ครั้งแรกที่ได้ชมตัวอย่าง Clickbait ความสงสัยใคร่รู้ได้ถูกกระตุกขึ้นมาจนทำให้เราตัดสินใจที่จะรับชมซีรีส์เรื่องนี้
และเมื่อเปิดใจชมตอนแรกเรียบร้อยก็ไม่สามารถเทเรื่องนี้ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะ Clickbait คือลิมิเต็ดซีรีส์ของ Netflix จำนวน 8 ตอนจบที่กลมกล่อม ระทึกและยากที่จะคาดเดา
ยิ่งเราเป็นคอสืบสวนสอบสวนและตามหาคนร้ายตัวจริงด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกสนใจมากขึ้นไปอีก
Clickbait ว่าด้วยเรื่องของ นิก บรูว์เออร์ เจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดประจำทีมวอลเลย์บอลของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์
เป็นสามีและคุณพ่อลูกสองที่แต่งงานกับ โซเฟีย บรูว์เออร์ ภรรยาผิวสีที่มีอาชีพเป็นครู
ซีรีส์ได้เปิดเผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่เหมือนจะไม่ลงรอยกันของนิกกับ เพีย บรูว์เออร์ น้องสาวในไส้
และปัญหาบางอย่างที่ยังคงเป็นความลับซึ่งไม่อาจแพร่งพรายระหว่างนิกกับเมียรักของตัวเอง
จู่ ๆ ซีรีส์ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไปด้วยการสร้างเหตุให้นิกโดนลักพาตัวและถูกถ่ายคลิปว่าเขาทำร้ายผู้หญิง
มิหนำซ้ำเขายังได้ฆ่าผู้หญิง และถ้าคลิปนี้ถูกคลิกจนจำนวนยอดวิวครบ 5 ล้านวิวเมื่อไหร่ เขาจะถูกฆ่าตายตามตัวอย่าง
ความฉลาดแยบยลของบทซีรีส์เรื่องนี้คือการที่ทำให้เราเข้าไปสำรวจความรู้สึก ความทะยานอยาก ความดิบในจิตใจของมนุษย์
ผ่านตัวละครในแต่ละตอน ไม่ว่าจะเป็น The Sister น้องสาวหุนหันพลันแล่นของนิก The Detective โรชาน อมิรี นักสืบมุสลิม
ที่เป็นหม้ายและแยกกันอยู่กับเมียเก่า มิหนำซ้ำยังเหมือนจะกิ๊กกั๊กกับเพีย The Wife ภรรยาที่ดูเหมือนจะเป็นคนใจกว้างของนิก
ทว่าแท้จริงแล้วกลับคบชู้กับครูในโรงเรียนเดียวกัน และเพราะเหตุผลต่าง ๆ นานาที่ซีรีส์พยายามใส่เข้ามาเพื่อดึงความสนใจนี่เอง
ซีรีส์ 3 ตอนแรกเราถึงได้ตัดสินใจนิกไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต่างอะไรจากโลกออนไลน์ที่ตัดสินคน ๆ หนึ่งทั้ง ๆ ที่รู้จักเพียงผิวเผิน
เราตัดสินว่านิกคือผัวเฮงซวยที่สับรางเก่งและคบซ้อนหลายคน ส่วนโซเฟียเองก็ไม่ใช่จะดีเด่ขนาดนั้น เรียกว่าหญิงก็ร้ายชายก็เลว
กว่าจะรู้ว่าเราโดนหลอกก็เมื่อความจริงบางอย่างเริ่มปรากฏขึ้นมาในตอนของพี่ชายของหนึ่งในกิ๊กของนิกที่สารภาพว่าจับคนผิด
ใช่แล้ว นิกไม่ใช่คนเลว และนิกคือผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง แต่เพราะการไว้ใจคนใกล้ตัวต่างหากที่ทำให้นิกเป็นคนจะซวยช่วยไม่ได้
ซีรีส์พยายามสับขาหลอกด้วยการใส่ประเด็นของเมียน้อยเข้ามา โดยเฉพาะเมียน้อยที่ฆ่าตัวตายและเป็นต้นเหตุให้นิกถูกพี่ชาย
ของเมียน้อยลักพาตัวไปทรมาน ถ่ายคลิปลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก่อนจะหักมุมว่าตัวคนร้ายที่ลักพาตัวไม่ใช่ตัวฆาตกรที่แท้จริง
แต่ที่เราชอบที่สุดไม่ใช่แผนการแยบยลที่พยายามซ่อนฆาตกรตัวจริงเอาไว้จนตอนสุดท้ายของซีรีส์
แต่คือการโยงใยทุกวงการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกเสมือนจริงและกลายเป็นคดีฆาตกรรมในชีวิตจริงไว้ด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นตำรวจผู้รับผิดชอบคดี นักข่าวผู้กระหายเรทติ้ง เมียน้อยผู้ตกเป็นเหยื่อ เครือญาติของผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกคุกคาม
มิหนำซ้ำยังใส่ใจด้วยการนำประเด็นที่มีอยู่จริงในสังคมมาเขียนคาแรคเตอร์ให้ตัวละครมีมิติมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น
LGBTQIA+ คนผิวสี คนมุสลิม คนเอเชีย คนป่วย ถึงแม้ว่าจะผิวเผินแต่ดูครอบคลุมและเนียนตาเหมือนไม่ได้ยัดเยียด
ไหนจะเรื่องการท้าทายศีลธรรม จรรยาบรรณในสัมมาอาชีพ การล้ำเส้น การหมิ่นเหม่ของมนุษย์ที่ทำกับมนุษย์ด้วยกัน
รวมไปถึงการใส่น้ำหนักและเหตุผลที่ผลักดันตัวละครให้คิดที่จะลงมือทำแบบนั้น ถึงแม้ว่ามีบางฉากที่ฟังไม่ขึ้นบ้าง
ทว่าการเปิดเผยความคิดผ่านตัวละครในแต่ละตอนทำให้การโน้มน้าวให้คล้อยตามเกิดขึ้นมาและเชื่อจนสนิทใจ
และการไม่ใช้มุกเดิม ๆ ที่มักจะหาแพะรับบาปที่มีชนักติดหลังคล้ายกันให้ต้องมาชดใช้กรรมแทน
การแสดงของนักแสดงทุกคนไม่ต้องพูดถึง โดยเฉพาะ โซอี้ คาซาน ที่หน้าตาโกงอายุจริงมากและบทเด่นมาก
รวมไปถึงนักแสดงคนอื่น ๆ ก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน แต่ที่เราประทับใจเป็นพิเศษคงจะเป็น แดเนียล เฮนแชล
ในส่วนของงานโปรดักชั่นอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่พล็อตเรื่องกับการผูกเรื่องนี้ต้องขอคารวะให้เลยงาม ๆ
ถ้าจะหักคะแนนก็คงต้องหักฉากหวานของพระนางที่ใส่มาให้แค่ 1 ซีนเล็ก ๆ เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่เรารอดูและเชียร์คู่นี้อยู่
นอกนั้นถือว่าซีรีส์เรื่องนี้แทบไม่มีแผลเหวอะอะไรเลย
สุดท้ายนี้ ถ้าใครมีเวลาว่าง 8 ชั่วโมงอยากชมผลงานคุณภาพ
ขอแนะนำ Clickbait สุดยอดลิมิเต็ดซีรีส์แห่งยุคโลกาภิวัตน์
ที่ขึ้นหิ้งและอันดับ 1 ในดวงใจของเราขณะนี้จนไม่อาจละสายตาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
Clickbait สุดยอดลิมิเต็ดซีรีส์แห่งยุคโลกาภิวัตน์ (spoil)
และเมื่อเปิดใจชมตอนแรกเรียบร้อยก็ไม่สามารถเทเรื่องนี้ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะ Clickbait คือลิมิเต็ดซีรีส์ของ Netflix จำนวน 8 ตอนจบที่กลมกล่อม ระทึกและยากที่จะคาดเดา
ยิ่งเราเป็นคอสืบสวนสอบสวนและตามหาคนร้ายตัวจริงด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกสนใจมากขึ้นไปอีก
Clickbait ว่าด้วยเรื่องของ นิก บรูว์เออร์ เจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดประจำทีมวอลเลย์บอลของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์
เป็นสามีและคุณพ่อลูกสองที่แต่งงานกับ โซเฟีย บรูว์เออร์ ภรรยาผิวสีที่มีอาชีพเป็นครู
ซีรีส์ได้เปิดเผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่เหมือนจะไม่ลงรอยกันของนิกกับ เพีย บรูว์เออร์ น้องสาวในไส้
และปัญหาบางอย่างที่ยังคงเป็นความลับซึ่งไม่อาจแพร่งพรายระหว่างนิกกับเมียรักของตัวเอง
จู่ ๆ ซีรีส์ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไปด้วยการสร้างเหตุให้นิกโดนลักพาตัวและถูกถ่ายคลิปว่าเขาทำร้ายผู้หญิง
มิหนำซ้ำเขายังได้ฆ่าผู้หญิง และถ้าคลิปนี้ถูกคลิกจนจำนวนยอดวิวครบ 5 ล้านวิวเมื่อไหร่ เขาจะถูกฆ่าตายตามตัวอย่าง
ความฉลาดแยบยลของบทซีรีส์เรื่องนี้คือการที่ทำให้เราเข้าไปสำรวจความรู้สึก ความทะยานอยาก ความดิบในจิตใจของมนุษย์
ผ่านตัวละครในแต่ละตอน ไม่ว่าจะเป็น The Sister น้องสาวหุนหันพลันแล่นของนิก The Detective โรชาน อมิรี นักสืบมุสลิม
ที่เป็นหม้ายและแยกกันอยู่กับเมียเก่า มิหนำซ้ำยังเหมือนจะกิ๊กกั๊กกับเพีย The Wife ภรรยาที่ดูเหมือนจะเป็นคนใจกว้างของนิก
ทว่าแท้จริงแล้วกลับคบชู้กับครูในโรงเรียนเดียวกัน และเพราะเหตุผลต่าง ๆ นานาที่ซีรีส์พยายามใส่เข้ามาเพื่อดึงความสนใจนี่เอง
ซีรีส์ 3 ตอนแรกเราถึงได้ตัดสินใจนิกไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต่างอะไรจากโลกออนไลน์ที่ตัดสินคน ๆ หนึ่งทั้ง ๆ ที่รู้จักเพียงผิวเผิน
เราตัดสินว่านิกคือผัวเฮงซวยที่สับรางเก่งและคบซ้อนหลายคน ส่วนโซเฟียเองก็ไม่ใช่จะดีเด่ขนาดนั้น เรียกว่าหญิงก็ร้ายชายก็เลว
กว่าจะรู้ว่าเราโดนหลอกก็เมื่อความจริงบางอย่างเริ่มปรากฏขึ้นมาในตอนของพี่ชายของหนึ่งในกิ๊กของนิกที่สารภาพว่าจับคนผิด
ใช่แล้ว นิกไม่ใช่คนเลว และนิกคือผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง แต่เพราะการไว้ใจคนใกล้ตัวต่างหากที่ทำให้นิกเป็นคนจะซวยช่วยไม่ได้
ซีรีส์พยายามสับขาหลอกด้วยการใส่ประเด็นของเมียน้อยเข้ามา โดยเฉพาะเมียน้อยที่ฆ่าตัวตายและเป็นต้นเหตุให้นิกถูกพี่ชาย
ของเมียน้อยลักพาตัวไปทรมาน ถ่ายคลิปลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก่อนจะหักมุมว่าตัวคนร้ายที่ลักพาตัวไม่ใช่ตัวฆาตกรที่แท้จริง
แต่ที่เราชอบที่สุดไม่ใช่แผนการแยบยลที่พยายามซ่อนฆาตกรตัวจริงเอาไว้จนตอนสุดท้ายของซีรีส์
แต่คือการโยงใยทุกวงการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกเสมือนจริงและกลายเป็นคดีฆาตกรรมในชีวิตจริงไว้ด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นตำรวจผู้รับผิดชอบคดี นักข่าวผู้กระหายเรทติ้ง เมียน้อยผู้ตกเป็นเหยื่อ เครือญาติของผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกคุกคาม
มิหนำซ้ำยังใส่ใจด้วยการนำประเด็นที่มีอยู่จริงในสังคมมาเขียนคาแรคเตอร์ให้ตัวละครมีมิติมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น
LGBTQIA+ คนผิวสี คนมุสลิม คนเอเชีย คนป่วย ถึงแม้ว่าจะผิวเผินแต่ดูครอบคลุมและเนียนตาเหมือนไม่ได้ยัดเยียด
ไหนจะเรื่องการท้าทายศีลธรรม จรรยาบรรณในสัมมาอาชีพ การล้ำเส้น การหมิ่นเหม่ของมนุษย์ที่ทำกับมนุษย์ด้วยกัน
รวมไปถึงการใส่น้ำหนักและเหตุผลที่ผลักดันตัวละครให้คิดที่จะลงมือทำแบบนั้น ถึงแม้ว่ามีบางฉากที่ฟังไม่ขึ้นบ้าง
ทว่าการเปิดเผยความคิดผ่านตัวละครในแต่ละตอนทำให้การโน้มน้าวให้คล้อยตามเกิดขึ้นมาและเชื่อจนสนิทใจ
และการไม่ใช้มุกเดิม ๆ ที่มักจะหาแพะรับบาปที่มีชนักติดหลังคล้ายกันให้ต้องมาชดใช้กรรมแทน
การแสดงของนักแสดงทุกคนไม่ต้องพูดถึง โดยเฉพาะ โซอี้ คาซาน ที่หน้าตาโกงอายุจริงมากและบทเด่นมาก
รวมไปถึงนักแสดงคนอื่น ๆ ก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน แต่ที่เราประทับใจเป็นพิเศษคงจะเป็น แดเนียล เฮนแชล
ในส่วนของงานโปรดักชั่นอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่พล็อตเรื่องกับการผูกเรื่องนี้ต้องขอคารวะให้เลยงาม ๆ
ถ้าจะหักคะแนนก็คงต้องหักฉากหวานของพระนางที่ใส่มาให้แค่ 1 ซีนเล็ก ๆ เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่เรารอดูและเชียร์คู่นี้อยู่
นอกนั้นถือว่าซีรีส์เรื่องนี้แทบไม่มีแผลเหวอะอะไรเลย
สุดท้ายนี้ ถ้าใครมีเวลาว่าง 8 ชั่วโมงอยากชมผลงานคุณภาพ
ขอแนะนำ Clickbait สุดยอดลิมิเต็ดซีรีส์แห่งยุคโลกาภิวัตน์
ที่ขึ้นหิ้งและอันดับ 1 ในดวงใจของเราขณะนี้จนไม่อาจละสายตาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว