บาสกับบอลทะเลาะกันอีกแล้ว
แต่ครั้งนี้รุนแรงมาก แม่ห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง
ในเวลานี้แม่ไม่รู้ว่าจะหยุดลูกอย่างไรแล้ว
ในที่สุดแม่ตัดสินใจวิ่งไปที่ระเบียงหลังห้อง
ขณะที่แม่ยกขาขึ้นปีนระเบียง
คุณวิรัตน์เพื่อนบ้าน วิ่งเข้ามาดึงตัวแม่ไว้ได้ทัน
บาสกับบอลจึงได้หยุดทะเลาะกัน
ที่นี่เป็นคอนโดขนาด 2 ห้องนอน
ลักษณะของห้อง ประตูหน้าบ้านเปิดเข้ามาเป็นห้องโถงที่มองเห็นระเบียงได้
บอลอยู่คนละห้องกับแม่ บาสแวะมาหาแม่ทีไร ก็ไม่วายต้องมาทะเลาะกับบอลเป็นประจำ
วันนี้ที่แม่จะโดดตึก โชคดีที่ไม่ได้ปิดประตูห้องไว้
คุณวิรัตน์จึงเข้ามาช่วยแม่ไว้ได้ทัน
สภาพจิตใจของแม่แย่มาก บัวจึงต้องมาอยู่ที่คอนโดนี้ด้วย
เพื่อดูแลแม่อย่างใกล้ชิด โดยบัวนอนบนโซฟาที่ห้องโถง
หลังจากที่บัวหลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมง บัวรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก
จึงตื่นขึ้นแล้วขยับคอเสื้อลงมา เพราะคิดว่าคอเสื้อขึ้นไปปิดคอแน่นเกินไป
แล้วก็นอนต่อ สักพักรู้สึกหนักๆที่หน้าอก
จึงตื่นขึ้นแล้วเปลี่ยนผ้าห่มจากผ้านวมผืนหนาๆใหญ่ๆ
ก็ใช้ผ้าห่มผืนบางลง และนอนต่อ
แต่ไม่นาน ก็ต้องตื่นมาอีก แต่คราวนี้ รู้สึกว่าร่างกายถูกตรึงไว้ด้วยพลังอะไรไม่ทราบได้
บังคับให้ลืมตามองไปบนเพดาน
ซึ่งในตอนนั้น มีรอยเท้ามนุษย์ เดินเป็นทางอยู่บนเพดาน
มองตามรอยเท้าออกไปหยุดที่ระเบียง
บัวได้หลับตาลงแต่ยังคงนั่งอยู่ที่โซฟา
แต่หน้าหันไปทางระเบียง ทุกอย่างถูกบังคับในทิศทางที่พลังงานลึกลับนั้นต้องการ
ในความมืดที่บัวหลับตานั้น ก็ได้เห็นความมืดที่เคว้งคว้างเหมือนยืนอยู่บนที่สูง
บัวเห็นตัวเองกำลังยืนข้างๆผู้หญิงคนหนึ่ง
เป็นหญิงสาวอายุประมาณ 18-19 ปี ร่างเล็กๆผอมบาง ผมยาวพริ้วสยายตามลม
พลันร่างสาวน้อยก็ร่วงลงจากระเบียง
บัวมองตามลงไปใจหายวูบตามไปด้วย และได้ยินเสียงดังตุ้บ!
มีเสียงรถฉุกเฉินดังระงมและไฟฉุกเฉินสว่างวาบในความมืด
มีเสียงผู้คนร้องโวยวาย แล้วไม่นานทุกอย่างก็สงบลง
บัวนอนลง เช้าตื่นมาทบทวนความจำ พอปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ก็ครุ่นคิด
เมื่อได้โอกาสพูดคุยกับคุณวิรัตน์เพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ห้องตรงข้ามกัน
คุณวิรัตน์รู้อยู่แล้วว่าสักวันต้องมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
จึงเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับห้องนี้ให้บัวฟัง
เจ้าของเดิมเป็นคู่รักนักศึกษา พ่อแม่ฝ่ายหญิงซื้อให้อยู่ด้วยกัน
แต่ฝ่ายชายนอกใจหนีไปไม่กลับมา
ฝ่ายหญิงเสียใจจึงเขียนจดหมายลาตาย บอกว่าจะรอคนรักอยู่ที่ห้องนี้
แล้วกระโดดตึกเพื่อฆ่าตัวตาย
พ่อแม่ก็ไม่ได้มาทำพิธีเชิญวิญญาณ
นานเกือบ 10 ปี แม่ของบัวจึงมาซื้อห้องนี้ ตลอดเวลาที่อยู่อาศัยมาไม่เคยมีสัญญาณว่ามีวิญญาณอยู่ร่วมห้องเลย
คุณวิรัตน์สัณนิษฐานและเตือนบัวว่า
น้องคงรอเวลาที่จะมีตัวตายตัวแทน และต่อจากนี้ น้องจะตามคุณนะคุณบัว เพราะเค้าสื่อกับคุณได้
พอได้รับคำเตือน บัวไม่อยากปะทะกับผี จึงชวนแม่ไปอยู่ที่บ้านที่บางบัวทอง
เก็บเสื้อผ้าเตรียมข้าวของกว่าจะพร้อมเดินทางก็เกือบทุ่ม
ความรู้สึกบัวคิดว่า ทำไมเหมือนหนังผีจังเลยแฮะ มืดไวมาก
ระหว่างเดินทาง บัวนั่งเบาะหลังคู่กับแม่ แต่จู่ๆ บัวก็หันหน้าไปหาแม่
ทั้งๆที่ไม่ได้อยากจะหันไปหา เหมือนมีอะไรบังคับหน้าให้หันไปยิ้มให้แม่
แม่เห็นว่าไม่ใช่หน้าบัว แม่จึงหยิบสร้อยลูกประคำมาท่องคาถาแล้วคล้องคอบัวไว้
เรามาอยู่บางบัวทองกัน ลี้ภัย หนีผีมาตั้งหลัก บัวติดต่อช่างมาทำเหล็กดัดทันที กันพลาด เมื่อกลับไปที่คอนโด บัวรู้สึกวังเวงไม่เหมือนเดิม อาจจะอุปทาน ก็เป็นไปได้
แต่รับรู้ได้ว่าน้องเดินตามตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง หลอนมาก
จนในที่สุด ตัดสินใจประกาศขายห้อง คนที่ติดต่อขอเข้ามาดูห้องเป็นคนแรกและคนเดียว เค้าถามบัวตรงๆ ห้องนี้มีประวัติใช่ไหมครับ บัวก็โกหกไม่เป็นและบวกกับแพ้สายตาที่เค้าจ้องมองมาเมื่อถาม
จึงตอบว่า "ค่ะ" ปรากฏว่าเค้าซื้อ
เค้าบอกว่าถูกชะตากับเจ้าของห้อง ทุกวันนี้เค้าก็อยู่เป็นสุขดี หนุ่มโสดสนิทซะด้วยอ่ะน๊า
คอนโดชั้น10ห้อง1013
แต่ครั้งนี้รุนแรงมาก แม่ห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง
ในเวลานี้แม่ไม่รู้ว่าจะหยุดลูกอย่างไรแล้ว
ในที่สุดแม่ตัดสินใจวิ่งไปที่ระเบียงหลังห้อง
ขณะที่แม่ยกขาขึ้นปีนระเบียง
คุณวิรัตน์เพื่อนบ้าน วิ่งเข้ามาดึงตัวแม่ไว้ได้ทัน
บาสกับบอลจึงได้หยุดทะเลาะกัน
ที่นี่เป็นคอนโดขนาด 2 ห้องนอน
ลักษณะของห้อง ประตูหน้าบ้านเปิดเข้ามาเป็นห้องโถงที่มองเห็นระเบียงได้
บอลอยู่คนละห้องกับแม่ บาสแวะมาหาแม่ทีไร ก็ไม่วายต้องมาทะเลาะกับบอลเป็นประจำ
วันนี้ที่แม่จะโดดตึก โชคดีที่ไม่ได้ปิดประตูห้องไว้
คุณวิรัตน์จึงเข้ามาช่วยแม่ไว้ได้ทัน
สภาพจิตใจของแม่แย่มาก บัวจึงต้องมาอยู่ที่คอนโดนี้ด้วย
เพื่อดูแลแม่อย่างใกล้ชิด โดยบัวนอนบนโซฟาที่ห้องโถง
หลังจากที่บัวหลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมง บัวรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก
จึงตื่นขึ้นแล้วขยับคอเสื้อลงมา เพราะคิดว่าคอเสื้อขึ้นไปปิดคอแน่นเกินไป
แล้วก็นอนต่อ สักพักรู้สึกหนักๆที่หน้าอก
จึงตื่นขึ้นแล้วเปลี่ยนผ้าห่มจากผ้านวมผืนหนาๆใหญ่ๆ
ก็ใช้ผ้าห่มผืนบางลง และนอนต่อ
แต่ไม่นาน ก็ต้องตื่นมาอีก แต่คราวนี้ รู้สึกว่าร่างกายถูกตรึงไว้ด้วยพลังอะไรไม่ทราบได้
บังคับให้ลืมตามองไปบนเพดาน
ซึ่งในตอนนั้น มีรอยเท้ามนุษย์ เดินเป็นทางอยู่บนเพดาน
มองตามรอยเท้าออกไปหยุดที่ระเบียง
บัวได้หลับตาลงแต่ยังคงนั่งอยู่ที่โซฟา
แต่หน้าหันไปทางระเบียง ทุกอย่างถูกบังคับในทิศทางที่พลังงานลึกลับนั้นต้องการ
ในความมืดที่บัวหลับตานั้น ก็ได้เห็นความมืดที่เคว้งคว้างเหมือนยืนอยู่บนที่สูง
บัวเห็นตัวเองกำลังยืนข้างๆผู้หญิงคนหนึ่ง
เป็นหญิงสาวอายุประมาณ 18-19 ปี ร่างเล็กๆผอมบาง ผมยาวพริ้วสยายตามลม
พลันร่างสาวน้อยก็ร่วงลงจากระเบียง
บัวมองตามลงไปใจหายวูบตามไปด้วย และได้ยินเสียงดังตุ้บ!
มีเสียงรถฉุกเฉินดังระงมและไฟฉุกเฉินสว่างวาบในความมืด
มีเสียงผู้คนร้องโวยวาย แล้วไม่นานทุกอย่างก็สงบลง
บัวนอนลง เช้าตื่นมาทบทวนความจำ พอปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ก็ครุ่นคิด
เมื่อได้โอกาสพูดคุยกับคุณวิรัตน์เพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ห้องตรงข้ามกัน
คุณวิรัตน์รู้อยู่แล้วว่าสักวันต้องมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
จึงเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับห้องนี้ให้บัวฟัง
เจ้าของเดิมเป็นคู่รักนักศึกษา พ่อแม่ฝ่ายหญิงซื้อให้อยู่ด้วยกัน
แต่ฝ่ายชายนอกใจหนีไปไม่กลับมา
ฝ่ายหญิงเสียใจจึงเขียนจดหมายลาตาย บอกว่าจะรอคนรักอยู่ที่ห้องนี้
แล้วกระโดดตึกเพื่อฆ่าตัวตาย
พ่อแม่ก็ไม่ได้มาทำพิธีเชิญวิญญาณ
นานเกือบ 10 ปี แม่ของบัวจึงมาซื้อห้องนี้ ตลอดเวลาที่อยู่อาศัยมาไม่เคยมีสัญญาณว่ามีวิญญาณอยู่ร่วมห้องเลย
คุณวิรัตน์สัณนิษฐานและเตือนบัวว่า
น้องคงรอเวลาที่จะมีตัวตายตัวแทน และต่อจากนี้ น้องจะตามคุณนะคุณบัว เพราะเค้าสื่อกับคุณได้
พอได้รับคำเตือน บัวไม่อยากปะทะกับผี จึงชวนแม่ไปอยู่ที่บ้านที่บางบัวทอง
เก็บเสื้อผ้าเตรียมข้าวของกว่าจะพร้อมเดินทางก็เกือบทุ่ม
ความรู้สึกบัวคิดว่า ทำไมเหมือนหนังผีจังเลยแฮะ มืดไวมาก
ระหว่างเดินทาง บัวนั่งเบาะหลังคู่กับแม่ แต่จู่ๆ บัวก็หันหน้าไปหาแม่
ทั้งๆที่ไม่ได้อยากจะหันไปหา เหมือนมีอะไรบังคับหน้าให้หันไปยิ้มให้แม่
แม่เห็นว่าไม่ใช่หน้าบัว แม่จึงหยิบสร้อยลูกประคำมาท่องคาถาแล้วคล้องคอบัวไว้
เรามาอยู่บางบัวทองกัน ลี้ภัย หนีผีมาตั้งหลัก บัวติดต่อช่างมาทำเหล็กดัดทันที กันพลาด เมื่อกลับไปที่คอนโด บัวรู้สึกวังเวงไม่เหมือนเดิม อาจจะอุปทาน ก็เป็นไปได้
แต่รับรู้ได้ว่าน้องเดินตามตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง หลอนมาก
จนในที่สุด ตัดสินใจประกาศขายห้อง คนที่ติดต่อขอเข้ามาดูห้องเป็นคนแรกและคนเดียว เค้าถามบัวตรงๆ ห้องนี้มีประวัติใช่ไหมครับ บัวก็โกหกไม่เป็นและบวกกับแพ้สายตาที่เค้าจ้องมองมาเมื่อถาม
จึงตอบว่า "ค่ะ" ปรากฏว่าเค้าซื้อ
เค้าบอกว่าถูกชะตากับเจ้าของห้อง ทุกวันนี้เค้าก็อยู่เป็นสุขดี หนุ่มโสดสนิทซะด้วยอ่ะน๊า