สืบเนื่องจากคลิปข่าว และรายการข่าว ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นข้อมูลข่าวสารที่ไม่ได้ทราบถึงข้อเท็จจริง ที่ถูกต้อง อยากให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในมุมมองของความเป็นจริงที่ทางการอังกฤษรับรอง

ลองดูคลิปข่าวที่กล่าวถึงเนื้อหาสาระนี้ จาก 2 คลิปข่าวนะครับ
จากทางเนชั่น
https://youtu.be/4ohcvD0QaIc
จากทางรายการแฉ
https://youtu.be/kmiXrxRn9e4

ใครที่ยังไม่ได้ดูคลิปข่าว ลองดูคลิปข่าวก่อนนะครับ  หรือถ้าใครดูแล้ว ผมอยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับข้อมูลในคลิปข่าวก่อน
- น้องนักเรียนที่กล่าวถึงว่ากำลังจะไปเรียนที่ไอร์แลนด์ และบอกว่าต้องทำวีซ่าผ่านสถานฑูตอังกฤษ ในเนื้อข่าวบอกไม่ชัด และคุณน้องก็บอกไม่ชัด ไอร์แลนด์ที่น้องบอกคือ ไอร์แลนด์เหนือ ( Northern Ireland ) ใช่หรือไม่  ถ้าใช่ มันคือประเทศเดียวกันครับ กฏเกณฑ์เดียวกัน  แต่ถ้าเป็น Republic of Ireland ( ผมเรียกว่าไอร์แลนด์ ธรรมดา หรือว่า ไอร์แลนด์ ดับลิน นะครับ ) อันนี้คือคนละประเทศ ใช้เชงเก้นวีซ่า และสถานฑูต คนละแห่งแน่นอน
*** ในคลิปข่าวรายการแฉ คุณมดดำ ออกเสียงว่า ไอซ์แลนด์ อันนี้ไปกันใหญ่เลยครับ  คนละประเทศเลยครับผม สถานฑูต คนละแห่งแน่นอน ผมเดาว่าน่าจะออกเสียงอ่านผิด  มันก็จะเข้าใจผิดไปด้วยนะครับ

เพราะฉะนั้น 2 คลิป อ่านชื่อประเทศผิด และก็พาลเข้าใจผิดในประเด็นหลักที่ผมจะอธิบายต่อไปนี้ครับ

ยอดติดเชื้อ Covid19 ณ.ปัจจุบันของอังกฤษ วันละ 2-3 หมื่นคนต่อวัน และช่วงนี้คือ Summer นะครับ เป็นช่วงเวลาของการท่องเที่ยว การไปท่องเที่ยวในต่างประเทศของคนอังกฤษ และคนในยุโรป มันคือสิ่งที่เป็นปรารถนาหลักของวิถีชีวิตคนที่นี่ รวมทั้งการเปิดรับคนเข้ามาท่องเที่ยวในอังกฤษ คือ Step ก้าวต่อไปในการฟื้นฟูเศรษฐกิจตอนนี้ 

กฏเกณฑ์ที่อังกฤษเปิดรับสำหรับคนที่เดินทางเข้าอังกฤษ โดยไม่ต้องกักตัว ผมขออ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการนะครับ ( ลองคลิ๊กเข้าไปดูได้ ) 
https://www.gov.uk/government/news/uk-travel-update-government-waives-quarantine-for-arrivals-fully-vaccinated-from-europe-and-usa-while-also-confirming-international-cruise-restart
และ https://www.gov.uk/guidance/how-to-quarantine-when-you-arrive-in-england

โดยสรุป ผมอธิบาต่อเป็นอย่างนี้ครับ
ช่วงนี้ อังกฤษอนุญาตให้คนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วเข้าอังกฤษได้โดยไม่ต้องกักตัว  โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม มี 2 โซนประเทศหลัก ๆ และคนในประเทศของตัวเองเท่านั้น
กลุ่มที่ 1 สำหรับคนอังกฤษ ฉีดวัคซีนในอังกฤษ แล้วเดินทางออกไปต่างประเทศ แล้วกลับเข้าอังกฤษ ไม่ต้องกักตัว ( ไปได้เฉพาะประเทศในกลุ่ม Green List และ Amber List เท่านั้น )
กลุ่มที่ 2 คนอเมริกา และ กลุ่มที่ 3 คนยุโรป 2 กลุ่มหลักในแง่ของนักท่องเที่ยว และเข้ามาทำธุระ หรือเข้ามาเยี่ยมญาติพี่น้อง ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้ ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ในประเทศตัวเอง เข้าอังกฤษได้เลย โดยที่ไม่ต้องกักตัว ซึ่งวัคซีนหลัก ๆ เราก็ทราบกันดีอยู่แล้ว เค้าใช้ประเด็นการรับรองวัคซีนของกลุ่มในประเทศยุโรป และอเมริกาเป็นหลัก   ไม่มีวัคซีนจีน ( อันนี้ชัดเจน กีดกัน เน้นการเมืองวัคซีนแน่นอน )

ซึ่งบุคคล 3 กลุ่มที่กล่าวข้างต้น วัคซีนที่ใช้ในประเทศเหล่านั้น มันชัดเจนอยู่แล้วว่ามีอะไรบ้าง ( ฝรั่งเค้าก็สนับสนุนกันเองก่อน  อันนี้ผมแบ่งเชื้อชาติชัดเจน เราต้องทำใจยอมรับนะครับ ) 
แต่ของไทยเรา ถ้าคุณได้ฉีด Astra ที่ไทย คุณไม่เข้าข่ายที่จะละเว้นการกักตัวครับ เพราะคุณไม่ได้เป็นกลุ่มหลักที่เค้าจะสนับสนุนให้คุณเข้ามาโดยไม่กักตัว ผมว่าชัดเจนมากจากการที่ในเอเชีย ตอนนี้ระบาดหนักจริง บ้านเราก็อย่างที่ทราบกัน และในอีกแง่มุมนึงที่เปิดเผยคือ AZ ที่ไทย  ยังไม่ได้รับการรับรองจาก WHO มันเลยเป็นสาเหตุให้คนเล่นประเด็นเรื่องนี้ด้วย 

ผมให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับประเทศอื่น ๆ แม้แต่คนญี่ปุ่น หรือเกาหลี หรือจีน หรือคนมาเลเซีย ที่อยู่ใน Amber List ของอังกฤษ เข้ามาอังกฤษ ต่อให้ได้ฉีด Pfizer มาแล้ว ก็ต้องกักตัวนะครับ  ไม่ใช่แต่ประเทศไทยเท่านั้น  ( รวม ๆ ทั้งเอเชียไปเลยละกัน แต่จะมีบางประเทศอยู่ใน Green List ที่เข้าข่าย ไม่ต้องกักตัว คือ บรูไน และ สิงคโปร์ ) 

น้องในคลิปที่เป็นข่าว การสัมภาษณ์จากเนชั่น และที่รายการแฉเอาเนื้อข่าวมาขยี้ต่อ เข้าใจกฏเกณฑ์ของอังกฤษ ผิดไปหมดเลย  แล้วไปโยงกับวัคซีนที่ใช้ในไทย ก็พาลทำให้วัคซีนด้อยค่ากันไปใหญ่เลยนะครับ

มองกว้าง ๆ ในมุมมองส่วนตัวที่ผมเป็นคนไทยใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษ มองอังกฤษ และทำความเข้าใจในเจตนาของอังกฤษ  แบบเข้าข้างนิด ๆ 
ทางการอังกฤษ ให้กลุ่มบุคคลที่เข้าข่ายเท่านั้น เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ในฤดูกาลท่องเที่ยวที่สำคัญของฝรั่งกันเอง คือให้พวกเค้าเข้ามาเที่ยวกันเองครับ  เราไปตีความเค้าผิด เข้าใจเค้าผิด โดยไม่ได้รับรู้ความเป็นจริงของสังคมตรงข้ามก็แค่นั้นเอง และเจ้าหน้าที่สถานฑูต ที่ตอบน้องนักเรียน ก็ดันไปตอบเรื่องวัคซีนที่ผลิตนอกอังกฤษด้วย  ความละเอียดอ่อนในข้อมูลตรงนี้ เลยทำให้เสียหาย และเข้าใจผิดกันไปหมดเลยครับ  

ผมให้ข้อคิดในมุมผมแบบนี้นะครับ
- เปิดใจกว้าง ๆ ในเรื่องนี้ ไอ้วัคซีน Passport มันยังใช้ไม่ได้จริง ๆ  ยังยอมรับกันไม่ทั่วถึง แต่เชื่อว่าในอนาคต มันต้องมีกฏเกณฑ์ที่ต้องยอมรับกันแน่ ๆ 
- บ้านเรา Thailand วัคซีน Passport เร็วจริง ๆ วัคซีนยังฉีดช้ามาก แต่ความเร็วเรื่องนี้ เรามีพลังถีบตัวก่อนใครเพื่อน ( เจ๋งจริง ) 
- จำได้ไม๊ ปีที่แล้ว อเมริกา และยุโรปหนักมาก ตอนที่ยังไม่มีวัคซีน ทางไทยยังให้ข่าวกันโครม ๆ ถ้าวัคซีนสำเร็จ ฉีดปุ๊บ ต้องมีพาสปอร์ต และการเดินทางไปมาหาสู่กันก็จะกลับมาในทันที หรืออย่างรวดเร็ว  แต่นี่อีกไม่กีเดือนข้างหน้าก็ครบ 2 ปีแล้ว วัคซีนก็ฉีดไปเยอะมาก ๆ แล้วสำหรับประเทศหลัก ๆ ทั่วโลก ยังไปเที่ยวหากันไม่ได้เลยครับ  โดยเฉพาะไทยเราเอง ฝรั่งฉีด 2 โดสแล้ว เข้าไทยได้แค่ภูเก็ต Sandbox ยังโดนกัก 14 วัน ค่าแหย่จมูกตรวจ 3 รอบ เล่นไปเกือบหมื่นบาท  คิดครับคิด แล้วมองมุมกลับ  มาบ้านเค้า เค้าถึงให้เรากักตัว 5 หรือ 10 วันแค่นั้นเอง น้อยกว่าบ้านเราที่กักตั้ง 14 วัน นะครับ 
- น้องในคลิปที่เป็นข่าว  อย่าคิดมาก ทำตามกฏเกณฑ์ของอังกฤษเค้าไปเถอะ น้องมาเรียนอยู่แล้ว ทางมหาลัยเค้าทราบ ว่าน้องต้องทำตามกฏเกณฑ์ พอครบกำหนด ก็ออกไปฉีดวัคซีนของอังกฤษเพิ่มได้เลย ( ไม่ต้องไปบอกเค้านะว่าฉีดมาครบ 2 โดสแล้ว ) รับเข็ม 3 ไฟเซอร์ไปเลย บูสเตอร์เข้าไป จะรับเข็ม 4 เป็น Super Booster ก็ไม่มีใครว่า 

ข้อมูลที่ผมให้ข้างต้น น่าจะเป็นข้อมูลที่แก้ต่างให้อังกฤษ ในความเข้าใจที่ผิดพลาดได้นะครับ

ใครมีข้อมูลที่น่าสนใจ หรือข้อมูลสอบถาม เขียนถามตอบในกระทู้ได้เลยครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ