ตามกระทู้เลยค่ะใครที่แต่งานแล้วย้ายมาอยู่บ้าน แฟน บ้างค่ะก่อนอื่นต้องขอเกริ่นนำร่ายยาวนิดนึงนะค่ะ คือเรากับแฟน ไม่ได้แต่งงานกัน จดแค่ทะเบียนสมรสเราเป็นคน เชียงรายแฟนเป็นคนเชียงใหม่ เรา กับแฟน แค่มัดไม้มัดมือกันเฉยๆ ให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ แล้วเราก็ย้ายมาอยู่เชียงใหม่ ช่วงแรกที่ย้ายมา เราเป็นคนง่ายๆอะไรก็ได้ เราเป็นคนไม่เรื่องมาก ใช้ให้ทำอะไรเราก็ทำไม่ค่อยขัด เราทำให้จนเคยชินแหละ ตอนแรก เรากับแฟนเราก็ทำงานบริษัทนี่แหละ เป็นบริษัทรถทั้งคู่ เราเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด ศูนย์บริการ หน้าที่ ดูแล ลูกค้าสร้างความประทับใจให้ลูกค้าเวลานำรถเข้าซ่อมเมื่อมีลูกค้าร้องเรียน จะเป็นคนรับเรื่อง และประสานงานกับผู้บริหาร และหาของขวัญ และหาวิธีการพูดกับลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าใจเย็น กลับละคนมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบคิดอะไรใหม่ๆเสมอ ส่วนแฟนเรา เป็นช่างซ่อมรถยนต์ เราทำงานอยู่คนละบริษัท ทำงานได้ประมาณ 2 ปี ก็เกิดจุดเปลี่ยน เราเป็นคนบอกแฟนเราว่า ลอง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรับซ่อมรถที่บ้านดูไหมแรกๆก็รับเป็นงานเสริมหลังเลิกงานทำเรื่อยๆ ใน ทุกๆครั้งที่ได้รับการซ่อมรถ 1 Job เราจะแบ่งเงิน ไว้ 1 ก้อน สำหรับซื้อเครื่องมือ 1 ชิ้น และ ในระหว่างที่ทำงาน ทุกๆสิ้นเดือน ก็จะ เอาเงินไปซื้อ เครื่องมือช่าง อย่างน้อยเดือนละ1ชิ้น แรกๆ ก็กะจะทำเล่นๆหารายได้เสริมช่วงวันอาทิตย์ แล้ววันหยุด ข้อเสียเปรียบ คือ ที่บ้านของเราอยู่ในซอยค่อนข้างลึกห่างจากถนนใหญ่ เข้ามาในซอยเล็กการหาลูกค้า โดย ใช่ร้านเป็นจุด สนใจ ข้อนี้ตัดไปเลย คงเป็นไปได้ยาก เราเลยคิดว่าการ จะ หาลูกค้า เข้ามาซ่อมที่บ้านเราได้นั้นจะต้องหาจุดเด่นให้กับร้าน ซึ่งปัจจุบัน Social และออนไลน์ค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ เราค่อนข้างถนัดการตลาดออนไลน์ เราเริ่มค้นคว้า เริ่มหาวิธีการทำเพจทำ Google Business และเราก็คิดว่าจุดเด่นของร้านเราอย่างแรกคือเปิดให้บริการวันอาทิตย์ซึ่งน้อยมากที่จะมีอู่เปิดในวันอาทิตย์นั่นคือโอกาสที่เราจะได้ลูกค้ามากกว่าอื่น ในระหว่างที่เราลอง เปิดอยู่ที่บ้านในช่วงวันหยุดก็เริ่มมีเพื่อนๆ และญาติๆเอารถมาให้ซ่อม หลังจากที่ทำออนไลน์เริ่มมีลูกค้าขาจรที่ไม่ใช่คนในพื้นที่โทรเข้ามาหลังจากนั้นเริ่มมีงานหนักขึ้นจากงานเบาๆเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเริ่มมียกเกียร์ยกคลัชและหนักสุดคือยกเครื่องซึ่งแน่นอนค่ะการทำงาน 2 ที่มักมีผลกระทบเสมอเราและแฟน ไปทำงานพร้อมกันไปสายทุกวัน เนื่องจากว่าแฟนเรานอนดึกในช่วงเช้าไม่สามารถตื่นเช้าได้มันจะมีผลกระทบกับการทำงานกับเราเลยตัดสินใจคุยกันว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วล่ะและแฟนเราก็เลือกที่จะทำ อู่ซ่อมรถยนต์ ป้ายทางเข้าไปหน้าร้านทั้งหมดเราเป็นคนจัดการให้ในระยะระหว่างที่เรา เรา เป็นคนติดต่อร้านอะไหล่ ทั้งหมดในเชียงใหม่ เป็นคนกำเนิดเครื่องทุกครั้งเราเอาความรู้ที่ได้จากงานที่เราทำมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน แต่ในขณะที่เรา กำลังค่อยๆสร้างสิ่งสำคัญ คือการหาลูกค้า เขาเอารถมาซ่อมที่ เรา วก กลับมาที่แฟนเราบ้างพอเราคุยแฟนแล้วว่า แฟนเรา จะ ออกมาทำอู่เต็มตัว แม่ผัวก็ดูถูกว่าจะทำได้หรอจะหางานใหม่ทำ ง่ายกว่า แต่เรากับแฟนก็ยืนยันว่าจะเปิด และ เมื่อแฟนของเราออกมาเป็นช่างเปิดอู่ซ่อมรถแบบเต็มตัวเราก็คิดที่อยากจะเป็น พนักงานขายรถหรือเซลล์ เลยตัดสินใจลาออก แล้วไปสมัครเซลล์ขายรถ เพราะในไหน ไหน เราก็ ทำเกี่ยวกับรถแล้ว มีความ รู้ ในส่วนของงานหลังการขายแล้ว แต่ยังไม่เคยรู้เลยว่าการขายรถขายอย่างไรเรา เลยอยากลองเป็นฝ่ายขายบ้าง ในช่วงแรกๆที่มาทำ เป็นพนักงานขาย บอกเลย หา ความสุขไม่ได้เลยไปทำงาน 3 วันแรกท้อมาก ไม่มีความสุขเลย แต่เอาวะ ตัดสินใจแล้ว เดี๋ยวพี่จะเปลี่ยนแล้วก็ต้อง ทำ ดูไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง มีความโชคร้ายคนอื่นว่าเรายังมีโชคดีอยู่ตอนที่เราทำงานที่บริษัทเดิม เราเองเป็นคน support แฟนติดต่ออะไรเขียนบิล ทำแทบทุกอย่างเรียกง่ายๆว่าทำทุกอย่าง แต่มีอาชีพซ่อมและเสนออะไรมา หลังจากนั้นเราเป็นคนทำเองหมด แต่พอเริ่มมาเป็นฝ่ายขาย งาน หลังเลิกงานมันไม่จบ ลูกค้าสนใจรถจะถามทั้งเช้าทั้งเย็นก่อนนอน งานเริ่ม ไม่จบแค่เวลา 17:00 น มันเริ่มมา เกี่ยวพัน หลังเลิกงาน วันหยุด และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนพักหลังๆมา เราให้แฟนเราทำเองทุกอย่าง เขา เลยบอกว่าเราไม่ช่วยเขา บอก ว่าเราทำงานขาย แล้ว ไม่ช่วยเขาเลย เรามักจะทะเลาะกันเสมอ เมื่อเวลามีรถเข้าซ่อม ในวันหยุด วันอาทิตย์ ลูกค้าก็ต้องหามาซื้อรถ ลูกค้าเอารถเข้ามาซ่อมที่อู่ ก็เริ่มเยอะ ฉัน ถูกมองว่า ละเลยหน้าที่ ไม่ ช่วย แฟน แม่สามี ก็พูดว่า ฉันไม่ช่วยงานแฟน ทั้งๆที่ ไม่มี ใคร รู้เลยว่า การเป็นเซลล์ขายรถนั้นมันเหนื่อย อย่างไร มาขายรถในช่วงโควิดไม่ง่ายนะคะบอกเลย ไม่มีฐานลูกค้าไม่เคยเป็นเซลล์ขายรถมาก่อน มีดีอย่างเดียวคือทำออนไลน์เป็น หาลูกค้าออนไลน์เป็นเท่านั้น อย่างอื่น ไม่ต้องพูดถึง การเป็นเซลล์ ใช้สมองและคำพูดเป็นส่วนใหญ่ แทบจะไม่ได้ลงแรง แต่ใช้งานสมองหนักมาก ในมุมของแฟนเรา เขาคงคิดว่าเราสบาย แค่ขายรถ อยากจะบอกให้รู้มากเลย ว่า การเป็นเซลล์ มันเหนื่อยมากกว่าจะได้รถ 1 คัน กว่าจะขายได้ 1 คัน ต้องผ่านอะไรบ้าง ลูกค้าบางคนพูดไม่รู้เรื่องต้องอธิบาย หลายวันกว่าจะเข้าใจ ทำงานมาทั้งวันบางทีเราก็เหนื่อยแล้ว แต่ กลับบ้านมา คนที่บ้านก็ไม่เข้าใจอีก เรา ยอมรับว่า เราบกพร่องในส่วนของหน้าที่แม่บ้าน เราแค่อยากจะถามว่า สิ่งที่เราทำ เราไม่ได้ support แฟนเหมือนเดิม มันผิดมากหรอ เราพยายามอธิบายให้แฟนเราฟัง แฟนเรา ก็พยายามจะไม่เข้าใจ ตอนพูดเหมือนจะเข้าใจ แต่พอตอนมีรถเข้าซ่อมทีไร ทะเลาะกันทุกที การอยู่บ้านหลังเดียว จะพ่อหรือแม่แฟน เวลาเราทะเลาะกัน 2 คน มักจะมีบุคคลที่สามในคือแม่สามี เข้า เข้ามา เกี่ยวข้องเสมอ เขาจะบอกว่าลูกเขาดีทุกอย่าง ไม่ว่าลูกเขาจะทำอะไรผิด ลูกเขาถูกเสมอ ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน เขากลัวคนแถวๆบ้าน จะเอาไปนินทาแฟนเราเป็นคนพูดเสียงดังเป็นคนพูดจาห้ามพูดเสียงดัง ชอบพูดหาเรื่อง คุยกับเราทีไรขึ้นเสียงตะคอกใส่ทุกครั้ง เวลาเราตะคอกกลับหรือขึ้นเสียงใส่ พ่อกับแม่เขาก็จะพูดเสมอว่าเรา ผิด ไม่รู้จักใจเย็น ทั้งๆที่ลูกเขา เป็นคนเริ่มด้วยซ้ำ เรา แค่ขอความเข้าใจ ให้กับเราบ้าง พูดกระแทก-ดันแม่สามีเราเก่งมาก จะทำอะไรแต่ละอย่าง พูดกับลูก แต่ไม่เคยพูดกับเรา ไม่เคยอธิบายกับเราก่อน แล้วก็ไปกดดัน ที่แฟนเรา ทุกครั้งที่มีรถเข้าซ่อม จะมีแม่สามี คอยถามเสมอ ว่ารถคันนี้ซ่อมอะไรกี่บาท เขามาถาม ลูกเขาเสมอ บ่ได้เท่าไหร่ ข้าวของเครื่องใช้ เวลาใช้ของเราใช้ได้ แต่กับของตัวเอง งก มาก กับข้าว ขนม หรืออะไรก็ตามที่เขาซื้อมาเขามักจะเอาไปเก็บบนห้องนอน แต่ถ้าเป็นของเราที่เราซื้อเข้าบ้านมา มักจะหาร 2 เสมอ คือเราอยากจะรู้ว่าใครเป็นเหมือนเราบ้าง ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ไม่ถูกใจ ขัดหูขัดตาแม่สามีทุกอย่าง และที่สำคัญ สามี ของเรา เขามัก จะ ว่าให้ ว่าเรา ไม่ทำอะไร เอาเป็นว่าสั้นๆเลยละกัน ว่า เราจะแก้ไข ปัญหานี้ได้อย่างไร ปัญหาคือ เวลาเราสองคนทะเลาะกัน มักจะมีอีก 1 คนคือแม่สามี ที่มาคอยให้ท้ายลูก
ใครแต่งงานแล้วอยู่บ้านแฟนบ้างค่ะ อยู่กับพ่อแม่แฟนมีปัญหากับแม่แฟนบ้างค่ะ เราทะเลาะกับแฟนบ่อยมากค่ะ เรื่องแม่ผัว