น้องซื้อบ้าน แต่แม่จะให้เราช่วยผ่อน..!!

สวัสดี​ค่ะทุกคน คิดมากจนนอนไม่หลับ จนต้องมาขอถามปรึกษาทุกคนค่ะ
.
.
.
.

รบกวนทุกท่านแนะนำหรือให้คำปรึกษาด้วยนะคะ ขอบพระคุณ​ล่วงหน้าสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ หากพิมพ์​ตกหล่นประการใด ขอโทษด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ที่ช็อกกว่าเรื่องแม่จะให้ช่วยน้องผ่อนบ้านคือตรงนี้

>>>

ส่วนเงินเก็บหรือทองของดิฉันก็ให้แม่เป็นคนเก็บ เพราะท่านอยากจะเก็บให้เรากลัวเราไปซื้อของไร้สาระ ดิฉันก็ไม่ว่าอะไร

FacepalmFacepalmFacepalm

ไม่อยากจะเดากระทู้ในอนาคตข้างหน้าเลย...
เรื่องช่วยผ่อนบ้าน มันยังไม่เกิดขึ้น คนก็พยายามห้ามคุณกันทุกคน (แต่ก็ไม่รู้คุณจะฟังมั้ยนะ)
แต่อันนั้นเกิดขึ้นไปแล้ว และเป็นมาตลอด น่ากลัวดีค่ะ ขอให้คุณโชคดี ไม่โชคร้ายแบบที่เราคาดการณ์นะคะ...
น้องผ่อนไม่ไหว > แม่เอาเงินเอาทองของคุณไปช่วยน้องหมด > พอคุณไปถามหาเงินกับทองตัวเอง ...ว่างเปล่า
ความคิดเห็นที่ 14
เท่าที่อ่าน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่แม่ ปัญหาอยู่ที่คุณชัดๆ

อายุใกล้ 30 ปี คุณต้องตัดสินใจเอง

คำแนะนำเบื้องต้น

-หยุดให้แม่เก็บเงินให้ เริ่มตั้งแต่วันนี้
คุณควรจะสามารถเก็บเงินออมได้ด้วยตัวเอง สร้างวินัยการออมตั้งแต่วันนี้

-ปฏิเสธการช่วยผ่อนบ้านให้ชัดเจนไปเลย อย่าไป commit อะไรเด็ดขาด แม่คงโกรธ
แต่เราก็ต้องยอม ไม่งั้นเมื่อไรจะได้ลืมตาอ้าปาก อนาคตเราก็ต้องมีครอบครัวของตัวเอง

-หากแม่จะยึดเงินที่คุณฝากเก็บไว้ คุณก็คงต้องยอม ถือว่าเป็นค่าน้ำนมละกัน แม่จะเอาไปให้ใคร ก็เป็นเรื่องของแม่
(แต่คุณอย่าเริ่มพูดเรื่องนี้ก่อน ปล่อยให้แม่พูดไปเอง คุณแค่ยอมรับในใจไป)

-ทำหน้าที่ลูกให้ดี เราทำหน้าที่ในฐานะลูก แค่นั้น
ความคิดเห็นที่ 6
เงินเก็บหรือทองของดิฉันก็ให้แม่เป็นคนเก็บ…พลาด 1
ถ้ายอมตามใจแม่ช่วยน้องผ่อนบ้านอีก…พลาด 2

โตแล้ว ทำไมไม่เก็บเงินเองคะ ต่อไปจะสร้างครอบครัวเองได้ยังไงถ้ายังยอมให้แม่บงการชีวิต แล้วคุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าเงินทุกบาทที่ฝากแม่เก็บยังอยู่ ในเมื่อเห็นๆกันอยู่ว่าแม่รักน้องมากจนยัดเยียดภาระผ่อนบ้านให้คุณ ต่อไปถ้าน้องผ่อนไม่ไหว คิดว่าแม่จะแอบเอาเงินเก็บคุณไปช่วยมั้ยคะ
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่เห็นด้วยกับการจะไปช่วยน้องผ่อน เพราะในระยะยาว มันจะยุ่งยาก อยู่ก็ไม่ได้อยู่  แบ่งก็ไม่ได้ ที่ว่าจะให้น้องค่อย ๆ ทยอยคืน ชาติหน้าคงได้ละมัง เห็นมาหลายรายแล้ว แถมตัว จขกท เองก็กำลังจะแต่งงาน ควรเก็บเงินนี้ไปใช้สำหรับอนาคตตัวเอง  อย่าลืมว่าการเป็นหนี้ซื้อบ้านนั้น ไม่ใช่ปีสองปี แต่หลายสิบปีนะ

หัดแยกแยะให้ออก รักครอบครัวก็รัก แต่การเป็นหนี้เพื่อคนอื่นในยามที่ตัวเองก็ไม่พร้อม เป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดเอามาก ๆ  ตัวน้องเองถ้ายังไม่พร้อมก็ยังไม่ควรก่อหนี้ และการเอาคนอื่นมาช่วยแบกหนี้ของตัว เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวมาก
ความคิดเห็นที่ 29
เริ่มแรก​ อยากบอกว่า  ไม่ต้องน้อยใจแม่หรอก  แม่เขาคิดแบบคนเป็นแม่  เป็นครอบครัวเดียวกัน  คิดแบบคนแก่  พี่ช่วยน้อง  เขามองมุมมุมเดียวในแบบของเขา  มันอาจทำให้คุณน้อยใจ  ผมเข้าใจครับ แต่เราต้องมีสติ  ตั้งหลักในการคุยและอธิบายเหตุผล  ไม่เอาอารมณ์ประกอบ  ยิ่งผญ.คุยกันพอมีอารมณ์แล้ว  ยิ่งไปกันใหญ่

แม่ทำงานมีรายได้  ถือว่าครอบครัวคุณ ทำงาน​ 3  คน​ จาก4  คน​ โชคดีมาก  อยากให้คุณแจกแจงรายละเอียดแล้วคุยกับแม่ดังนี้
1. การช่วยน้องผ่อนบ้าน  ซึ่งน้องจะอยู่กับแฟน​อาจจะแต่งงานในอนาคต  บ้านเป็น​อสังหาริมทรัพย์​ผ่อนระยะยาว  แม่อยากจะช่วยผ่อน แล้วชื่อบ้านจะเป็นชื่อใคร
ถ้าชื่อแม่  แม่เป็นเจ้าของ​ แม่จะไปอยู่ไหม  ถ้าเป็นชื่อน้อง  น้องเป็นเจ้าของมีสิทธิ์ในบ้านคนเดียว  น้องจะอยู่กับแฟน​ แล้วทำไมไม่ผ่อนกับแฟนเป็นสิทธิ์ทรัพย์ร่วมกัน
2.  คุณ​เป็นลูกจ้างรัฐ  ทั้งเงินเดือนน้อยกว่า  และงานยังไม่ได้มั่นคงอะไร  มีแฟนและอยาก​จะแต่งงาน​ ในอีกไม่ช้าก็ต้องสร้างครอบครัว​ ซื้อบ้านอยู่เช่นกัน แต่คงจะซื้อกับแฟน  ไม่คิดรบกวนแม่และน้อง  ถ้าวันนี้หนูช่วยผ่อนบ้าน ซึ่งต้องผ่อนเป็น  10  ปี​ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อบ้านตัวเอง คุณอยากมีทั้งบ้าน ทั้งรถ แต่มันติดที่เงินเดือนน้อย​ ต้องเก็บออมก่อน
3. ให้แม่นึกถึงน้องที่เรียนอยู่  วันนี้ยังเรียนไม่จบ  ค่าใช้จ่ายน้องส่วนนี้  แม่รับผิดชอบเป็นหลัก  ต่อให้เรียกจบแล้วจะหางานได้หรือเปล่าในตอนนี้  แม่จะให้คนที่บ้านช่วยน้องซื้อบ้าน ที่ตัวเองและคนอื่นๆไม่ได้อยู่ และไม่มีสิทธิ์ในบ้าน  แม่ว่ายุติธรรมไหม  ทำไมแม่ไม่คุยกับแฟนน้องถ้าจะแต่งงานกัน  ก็น่าจะอยู่บ้านและช่วยผ่อนกันเอง  แม่จะคิดแค่ว่าช่วยน้อง แต่ไม่มองอนาคตของตัวคุณไม่ได้  น้องก็โตมีรับผิดชอบ​ตัวเองได้​  ต้องให้น้องยืนด้วยตัวเอง
4.  ขอปฏิเสธช่วยน้องผ่อนบ้าน​ให้ชัดเจน​ ด้วยเหตุผลดี ๆ​ และคิดว่าคุณคุยกับน้องได้ที่ไม่สามารถช่วยผ่อนบ้าน​  และสุดท้าย  ทรัพย์สิน​ที่คุณฝากแม่ไว้  ถ้าแค่ฝาก  ไปขอคืนครับ  เป็นทองก็บอกจะมาขาย ช่วงโควิดอยากเก็บเป็นเงินสด  เพราะดูแล้ว แม่คุณเป็นคนห่วงลูก  ถ้าเกิดลูกคนไหนลำบาก ก็คงจะยื่นมือช่วย  ตอนนั้นคงไม่มองว่าเงินใคร  ทองใครฝากไว้  คงเอาไปช่วยหมด   ดังนั้น​ ต่อจากนี้​ อย่าฝากทรัพย์ไว้กับแม่  ไปเก็บเอง  หรือฝากธนาคารเท่านั้น  ถ้าไม่กล้าเก็บเองนั้นแปลว่าคุณไม่สามารถรักษาทรัพย์สินนั้นได้  ก็อย่าซื้อสิ่งนั้นมาเก็บ  อะไรที่จะให้แม่เก็บ​ แปลว่าคุณต้องพร้อมให้เป็นของเขา  จำคำนี้ไว้ครับ

สุดท้าย​  ตั้งหลักสรุปเป็นข้อๆ  แล้วพูดกับแม่ดีๆ  กับเหตุผลทั้งหมด   แม่จะโกรธก็คงจะมีบ้าง  แต่คุณไม่ต้องโกรธแม่หรอกนะ  ถ้าเราพูดด้วยความเป็นผู้ใหญ่​ กับแม่ ต่อไปแม่เขาจะรู้ว่า  เราโตและมีเหตุผล ไม่ได้เพราะเห็นแก่ตัว​ แม่จะเชื่อเราเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่