ลุงแผนขอให้ผมเขียนเรื่องนี้ จาก คอมเมนท์ที่ 14
https://ppantip.com/topic/40927973
จึงมาส่งงานตามที่รับปากไว้
สืบเนื่องจากการที่มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 สูงขึ้นมาก ทำให้จำนวนเตียงที่จะรับผู้ป่วยมีไม่เพียงพอ จึงมีแนวทางให้ผู้ป่วยที่อาการไม่มาก ดูแลตัวเองที่บ้าน ที่เรียกว่า Home Isolation ซึ่งมีวิธีการดังนี้
1.เตรียมสถานที่เพื่อแยกผู้ป่วยออกจากบุคคลอื่นในครอบครัว ถ้าไม่ได้อยู่คนเดียว เพื่อป้องกันการติดต่อ
2.ข้าวของเครื่องใช้ต้องจัดแยกไม่ปะปนกับบุคคลอื่น และถังขยะที่ผู้ป่วยใช้ โดยเฉพาะทิชชูที่อาจมีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ต้องจัดแยก และมีวิธีกำจัดที่เหมาะสม
3.หมั่นล้างมือ และเช็ดล้างทำความสะอาดสิ่งที่อาจปนเปื้อนเชื้อ เช่นลูกบิดประตู ราวบันได ฯลฯ ในกรณีที่มีผู้อื่นอยู่ร่วมบ้านด้วย
4.สวมแมส ตลอดเวลา ถ้ามีผู้อื่นอยู่ร่วมบ้านด้วย
3.ยาที่จำเป็นต้องมี หรือควรมี แยกเป็น
ก.ยารักษาโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฯลฯ อย่าให้ขาด
ข.ยาที่ใช้ในการดูแลโควิท19 ที่จำเป็นต้องมี ได้แก่ ยาลดไข้ Paracetamol ยาแก้ไอ ไม่ว่าจะเป็น ยาเม็ด Dextrometrophan ยาแก้ไอน้ำดำ ยาละลายเสมหะ เช่น Nac long Flemex ยาแก้หวัด เช่น คลอเฟนนิรามีน Cetirizine และใช้เมื่อมีอาการดังกล่าว
3.น้ำดื่มที่สะอาดและเพียงพอ ควรเป็นน้ำอุ่น อย่างน้อย 2 - 2.5 ลิตรต่อวัน
4.ฟ้าทะลายโจร (มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ ใช้ในโควิดที่ไม่รุนแรง ถ้ารุนแรงต้องใช้ยาต้านไวรัส เช่น Favipiravia ซึ่งมีเฉพาะในโรงพยาบาล)
5..น้ำกระชาย(มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ)
6.น้ำขิง และชมิ้นชัน
7.วิตามินซี ดี อี
8.ธาตุสังกะสี
9.โปรตีนให้มากพอ ได้จากไข่ชาว (อิมมูโนโกลบูลิน ก็คือโปรตีนอย่างหนึ่ง)
10.โปรไบโอติก (จุลชีพในลำไส้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.rama.mahidol.ac.th/atrama/issue037/healthy-eating
(ข้อ6-10 ใช้เพื่อเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย เพื่อให้ไปจัดการกับโรคโควิด)
4. อุปกรณ์ที่ควรมี ปรอทวัดไข้ และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว
5.สิ้งที่ควรงดหรือหลีกเลี่ยง คือ แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ บุหรี่
6.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
7.งดการออกกำลังกายไปก่อน จนกว่าจะหาย
8.รักษาสุขภาพจิตให้ดี ไม่เครียด โดยจัดหาอุปกรร์ Entertaunment ที่จำเป็น เช่นดูหนัง ฟังเพลง ดูเรื่องตลก ฯลฯ จะได้ไม่เบื่อ ในช่วงที่กักตัว
ควรวัดอุณหภูมิทุกวัน และวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้ว วันละ 3-4 ครั้ง หรือ เมื่อเวลามีอาการเหนื่อย รีบตืดต่อโรงพยาบาล เมื่อท่านดูแลที่บ้าน แล้วเกิดอาการเหนื่อยเวลาออกแรงที่เดิมท่านไม่เหนื่อย หรือวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้วได้ น้อยกว่า 96% ในคนปกติที่แข็งแรงดีมาก่อน หรือในคนที่มีค่าออกซิเจนไม่ถึง 96 % จากโรคเดิมอยู่ก่อน เช่น COPD และมีค่าออกซิเจนปลายนิ้วลดลง ≥ 3 % จากค่าเดิม
เพราะนั่นแสดงว่า เขื้อเริ่มเข้าปอดแล้ว ท่านจำเป็นต้องได้รับออกซิเจนทางจมูก และฉีด Dexametasone เข้าเส้นเลือด เพื่อชลอการทำลายปอดจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน ที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัส
ปัจจัยที่ทำให้สงสัยว่า เชื้อมีโอกาสเข้าปอด คือ ไข้หลายวันแล้วไม่ยอมลด ผู้สูงอายุ คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน คนที่มีมีเชื้ออยู่มาก (ดูได้จาก ค่า RT-PCR เป็นตัวเลขต่ำ ตั้งแต่ 16-17 ลงมา ถ้ามีค่าสูง เช่น 30-35 แปลว่ามีเช็อน้อย) และคนที่มีโรคประจำตัว 7 โรคร้าย เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตเรื้อรัง โรคมะเร็งทุกชนิด โรคเบาหวาน โรคอ้วน
การรักษาโควิด19 ที่บ้าน
https://ppantip.com/topic/40927973
จึงมาส่งงานตามที่รับปากไว้
สืบเนื่องจากการที่มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 สูงขึ้นมาก ทำให้จำนวนเตียงที่จะรับผู้ป่วยมีไม่เพียงพอ จึงมีแนวทางให้ผู้ป่วยที่อาการไม่มาก ดูแลตัวเองที่บ้าน ที่เรียกว่า Home Isolation ซึ่งมีวิธีการดังนี้
1.เตรียมสถานที่เพื่อแยกผู้ป่วยออกจากบุคคลอื่นในครอบครัว ถ้าไม่ได้อยู่คนเดียว เพื่อป้องกันการติดต่อ
2.ข้าวของเครื่องใช้ต้องจัดแยกไม่ปะปนกับบุคคลอื่น และถังขยะที่ผู้ป่วยใช้ โดยเฉพาะทิชชูที่อาจมีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ต้องจัดแยก และมีวิธีกำจัดที่เหมาะสม
3.หมั่นล้างมือ และเช็ดล้างทำความสะอาดสิ่งที่อาจปนเปื้อนเชื้อ เช่นลูกบิดประตู ราวบันได ฯลฯ ในกรณีที่มีผู้อื่นอยู่ร่วมบ้านด้วย
4.สวมแมส ตลอดเวลา ถ้ามีผู้อื่นอยู่ร่วมบ้านด้วย
3.ยาที่จำเป็นต้องมี หรือควรมี แยกเป็น
ก.ยารักษาโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฯลฯ อย่าให้ขาด
ข.ยาที่ใช้ในการดูแลโควิท19 ที่จำเป็นต้องมี ได้แก่ ยาลดไข้ Paracetamol ยาแก้ไอ ไม่ว่าจะเป็น ยาเม็ด Dextrometrophan ยาแก้ไอน้ำดำ ยาละลายเสมหะ เช่น Nac long Flemex ยาแก้หวัด เช่น คลอเฟนนิรามีน Cetirizine และใช้เมื่อมีอาการดังกล่าว
3.น้ำดื่มที่สะอาดและเพียงพอ ควรเป็นน้ำอุ่น อย่างน้อย 2 - 2.5 ลิตรต่อวัน
4.ฟ้าทะลายโจร (มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ ใช้ในโควิดที่ไม่รุนแรง ถ้ารุนแรงต้องใช้ยาต้านไวรัส เช่น Favipiravia ซึ่งมีเฉพาะในโรงพยาบาล)
5..น้ำกระชาย(มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ)
6.น้ำขิง และชมิ้นชัน
7.วิตามินซี ดี อี
8.ธาตุสังกะสี
9.โปรตีนให้มากพอ ได้จากไข่ชาว (อิมมูโนโกลบูลิน ก็คือโปรตีนอย่างหนึ่ง)
10.โปรไบโอติก (จุลชีพในลำไส้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ข้อ6-10 ใช้เพื่อเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย เพื่อให้ไปจัดการกับโรคโควิด)
4. อุปกรณ์ที่ควรมี ปรอทวัดไข้ และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว
5.สิ้งที่ควรงดหรือหลีกเลี่ยง คือ แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ บุหรี่
6.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
7.งดการออกกำลังกายไปก่อน จนกว่าจะหาย
8.รักษาสุขภาพจิตให้ดี ไม่เครียด โดยจัดหาอุปกรร์ Entertaunment ที่จำเป็น เช่นดูหนัง ฟังเพลง ดูเรื่องตลก ฯลฯ จะได้ไม่เบื่อ ในช่วงที่กักตัว
ควรวัดอุณหภูมิทุกวัน และวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้ว วันละ 3-4 ครั้ง หรือ เมื่อเวลามีอาการเหนื่อย รีบตืดต่อโรงพยาบาล เมื่อท่านดูแลที่บ้าน แล้วเกิดอาการเหนื่อยเวลาออกแรงที่เดิมท่านไม่เหนื่อย หรือวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้วได้ น้อยกว่า 96% ในคนปกติที่แข็งแรงดีมาก่อน หรือในคนที่มีค่าออกซิเจนไม่ถึง 96 % จากโรคเดิมอยู่ก่อน เช่น COPD และมีค่าออกซิเจนปลายนิ้วลดลง ≥ 3 % จากค่าเดิม
เพราะนั่นแสดงว่า เขื้อเริ่มเข้าปอดแล้ว ท่านจำเป็นต้องได้รับออกซิเจนทางจมูก และฉีด Dexametasone เข้าเส้นเลือด เพื่อชลอการทำลายปอดจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน ที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัส
ปัจจัยที่ทำให้สงสัยว่า เชื้อมีโอกาสเข้าปอด คือ ไข้หลายวันแล้วไม่ยอมลด ผู้สูงอายุ คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน คนที่มีมีเชื้ออยู่มาก (ดูได้จาก ค่า RT-PCR เป็นตัวเลขต่ำ ตั้งแต่ 16-17 ลงมา ถ้ามีค่าสูง เช่น 30-35 แปลว่ามีเช็อน้อย) และคนที่มีโรคประจำตัว 7 โรคร้าย เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตเรื้อรัง โรคมะเร็งทุกชนิด โรคเบาหวาน โรคอ้วน