ก่อนอื่นต้องบอกว่าส่วนตัวผมค่อนข้างอ่อนไหวกับภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขมากๆ เรียกว่าดูทีไรบ่อน้ำตาแตกทุกที ยิ่งรู้ว่าเรืองนี้สร้างจากเรื่องจริง เลยทำใจไว้นานเลยกว่าจะได้เปิดดู และใช่ครับ น้ำตาไหลอาบแก้มพร้อมกับรอยยิ้ม หนังสามารถจับเอาเราในฐานะผู้ชม กลายเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเดินทางหลายร้อยไมล์ไปกับ TOGO ได้อย่างลึกซึ้ง และงดงาม
TOGO คือหนังที่สร้างจากเรื่องจริง อ้างอิงจากเหตุการณ์ เมื่อปี ค.ศ. 1925 ณ เมืองโนม รัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ในขณะนั้นกำลังเกิดโรคคอตีบระบาดไปทั่วประเทศ คร่าชีวิตผู้คน และเด็กๆไปมากมาย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำยาปฏิชีวนะมารักษาให้กับชาวเมืองโดยเร็วที่สุด และนี่คือจุดเริ่มต้นการเดินทางของ "เลออนฮาร์ท เซปปาลา" นักลากเลื่อนผู้ชำนาญพื้นที่ กับสุนัขคู่ใจพันธุ์ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่มีชื่อว่า TOGO พระเอกสี่ขาของเรา ผู้มีหัวใจแห่งความทรหดอย่างแท้จริง
การเดินเรื่องของ TOGO จะบอกเล่าผ่านเส้นเวลาสองเส้น ที่ถูกตัดสลับไปมา เส้นเวลาหนึ่ง คือ ช่วงวัยเด็กของ TOGO เราจะได้เห็นความฉลาด ความภักดี และความเป็นผู้นำ รวมถึงความรักและความผูกพันที่มันมีต่อเจ้านาย
สำหรับเส้นเวลาที่สอง คือ เหตุการณ์ปัจจุบันที่ TOGO นั้น อายุก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 แล้ว แต่ในฐานะ "สุนัขผู้นำ" ที่มีหน้าที่กำหนดเส้นทาง และควบคุมสุนัขลากเลื่อนในฝูงให้เคลื่อนที่ไปทำภารกิจ TOGO ต้องออกเดินทางที่สุดแสนทรหดในชีวิต ผ่านธารน้ำแข็ง พายุหิมะ และอากาศหนาวที่ติดลบจนคนธรรมดาก้าวขาแทบจะไม่ไหว
ตลอดการเดินทางของ TOGO เราจะได้ซึมซับความเชื่อใจ และสายสัมพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง และยังได้ลุ้นกับฉากเสี่ยงชีวิตที่โคตรจะบีบหัวใจ สมกับที่การเดินทางในครั้งนั้น ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ด้วยชื่อที่ยิ่งใหญ่ว่า "Great Race of Mercy"
ถ้าผมดูภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงหนัง ผมคงอยากจะลุกขึ้นยืนเพื่อปรบมือดังๆให้กับความกล้าหาญของ "สุนัขฮีโร่" ตัวนี้แน่ๆครับ สำหรับใครที่อ่อนไหว และยังไม่กล้าดู อยากบอกว่า ดูเถอะครับ ไม่ถึงขนาดจิตตก ดูแล้วหดหู่แน่นอน
สุดท้ายนี้ ขอปิดท้ายรีวิวด้วยถ้อยคำที่ เลออนฮาร์ต เชปปาลา กล่าวไว้ถึง TOGO ว่า
"ฉันคิดเสมอว่ามันมีชีวิตเพื่อลากเลื่อน แต่ตลอดมามันมีชีวิตเพื่อฉัน"
รีวิว TOGO : มีเพียงชายหนึ่งคนกับสุนัขหนึ่งตัวที่ทำภารกิจนี้ได้!
TOGO คือหนังที่สร้างจากเรื่องจริง อ้างอิงจากเหตุการณ์ เมื่อปี ค.ศ. 1925 ณ เมืองโนม รัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ในขณะนั้นกำลังเกิดโรคคอตีบระบาดไปทั่วประเทศ คร่าชีวิตผู้คน และเด็กๆไปมากมาย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำยาปฏิชีวนะมารักษาให้กับชาวเมืองโดยเร็วที่สุด และนี่คือจุดเริ่มต้นการเดินทางของ "เลออนฮาร์ท เซปปาลา" นักลากเลื่อนผู้ชำนาญพื้นที่ กับสุนัขคู่ใจพันธุ์ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่มีชื่อว่า TOGO พระเอกสี่ขาของเรา ผู้มีหัวใจแห่งความทรหดอย่างแท้จริง
การเดินเรื่องของ TOGO จะบอกเล่าผ่านเส้นเวลาสองเส้น ที่ถูกตัดสลับไปมา เส้นเวลาหนึ่ง คือ ช่วงวัยเด็กของ TOGO เราจะได้เห็นความฉลาด ความภักดี และความเป็นผู้นำ รวมถึงความรักและความผูกพันที่มันมีต่อเจ้านาย
สำหรับเส้นเวลาที่สอง คือ เหตุการณ์ปัจจุบันที่ TOGO นั้น อายุก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 แล้ว แต่ในฐานะ "สุนัขผู้นำ" ที่มีหน้าที่กำหนดเส้นทาง และควบคุมสุนัขลากเลื่อนในฝูงให้เคลื่อนที่ไปทำภารกิจ TOGO ต้องออกเดินทางที่สุดแสนทรหดในชีวิต ผ่านธารน้ำแข็ง พายุหิมะ และอากาศหนาวที่ติดลบจนคนธรรมดาก้าวขาแทบจะไม่ไหว
ตลอดการเดินทางของ TOGO เราจะได้ซึมซับความเชื่อใจ และสายสัมพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง และยังได้ลุ้นกับฉากเสี่ยงชีวิตที่โคตรจะบีบหัวใจ สมกับที่การเดินทางในครั้งนั้น ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ด้วยชื่อที่ยิ่งใหญ่ว่า "Great Race of Mercy"
สุดท้ายนี้ ขอปิดท้ายรีวิวด้วยถ้อยคำที่ เลออนฮาร์ต เชปปาลา กล่าวไว้ถึง TOGO ว่า
"ฉันคิดเสมอว่ามันมีชีวิตเพื่อลากเลื่อน แต่ตลอดมามันมีชีวิตเพื่อฉัน"