สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ที่ช็อกกว่าเรื่องแม่จะให้ช่วยน้องผ่อนบ้านคือตรงนี้
>>>
ส่วนเงินเก็บหรือทองของดิฉันก็ให้แม่เป็นคนเก็บ เพราะท่านอยากจะเก็บให้เรากลัวเราไปซื้อของไร้สาระ ดิฉันก็ไม่ว่าอะไร
ไม่อยากจะเดากระทู้ในอนาคตข้างหน้าเลย...
เรื่องช่วยผ่อนบ้าน มันยังไม่เกิดขึ้น คนก็พยายามห้ามคุณกันทุกคน (แต่ก็ไม่รู้คุณจะฟังมั้ยนะ)
แต่อันนั้นเกิดขึ้นไปแล้ว และเป็นมาตลอด น่ากลัวดีค่ะ ขอให้คุณโชคดี ไม่โชคร้ายแบบที่เราคาดการณ์นะคะ...
น้องผ่อนไม่ไหว > แม่เอาเงินเอาทองของคุณไปช่วยน้องหมด > พอคุณไปถามหาเงินกับทองตัวเอง ...ว่างเปล่า
>>>
ส่วนเงินเก็บหรือทองของดิฉันก็ให้แม่เป็นคนเก็บ เพราะท่านอยากจะเก็บให้เรากลัวเราไปซื้อของไร้สาระ ดิฉันก็ไม่ว่าอะไร
ไม่อยากจะเดากระทู้ในอนาคตข้างหน้าเลย...
เรื่องช่วยผ่อนบ้าน มันยังไม่เกิดขึ้น คนก็พยายามห้ามคุณกันทุกคน (แต่ก็ไม่รู้คุณจะฟังมั้ยนะ)
แต่อันนั้นเกิดขึ้นไปแล้ว และเป็นมาตลอด น่ากลัวดีค่ะ ขอให้คุณโชคดี ไม่โชคร้ายแบบที่เราคาดการณ์นะคะ...
น้องผ่อนไม่ไหว > แม่เอาเงินเอาทองของคุณไปช่วยน้องหมด > พอคุณไปถามหาเงินกับทองตัวเอง ...ว่างเปล่า
ความคิดเห็นที่ 14
เท่าที่อ่าน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่แม่ ปัญหาอยู่ที่คุณชัดๆ
อายุใกล้ 30 ปี คุณต้องตัดสินใจเอง
คำแนะนำเบื้องต้น
-หยุดให้แม่เก็บเงินให้ เริ่มตั้งแต่วันนี้
คุณควรจะสามารถเก็บเงินออมได้ด้วยตัวเอง สร้างวินัยการออมตั้งแต่วันนี้
-ปฏิเสธการช่วยผ่อนบ้านให้ชัดเจนไปเลย อย่าไป commit อะไรเด็ดขาด แม่คงโกรธ
แต่เราก็ต้องยอม ไม่งั้นเมื่อไรจะได้ลืมตาอ้าปาก อนาคตเราก็ต้องมีครอบครัวของตัวเอง
-หากแม่จะยึดเงินที่คุณฝากเก็บไว้ คุณก็คงต้องยอม ถือว่าเป็นค่าน้ำนมละกัน แม่จะเอาไปให้ใคร ก็เป็นเรื่องของแม่
(แต่คุณอย่าเริ่มพูดเรื่องนี้ก่อน ปล่อยให้แม่พูดไปเอง คุณแค่ยอมรับในใจไป)
-ทำหน้าที่ลูกให้ดี เราทำหน้าที่ในฐานะลูก แค่นั้น
อายุใกล้ 30 ปี คุณต้องตัดสินใจเอง
คำแนะนำเบื้องต้น
-หยุดให้แม่เก็บเงินให้ เริ่มตั้งแต่วันนี้
คุณควรจะสามารถเก็บเงินออมได้ด้วยตัวเอง สร้างวินัยการออมตั้งแต่วันนี้
-ปฏิเสธการช่วยผ่อนบ้านให้ชัดเจนไปเลย อย่าไป commit อะไรเด็ดขาด แม่คงโกรธ
แต่เราก็ต้องยอม ไม่งั้นเมื่อไรจะได้ลืมตาอ้าปาก อนาคตเราก็ต้องมีครอบครัวของตัวเอง
-หากแม่จะยึดเงินที่คุณฝากเก็บไว้ คุณก็คงต้องยอม ถือว่าเป็นค่าน้ำนมละกัน แม่จะเอาไปให้ใคร ก็เป็นเรื่องของแม่
(แต่คุณอย่าเริ่มพูดเรื่องนี้ก่อน ปล่อยให้แม่พูดไปเอง คุณแค่ยอมรับในใจไป)
-ทำหน้าที่ลูกให้ดี เราทำหน้าที่ในฐานะลูก แค่นั้น
ความคิดเห็นที่ 6
เงินเก็บหรือทองของดิฉันก็ให้แม่เป็นคนเก็บ…พลาด 1
ถ้ายอมตามใจแม่ช่วยน้องผ่อนบ้านอีก…พลาด 2
โตแล้ว ทำไมไม่เก็บเงินเองคะ ต่อไปจะสร้างครอบครัวเองได้ยังไงถ้ายังยอมให้แม่บงการชีวิต แล้วคุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าเงินทุกบาทที่ฝากแม่เก็บยังอยู่ ในเมื่อเห็นๆกันอยู่ว่าแม่รักน้องมากจนยัดเยียดภาระผ่อนบ้านให้คุณ ต่อไปถ้าน้องผ่อนไม่ไหว คิดว่าแม่จะแอบเอาเงินเก็บคุณไปช่วยมั้ยคะ
ถ้ายอมตามใจแม่ช่วยน้องผ่อนบ้านอีก…พลาด 2
โตแล้ว ทำไมไม่เก็บเงินเองคะ ต่อไปจะสร้างครอบครัวเองได้ยังไงถ้ายังยอมให้แม่บงการชีวิต แล้วคุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าเงินทุกบาทที่ฝากแม่เก็บยังอยู่ ในเมื่อเห็นๆกันอยู่ว่าแม่รักน้องมากจนยัดเยียดภาระผ่อนบ้านให้คุณ ต่อไปถ้าน้องผ่อนไม่ไหว คิดว่าแม่จะแอบเอาเงินเก็บคุณไปช่วยมั้ยคะ
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่เห็นด้วยกับการจะไปช่วยน้องผ่อน เพราะในระยะยาว มันจะยุ่งยาก อยู่ก็ไม่ได้อยู่ แบ่งก็ไม่ได้ ที่ว่าจะให้น้องค่อย ๆ ทยอยคืน ชาติหน้าคงได้ละมัง เห็นมาหลายรายแล้ว แถมตัว จขกท เองก็กำลังจะแต่งงาน ควรเก็บเงินนี้ไปใช้สำหรับอนาคตตัวเอง อย่าลืมว่าการเป็นหนี้ซื้อบ้านนั้น ไม่ใช่ปีสองปี แต่หลายสิบปีนะ
หัดแยกแยะให้ออก รักครอบครัวก็รัก แต่การเป็นหนี้เพื่อคนอื่นในยามที่ตัวเองก็ไม่พร้อม เป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดเอามาก ๆ ตัวน้องเองถ้ายังไม่พร้อมก็ยังไม่ควรก่อหนี้ และการเอาคนอื่นมาช่วยแบกหนี้ของตัว เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวมาก
หัดแยกแยะให้ออก รักครอบครัวก็รัก แต่การเป็นหนี้เพื่อคนอื่นในยามที่ตัวเองก็ไม่พร้อม เป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดเอามาก ๆ ตัวน้องเองถ้ายังไม่พร้อมก็ยังไม่ควรก่อหนี้ และการเอาคนอื่นมาช่วยแบกหนี้ของตัว เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวมาก
ความคิดเห็นที่ 29
เริ่มแรก อยากบอกว่า ไม่ต้องน้อยใจแม่หรอก แม่เขาคิดแบบคนเป็นแม่ เป็นครอบครัวเดียวกัน คิดแบบคนแก่ พี่ช่วยน้อง เขามองมุมมุมเดียวในแบบของเขา มันอาจทำให้คุณน้อยใจ ผมเข้าใจครับ แต่เราต้องมีสติ ตั้งหลักในการคุยและอธิบายเหตุผล ไม่เอาอารมณ์ประกอบ ยิ่งผญ.คุยกันพอมีอารมณ์แล้ว ยิ่งไปกันใหญ่
แม่ทำงานมีรายได้ ถือว่าครอบครัวคุณ ทำงาน 3 คน จาก4 คน โชคดีมาก อยากให้คุณแจกแจงรายละเอียดแล้วคุยกับแม่ดังนี้
1. การช่วยน้องผ่อนบ้าน ซึ่งน้องจะอยู่กับแฟนอาจจะแต่งงานในอนาคต บ้านเป็นอสังหาริมทรัพย์ผ่อนระยะยาว แม่อยากจะช่วยผ่อน แล้วชื่อบ้านจะเป็นชื่อใคร
ถ้าชื่อแม่ แม่เป็นเจ้าของ แม่จะไปอยู่ไหม ถ้าเป็นชื่อน้อง น้องเป็นเจ้าของมีสิทธิ์ในบ้านคนเดียว น้องจะอยู่กับแฟน แล้วทำไมไม่ผ่อนกับแฟนเป็นสิทธิ์ทรัพย์ร่วมกัน
2. คุณเป็นลูกจ้างรัฐ ทั้งเงินเดือนน้อยกว่า และงานยังไม่ได้มั่นคงอะไร มีแฟนและอยากจะแต่งงาน ในอีกไม่ช้าก็ต้องสร้างครอบครัว ซื้อบ้านอยู่เช่นกัน แต่คงจะซื้อกับแฟน ไม่คิดรบกวนแม่และน้อง ถ้าวันนี้หนูช่วยผ่อนบ้าน ซึ่งต้องผ่อนเป็น 10 ปี แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อบ้านตัวเอง คุณอยากมีทั้งบ้าน ทั้งรถ แต่มันติดที่เงินเดือนน้อย ต้องเก็บออมก่อน
3. ให้แม่นึกถึงน้องที่เรียนอยู่ วันนี้ยังเรียนไม่จบ ค่าใช้จ่ายน้องส่วนนี้ แม่รับผิดชอบเป็นหลัก ต่อให้เรียกจบแล้วจะหางานได้หรือเปล่าในตอนนี้ แม่จะให้คนที่บ้านช่วยน้องซื้อบ้าน ที่ตัวเองและคนอื่นๆไม่ได้อยู่ และไม่มีสิทธิ์ในบ้าน แม่ว่ายุติธรรมไหม ทำไมแม่ไม่คุยกับแฟนน้องถ้าจะแต่งงานกัน ก็น่าจะอยู่บ้านและช่วยผ่อนกันเอง แม่จะคิดแค่ว่าช่วยน้อง แต่ไม่มองอนาคตของตัวคุณไม่ได้ น้องก็โตมีรับผิดชอบตัวเองได้ ต้องให้น้องยืนด้วยตัวเอง
4. ขอปฏิเสธช่วยน้องผ่อนบ้านให้ชัดเจน ด้วยเหตุผลดี ๆ และคิดว่าคุณคุยกับน้องได้ที่ไม่สามารถช่วยผ่อนบ้าน และสุดท้าย ทรัพย์สินที่คุณฝากแม่ไว้ ถ้าแค่ฝาก ไปขอคืนครับ เป็นทองก็บอกจะมาขาย ช่วงโควิดอยากเก็บเป็นเงินสด เพราะดูแล้ว แม่คุณเป็นคนห่วงลูก ถ้าเกิดลูกคนไหนลำบาก ก็คงจะยื่นมือช่วย ตอนนั้นคงไม่มองว่าเงินใคร ทองใครฝากไว้ คงเอาไปช่วยหมด ดังนั้น ต่อจากนี้ อย่าฝากทรัพย์ไว้กับแม่ ไปเก็บเอง หรือฝากธนาคารเท่านั้น ถ้าไม่กล้าเก็บเองนั้นแปลว่าคุณไม่สามารถรักษาทรัพย์สินนั้นได้ ก็อย่าซื้อสิ่งนั้นมาเก็บ อะไรที่จะให้แม่เก็บ แปลว่าคุณต้องพร้อมให้เป็นของเขา จำคำนี้ไว้ครับ
สุดท้าย ตั้งหลักสรุปเป็นข้อๆ แล้วพูดกับแม่ดีๆ กับเหตุผลทั้งหมด แม่จะโกรธก็คงจะมีบ้าง แต่คุณไม่ต้องโกรธแม่หรอกนะ ถ้าเราพูดด้วยความเป็นผู้ใหญ่ กับแม่ ต่อไปแม่เขาจะรู้ว่า เราโตและมีเหตุผล ไม่ได้เพราะเห็นแก่ตัว แม่จะเชื่อเราเอง
แม่ทำงานมีรายได้ ถือว่าครอบครัวคุณ ทำงาน 3 คน จาก4 คน โชคดีมาก อยากให้คุณแจกแจงรายละเอียดแล้วคุยกับแม่ดังนี้
1. การช่วยน้องผ่อนบ้าน ซึ่งน้องจะอยู่กับแฟนอาจจะแต่งงานในอนาคต บ้านเป็นอสังหาริมทรัพย์ผ่อนระยะยาว แม่อยากจะช่วยผ่อน แล้วชื่อบ้านจะเป็นชื่อใคร
ถ้าชื่อแม่ แม่เป็นเจ้าของ แม่จะไปอยู่ไหม ถ้าเป็นชื่อน้อง น้องเป็นเจ้าของมีสิทธิ์ในบ้านคนเดียว น้องจะอยู่กับแฟน แล้วทำไมไม่ผ่อนกับแฟนเป็นสิทธิ์ทรัพย์ร่วมกัน
2. คุณเป็นลูกจ้างรัฐ ทั้งเงินเดือนน้อยกว่า และงานยังไม่ได้มั่นคงอะไร มีแฟนและอยากจะแต่งงาน ในอีกไม่ช้าก็ต้องสร้างครอบครัว ซื้อบ้านอยู่เช่นกัน แต่คงจะซื้อกับแฟน ไม่คิดรบกวนแม่และน้อง ถ้าวันนี้หนูช่วยผ่อนบ้าน ซึ่งต้องผ่อนเป็น 10 ปี แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อบ้านตัวเอง คุณอยากมีทั้งบ้าน ทั้งรถ แต่มันติดที่เงินเดือนน้อย ต้องเก็บออมก่อน
3. ให้แม่นึกถึงน้องที่เรียนอยู่ วันนี้ยังเรียนไม่จบ ค่าใช้จ่ายน้องส่วนนี้ แม่รับผิดชอบเป็นหลัก ต่อให้เรียกจบแล้วจะหางานได้หรือเปล่าในตอนนี้ แม่จะให้คนที่บ้านช่วยน้องซื้อบ้าน ที่ตัวเองและคนอื่นๆไม่ได้อยู่ และไม่มีสิทธิ์ในบ้าน แม่ว่ายุติธรรมไหม ทำไมแม่ไม่คุยกับแฟนน้องถ้าจะแต่งงานกัน ก็น่าจะอยู่บ้านและช่วยผ่อนกันเอง แม่จะคิดแค่ว่าช่วยน้อง แต่ไม่มองอนาคตของตัวคุณไม่ได้ น้องก็โตมีรับผิดชอบตัวเองได้ ต้องให้น้องยืนด้วยตัวเอง
4. ขอปฏิเสธช่วยน้องผ่อนบ้านให้ชัดเจน ด้วยเหตุผลดี ๆ และคิดว่าคุณคุยกับน้องได้ที่ไม่สามารถช่วยผ่อนบ้าน และสุดท้าย ทรัพย์สินที่คุณฝากแม่ไว้ ถ้าแค่ฝาก ไปขอคืนครับ เป็นทองก็บอกจะมาขาย ช่วงโควิดอยากเก็บเป็นเงินสด เพราะดูแล้ว แม่คุณเป็นคนห่วงลูก ถ้าเกิดลูกคนไหนลำบาก ก็คงจะยื่นมือช่วย ตอนนั้นคงไม่มองว่าเงินใคร ทองใครฝากไว้ คงเอาไปช่วยหมด ดังนั้น ต่อจากนี้ อย่าฝากทรัพย์ไว้กับแม่ ไปเก็บเอง หรือฝากธนาคารเท่านั้น ถ้าไม่กล้าเก็บเองนั้นแปลว่าคุณไม่สามารถรักษาทรัพย์สินนั้นได้ ก็อย่าซื้อสิ่งนั้นมาเก็บ อะไรที่จะให้แม่เก็บ แปลว่าคุณต้องพร้อมให้เป็นของเขา จำคำนี้ไว้ครับ
สุดท้าย ตั้งหลักสรุปเป็นข้อๆ แล้วพูดกับแม่ดีๆ กับเหตุผลทั้งหมด แม่จะโกรธก็คงจะมีบ้าง แต่คุณไม่ต้องโกรธแม่หรอกนะ ถ้าเราพูดด้วยความเป็นผู้ใหญ่ กับแม่ ต่อไปแม่เขาจะรู้ว่า เราโตและมีเหตุผล ไม่ได้เพราะเห็นแก่ตัว แม่จะเชื่อเราเอง
แสดงความคิดเห็น
น้องซื้อบ้าน แต่แม่จะให้เราช่วยผ่อน..!!
.
.
.
.
รบกวนทุกท่านแนะนำหรือให้คำปรึกษาด้วยนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ หากพิมพ์ตกหล่นประการใด ขอโทษด้วยนะคะ