สรุป
1 วัดพระธรรมกายถูกใส่ร้ายจากเจ้าที่รัฐ โดยก่อนอื่นต้อง เท้าความกันก่อนว่าหลักพื้นฐานของกฏหมายก็คือจะต้องบังคับใช้กฏหมายกับทุกคนเท่ากัน ไม่มีการพลิกกฏหมายสำหรับคนหนึ่ง คนใดเป็นพิเศษ จากฉากที่คุณไพบูลย์กล่าวว่า กฏหมายธรรมดาใช้กับพระธรรมชัยโยไม่ได้ พระธรรมชัยโยเป็นบุคคลพิเศษย่อมต้องใช้กฏหมายพิเศษ สิ่งนี้แสดงให้เห็นชัดว่า พระธรรมชัยโยไม่ได้ทำผิดกฏหมาย และโดนตั้งข้อหาโดยไม่เป็นธรรม
2 วัดธรรมกายบิดเบือนพระพุทธศาสนาจริงๆ กล่าวคือคอนเซปของศาสนาพุทธคือการสอนให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ทุกคนมีสิทธินิพานได้ในชาตินี้ ไม่ว่าเพศใด วรรณผิวสีอะไรก็สามารถนิพานได้ในชาตินี้ทั้งสิ้น
พระพุทธเจ้าสอนให้เราไม่ยึดติดในสิ่งใด ปล่อยว่าทุกสิ่ง ปล่อยวางรัก โลภ โกรธ หลง เพราะทุกสิ่งไม่มีตัวตน แต่ความสงบมีตัวตน นิพานจึงมีตัวตน
กลับกันการสอนของพระธรรมกายไม่ต่างจากพราหมณ์ กล่าวคือ วัดธรรมกายสอนให้คนไม่เชื่อในความเท่าเทียม สอนให้ผู้คนเชื่อในภพชาติ พรมลิขิต โดยเปลี่ยนเล่นคำพูดภพชาติ พรมลิขิต เป็นบาปกรรมกำหนด บุญกรรมไม่เท่ากันชาติที่เเล้วเขากำหนดมา ธรรมกายตีความบุญบาปผิดไป พระธรรมชัยโย ยกตัวเองเหนือกว่าผู้อื่น สอนให้เน้นพิธีกรรม สอนให้เน้นตัวบุคคล มากกว่าสอนให้เน้นพระธรรม เน้นให้เชื่อมากกว่าให้คิด ซึ่งตรงนี้ไม่ต่างจากพราหมณ์เลย
ปล.พระพุทธเจ้าเคยกล่าวว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
ปล.เท่าเทียมหมายถึง ทุกคนอยู่ในกฏแห่งกรรม ทุกคนอยู่ในกฏเดียวกัน ทุกคนมีโอกาสเกิดมาสมบูรณ์ มีโอกาสเกิดมาพิการ ได้เหมือนกัน ตามกฏธรรมชาติ ทุกคนสามารถเปลี่ยนฐานะวรรณะของตัวเองได้ จากกษัตริย์เป็นขอทาน หรือจากขอทานเป็นกษัตริย์ก็สามารถเป็นได้ดังนั้นทุกคนเท่าเทียมกัน แต่ทุกคนไม่เท่ากัน ทุกคนเท่ากันหมายถึงทุกคน มีหน้าตาเหมือนกัน พูดแบบเดียวกัน คิดแบบเดียวกัน เพศเดียวกันทั้งหมดโลก
รีวิวเอหิปัสสิโก
1 วัดพระธรรมกายถูกใส่ร้ายจากเจ้าที่รัฐ โดยก่อนอื่นต้อง เท้าความกันก่อนว่าหลักพื้นฐานของกฏหมายก็คือจะต้องบังคับใช้กฏหมายกับทุกคนเท่ากัน ไม่มีการพลิกกฏหมายสำหรับคนหนึ่ง คนใดเป็นพิเศษ จากฉากที่คุณไพบูลย์กล่าวว่า กฏหมายธรรมดาใช้กับพระธรรมชัยโยไม่ได้ พระธรรมชัยโยเป็นบุคคลพิเศษย่อมต้องใช้กฏหมายพิเศษ สิ่งนี้แสดงให้เห็นชัดว่า พระธรรมชัยโยไม่ได้ทำผิดกฏหมาย และโดนตั้งข้อหาโดยไม่เป็นธรรม
2 วัดธรรมกายบิดเบือนพระพุทธศาสนาจริงๆ กล่าวคือคอนเซปของศาสนาพุทธคือการสอนให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ทุกคนมีสิทธินิพานได้ในชาตินี้ ไม่ว่าเพศใด วรรณผิวสีอะไรก็สามารถนิพานได้ในชาตินี้ทั้งสิ้น
พระพุทธเจ้าสอนให้เราไม่ยึดติดในสิ่งใด ปล่อยว่าทุกสิ่ง ปล่อยวางรัก โลภ โกรธ หลง เพราะทุกสิ่งไม่มีตัวตน แต่ความสงบมีตัวตน นิพานจึงมีตัวตน
กลับกันการสอนของพระธรรมกายไม่ต่างจากพราหมณ์ กล่าวคือ วัดธรรมกายสอนให้คนไม่เชื่อในความเท่าเทียม สอนให้ผู้คนเชื่อในภพชาติ พรมลิขิต โดยเปลี่ยนเล่นคำพูดภพชาติ พรมลิขิต เป็นบาปกรรมกำหนด บุญกรรมไม่เท่ากันชาติที่เเล้วเขากำหนดมา ธรรมกายตีความบุญบาปผิดไป พระธรรมชัยโย ยกตัวเองเหนือกว่าผู้อื่น สอนให้เน้นพิธีกรรม สอนให้เน้นตัวบุคคล มากกว่าสอนให้เน้นพระธรรม เน้นให้เชื่อมากกว่าให้คิด ซึ่งตรงนี้ไม่ต่างจากพราหมณ์เลย
ปล.พระพุทธเจ้าเคยกล่าวว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
ปล.เท่าเทียมหมายถึง ทุกคนอยู่ในกฏแห่งกรรม ทุกคนอยู่ในกฏเดียวกัน ทุกคนมีโอกาสเกิดมาสมบูรณ์ มีโอกาสเกิดมาพิการ ได้เหมือนกัน ตามกฏธรรมชาติ ทุกคนสามารถเปลี่ยนฐานะวรรณะของตัวเองได้ จากกษัตริย์เป็นขอทาน หรือจากขอทานเป็นกษัตริย์ก็สามารถเป็นได้ดังนั้นทุกคนเท่าเทียมกัน แต่ทุกคนไม่เท่ากัน ทุกคนเท่ากันหมายถึงทุกคน มีหน้าตาเหมือนกัน พูดแบบเดียวกัน คิดแบบเดียวกัน เพศเดียวกันทั้งหมดโลก