อะตีตัง นาน๎วาคะเมยยะ นัปปะฏิกังเข อะนาคะตัง
บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว, ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง
ตามที่สวดในภัทเทกรัตตคาถา อยากทราบว่าชีวิตฆราวาสทั่วไปในกิจธุระอย่างโลกียวิสัย สามารถทำได้จริงหรือเปล่าครับ
เพราะรู้สึกว่าการทำโดยไม่หวังผลเนี่ยแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย โดยเฉพาะในธุระกิจการงาน
เพราะชีวิตเราต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกเยอะแยะ ถ้าต้องการสิ่งใดสิ่งนึงก็ต้องทำ 1,2,3,...ให้สำเร็จซะก่อนจึงจะได้
แล้วแบบนี้จะไม่หวังได้ยังไง แถมต้องหวังหลายครั้งหลายซับหลายซ้อนมากกว่าจะได้ตามต้องการ
เราไม่สามารถทำแบบพระที่ต้องสำนึกว่ามีแต่ตัวกับปีกเหมือนนก อยากไปไหนก็บินเอาแต่ปีกติดตัวไป
หรือเป็นผู้ที่ทำตัวแบบ อัปปัฏโฐ โหติ เป็นผู้มีธุระน้อย อัปปะกิจโจ โหติ เป็นผู้มีกิจน้อย แบบที่พระทำได้
แล้วถ้ายังต้องหวังอยู่แบบนี้ เราจะหลีกพ้นจากความทุกข์ได้ยังไงครับ
การทำโดยไม่คาดหวังอนาคต มีใครทำได้จริงบ้างหรือเปล่าครับ
บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว, ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง
ตามที่สวดในภัทเทกรัตตคาถา อยากทราบว่าชีวิตฆราวาสทั่วไปในกิจธุระอย่างโลกียวิสัย สามารถทำได้จริงหรือเปล่าครับ
เพราะรู้สึกว่าการทำโดยไม่หวังผลเนี่ยแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย โดยเฉพาะในธุระกิจการงาน
เพราะชีวิตเราต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกเยอะแยะ ถ้าต้องการสิ่งใดสิ่งนึงก็ต้องทำ 1,2,3,...ให้สำเร็จซะก่อนจึงจะได้
แล้วแบบนี้จะไม่หวังได้ยังไง แถมต้องหวังหลายครั้งหลายซับหลายซ้อนมากกว่าจะได้ตามต้องการ
เราไม่สามารถทำแบบพระที่ต้องสำนึกว่ามีแต่ตัวกับปีกเหมือนนก อยากไปไหนก็บินเอาแต่ปีกติดตัวไป
หรือเป็นผู้ที่ทำตัวแบบ อัปปัฏโฐ โหติ เป็นผู้มีธุระน้อย อัปปะกิจโจ โหติ เป็นผู้มีกิจน้อย แบบที่พระทำได้
แล้วถ้ายังต้องหวังอยู่แบบนี้ เราจะหลีกพ้นจากความทุกข์ได้ยังไงครับ