ส่วนตัวชอบติดตาม social ของคนไทยที่ทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น ทำให้บางทีเหมือนได้ไปเที่ยว เพราะเขาถ่ายวีดีโอภาพถนนหนทางชีวิตผู้คน บรรยายสภาพแวดล้อม บางคนก็แปลข่าวบนสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่นมาเป็นภาษาไทยให้อ่าน
สถานการณ์ covid ของญี่ปุ่น โตเกียวมีผู้ป่วยสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มขึ้นอย่างมากจึงมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและกำลังจะขยายออกไป และนอกจากนี้ก็มีอีกหลายจังหวัดที่ขอให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
อัพเดทล่าสุด ติดเชื้อวันนี้ทั้งประเทศเพิ่ม 17,000 เศษ ยอดสะสม 1,100,000 เศษ โตเกียวติดเชื้อวันนี้ 4,200 osaka 1,700 เสียชีวิตทั้งประเทศเพิ่มขึ้นวันนี้ 10ราย
จากไลฟ์สดของคนไทยที่อยู่ที่ญี่ปุ่นสภาพบ้านเมืองย่านการค้าต่างๆในโตเกียวก็ยังมีผู้คนแม้นจะบางตาลงบ้างแต่ไม่เหมือนกทมที่แทบจะร้าง คนยังคงไปทำงานตามปกติ work from home ส่วนน้อยมาก รถไฟช่วงเช้าและช่วงเย็นคนแน่นเป็นปกติ โรงพยาบาลล้นไม่สามารถรับผู้ป่วยได้ผู้ป่วย covid ต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้านหลายหมื่นคน
แต่ของเราใช้มาตรการล็อคดาวน์และล่าสุดประกาศขยายไปจนถึงสิ้นเดือน ตามย่านเศรษฐกิจต่างๆในกรุงเทพฯร้างผู้คน ห้างสรรพสินค้าเปิดเฉพาะแผนก supermarket เท่านั้น คนเดินทางไปทำงานตามปกติน้อยมากโรงเรียนวิทยาลัยมหาวิทยาลัยปิดทั้งหมด ในท้องถนนรถส่วนตัวน้อยมาก รถสาธารณะก็มีผู้ใช้บริการน้อยมาก รถบขสไปต่างจังหวัดหลายเส้นทางไม่วิ่ง
ผมสงสัยว่าเราใช้ยาแรงกว่าญี่ปุ่นมากทั้งๆที่พี่เป็นเชื้อโควิคเดลต้าเหมือนกันและญี่ปุ่นระบาดโกรธเราอีกแต่มาตรการที่ญี่ปุ่นใช้เบาๆมากเมื่อเทียบกับมาตรการที่เราใช้แถมขนส่งสาธารณะของเขาก็ยังแอบอัดเป็นปกติทุกอย่างแทบจะเป็นปกติผังการไปทำงานการใช้ชีวิตร้านค้าเขตเศรษฐกิจต่างๆผู้คนบางตาลดลง 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ของเราเขตเศรษฐกิจผู้คนและร้านค้าหายไป 90% ทำขนาดนี้แต่ของเราการระบาดก็ดูไม่มีท่าทีที่จะทุเลาลง ของญี่ปุ่นมาตรการเบาผู้คนใช้ชีวิตแทบจะเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ลำบากมากขึ้น
จริงๆแล้วมาตรการสำหรับ covid ควรจะเป็นมาตรการที่ให้เราอยู่ร่วมกับมันได้ ทำชีวิตให้เป็นปกติเหมือนต่างประเทศไม่ได้เหรอ แบบที่เราทำอยู่มันจะทำให้คนตกงานมากมายในอนาคต มันแรงเกินไปหรือเปล่า ประเทศต่างๆที่ไม่ได้ทำมาตรการรุนแรงแบบเราให้ประชาชนใช้ชื่อตามปกติเหมือนอย่างเช่นในอังกฤษแฟนบอลก็เข้าดูฟุตบอลในสนามได้เต็มเหมือนปกติแล้ว เราใช้ความคิดเดียวกันกับต่างประเทศไม่ได้เหรอพยายามอยู่ด้วยกับมันพยายามใช้ชีวิตให้เป็นปกติแต่เพิ่มมาตรการบางอย่างในการป้องกันแต่ชีวิตยังต้องดำเนินตามปกติ
โควิด เทียบไทยกับญี่ปุ่น
สถานการณ์ covid ของญี่ปุ่น โตเกียวมีผู้ป่วยสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มขึ้นอย่างมากจึงมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและกำลังจะขยายออกไป และนอกจากนี้ก็มีอีกหลายจังหวัดที่ขอให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
อัพเดทล่าสุด ติดเชื้อวันนี้ทั้งประเทศเพิ่ม 17,000 เศษ ยอดสะสม 1,100,000 เศษ โตเกียวติดเชื้อวันนี้ 4,200 osaka 1,700 เสียชีวิตทั้งประเทศเพิ่มขึ้นวันนี้ 10ราย
จากไลฟ์สดของคนไทยที่อยู่ที่ญี่ปุ่นสภาพบ้านเมืองย่านการค้าต่างๆในโตเกียวก็ยังมีผู้คนแม้นจะบางตาลงบ้างแต่ไม่เหมือนกทมที่แทบจะร้าง คนยังคงไปทำงานตามปกติ work from home ส่วนน้อยมาก รถไฟช่วงเช้าและช่วงเย็นคนแน่นเป็นปกติ โรงพยาบาลล้นไม่สามารถรับผู้ป่วยได้ผู้ป่วย covid ต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้านหลายหมื่นคน
แต่ของเราใช้มาตรการล็อคดาวน์และล่าสุดประกาศขยายไปจนถึงสิ้นเดือน ตามย่านเศรษฐกิจต่างๆในกรุงเทพฯร้างผู้คน ห้างสรรพสินค้าเปิดเฉพาะแผนก supermarket เท่านั้น คนเดินทางไปทำงานตามปกติน้อยมากโรงเรียนวิทยาลัยมหาวิทยาลัยปิดทั้งหมด ในท้องถนนรถส่วนตัวน้อยมาก รถสาธารณะก็มีผู้ใช้บริการน้อยมาก รถบขสไปต่างจังหวัดหลายเส้นทางไม่วิ่ง
ผมสงสัยว่าเราใช้ยาแรงกว่าญี่ปุ่นมากทั้งๆที่พี่เป็นเชื้อโควิคเดลต้าเหมือนกันและญี่ปุ่นระบาดโกรธเราอีกแต่มาตรการที่ญี่ปุ่นใช้เบาๆมากเมื่อเทียบกับมาตรการที่เราใช้แถมขนส่งสาธารณะของเขาก็ยังแอบอัดเป็นปกติทุกอย่างแทบจะเป็นปกติผังการไปทำงานการใช้ชีวิตร้านค้าเขตเศรษฐกิจต่างๆผู้คนบางตาลดลง 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ของเราเขตเศรษฐกิจผู้คนและร้านค้าหายไป 90% ทำขนาดนี้แต่ของเราการระบาดก็ดูไม่มีท่าทีที่จะทุเลาลง ของญี่ปุ่นมาตรการเบาผู้คนใช้ชีวิตแทบจะเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ลำบากมากขึ้น
จริงๆแล้วมาตรการสำหรับ covid ควรจะเป็นมาตรการที่ให้เราอยู่ร่วมกับมันได้ ทำชีวิตให้เป็นปกติเหมือนต่างประเทศไม่ได้เหรอ แบบที่เราทำอยู่มันจะทำให้คนตกงานมากมายในอนาคต มันแรงเกินไปหรือเปล่า ประเทศต่างๆที่ไม่ได้ทำมาตรการรุนแรงแบบเราให้ประชาชนใช้ชื่อตามปกติเหมือนอย่างเช่นในอังกฤษแฟนบอลก็เข้าดูฟุตบอลในสนามได้เต็มเหมือนปกติแล้ว เราใช้ความคิดเดียวกันกับต่างประเทศไม่ได้เหรอพยายามอยู่ด้วยกับมันพยายามใช้ชีวิตให้เป็นปกติแต่เพิ่มมาตรการบางอย่างในการป้องกันแต่ชีวิตยังต้องดำเนินตามปกติ