🍳รู้จัก 5 แหล่งกำเนิดฝ้าในบ้าน 🍳
ถึงจะ Work from home ก็ต้องทากันแดด
หลังจากที่เราล็อกดาวน์กันมาแล้ว
และกำลังจะต้องกลับมาอยู่บ้านเต็มตัวกันอีกครั้ง
สิ่งนึงที่น่าสนใจ คือ
ถึงจะอยู่แต่บ้านแทบไม่เจอแดดเปรี้ยงๆ
แต่หลายๆคนที่เป็นฝ้า กระ รอยดำ
📌รอยแทบไม่ได้จางลงเลย
📌เผลอเป็นๆมากกว่าเดิมแบบงงๆ
และสาเหตุหลักๆที่รักเจอมาจากการให้คำปรึกษาผิว คือ
ไม่ได้ออกนอกบ้าน เลยไม่ได้ทากันแดด
แต่รักเชื่อว่าคำตอบที่อยู่ในใจต้องเป็นแบบนี้
(ไม่เห็นจำเป็น) (เปลือง!!!)
==”
💛🟡🟨💛🟡🟨🟨🟡💛🟨🟡💛
วันนี้รักจะมาบอก 5 แหล่งกำเนิดฝ้า ภายในบ้าน
ที่เมื่ออ่านจบ กันแดดจะกลายเป็นของจำเป็นทันทีค่า ^^
1️⃣ แสงแดดทะลุหน้าต่าง 🪟☀️
หลายคนค้นพบว่าการทำงานในบ้านให้ไม่น่าเบื่อ
ก็คือการย้ายโต๊ะทำงานมาใกล้หน้าต่างที่แสงส่องถึง
หรืออยู่ใกล้ๆกับระเบียงที่มีแคคตัสสุดมินิมอลอยู่ข้างๆ
ซึ่งการนั่งในที่แสงแดดรำไรๆพอสว่างนี่แหละ
ทำให้ UVA ทะลุผ่านกระจกและเมฆหมอกเข้ามาทำร้ายผิวได้ถึงในบ้าน
ทำร้ายลึกถึงชั้นหนังแท้ นอกจากจะหมองไม่พอ ยังไงให้ผิวแก่ก่อนวัยด้วย
และถ้าหากเอฟต้นไม้มาเยอะ
ย้ายตัวเองออกไปทำงานนอกระเบียงหรือสวนหน้าบ้าน
ก็จะเจอครบทั้ง UVA และ UVB ได้ทั้งความแก่และความหมองในคราวเดียวกันค่า
2️⃣ Bluelight 💡🔦
หลายคนๆทากันแดด
เพราะห่วงว่า Bluelight จากจอคอมหรือมือถือจะทำร้ายผิว
ถ้าทาเพราะเหตุผลนี้
ก็ถือว่าเป็นความเข้าใจผิดที่ยังเกิดผลดี
เพราะจริงๆแล้วแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอม/มือถือทั่วไป ย้ำว่าทั่วไป
ยังไง๊ ยังไง ก็ไม่รุนแรงเท่ากับแสงแดด
แต่ถ้าสายงานกราฟิก โปรแกรมเมอร์ที่ใช้หน้าจอค่อนข้างใหญ่
ความคมชัด ความสว่างค่อนข้างสูง
แถมอยู่กับจอมากกกว่าวันละ 8 ชั่วโมงแบบใกล้มากๆ
อันนี้ทั้ง Bluelight ทั้งพลังงานแสงที่ผิวได้รับจะมากกว่าปกติ
และทำร้ายผิวได้มากนะคะ
3️⃣ โคมไฟตั้งโต๊ะ💡
สำหรับคนที่รู้ว่าแสงแดดรอดเข้ามาทำร้ายผิวได้
ก็มักจะปิดม่าน ซึ่งถือเป็นเรื่องดี
แต่ก็มาเปิดโคมไฟแทน
ซึ่งในเคสนี้มักจะเจอกับสายนักเรียน และสายแม่บ้านนักตัดเย็บผ้า
เพราะมักจะใช้โคมไฟตั้งโต๊ะที่เป็นไฟแดด
ความเข้มไฟสูง และเปิดใกล้หน้ามาก
ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าได้รับความหมองแบบเต็มๆ
และถ้านั่งยาวๆทำงานนานๆนอกจากจะพัฒนาเป็นฝ้ากระบางๆได้แล้ว
ปัญหาทางด้านสายตาก็จะตามมาด้วยเช่นกัน
เพราะการเพ่ง และแสงที่เข้าตามีมากกว่าปกติ
4️⃣ ความร้อนจากเตา 🥘🍳
หลายคนเมื่อล็อกดาวน์
ถ้าไม่ผันตัวเป็นดาว Tiktok ก็กลายเป็น Masterchef
สร้างสรรเมนูอากหารกันมากมาย
แต่ใครจะรู้ว่าความร้อนจากการทำอาหาร
สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิว
แล้วเหนี่ยวนำให้เกิดความหมอง ไปจนถึงฝ้ากระได้
ถึงแม้จะอยู่หน้าเตาไม่นานแต่ด้วยระดับความร้อนที่ทำให้น้ำเดือด อาหารสุกในพริบตา
สามารถสร้างผลเสียให้กับผิวได้มากกว่าที่คิดและทำให้เกิดฝ้าค่อนข้างลึกในบางคนได้
5️⃣ ริงไลท์
ถึงแม้จะเป็นไฟ LED แผ่รังสียูวีและความร้อนน้อย
แต่ด้วยตำแหน่งการวางที่จ่อหน้าแบบระยะเผาขน
แถมบางคนก็ต้องใช้ไฟสาดหน้าเป็นเวลานาน
โดยเฉพาะสายค้าขายออนไลน์และช่างกล้องถ่ายภาพ
ทำให้โอกาสเกิดฝ้า กระ ความหมองคล้ำ
และทำให้สายตาเสียได้มากที่สุดจากทั้งหมด 5 ข้อที่บอกมาค่า
💛🟡🟨💛🟡🟨🟨🟡💛🟨🟡💛
📌สรุป 📌
เมื่อได้รู้จักแหล่งกำเนิดฝ้าในบ้านทั้ง 5 ข้อ
พร้อมกับสายอาชีพ และไลฟ์สไตล์ที่เสี่ยงหมองและฝ้าไปหมดแล้ว
รักก็อยากจะฝากให้ทุกๆคนตระหนักถึงการทากันแดดแม้จะอยู่ในบ้านน้า
และถ้าทาหลายรอบไม่ได้
อย่างน้อยก็ทารอบแรกให้ได้0.6-1 G ต่อครั้งนะคะ ^^
เพราะรักจึงบอก
#เภสัชกรรัก
🍳รู้จัก 5 แหล่งกำเนิดฝ้าในบ้าน 🍳Work from home ก็ต้องทากันแดด
ถึงจะ Work from home ก็ต้องทากันแดด
หลังจากที่เราล็อกดาวน์กันมาแล้ว
และกำลังจะต้องกลับมาอยู่บ้านเต็มตัวกันอีกครั้ง
สิ่งนึงที่น่าสนใจ คือ
ถึงจะอยู่แต่บ้านแทบไม่เจอแดดเปรี้ยงๆ
แต่หลายๆคนที่เป็นฝ้า กระ รอยดำ
📌รอยแทบไม่ได้จางลงเลย
📌เผลอเป็นๆมากกว่าเดิมแบบงงๆ
และสาเหตุหลักๆที่รักเจอมาจากการให้คำปรึกษาผิว คือ
ไม่ได้ออกนอกบ้าน เลยไม่ได้ทากันแดด
แต่รักเชื่อว่าคำตอบที่อยู่ในใจต้องเป็นแบบนี้
(ไม่เห็นจำเป็น) (เปลือง!!!)
==”
💛🟡🟨💛🟡🟨🟨🟡💛🟨🟡💛
วันนี้รักจะมาบอก 5 แหล่งกำเนิดฝ้า ภายในบ้าน
ที่เมื่ออ่านจบ กันแดดจะกลายเป็นของจำเป็นทันทีค่า ^^
1️⃣ แสงแดดทะลุหน้าต่าง 🪟☀️
หลายคนค้นพบว่าการทำงานในบ้านให้ไม่น่าเบื่อ
ก็คือการย้ายโต๊ะทำงานมาใกล้หน้าต่างที่แสงส่องถึง
หรืออยู่ใกล้ๆกับระเบียงที่มีแคคตัสสุดมินิมอลอยู่ข้างๆ
ซึ่งการนั่งในที่แสงแดดรำไรๆพอสว่างนี่แหละ
ทำให้ UVA ทะลุผ่านกระจกและเมฆหมอกเข้ามาทำร้ายผิวได้ถึงในบ้าน
ทำร้ายลึกถึงชั้นหนังแท้ นอกจากจะหมองไม่พอ ยังไงให้ผิวแก่ก่อนวัยด้วย
และถ้าหากเอฟต้นไม้มาเยอะ
ย้ายตัวเองออกไปทำงานนอกระเบียงหรือสวนหน้าบ้าน
ก็จะเจอครบทั้ง UVA และ UVB ได้ทั้งความแก่และความหมองในคราวเดียวกันค่า
2️⃣ Bluelight 💡🔦
หลายคนๆทากันแดด
เพราะห่วงว่า Bluelight จากจอคอมหรือมือถือจะทำร้ายผิว
ถ้าทาเพราะเหตุผลนี้
ก็ถือว่าเป็นความเข้าใจผิดที่ยังเกิดผลดี
เพราะจริงๆแล้วแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอม/มือถือทั่วไป ย้ำว่าทั่วไป
ยังไง๊ ยังไง ก็ไม่รุนแรงเท่ากับแสงแดด
แต่ถ้าสายงานกราฟิก โปรแกรมเมอร์ที่ใช้หน้าจอค่อนข้างใหญ่
ความคมชัด ความสว่างค่อนข้างสูง
แถมอยู่กับจอมากกกว่าวันละ 8 ชั่วโมงแบบใกล้มากๆ
อันนี้ทั้ง Bluelight ทั้งพลังงานแสงที่ผิวได้รับจะมากกว่าปกติ
และทำร้ายผิวได้มากนะคะ
3️⃣ โคมไฟตั้งโต๊ะ💡
สำหรับคนที่รู้ว่าแสงแดดรอดเข้ามาทำร้ายผิวได้
ก็มักจะปิดม่าน ซึ่งถือเป็นเรื่องดี
แต่ก็มาเปิดโคมไฟแทน
ซึ่งในเคสนี้มักจะเจอกับสายนักเรียน และสายแม่บ้านนักตัดเย็บผ้า
เพราะมักจะใช้โคมไฟตั้งโต๊ะที่เป็นไฟแดด
ความเข้มไฟสูง และเปิดใกล้หน้ามาก
ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าได้รับความหมองแบบเต็มๆ
และถ้านั่งยาวๆทำงานนานๆนอกจากจะพัฒนาเป็นฝ้ากระบางๆได้แล้ว
ปัญหาทางด้านสายตาก็จะตามมาด้วยเช่นกัน
เพราะการเพ่ง และแสงที่เข้าตามีมากกว่าปกติ
4️⃣ ความร้อนจากเตา 🥘🍳
หลายคนเมื่อล็อกดาวน์
ถ้าไม่ผันตัวเป็นดาว Tiktok ก็กลายเป็น Masterchef
สร้างสรรเมนูอากหารกันมากมาย
แต่ใครจะรู้ว่าความร้อนจากการทำอาหาร
สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิว
แล้วเหนี่ยวนำให้เกิดความหมอง ไปจนถึงฝ้ากระได้
ถึงแม้จะอยู่หน้าเตาไม่นานแต่ด้วยระดับความร้อนที่ทำให้น้ำเดือด อาหารสุกในพริบตา
สามารถสร้างผลเสียให้กับผิวได้มากกว่าที่คิดและทำให้เกิดฝ้าค่อนข้างลึกในบางคนได้
5️⃣ ริงไลท์
ถึงแม้จะเป็นไฟ LED แผ่รังสียูวีและความร้อนน้อย
แต่ด้วยตำแหน่งการวางที่จ่อหน้าแบบระยะเผาขน
แถมบางคนก็ต้องใช้ไฟสาดหน้าเป็นเวลานาน
โดยเฉพาะสายค้าขายออนไลน์และช่างกล้องถ่ายภาพ
ทำให้โอกาสเกิดฝ้า กระ ความหมองคล้ำ
และทำให้สายตาเสียได้มากที่สุดจากทั้งหมด 5 ข้อที่บอกมาค่า
💛🟡🟨💛🟡🟨🟨🟡💛🟨🟡💛
📌สรุป 📌
เมื่อได้รู้จักแหล่งกำเนิดฝ้าในบ้านทั้ง 5 ข้อ
พร้อมกับสายอาชีพ และไลฟ์สไตล์ที่เสี่ยงหมองและฝ้าไปหมดแล้ว
รักก็อยากจะฝากให้ทุกๆคนตระหนักถึงการทากันแดดแม้จะอยู่ในบ้านน้า
และถ้าทาหลายรอบไม่ได้
อย่างน้อยก็ทารอบแรกให้ได้0.6-1 G ต่อครั้งนะคะ ^^
เพราะรักจึงบอก
#เภสัชกรรัก