ในช่วงฤดูร้อน เป็นช่วงเวลาที่ผิวใครหลายคนต้องเผชิญกับแสงแดด เหงื่อไคล ที่ล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดผิวพัง เช่น ผิวไหม้แดด หน้าไหม้แดด ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้าน เกิดริ้วรอย และสิว ซึ่งเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้บ่อย หากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่การแก่ก่อนวัยโดยไม่รู้ตัว 
 
🌤 หมั่นทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื่น หลังจากที่ผิวโดนแดดมากๆ จะทำให้เกิดอาการผิวแดง แห้งลอก และแสบร้อนที่ผิว ควรทาครีมเพื่อช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว  ฟื้นฟูบำรุงผิวให้แข็งแรง และป้องกันการระคายเคืองจากสาเหตุต่างๆ 

🌤 ผิวไหม้แดด มักมีอาการแดง แห้ง ลอก ไม่ควรแกะ หรือเกา ผิวหนังบริเวณนั้น เพื่อป้องกันการระคายเคือง และการติดเชื้อ ในบางคนอาจเกิดเป็นตุ่มน้ำพองใสตามผิวหนัง ไม่ควรสัมผัส แกะ เกา หรือเจาะตุ่มน้ำออกเองเนื่องจากอาจทำให้เกิดโอกาสติดเชื้อได้ ในคนที่มีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ 

🌤 หมั่นทาครีมกันแดดทุกวัน  ควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA, UVB, Visible Light และ Infrared ซึ่งแสงแดดเป็นสาเหตุให้เกิดฝ้า กระ รอยดำ และริ้วรอยต่างๆ ควรทาครีมกันแดดทุกวัน และทาก่อนออกโดนแดดอย่างน้อย 30 นาที การทาครีมกันแดดควรทาให้ปริมาณที่เพียงพอ โดยมีหลักง่ายๆ คือทาทั่วหน้าจะใช้ครีมกันแดดประมาณ 1 ข้อนิ้วมือ แต่หากทาทั่วหน้า และลำคอ จะใช้ครีมกันแดดประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ ในกรณีที่เป็นฝ้า หรือต้องโดนแสงแดดมาก ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อยประมาณ 30 ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. เพราะเป็นเวลาที่แสงแดดแรงที่สุด แต่หากจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากการทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวแล้ว ควรใส่หมวกปีกกว้าง ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใช้ร่มกันแดด และสวมใส่แว่นกันแดดเพิ่มด้วย ทั้งนี้เราอาจเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมสารที่ช่วยฟื้นฟูผิวภายหลังโดนแดด 

🌤 ควรดื่มน้ำมากๆ จะเป็นการช่วยฟื้นฟูอาการผิวไหม้แดด และขาดน้ำได้ดี เนื่องจากผิวหนังของเราสูญเสียน้ำไปมากจากการโดนแดด ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ กาแฟ เนื่องจากจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น 

🌤 เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวหลังโดนแดด หลังจากที่ผิวโดนแดดจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำมากขึ้น หรืออาจมีกระ ฝ้า รอยดำ เพิ่มขึ้น จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการฟื้นฟูผิวหน้าที่หมองคล้ำ และจุดด่างดำ ซึ่งการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ควรเริ่มใช้หลังจากอาการแดง แห้งลอก และแสบ ดีขึ้นแล้ว 

ทั้งนี้หากทำตามข้อแนะนำดังกล่าวแล้วยังมี ใบหน้าหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำยังไม่ดีขึ้น ควรมาปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล โดยอาจจะมีทั้งการให้ยา ทำทรีทเม้นท์ หรือเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาผิวให้กลับมาสวยสดใสเหมือนเดิม 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อมูลโดย
พญ. ดวงกมล ทัศนพงศากุล