หลากหลายในใจคน ตอนที่ 6

เหมือนทุกคนที่เป็นญาติทางแม่เลี้ยงจะพากันเห็นด้วยกับคำว่าเนรคุณ...ครูประจำชั้นป.3 ที่ดิฉันเคยรักมากก็เคืองไปด้วย สะบัดหน้าไม่รับไหว้ซึ่งแม่เลี้ยงคงไม่ได้เล่าความเนรคุณของดิฉันแค่ไม่ฝากลูกอีนิดหน่อยเข้าเรียนหรอก ก็แล้วแต่จะใส่สีใส่สัน ไม่มีคำอธิบายใดๆจากดิฉัน เบื่อแล้วกับการฟังความข้างเดียว ดีเหมือนกันจะได้อยู่กันห่างๆ

                 แม่เลี้ยงเป็นคนสวย เคยเป็นนางงามอำเภอและที่สำคัญนางเป็นครู สมัยก่อนใช้วิธีสอบชุดครู ไม่ต้องเรียนจนจบปริญญาตรี ไม่มีฝึกสอน พ่อมีเมียหลายคน คนนี้วาสนาดีที่สุด ได้เป็นเมียรองผู้กำกับฯ เมื่อเป็นเด็กดิฉันไม่เข้าใจคำว่า  “วาสนา”. แม่เลี้ยงก็เพียรแต่พูดว่า"แข่งเรือแข่งพายได้แต่แข่งวาสนาไม่ได้" ไม่เข้าใจว่าเขาจะพูดทำไม เวลาพูดจะหวีผมยาวๆให้ลูกสาวเขาด้วยและดูมีความสุข...
           แม่เลี้ยงใจร้ายมากตีได้ตี ทุบได้ทุบ ให้อะไรก็ไม่เท่ากันแม้ว่าจะเป็นเงินทองของพ่อ ตั้งแต่ 5 ขวบถึง 19 ปี ดิฉันอดทนเป็นเลิศและไม่เคยเล่าให้พ่อฟัง กลัวถูกแม่เลี้ยงตี
              พอลูกสาวเข้าโรงเรียน สามีก็ไปเรียนนิติศาสตร์ จบรัฐศาสตร์การบริหารรัฐกิจอีกใบ ทำให้เขาสง่างามในหน้าที่การงาน  

             ผ่านไปหลายปีไอ้ช้างน้อยโทรศัพท์มาบอกว่ามาดูพ่อหน่อยพ่อไม่ค่อยดี เราก็ไปสามีซื้อบะหมี่หมูแดงกับหมูสะเต๊ะของโปรดไปฝาก ไปถึงบ้านสังเกตดูแปลกๆมีเชือก มีโซ่ล่ามประตูแบบไม่ให้คนเข้าออก มีบันไดไม้ไผ่พาดกับรั้ว ก็ถามไอ้ช้างน้อยกับเมียได้ความว่าพ่อจะปีนออกจากบ้านไปตามแม่เลี้ยงเขาหอบลูกหลานไปอยู่บ้านที่ช้างน้อยซื้อไว้ เหตุนี้ทำให้พ่อจะไปตามเมียกลับ ปีนบ้าน ฟันประตู ไอ้ช้างน้อยบอกว่าอยากจะส่งพ่อไปรักษาที่รพ. ศรีธัญญา พรุ่งนี้ให้มาช่วยกันจับพ่อ เขาสั่งให้สามีเอาลูกน้องมาช่วยด้วย แม่เลี้ยงเขาเลี้ยงลูกแบบนี้ค่ะ เหมือนดิฉันเป็นกระโถนรองรับทุกอย่างไม่เรียกว่าพี่ เรียกชื่อเฉยๆ ทั้งที่ดิฉันแก่กว่า 8 ปี แม่มันไม่ให้เรียกเป็นพี่เป็นน้อง แม้จะอยู่อย่างอัดอั้นแต่ก็ไม่ได้ถามใครว่าทำไมเขาเกลียดเราจัง มีญาติสนิทคนหนึ่งเคยบอกว่าเธอหน้าเหมือนแม่ พ่อเธอรักแม่มากและรักเธอที่สุดด้วย ดิฉันไม่เชื่อ.....
            
                  วันรุ่งขึ้นเราไม่ได้ไปจับพ่อมัดไปรพ.บ้าตามคำสั่งเขาหรอกค่ะต่อให้พ่อเป็นจริงๆดิฉันก็จะไม่ทำ สามีดิฉันบอกว่าพ่อเขาคิดถึงเมียเขา เมียกลับมาก็หาย ให้เขาทะเลาะกันไป ไม่ใช่เรื่องของเรา
                 
                   ตอนดิฉันเป็นเด็กมีตุ๊กตากระดาษเล่นกับเพื่อน ตัดกระดาษออกแบบเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เอามาประชันกันสนุกๆ แม้เวลาเล่นคนเดียวก็สนุกเพลิดเพลินดี นั่งยิ้มอยู่คนเดียว ไอ้ยิ้มอย่างมีความสุขนี้แหละ ทำให้แม่เลี้ยงเข้ามากระชากไปดูว่าเล่นอะไร แล้วนางก็ฉีกทิ้งทุกชิ้นอย่างช้าๆ สะใจที่เห็นฉันร้องไห้ เสียใจ เสียดายของรัก พรุ่งนี้จะมีอะไรเล่นกับเพื่อนล่ะ นางบอกให้เงียบพร้อมกับเงื้อง่าฝ่ามือ ฉันเงียบทันทีและเป็นครั้งแรกที่สาปแช่งคนเป็น...
                         

                        ขอให้มันเสียของรักของมันไปต่อหน้าต่อตา ให้เสียใจมากกว่าที่ฉันเสียใจ....

                                                                                                                                         รัชนีกร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่