซ และ O2O ทั้งในไทยและภูมิภาค
5. เพิ่มศักยภาพการบริหารพื้นที่เช่า Lotus's กว่า 1 ล้านตารางเมตร ช่วยเพิ่มกระแสเงินสด
6. CPALL ได้ประโยชน์สูงสุด งบดุลแข็งแกร่งขึ้นแม้หลังการรวม MAKRO และ Lotus’s อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิจะลดลงจาก 1.8 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 เป็น 1.3-1.5 เท่า
7. หลังโอนกิจการ Lotus's กลายเป็นบริษัทย่อยของ CPALL ส่งผลให้รายได้ CPALL เพิ่มขึ้นจาก 5.5 แสนล้านบาท เป็น 7.6 แสนล้านบาท จากเดิมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (เดิมถือหุ้น Lotus's 40%) จะรับรู้กำไรมากขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย คาดว่า Lotus's จะกลับไปทำกำไรปกติได้ที่ 7,000-8,000 ล้านบาท
8. เพิ่มจำนวนหุ้นและปลดล็อก Free Float ของ MAKRO จากเดิมเพียง 7% และ Market Cap เพิ่มจาก 2.09 แสนล้านบาท เป็น 4.86 แสนล้านบาท มีโอกาสกลับเข้าไปใน SET50
9. MAKRO รายได้เพิ่มขึ้นจาก 2.18 แสนล้านบาท เป็น 4.27 แสนล้านบาท กำไรสุทธิจาก 6,500 ล้านบาท เป็น 8,100 ล้านบาท แต่หนี้สินที่มีดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นจาก 8,100 ล้านบาท เป็น 127,100 ล้านบาท Net debt to EBIDA 0.2 เท่า เป็น 2.6 เท่า
10. ปัจจุบันเครือซีพีมีธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจค้าส่งอยู่ในภูมิคภาคเอเชีย ทั้งประเทศจีน มาเลเซีย อินเดีย กัมพูชา เมียนมา ภายใต้แบรนด์และรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย เป้าหมายการปรับโครงสร้างครั้งสำคัญนี้ เพื่อนำบริษัทในกลุ่มค้าปลีกขยายธุรกิจและแข่งขันกับผู้ประกอบการในเวทีระดับโลก และสานเป้าหมายประเทศไทยในการเป็น 'ครัวของโลก' ผ่านร้านค้าปลีกค้าส่งของเครือซีพี