ก้าวไกล ล็อกเป้าหลัก ‘ประยุทธ์-อนุทิน’ วางขุนพลไม่มาก เน้นคุณภาพ ตรงประเด็น
https://www.matichon.co.th/politics/news_2910199
 
 
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์การเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ว่า 
 
ขณะนี้พรรคก.ก.กำลังเตรียมข้อมูลและฝึกซ้อมการอภิปราย เพื่อให้ทุกอย่างตรงประเด็นและมีคุณภาพมากที่สุด เบื้องต้นวางตัวผู้อภิปรายไว้ไม่เกิน 10 คน และคาดว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีประมาณ 3 คน โดยจะเน้นอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นหลัก ส่วนประเด็นการอภิปรายฯ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องวัคซีน และการบริหารจัดการ โควิด-19 เพราะทั้ง 2 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้น ที่ทำให้เกิดคนเจ็บและคนตายเป็นหมื่นเป็นแสน รวมถึงเศรษฐกิจ และสังคมที่ย่ำแย่
 
นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ชื่อ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ก็มีส่วนที่น่าสนใจจะถูกอภิปรายฯ ทั้งนี้ เราต้องชี้ให้ประชาชนเห็นถึงความผิดพลาดด้านการบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ตั้งแต่การแทงมาตัวเดียว การกระจายวัคซีน การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การกู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาท ที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้ตรงกับเป้าหมาย ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจพร้อมตามกฎหมายหลาย 10 ฉบับ สะท้อนว่าไม่มีความรู้ความสามารถอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ยังมีเรื่องข้อสังเกตที่นำเงินไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง โดยอาจจะเป็นเรื่องของการทุจริตโดยมิชอบใช่หรือไม่ เช่น ชุดตรวจ ATK หรือการสั่งวัคซีนบางยี่ห้อ
 
นายธีรัจชัย กล่าวว่า ในครั้งนี้ผู้อภิปรายของพรรคก.ก. จะสามารถพูดได้ดีกว่าเดิม เพราะมีทักษะดีขึ้น และข้อมูลต่างๆ ก็มีจำนวนมาก เราจะทำให้ประชาชนได้เห็นข้อมูลลึกกว่าเดิม และจะไม่อภิปรายรัฐมนตรีหลายคนหรือใช้ผู้อภิปรายหลายคน เพราะจะเน้นเชิงคุณภาพและตรงประเด็น

---

 
‘ตา’เศร้า ‘ยาย’ฉีดวัคซีนแบบไขว้ครบ2เข็ม กลับบ้านบ่นหายใจไม่ออกดับสลด
https://www.dailynews.co.th/news/210211/
  
สุดเศร้า คุณตาวัย 73 ปี อุ้มสุนัขแสนรัก เผยกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ต้องสูญเสียภรรยาวัย 66 ปี หลังไปฉีดวัคซีนแบบไขว้ตามที่ภาครัฐกำหนด ชี้รับ "ซิโนแวค" ต้นเดือนสิงหาคม ก่อนรับ แอสตราฯ ตามวันนัด ปรากฏ จู่ ๆ หายใจไม่ออก หามส่ง รพ.ยื้อชีวิตแต่ก็ไม่ทัน
   
วันที่ 28 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายหล่อ (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี ชาวบ้านพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่าช่วงคืนที่ผ่านมา ตนได้สูญเสียภรรยาคู่ชีวิตไปแล้วคือ นางสมควร (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี โดยนางสมควร เพิ่งไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มที่ 2 แบบที่แพทย์แนะนำให้ฉีดไขว้ โดยเข็มแรกฉีด “ซิโนแวค” เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ส่วนเข็มที่ 2 แอสตราฯ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนางสมควร มีโรคประจำตัวคือ ความดันสูง ขณะกลับบ้านมาพักผ่อนยังไม่พบอาการผิดปกติ กระทั่งเวลา 22.00 น. เริ่มมีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ญาติรีบพาไปรักษายัง รพ.กบินทร์บุรี แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือไว้ได้ 
  
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางครอบครัวรวมทั้งตน ต่างรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ปกติภรรยาตนแข็งแรงไม่เจ็บป่วยแม้จะมีโรคประจำตัว แต่พอไปฉีดวัคซีนแบบไขว้กลับต้องมาเสียชีวิตเช่นนี้ จึงอยากให้ฝ่ายงานที่รับผิดชอบช่วยออกมาดูแลครอบครัวตนด้วย โดยศพของ นางสมควร ญาตินำไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดศรีบุญเรือง อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี
  
“เชื่อว่าหลังจากที่ ยายสมควร ตายไปแล้ว วิญญาณยังคงไม่ไปไหน เพราะเขารักครอบครัวมาก โดยเฉพาะสุนัขที่เลี้ยงไว้ มักจะเห่าหอนเวลายายกลับบ้านเสมอ” คุณตาหล่อ กล่าวทิ้งท้าย
 

---

 
พบผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนสูตรไขว้ แพทย์ชันสูตร พบเลือดออกในสมอง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2910122
 
พบผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนสูตรไขว้ แพทย์ชันสูตร พบเลือดออกในสมอง
 
รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นี้ว่าเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาศูนย์วิทยุ สภ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต ภายในอาคารพาณิชย์ตึกแถว 5 ชั้น ในซอยศิริ อ.หาดใหญ่ ร.ต.อ.ปริญญา ปิยญาติ พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ และแพทย์เวรโรงพยาบาลหาดใหญ่ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในบ้านหลังดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนส่วนตัวชั้น 4 เป็นหญิง อายุ 52 ปี ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ปนัดดา คงจรูญ พนักงานไปรษณีย์ แห่งหนึ่งใน จ.สงขลา แพทย์เวรจึงได้ทำการชันสูตรฯ เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตมีน้ำหนัก 80 กก. มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง และเบาหวาน
 
จากการสอบถามทางญาติผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้ไปฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม โดยฉีดวัคซีนเข็มแรก เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 64 เป็นวัคซีนซิโนแวค และฉีดวัคซีนเข็มที่สอง เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 64 เป็นวัคซีนแอสตราเซนเนกา ต่อมาหลังฉีดเข็มสองผู้เสียชีวิตเริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว แน่นหน้าอก และช่วงตลอด 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตได้ลางานติดต่อกันเนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอก ซึ่งก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะเสียชีวิต ทางญาติได้มีการประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาตรวจสอบดูอาการที่บ้านถึง 2 รอบ และเตรียมนำส่งโรงพยาบาล แต่ทางผู้เสียชีวิตยืนยันกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่ายังไหวอยู่ จนกระทั่งผู้เสียชีวิตได้นอนหลับไป และมาจับชีพจรอีกครั้งพบว่าเสียชีวิตแล้ว
 
อย่างไรก็ตามล่าสุดนั้นทางโรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้ทำการตรวจพิสูจน์ศพแล้วพบว่า น.ส.ปนัดดาฯ เส้นเลือดในสมองแตก บริเวณสมองซีกซ้าย มีเลือดออกจำนวนมาก และผลการ SWAB COVID-19 ไม่พบว่ามีเชื้อแต่อย่างใด