JJNY : 2พี่น้องคาดติดโควิด ดับ1คาป้ายรถเมล์│สาวถูกเรียกเก็บค่ารักษาพ่อ│แห่แชร์ มีคนได้ฉีดเข็ม 4│อปท.จี้ชดเชยภาษีที่ดิน

หดหู่ 2 พี่น้องคาดติดโควิด ดับ 1 คาป้ายรถเมล์ อีก 1 ไข้สูงหายใจรวยริน
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2171270
 
 
พบศพชายชรา วัยประมาณ 70 ปี เข้าข่ายติดโควิด นอนเสียชีวิต คาป้ายรถเมล์กลางกรุง ริมถนนพระราม 3 ย่านบางคอแหลม จนท.ใส่ชุด PPE รุดตรวจสอบ พบข้างศพมีหญิงสูงอายุ นอนป่วยหายใจรวยริน-ไข้สูง อีก 1 บอก "อยากไป รพ." จากการสอบถามทราบทั้งคู่ เป็นคนเร่ร่อนและเป็นพี่น้องกัน มีอาชีพเก็บของเก่าขาย   
 
เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 19 ส.ค.64 พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุพบศพชายเสียชีวิต ลักษณะเข้าข่ายติดโควิด โดยมีหญิงสาวนอนป่วยข้างศพ คาดติดโควิดเช่นกัน เหตุเกิดบริเวณป้ายรถประจำทาง ริมถนนพระราม 3 ซอย 1 ใกล้แยกถนนตก แขวงและเขตบางคอแหลม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรนิติเวช รพ.จุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษโควิด
 
ที่เกิดเหตุพบศพชายอายุประมาณ 70 ปี นอนหงายเสียชีวิต อยู่บนเก้าอี้ยาวรอรถเมล์ คาดติดโควิดและเสียชีวิตมาแล้ว 1-2 ชั่วโมง โดยมีถุงหลายใบใส่ของเก่ากองอยู่ข้างๆ ใกล้กันพบหญิงอายุประมาณ 60 ปี นอนหายใจรวยริน มีอาการไข้ขึ้นสูง อยู่บนเก้าอี้ยาวเช่นกัน พูดกับเจ้าหน้าที่ว่า "อยากไปโรงพยาบาล"
 
จากการสอบถามทราบว่า ผู้ตายเป็นพี่ชายของผู้หญิงที่นอนป่วยอยู่ข้างๆ โดยมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน เคยอยู่ตึกแถว 4 ชั้น 2 คูหา ตั้งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เป็นทรัพย์สินที่พ่อแม่สร้างไว้ให้ แต่พี่น้องคู่นี้ไม่ถูกกับน้องอีก 2 คน จึงออกมาเร่ร่อนข้างนอก อาศัยนอนตามป้ายรถเมล์ มีอาชีพเก็บของเก่าขาย 
 
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้นำผู้เสียชีวิตคาดติดโควิดไปฌาปนกิจ ที่วัดใหม่ปากคลองมอญ ถนนโครงการบ้านคลองมอญ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ แล้ว ส่วนน้องสาวที่ป่วย คาดติดโควิดเช่นกันนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ต่อไป
 

 
สุดงง! สาวถูกเรียกเก็บค่ารักษาพ่อติดโควิด 3.4 หมื่น สงสัยรัฐบาลบอกรักษาฟรี
https://www.one31.net/news/detail/48635

ไหนบอกว่ารักษาฟรี สาวติดโควิดถูกเรียกเก็บค่ารักษาพ่อติดโควิด 3.4 หมื่น เพราะมีบัตรประชาชนรุ่นเก่า

วันที่ 19 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้การติดต่อวีดีโอคอลมาจาก น.ส.สุเนตร แซ่โง้ว อายุ 41 ปี ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สนามแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลชื่อดังของจังหวัดนนทบุรี เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากนายเจ็กโฮ้ว แซ่โง้ว อายุ 76 ปี ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงและติดเชื้อโควิด จำนวนเงิน 3.4 หมื่นบาท หลังนายเจ็กโฮ้วถูกนำตัวส่งรักษาตัวจ ด้วยอาการหอบหืด หายใจติดขัดลำบาก ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.64 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันนายเจ็กโฮ้วยังคงพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลดังกล่าว 

น.ส.สุเนตร แซ่โง้ว บุตรสาวเปิดเผยว่า ครอบครัวตนซึ่งอาศัยอยู่ร่วมกัน 11 ชีวิต มีผู้ใหญ่ 8 คน เด็ก 3 คน เกิดติดเชื้อไวรัสโควิดทั้งครอบครัว โดยในจำนวนนั้นมี ด.ช.ธีระวัฒน์ อายุ 3 ปีหลานของตนเอง และนายเจ็กโง้ว อายุ 76 ปีผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีอาการหายใจติดขัด จนต่อมา เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ทาง สสจ.นนทบุรีได้เข้าให้ความช่วยเหลือนำส่งในครอบครัวทั้งหมดส่งไปรักษาตัวตามที่ต่าง ๆ ตนกับครอบครัวส่วนใหญ่ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ส่วนหลาน ๆ ถูกส่งไปรักษาตัวที่ศูนย์พักคอยวัดตำหนัก และนายนายเจ็กโฮ้ว บิดาของตนซึ่งมีอาการหนักกว่าคนอื่นๆ ในครอบครัวถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลชื่อดังประจำจังหวัด เนื่องจากสภาพปอดถูกทำลายไปมาก จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียูตลอดเวลา
 
น.ส.สุเนตร กล่าวว่า ระหว่างตนเองกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม เมื่อวานนี้มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่พ่อของตนรักษาตัวอยู่ โทรศัพท์มาแจ้งตนว่า เนื่องจากพ่อของตนเข้ารักษาตัวโดยใช้บัตรประชาชนรุ่นเก่าซึ่งไม่มีเลข 13 หลัก ไม่สามารถบันทึกข้อมูลบุคคลได้ ทำให้มีค่ารักษาพยาบาลจำนวน 3.9 หมื่นบาท สร้างความงุนงงให้ตนเป็นอย่างมาก เนื่องจากตนทราบข่าวมาว่าทางรัฐบาลประกาศให้ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดทุกคนได้รับการรักษาฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ทำไมเพียงเพราะพ่อของตนมีบัตรประชาชนแบบรุ่นเก่าเพียงใบเดียวกลับถูกเรียกเก็บเงินค่ารักษาเป็นจำนวนมากเช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่พ่อของตนก็เป็นคนไทยมีบัตรประจำตัวประชาชนเช่นกัน เพียงแต่เป็นรุ่นเก่า
 
ด้วยความสงสัยตนจึงให้ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนดังกล่าว ส่งบิลค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวพ่อของตนมาให้ทางไลน์ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่กลับส่งเป็นยอดเงินเรียกเก็บ 3.4 หมื่นบาทมาแทนพร้อมกับหมายเลขบัญชีธนาคาร ในนามเงินบำรุงโรงพยาบาลดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลดังกล่าวยังแจ้งกลับมาว่า หากตนต้องการบิลค่ารักษาพยาบาลของพ่อตนให้จ่ายเงินรักษาพยาบาลจำนวนดังกล่าวมาก่อน และหลังจากจ่ายเงินจำนวนนี้มาแล้วจะยังคงมีค่ารักษาต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนกว่าพ่อของตนจะหายหรือไม่ก็เสียชีวิตลง ทำให้ตนเองกลุ้มใจและเครียดมาก ๆ

น.ส.สุเนตร กล่าวต่ออีกว่า ตนได้รับการติดต่อจาก รพ.ทางโทรศัพท์เมื่อวานให้ตนชำระเงินจำนวน 39,000 บาท เพราะพ่อไม่มีบัตรประชาชน ตนจึงได้ให้ทาง รพ.พิมพ์แจกยอดมาเพราะต้องปรึกษาญาติๆ ทาง รพ.แจงมาว่า ประมาณ 34,000 บาท สาเหตุที่ต้องจ่ายเพราะบัตรประชาชนรุ่นเก่า ตนไม่มีเงินจะจ่ายค่ารักษาทาง รพ.ก็ให้ไปคุยกับสงเคราะห์ว่าช่วยได้แค่ไหน แต่ช่วยได้ไม่หมด ตนแจ้งเขาไปว่าตนยังไม่หายจากโควิด ทาง รพ.ให้รักษาตัวไปก่อนแล้วค่อยมาคุยกับสงเคราะห์เอา ถ้าต้องจ่ายครอบครัวตนเดือดร้อนเพราะทุกคนติดโควิดหมดไม่ได้รับเงินเดือน ตนอยากให้หน่วยงานช่วยเหลือ จ่ายนิดหน่อยได้ถ้าต้องจ่ายเยอะแบบนี้ตนไม่มี เพราะตัวเลขค่าใช้จ่ายยังไม่หยุดเดิน จนกว่าจะรักษาหายหรือเสียชีวิต ตนต้องรอเอ็กซเรย์ปอดอีกครั้งถึงจะออกจาก รพ.สนาม อยากให้หน่วยงานมาช่วยเหลือเพราะครอบครัวตนมีเด็กเล็กเยอะ ไม่มีเงินมากขนาดนั้น และค่าใช้จ่ายยังมีต่อเนื่อง น.ส.สุเนตร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนเองกับครอบครัวไม่มีรายได้ใดๆ เลย ธุรกิจทำความสะอาดรถก็กระทบกระเทือนไปด้วยนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ไวรัสโควิดแพร่ระบาดเป็นต้นมา ซึ่งถ้าตนจะต้องไปหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พ่อตามที่โรงพยาบาลเรียกเก็บมา ตนคงไม่มีจ่ายให้แน่ ๆ แถมยังมีค่ารักษาต่อเนื่องที่จะตามมาอีก ซึ่งตนก็ยังป่วยและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ด้วยจะไปหาเงินจำนวนดังกล่าวมาจากไหน ถ้าค่ารักษาไม่สูงเกินไปนัก ตนก็จะพอหาหยิบยืนมาจ่ายให้ได้ แต่ที่ตนสงสัยมากที่สุดก็คือ ในเมื่อรัฐบาลประกาศให้ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แล้วทำไมพ่อของตนถึงถูกเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลผ่านบัญชีเงินบำรุงของโรงพยาบาลอีกต่อหนึ่ง
 

 
ได้ไง?? โซเชียลแห่แชร์ มีคนได้ฉีดเข็ม 4 แล้ว ห่างเข็ม 3 เดือนเดียว แถมเป็น 'ไฟเซอร์'
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_6573615
 
ได้ไง?? โซเชียลแห่แชร์ มีคนได้ฉีดเข็ม 4 แล้ว ห่างเข็ม 3 เดือนเดียว แถมเป็น ‘ไฟเซอร์’
   
วันที่ 19 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์กำลังแชร์โพสต์ของเพจ Dr. Dark ที่ได้โพสต์ บันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบุคคลปริศนา ที่มีการระบุอ้างว่า ได้ฉีดถึงเข็มที่ 4 แล้ว
 
โดยในภาพที่โพสต์ลงไปนั้น มีรายละเอียดเป็นการฉีดวัคซีน โดย
 
เข็มที่ 1 และ 2 เป็น ซิโนแวค 
เข็มที่ 3 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า 
และเข็มที่ 4 เป็น ไฟเซอร์ 
 
ซึ่งเข็มที่ 1 และ 2 ห่างกันประมาณ 1 เดือน ส่วนเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 3 เดือน แต่เข็มที่ 4 นั้นห่างจากเข็มที่ 3 แค่ 1 เดือนเท่านั้น ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

https://www.facebook.com/drdarkth/posts/2556560487820747 Dr. Dark
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่