JJNY : 4in1 ชี้โควิด จ่อทำเด็ก6.5หมื่นหลุดระบบ│ดับคาบ้าน!ช่างนาฬิกากรุงเก่า│ชาวสวนเผาลำไยทิ้ง│กรุงไทยหั่นศก.โตเหลือ0.5%

วงเสวนา ชี้โควิดหนัก ลามปัญหาสังคม-แรงงาน จ่อทำเด็ก 6.5 หมื่น หลุดระบบการศึกษา
https://www.matichon.co.th/politics/news_2894567
 
 
วันนี้ (19 ส.ค.) เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ Migrant Working Group (MWG) ร่วมกับ องค์การช่วยเหลือเด็ก ประจำประเทศไทย (Save the Children  Thailand) จัดเวทีเสวนาออนไลน์ เรื่อง สถานการณ์การคุ้มครองเด็กข้ามชาติในวิกฤติโควิด-19: สถานการณ์ ผลกระทบ และทางออก โดยมีผู้แทนจากหน่วยงาน องค์กรและมูลนิธิด้านสิทธิมนุษยชน อาทิ นายอดิศร เกิดมงคล เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ นายศิขริน สิงห์สาคร ที่ปรึกษาด้านการคุ้มครองเด็กออนไลน์ องค์การยูนิเซฟประเทศไทย (UNICEF Thailand) และ น.ส.วรางคณา มุทุมล ผู้เชี่ยวชาญด้านงานคุ้มครองเด็กองค์การช่วยเหลือเด็ก ประจำประเทศไทย (Save the Children Thailand) เข้าร่วมอภิปราย

• ฉายสถิติ “แรงงาน-เด็กข้ามชาติ” ติดโควิด เข้าไม่ถึงบริการสธ. ลามปัญหาสังคม
 
นายอดิศร เริ่มต้นฉายสถิติกลุ่มประชากรข้ามชาติที่ป่วยโควิด-19 โดยอ้างอิงข้อมูลจากกรมควบคุมโรคและศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Government Data) ว่า การระบาดโควิด-19 ระลอกที่สาม ระหว่างวันที่ 1 เมษายน–11 สิงหาคม 2564 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติมีข้อห่วงกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากมีแรงงานข้ามชาติติดเชื้อทั้งสิ้น 81,507 คน จากจำนวนติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 2563 ทั้งหมด 97,060 คน แบ่งเป็น
 
พม่า 61,507 คน กัมพูชา 15,409 คน และ ลาว 4,266 คน เมื่อจำแนกสถิติในเด็กข้ามชาติที่ติดเชื้อจะพบว่า พบการติดเชื้อทั้งสิ้น 4,035 คน จากจำนวนเด็กเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 2563 ทั้งหมด 2,202 คน แบ่งเป็นพม่า 2,640 คน กัมพูชา 1,183 คน และ ลาว 212 คน ซึ่งทั้งหมดล้วนมีใจกลางของปัญหามาจากการเข้าไม่บริการทางสุขภาพของประชากรข้ามชาติ
 
“ใจกลางของปัญหาผู้ป่วยโควิดในกลุ่มประชากรข้ามชาติ คือ การเข้าไม่ถึงบริการทางสุขภาพ เนื่องจากไม่มีประกัน ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เมื่อเข้าไม่ถึงการตรวจย่อมกระทบกับขั้นตอนการตรวจรักษา และยังคงมีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูงต่อไป ทั้งหมดยังส่งผลกระทบไปยังปัญหาทางสังคม เพราะเมื่อครอบครัวขาดรายได้จากการทำงาน เด็กข้ามชาติก็จะต้องสูญเสียโอกาสในการศึกษา เกิดการผลักดันเด็กกลุ่มนี้เป็นแรงงานเด็กที่เป็นปัญหาด้านสิทธิตามมา เกิดการลักลอบการเข้าพรหมแดนมากขึ้น จากมาตรการการจำกัดการเคลื่อนย้าย ประชากรและเด็กข้ามชาติต้องแบกรับความเสี่ยงจากการลักลอบเดินทางเพิ่มมากขึ้น จึงเสนอให้ภาครัฐจัดหามาตรการการตรวจโควิด-19 แก่เด็กกลุ่มนี้เบื้องต้นเพื่อลดสภาพปัญหาทางสุขภาพและสังคมที่จะตามมา”  อดิศร กล่าว
 
• “ที่ปรึกษายูนิเซฟ” ชี้ สื่อลามกเด็กสะพัดออนไลน์ – ฉวยโอกาสช่วงล็อกดาวน์
 
ส่วน นายศิขริน กล่าวว่า การระบาดโควิด-19 ระลอกที่สาม ไม่ได้พบเพียงปัญหาที่เกิดขึ้นในโลกออฟไลน์ แต่ยังพบการแสวงหาประโยชน์จากเด็กทางออนไลน์ ในรูปแบบการกลั่นแกล้ง การล่วงละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะในเด็กข้ามชาติ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปราะบางในปริมาณที่มีมากขึ้น ซึ่งในภาพรวมพบว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา มีรายงานสื่อลามกอนาจารเด็กกว่า 90 ล้านรายงาน สำหรับประเทศไทย พบว่า ในปี 2541-2560 มีรายงานการเผยแพร่สื่อลามกเด็กจำนวน 1.7 ล้านรายงาน หรือเฉลี่ย 89,500 ต่อปี อยู่ในอันดับ 3 ของโลก และมีรายงานเพิ่มสูงขึ้นในปี 2562 จำนวน 355,396 รายงาน และปี 2563 จำนวน 397,743 รายงาน หรือเฉลี่ยวันละ 1,089 รายงาน โดยทุกๆ 1.25 นาที จะมีรายงานสื่อลามกเด็ก 1 รายงาน ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 93 และผู้เสียหายร้อยละ 55 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ในภาพรวมของยูนิเซฟยังพบว่า ในช่วงปี 2562-2563 มีจำนวนรายงานสื่อลามกเด็กจำนวนมาก สะท้อนว่า ช่องมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลกมีผลต่อการแพร่กระจายของสื่อลามกอนาจารเด็ก
 
“การจัดการปัญหาจึงต้องใช้มาตรการเข้าไปแทรกแซงเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็ก แต่ยังมีข้อท้าทายว่า จะต้องมีการปรับระบบหรือยุทธวิธีอย่างไรให้การคุ้มครองเด็กในโลกออนไลน์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาครัฐและภาคเอกชนผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ตที่ถือข้อมูลขั้นพื้นฐานก็จำเป็นจะต้องให้ความร่วมมือ เช่นเดียวกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในโลกออนไลน์เพื่อเป็นมาตรการยับยั้งต่อปัญหาที่เกิดขึ้น” ปรึกษาด้านการคุ้มครองเด็กออนไลน์ องค์การยูนิเซฟประเทศไทย (UNICEF Thailand)  ระบุ
 
• ชง 3 ข้อรัฐคุ้มครองกลุ่มเสี่ยง ชี้สิ้นปี มีเด็กหลุดระบบการศึกษา พุ่ง 65,000 ราย 
 
ขณะที่ น.ส.วรางคณา มองว่า ข้อมูลต่างๆทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า เด็กที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมากที่สุด คือ เด็กข้ามชาติ ไร้สถานะ และเด็กที่อยู่ในฐานะยากจนตามชุมชนแออัด ครอบครัวหยุดงานขาดรายได้ เข้าไม่ถึงการช่วยเหลือและการศึกษาที่เหมาะสม โดยสิ้นปีนี้จะมีเด็กหลุดจากระบบกว่า 65,000 คน โดยร้อยละ 48 อยู่ในชั้น ม.ปลาย ทั้งยังพบว่า มีการค้าบริการทางเพศเด็กในระบบออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบทางจิตใจ ความสูญเสีย ความรุนแรงที่ได้รับ จากการถูกละเมิดทุกรูปแบบ ส่งผลกระทบต่อชีวิตด้านต่างๆ
 
จึงมีข้อเสนอต่อภาครัฐ 3 ข้อ เพื่อนำไปสู่การคุ้มครองเด็กกลุ่มดังกล่าว คือ 
1.การส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีนอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพไม่ว่าเด็กไทยหรือเด็กต่างชาติ 
2. แก้ไขปัญหากการหลุดออกจากระบบการศึกษาให้เป็นระบบ รวดเร็ว ทันความต้องการ ส่งเสริมการเข้าถึงเงินเยียวยา แก่เด็กและครอบครัวที่มีความเประบางอย่างครอบคลม 
และ 3. ประสานการจัดการทรัพยากรตามความต้องการของท้องถิ่น โดยประเมินจากความต้องการและโอกาสสำหรับเด็กต่างชาติ ในการเข้าสู่บ้าน/ศูนย์ดูแลเด็กและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ด้านต่างๆ
 


ดับสลดคาบ้าน! ช่างซ่อมนาฬิกากรุงเก่าติด 'โควิด' ญาติเศร้า เผยบ่นหายใจไม่ออก
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6573296

ดับสลดคาบ้าน! ช่างซ่อมนาฬิกากรุงเก่าติด ‘โควิด’ ญาติเศร้า เผยบ่นหายใจไม่ออก บอกไป รพ.แล้วคนเยอะเลยไม่รอตรวจ สุนัขคู่ใจนั่งเฝ้า เห่าไม่ให้เข้าใกล้
   
วันที่ 19 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 66 ปี เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ภายในบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สอบถามซักประวัติของผู้เสียชีวิตจากญาติ ทราบว่าผู้เสียบชีวิตอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง จึงได้ตรวจหาเชื้อโควิด ต่อมาทราบผลการตรวจพบติดเชื้อ
 
เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ จึงต้องสวมใส่ชุด PPE เข้าไปภายในบ้าน นำร่างผู้เสียชีวิตใส่ถุงพลาสติกสำหรับบรรจุศพ จากนั้นนำร่างผู้เสียชีวิตบรรจุในโลงศพพร้อมกับซีนด้วยพลาสติกอีกชั้น เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ในการดำเนินการศพผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด
 
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการพบว่า สุนัขของผู้เสียชีวิตที่อาศัยอยู่ภายในบ้านส่งเสียงเห่าอยู่ตลอดเวลา ไม่ยอมให้เข้าไปใกล้กับบ้าน ต้องให้ญาติช่วยนำสุนัขออกจากบ้าน จึงเข้าไปดำเนินการเคลื่อนย้ายศพออกได้ จากนั้นเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีฌาปนกิจ ที่วัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
 
จากการสอบถามญาติของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ในบ้านกับสุนัขเพียงคนเดียว มีอาชีพเป็นช่างซ่อมนาฬิกาอยู่ภายในตลาดเจ้าพรหม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นตลาดที่พบว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ผู้เสียชีวิตบ่นว่าหายไม่ออก ญาติสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อโควิด ได้บอกให้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล ผู้เสียชีวิตบอกว่าไปมาแล้วคนเยอะไม่รอ ก่อนเดินทางกลับมาที่บ้าน ซึ่งญาติไม่รู้ว่าได้ไปจริงหรือไม่ จนช่วงเช้าวันนี้ได้โทรศัพท์มาหา แต่ไม่ยอมรับสายจึงเดินทางมาดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว จากนั้นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ


 
ราคายังตก! ชาวสวนเชียงราย ประชดชีวิต เผาลำไยทิ้งทั้งต้น พ้อทำมาหลายปีราคาไม่ดีขึ้นเลย
https://ch3plus.com/news/program/254076

ชาวสวนลำไย ในตำบลท่ากว้าง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เร่งเก็บผลผลิตลำไยส่งขาย ภายหลังทางการจีนประกาศผ่อนปรน และยกเลิกคำสั่งระงับนำเข้าลำไยสดจากไทย เพราะเกิดปัญหาพบเพลี้ยแป้งปะปนไปกับผลผลิต ส่งผลกระทบกับเกษตรกรชาวสวน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตลำไย ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
 
โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 5-6 วันที่ผ่านมา ที่ล้งลำไยทุกแห่งปิดรับซื้อผลผลิต ตัวแทนชาวสวนลำไยในอำเภอสารภี บอกว่า การประกาศแบนลำไยของจีนช่วงต้นเดือนส่งผลกระทบหนัก เพราะล้งรายใหญ่พากันปิดรับซื้อ ทำให้มีลำไยตกค้างหน้าโรงคัดแยกหรือโรงร่อนลำไยจำนวนมาก
 
ส่วนที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวก็ใกล้ถึงเวลาเน่าเสีย แถมยังราคาตก ชาวสวนประสบภาวะขาดทุน แต่หลังจากจีนปลดล็อกตั้งแต่เมื่อวานนี้ (18 ส.ค. 64) ชาวสวนก็ใจชื้น เพราะหากไม่ขายให้จีนก็ไม่รู้จะไปขายให้ใคร
 
โดยในวันนี้ (19 ส.ค. 64) โกดังเริ่มเปิดรับซื้อ ทำให้ชาวสวนพากันรีบเก็บผลผลิตขาย เนื่องจากลำไยมีอายุ บางส่วนเริ่มผลแตกเสียหายบ้างแล้ว ส่วนราคาผลิตในปีนี้ตกต่ำกว่าทุกปี ลำไยเบอร์ AA จากกิโลกรัมละ 20 กว่าบาท เหลือ 11-12 บาท ส่วนเบอร์เล็กสุด เหลือกิโลกรัมละไม่ถึง 2 บาท
 
ทำให้ปีนี้ชาวสวนขาดทุนถ้วนหน้า ส่วนบางรายดีที่สุดได้แค่คุ้มทุน สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ขอเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือชาวสวนลำไยในช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยว เช่น การประกันราคา การส่งเสริมการบริโภคลำไยภายในประเทศ เพื่อลดพึ่งพาการส่งออก เชื่อว่ากำลังซื้อภายในประเทศยังมีอยู่ เพียงแต่รัฐต้องมีนโยบายกระตุ้นและสนับสนุน
 
นอกจากนี้ยังขอให้หน่วยงานด้านการเกษตร ส่งเจ้าหน้าที่ให้ความรู้กับเกษตรกรชาวสวน โดยเฉพาะเรื่องโรคระบาดที่เกี่ยวกับลำไย เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพสามารถส่งออกได้ตามเงื่อนไขและให้คนไทยได้บริโภคลำไยคุณภาพดี
 
ในขณะที่โลกโซเชียล ได้แชร์คลิปวิดีโอ ชาวสวนลำไย ใน อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เผาต้นลำไยทิ้ง ซึ่งเป็นต้นลำไยที่เก็บเกี่ยวแล้ว และอีกหลายต้นในสวน พร้อมพูดตัดพ้อคร่ำครวญ เกี่ยวกับราคาลำไยที่ตกต่ำ หลังทำลำไยมาหลายปี ราคาตกต่ำไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ ราคาตกต่ำที่สุด ขายได้เงินไม่กี่บาท ไม่พอกับค่าแรงที่จ้างคนงานมาเก็บเกี่ยว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่