ตามหัวข้อเลยนะคะ เราอยากรู้ค่ะว่าทำยังไงไม่ให้จิตมันฟุ้งซ่าน ทำยังไงให้ตัวเองนิ่งขึ้นดี ต้องเล่าก่อนค่ะ ว่าปกติเป็นคนชอบปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว แต่มาติดอยู่เรื่องเดียวคือเราชอบกลัวเวลาสวดมนต์อ่ะค่ะ เราไม่ได้เพ้อเจ้อนะคะ แต่เวลาเราสวด เราจะสามารถสัมผัสพลังงานพวกนี้ได้ค่ะ
เช่นเราสวดๆอยู่ เราจะรู้สึกเย็นๆบริเวณรอบลำตัวเลยค่ะ บางทีก็เย็นกลางหลัง บางทีก็เย็นที่เท้า หรือบางทีก็เย็นบริเวณรอบๆค่ะ เย็นปบบเย็นยะเยือกอ่ะค่ะ อย่างกับลมหิมะเลย แต่เราอยู่ห้องธรรมดา ห้องพัดลมแบบนี้
แล้วจะขนลุกเสมอ เวลาสัมผัสอะไรแบบนี้ได้
ทีนี้เราไม่ได้บอกว่าไอการสัมผัสพลังงานอะไรแบบนี้มันไม่ดีนะคะ แต่ทีนี้มันก็มีข้อเสียอย่างนึงคือ เวลาเราจะเข้าห้องพระไปสวดมนต์กลายเป็นว่าเราชอบไปกลัวไออาการที่เราเป็นอยู่ซะเอง เช่นเรากลัวว่า เขาจะมาทำร้ายเรามั้ย
หรือกลัวเขาจะหลอกเรา เราเป็นแบบนี้บ่อยมากค่ะ ทุกครั้งที่เข้าไปสวดมนต์ เราเลย เหมือนคนฟุ้งซ่านไปเลยว่าสวดทีไรจิตก็ไม่เคยนิ่ง และเอาชนะไม่เคยได้สักที มันเป็นอุปสรรค์สำหรับการปฏิบัติธรรมมากค่ะ เราไม่รู้จะแก้ยังไงดี
ตอนนี้เราอายุ 16 แล้วนะคะ ชอบปฏิบัติมาตั้งแต่ 13 แล้วค่ะ แต่ทำไม่เคยต่อเนื่องก็เพราะเรื่องนี้แหละที่เจอ คือจิตชอบไปกลัว ชอบไปคิดมาก แต่พอสวดเอาเข้าจริงๆมันก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ มีแต่เราที่คิดไปเอง
เราอยากทราบถึงพี่ๆหรือเพื่อนๆ ที่ปฏิบัติกันมาได้นานๆอ่ะค่ะ ว่าเวลาเจอสถานการณ์แบบนี้ จัดการกับความคิดยังไง แล้วรับมือยังไงกันบ้าง
บางท่านอาจจะคิดนะคะ ว่าถ้ากลัวมากแล้วปฏิบัติไปทำไม ก็เลิกทำสิ เราเคยเลิกไปหลายครั้งแล้วค่ะ กับการปฏิบัติเนี่ย ท้อไปก็มาก ล้มไปก็หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็เหมือนจะมีอะไรดลบันดาลให้กลับไปปฏิบัติได้ตลอดค่ะ แต่จะต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่องก็ขึ้นอยู่กับตัวเองทั้งนั้น เราเคยลองหนีการปฏิบัติมาหลายครั้งนะคะ การปฏิบัติของเรา ณ.ที่นี้หมายถึงการสวดมนต์ สร้างความดี ถือศีลควบคู่
เราชอบปฏิบัติค่ะ ยังไม่ทราบผลที่แท้จริงเหมือนกันว่าชอบไปทำไม แต่ปฏิบัติแล้วรู้สึกเลิกไม่ได้ค่ะ ช่วงนี้เองเราไม่ได้ปฏิบัติมา 1-2 เดือนแล้ว แล้วเรารู้สึกไม่ชินเลยค่ะ รู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง เหมือนเราลืมอะไรสักอย่าง ไม่ปฏิบัติไม่ใช่ว่ามีความสุขนะคะ ไม่แม้แต่น้อย เราเคยคิดนะ ทำไมชีวิตเราไม่เหมือนเด็กคนอื่น ถ้าเป็นวัยประมานนี้ ส่วนใหญ่ก็ต้อง ออกไปเที่ยว ออกไปเล่น มีชีวิตในแบบของเขา แต่เราคือไม่เลยค่ะ เราชอบอยู่บ้าน ชอบปฏิบัติธรรม สวดมนต์ไหว้พระ
เราเชื่อโลกหลังความตาย แต่ไม่ได้งมงายขนาดนั้นนะคะ เราเชื่อผลของการกระทำ เชื่อมั่นในตัวเอง ทำนองนี้ซะมากกว่าเชื่อมั่นในความดี เรื่องพวกนี้เป็นอะไรที่เราศรัทธา เป็นอะไรที่เราเชื่อ และเราชอบทำความดีค่ะ แต่อย่างที่เราอธิบายไปในตอนต้น ว่าเราชอบไปกลัวชอบไปคิดเยอะ เราเองก็ไม่รู้จะแก้ไขยังไงดี
มีรุ่นพี่เราที่สนิทคนนึงพี่เขาก็บอกนะคะ ว่าใจต้องเด็ดเดี่ยว มั่นคงเข้าใว้ อย่าไปกลัว เราอ่านเรารู้นะคะ ว่าต้องทำยังไง แต่พอถึงเวลาจริงๆ
แทนที่จะหายกลัว ก็ดันกลัวเหมือนเดิมอีก ไม่มีประโยชน์เลยค่ะ เลยไม่รู้ต้องแก้ยังไงดีอเราจนปัญญามากค่ะ ไม่อยากให้การปฏิบัติต้องล้มเลิกไปเลย ฮือออออ
เป็นคนจิตฟุ้งซ่านง่าย ทำอย่างไร จึงจะทำให้จิตนิ่งและแข็งขึ้นดีคะ
เช่นเราสวดๆอยู่ เราจะรู้สึกเย็นๆบริเวณรอบลำตัวเลยค่ะ บางทีก็เย็นกลางหลัง บางทีก็เย็นที่เท้า หรือบางทีก็เย็นบริเวณรอบๆค่ะ เย็นปบบเย็นยะเยือกอ่ะค่ะ อย่างกับลมหิมะเลย แต่เราอยู่ห้องธรรมดา ห้องพัดลมแบบนี้
แล้วจะขนลุกเสมอ เวลาสัมผัสอะไรแบบนี้ได้
ทีนี้เราไม่ได้บอกว่าไอการสัมผัสพลังงานอะไรแบบนี้มันไม่ดีนะคะ แต่ทีนี้มันก็มีข้อเสียอย่างนึงคือ เวลาเราจะเข้าห้องพระไปสวดมนต์กลายเป็นว่าเราชอบไปกลัวไออาการที่เราเป็นอยู่ซะเอง เช่นเรากลัวว่า เขาจะมาทำร้ายเรามั้ย
หรือกลัวเขาจะหลอกเรา เราเป็นแบบนี้บ่อยมากค่ะ ทุกครั้งที่เข้าไปสวดมนต์ เราเลย เหมือนคนฟุ้งซ่านไปเลยว่าสวดทีไรจิตก็ไม่เคยนิ่ง และเอาชนะไม่เคยได้สักที มันเป็นอุปสรรค์สำหรับการปฏิบัติธรรมมากค่ะ เราไม่รู้จะแก้ยังไงดี
ตอนนี้เราอายุ 16 แล้วนะคะ ชอบปฏิบัติมาตั้งแต่ 13 แล้วค่ะ แต่ทำไม่เคยต่อเนื่องก็เพราะเรื่องนี้แหละที่เจอ คือจิตชอบไปกลัว ชอบไปคิดมาก แต่พอสวดเอาเข้าจริงๆมันก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ มีแต่เราที่คิดไปเอง
เราอยากทราบถึงพี่ๆหรือเพื่อนๆ ที่ปฏิบัติกันมาได้นานๆอ่ะค่ะ ว่าเวลาเจอสถานการณ์แบบนี้ จัดการกับความคิดยังไง แล้วรับมือยังไงกันบ้าง
บางท่านอาจจะคิดนะคะ ว่าถ้ากลัวมากแล้วปฏิบัติไปทำไม ก็เลิกทำสิ เราเคยเลิกไปหลายครั้งแล้วค่ะ กับการปฏิบัติเนี่ย ท้อไปก็มาก ล้มไปก็หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็เหมือนจะมีอะไรดลบันดาลให้กลับไปปฏิบัติได้ตลอดค่ะ แต่จะต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่องก็ขึ้นอยู่กับตัวเองทั้งนั้น เราเคยลองหนีการปฏิบัติมาหลายครั้งนะคะ การปฏิบัติของเรา ณ.ที่นี้หมายถึงการสวดมนต์ สร้างความดี ถือศีลควบคู่
เราชอบปฏิบัติค่ะ ยังไม่ทราบผลที่แท้จริงเหมือนกันว่าชอบไปทำไม แต่ปฏิบัติแล้วรู้สึกเลิกไม่ได้ค่ะ ช่วงนี้เองเราไม่ได้ปฏิบัติมา 1-2 เดือนแล้ว แล้วเรารู้สึกไม่ชินเลยค่ะ รู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง เหมือนเราลืมอะไรสักอย่าง ไม่ปฏิบัติไม่ใช่ว่ามีความสุขนะคะ ไม่แม้แต่น้อย เราเคยคิดนะ ทำไมชีวิตเราไม่เหมือนเด็กคนอื่น ถ้าเป็นวัยประมานนี้ ส่วนใหญ่ก็ต้อง ออกไปเที่ยว ออกไปเล่น มีชีวิตในแบบของเขา แต่เราคือไม่เลยค่ะ เราชอบอยู่บ้าน ชอบปฏิบัติธรรม สวดมนต์ไหว้พระ
เราเชื่อโลกหลังความตาย แต่ไม่ได้งมงายขนาดนั้นนะคะ เราเชื่อผลของการกระทำ เชื่อมั่นในตัวเอง ทำนองนี้ซะมากกว่าเชื่อมั่นในความดี เรื่องพวกนี้เป็นอะไรที่เราศรัทธา เป็นอะไรที่เราเชื่อ และเราชอบทำความดีค่ะ แต่อย่างที่เราอธิบายไปในตอนต้น ว่าเราชอบไปกลัวชอบไปคิดเยอะ เราเองก็ไม่รู้จะแก้ไขยังไงดี
มีรุ่นพี่เราที่สนิทคนนึงพี่เขาก็บอกนะคะ ว่าใจต้องเด็ดเดี่ยว มั่นคงเข้าใว้ อย่าไปกลัว เราอ่านเรารู้นะคะ ว่าต้องทำยังไง แต่พอถึงเวลาจริงๆ
แทนที่จะหายกลัว ก็ดันกลัวเหมือนเดิมอีก ไม่มีประโยชน์เลยค่ะ เลยไม่รู้ต้องแก้ยังไงดีอเราจนปัญญามากค่ะ ไม่อยากให้การปฏิบัติต้องล้มเลิกไปเลย ฮือออออ