เรื่องสั้นที่ไม่เคยมีใครได้อ่าน...อีเมลมรณะ
ล. วิลิศมาหรา
ฉันรีบร้อนขับรถกลับบ้าน หลังออกจากงานฌาปนกิจศพของคนรู้จักกันคนหนึ่ง ที่เสร็จเอาเมื่อเวลาบ่ายมากแล้ว คนตายเป็นผู้ชาย เป็นญาติที่รู้จักสนิทสนมกันดี เพราะเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่ยังเล็ก ต่อเมื่อโตขึ้นจึงต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ทางใครทางมัน ฉันมาทำงานเป็นครูสอนวิชาภาษาไทยในโรงเรียนมัธยมฯแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด ส่วนคนตายก็ประกอบอาชีพค้าขาย ตามที่ตนเองถนัด อยู่ที่บ้านเกิด แต่ยังติดต่อคบหากันอยู่ทางสื่อสังคมออนไลน์
ยอมรับว่าตกใจมากที่จู่ ๆ ก็รู้ข่าวว่าเขาตายลงด้วยอาการที่เรียกว่า 'ไหลตาย' หรือนอนหลับตายโดยไม่รู้สาเหตุ จากปากคนเป็นแม่ของผู้ตายเอง ที่เล่าให้ฟังในงานศพ
“แม่บอกมันแล้วว่าให้แขวนเสื้อสีแดงไว้หน้าบ้าน เหมือนบ้านอื่นเขาทำกัน ผีแม่ม่ายมันเฮี้ยน มันจะมาเอาชีวิตผู้ชายไปจนครบสิบคน แต่เจิดมันไม่เชื่อ สุดท้ายมันก็มาตายลงจริง ๆ ถ้ามันเชื่อแม่ตั้งแต่ทีแรก มันก็คงไม่ตาย”
แล้วแม่ของบรรเจิดก็ร้องไห้เพราะความอาลัยรักในตัวลูกชายคนเดียวของแก
ฉันฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ บรรเจิดมาตายไปเพราะมีโรคประจำตัว ไม่ใช่ฝีมือผีแม่ม่ายอะไรสักหน่อย ทำไมถึงไปเชื่อเรื่องแบบนี้ได้ แขวนเสื้อสีแดงไว้หน้าบ้าน เห็นชาวบ้านแถวนี้เขาทำกัน เสื้อสีแดงมันจะคุ้มกันผีแม่ม่ายได้อย่างไร ผีมันจะกลัวเสื้อสีแดงไปทำไมกัน ฟัง ๆ ดูก็น่าขันดี แต่ก็นั่นแหละ จะหัวเราะออกมาก็ใช่ที่ ความเชื่อความศรัทธาของชาวบ้านจะไปหาว่าเขาหลงงมงายก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะกลับมาบ้านด้วยสภาพพิการเอา
กว่าจะถึงบ้านซึ่งอยู่ในตัวจังหวัดคงมืดค่ำ เพราะพอใกล้จะถึงตัวเมืองรถชักเริ่มติด จังหวัดใหญ่ ๆ ของประเทศไทยเหมือนเมืองหลวงเข้าไปทุกที ทั้งจากสภาพบ้านเมือง และสภาพการจราจรที่ติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้
ขณะรถจอดแช่รอสัญญาณไฟ สายตาของฉันก็ไปปะทะเข้ากับข้อความหลังรถกระบะคันหน้า ข้อความติดด้วยสติ๊กเกอร์นั้นเขียนว่า ‘รถคันนี้สีแดง’
โอเค้....สีแดงก็สีแดง ฉันยิ้มขำ เมื่อเห็นว่ารถกระบะคันข้างหน้ามันสีดำชัด ๆ
นี่คงเป็นวิธีหลบเลี่ยงโชคร้ายบางอย่างจากสีรถไม่ถูกโฉลกกับตัวคนขับสินะ ซื้อรถสีดำมาแล้ว พอไปดูหมอมา...หมอดูดันทักว่ารถสีดำไม่ดี จะไปขัดโชคลาภเข้า ให้เปลี่ยนเป็นสีแดง เปลี่ยนสีรถคงทำได้ยากกว่า แต่ถ้าจะหลีกเลี่ยงโชคร้ายให้ได้ ก็ต้องเลี่ยงไปใช้วิธีนี้ ซึ่งดูเป็นวิธีศรีธนญไชยดี
มีข้อความจากไลน์เด้งขึ้นมา ฉันคว้าโทรศัพท์มากดดูแก้เซ็ง
‘กรุณาส่งข้อความนี้ให้อีกห้าสิบคน แล้วคุณจะพบกับโชคดี’
นี่ก็อีกราย...ฉันยิ้มมุมปาก ไม่มาเสียเวลากับเรื่องบ้า ๆ พวกนี้หรอก กดลบข้อความนั้นทิ้งไป
(มีต่อ)
ชื่อเดียวเอี่ยวทุกเรื่อง เรื่องสั้นที่ไม่เคยมีใครได้อ่าน
ล. วิลิศมาหรา
ฉันรีบร้อนขับรถกลับบ้าน หลังออกจากงานฌาปนกิจศพของคนรู้จักกันคนหนึ่ง ที่เสร็จเอาเมื่อเวลาบ่ายมากแล้ว คนตายเป็นผู้ชาย เป็นญาติที่รู้จักสนิทสนมกันดี เพราะเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่ยังเล็ก ต่อเมื่อโตขึ้นจึงต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ทางใครทางมัน ฉันมาทำงานเป็นครูสอนวิชาภาษาไทยในโรงเรียนมัธยมฯแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด ส่วนคนตายก็ประกอบอาชีพค้าขาย ตามที่ตนเองถนัด อยู่ที่บ้านเกิด แต่ยังติดต่อคบหากันอยู่ทางสื่อสังคมออนไลน์
ยอมรับว่าตกใจมากที่จู่ ๆ ก็รู้ข่าวว่าเขาตายลงด้วยอาการที่เรียกว่า 'ไหลตาย' หรือนอนหลับตายโดยไม่รู้สาเหตุ จากปากคนเป็นแม่ของผู้ตายเอง ที่เล่าให้ฟังในงานศพ
“แม่บอกมันแล้วว่าให้แขวนเสื้อสีแดงไว้หน้าบ้าน เหมือนบ้านอื่นเขาทำกัน ผีแม่ม่ายมันเฮี้ยน มันจะมาเอาชีวิตผู้ชายไปจนครบสิบคน แต่เจิดมันไม่เชื่อ สุดท้ายมันก็มาตายลงจริง ๆ ถ้ามันเชื่อแม่ตั้งแต่ทีแรก มันก็คงไม่ตาย”
แล้วแม่ของบรรเจิดก็ร้องไห้เพราะความอาลัยรักในตัวลูกชายคนเดียวของแก
ฉันฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ บรรเจิดมาตายไปเพราะมีโรคประจำตัว ไม่ใช่ฝีมือผีแม่ม่ายอะไรสักหน่อย ทำไมถึงไปเชื่อเรื่องแบบนี้ได้ แขวนเสื้อสีแดงไว้หน้าบ้าน เห็นชาวบ้านแถวนี้เขาทำกัน เสื้อสีแดงมันจะคุ้มกันผีแม่ม่ายได้อย่างไร ผีมันจะกลัวเสื้อสีแดงไปทำไมกัน ฟัง ๆ ดูก็น่าขันดี แต่ก็นั่นแหละ จะหัวเราะออกมาก็ใช่ที่ ความเชื่อความศรัทธาของชาวบ้านจะไปหาว่าเขาหลงงมงายก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะกลับมาบ้านด้วยสภาพพิการเอา
กว่าจะถึงบ้านซึ่งอยู่ในตัวจังหวัดคงมืดค่ำ เพราะพอใกล้จะถึงตัวเมืองรถชักเริ่มติด จังหวัดใหญ่ ๆ ของประเทศไทยเหมือนเมืองหลวงเข้าไปทุกที ทั้งจากสภาพบ้านเมือง และสภาพการจราจรที่ติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้
ขณะรถจอดแช่รอสัญญาณไฟ สายตาของฉันก็ไปปะทะเข้ากับข้อความหลังรถกระบะคันหน้า ข้อความติดด้วยสติ๊กเกอร์นั้นเขียนว่า ‘รถคันนี้สีแดง’
โอเค้....สีแดงก็สีแดง ฉันยิ้มขำ เมื่อเห็นว่ารถกระบะคันข้างหน้ามันสีดำชัด ๆ
นี่คงเป็นวิธีหลบเลี่ยงโชคร้ายบางอย่างจากสีรถไม่ถูกโฉลกกับตัวคนขับสินะ ซื้อรถสีดำมาแล้ว พอไปดูหมอมา...หมอดูดันทักว่ารถสีดำไม่ดี จะไปขัดโชคลาภเข้า ให้เปลี่ยนเป็นสีแดง เปลี่ยนสีรถคงทำได้ยากกว่า แต่ถ้าจะหลีกเลี่ยงโชคร้ายให้ได้ ก็ต้องเลี่ยงไปใช้วิธีนี้ ซึ่งดูเป็นวิธีศรีธนญไชยดี
มีข้อความจากไลน์เด้งขึ้นมา ฉันคว้าโทรศัพท์มากดดูแก้เซ็ง
‘กรุณาส่งข้อความนี้ให้อีกห้าสิบคน แล้วคุณจะพบกับโชคดี’
นี่ก็อีกราย...ฉันยิ้มมุมปาก ไม่มาเสียเวลากับเรื่องบ้า ๆ พวกนี้หรอก กดลบข้อความนั้นทิ้งไป
(มีต่อ)