(แปลบทสัมภาษณ์) The Empowered Woman คุณแม่ลูกหนึ่ง "Erika Araki"

สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านนะคะ สืบเนื่องจากช่วงโอลิมปิกที่ผ่านไปได้ติดตามวอลเลย์บอลมาโดยตลอด เลยไม่มีเวลาแปลบทความที่อารากิเคยให้ไว้ก่อนโอลิมปิกน่ะค่ะ ตอนนี้ว่างแล้วเลยจัดการแปลตามที่ตัวเองเข้าใจ หากผิดพลาดประการใด สามารถบอกได้นะคะ

ที่มาของบทความ Araki Erika: Looking to Lead Women’s National Volleyball Team to Tokyo Glory

ขออนุญาตแบ่งเรื่องเป็นแต่ละหัวข้อนะคะ จะได้อ่านง่ายขึ้นค่ะ


Erika Araki เกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 1984 (ปัจจุบันอายุ 37 ปี) บอลเร็วทีมชาติญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2005-2021 

วัยเด็ก
   เอริกะเติบโตในครอบครัวที่เรียกได้ว่าเป็นนักกีฬาทั้งนั้นเลยค่ะ คุณพ่อของเธอเป็นนักกีฬารักบี้ของมหาวิทยาลัย คุณแม่เป็นครูวิชาพลศึกษา (โตขึ้นมาก็ได้แต่งงานกับนักกีฬารักบี้ทีมชาติญี่ปุ่น)  ชีวิตเธอจึงมีแต่กีฬาตั้งแต่วัยเยาว์ เธอว่ายน้ำและวิ่งกรีฑาเก่งตั้งแต่เด็กจนเธออายุ 11 ขวบ เธอก็เริ่มเล่นวอลเลย์บอล ด้วยส่วนสูงถึง 170 ซม. เธอมีไอดอลคือ Danielle Scott-Arruda อดีตบอลเร็วทีมชาติอเมริกาในตำนานค่ะ ในวัยมัธยมปลาย เธอก็เป็นนักกีฬาของโรงเรียน Seitoku Gakuen

แรงผลักดันจากโอลิมปิก 2004
  จนเมื่อเอริกะเรียนจบ เธอก็เล่นลีกอาชีพให้กับทีม Toray Arrows ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นของเธอ เธอจึงมีชื่อติดไปในชุดฝึกซ้อมเพื่อเตรียมทีมโอลิมปิกเกมส์เอเธนส์ 2004 แต่สุดท้าย เมื่อประกาศรายชื่อ เธอก็ถูกตัดออก (Saori Kimura, Kana Oyama, Megumi Kurihara เพื่อนร่วมทีมที่ Seitoku ได้ติดทีมไปแข่ง ) “ฉันรู้สึกแปลกใจและสับสนมากที่ไม่ติด แต่เมื่อนึกย้อนกลับไป มันก็เป็นแรงกระตุ้นให้ฉันพัฒนาเรื่อยๆ ฉันพยายามซ้อมอย่างหนักเพื่อจะเป็นนักกีฬาที่เก่งเท่าที่ฉันจะเป็นได้ และการไม่หยุดพัฒนาตัวเองนั้นทำให้ฉันยังคงเล่นได้จวบจนปัจจุบันนี้ ”  เธอกล่าว
  ปกติการเล่นบอลเร็วของญี่ปุ่นคือต้องเข้าไปตีให้เร็วเพื่อจะได้แต้ม แต่เอริกะฉีกกฎเดิมๆ เหล่านั้นเพราะเธอสามารถตีบอลที่เซ็ตสูงๆ หรือบอลแก้เพื่อทำคะแนนแต้มสำคัญให้ทีมได้ (แอบเห็นอารากิตีบีหลังตอน ปักกิ่ง 2008 ด้วย) เมื่อถึงโอลิมปิกเกมส์ปักกิ่ง 2008 เธอก็เป็นผู้เล่นคนสำคัญให้กับทีมญี่ปุ่น แม้ว่าผลงานเธอจะดี แต่เธอก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง “มันใช้เวลาหลายปีเพื่อที่จะเป็นผู้เล่นบอลเร็วที่ประสบความสำเร็จ แต่ฉันก็จะไม่เลินเล่อในความสำเร็จที่มี” ด้วยส่วนสูง พละกำลัง และประสบการณ์ที่เธอมี เธอมีส่วนช่วยพาทีมไปยังรอบ 8 ทีมสุดท้าย และได้รับรางวัล บอลเร็วยอดเยี่ยม ที่โอลิมปิกปักกิ่ง 2008 ด้วย

 
ชีวิตในเส้นทางลีกอาชีพ
  หลังจากจบโอลิมปิก 2008 เธอตัดสินใจไปพัฒนาตัวเองต่อด้วยการไปเล่นลีกอิตาลีให้กับทีม Foppapedretti Bergamo ในฤดูกาล 2008-2009 เพื่อเพิ่มประสบการณ์อันล้ำค่าในลีกที่มีการแข่งขันสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของยุโรป (เธอเลยสามารถสื่อสารภาษาอิตาเลียนได้ด้วยนะคะ)โดยเธอมีเป้าหมายคือการเตรียมตัวและพัฒนาตัวเองเพื่อ โอลิมปิกลอนดอน 2012
อารากินำทีมเข้าสู่โอลิมปิกลอนดอน 2012 และช่วยนำเหรียญกลับบ้านได้สำเร็จในรอบ 28 ปี และรวมถึงโอลิมปิกริโอ 2016 เธอก็ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยทำให้ทีมเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย จบลำดับที่ 5 ได้  และเพื่อโอลิมปิกโตเกียว 2020 เธอก็ยังคงฝึกฝน พัฒนาลูกเสิร์ฟ แม้ว่าเธอจะอายุ 37 แล้ว แต่ชื่อเสียงในตำแหน่งบอลกลางของเธอยังคงอยู่
รูปเพิ่มเติมในสปอย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


บทบาทของคุณแม่
  ในปี 2013 เธอประกาศว่าเธอตั้งครรภ์และต้องหยุดเล่นลีกให้กับทีม Toray เพื่อดูแลครรภ์ของเธอ โดยปกติแล้วนักกีฬาหญิงในญี่ปุ่นเมื่อตั้งครรภ์ ก็เหมือนเป็นการปิดประตูให้กับเส้นทางนักกีฬา แต่สำหรับอารากิแล้วเธอไม่เป็นอย่างนั้น หลังจากเธอคลอด Waka ลูกสาวของเธอ เธอก็กลับมาลงเล่นวีลีก ฤดูกาล 2014-2015 ให้กับทีม Ageo Medics การที่เธอตัดสินใจกลับมาเล่นหลังมีลูกซึ่งแตกต่างจากนักกีฬาส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นนั้นเพราะเธอเคยไปเล่นที่ลีกอิตาลี ซึ่งมีนักกีฬามากมายที่กลับมาเล่นหลังคลอดลูก นอกจากนั้น คุณแม่และสามีของเธอก็ยังสนับสนุนให้เธอเลือกเดินในทางนี้ ด้วยแรงสนับสนุนทั้งหลาย เธอกลับมาฝึกซ้อมไม่กี่เดือนหลังคลอดลูก แต่ฝีมือเธอไม่ได้หายไปไหน สถิติการบล็อกได้อันดับที่ 1 และการตีในลำดับที่ 3 ของวีลีกในฤดูกาลนั้น
 
 
หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะคืออีกหนึ่งอุปสรรคต่อการกลับมาเล่นของอารากิ
  ในปี 2015 โค้ชนามาเบะได้เรียกตัวเธอเพื่อเล่นทีมชาติอีกครั้ง แต่เมื่อเธอเข้ารับการตรวจสุขภาพจึงได้พบว่า เธอมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เธอเข้ารับการรักษาและเผชิญกับความเสี่ยงที่อาจทำให้เธอต้องเลิกเล่นวอลเลย์บอลตลอดไป
  เธอบอกว่าผลการตรวจทำให้เธอต้องให้เวลากับตัวเองเพื่อตัดสินใจ และเมื่อแพทย์ให้ตัวเลือกคือการผ่าตัด เธอจึงตัดสินใจอย่างไม่ลังเล  “ตอนนั้น ฉันคิดว่าถ้าเข้ารับการผ่าตัดมันสามารถทำให้เธอยังคงเล่นวอลเลย์บอลได้ นั่นคือสิ่งที่ฉันจะทำ” หลังจากการผ่าตัดและพักฟื้นไม่นาน เธอก็ได้กลับมาเล่นลีกในฤดูกาล 2015-2016 ได้
  สิ่งที่เธอเผชิญทำให้เธอย้อนคิดถึงความพร้อมของร่างกายเธอว่ายังสามารถเล่นได้ดีตามเดิมไหม ด้วยเหตุนี้ เธอจึงต้องดูแลร่างกายดีกว่าที่เคยเป็น เมื่อลีกจบไป ฝีมือของเธอก็ยังโดดเด่นและแน่นอนว่าเธอได้ไปโอลิมปิกริโอ 2016 โอลิมปิกครั้งที่ 3 ของเธอ
การรับใช้ทีมชาติและครอบครัว
การกลับมาเล่นทีมชาติทำให้เธอต้องห่างครอบครัวและลูกสาวตัวน้อยของเธอเป็นเวลานาน แน่นอนว่ามันยากมากสำหรับทั้งแม่และลูก แต่จุดมุ่งหมายของเธอในการเล่นโอลิมปิกในบ้านของเธอยังไม่เปลี่ยนไป “เมื่อฉันตัดสินใจทำสิ่งใดแล้ว ฉันจะทำมันจนสำเร็จ” เธอกล่าว “ฉันบอกลูกสาวของฉันว่า ตอนที่ฉันอายุเท่าเธอน่ะ ฉันฝันว่าฉันจะเป็นนักวอลเลย์บอลและฉันได้ทุ่มเทให้กับมันมาโดยตลอดจนฝันเป็นจริง” เธอเชื่อว่าเมื่อลูกสาวเธอโตขึ้นมา เธอจะเข้าใจถึงการเสียสละของเธอและหวังว่ามันจะทำให้ลูกสาวของเธอได้ทำตามความฝันอย่างที่เธอกำลังทำ


ประมาณนี้ค่ะ เพราะหลังจากโอลิมปิกโตเกียว 2020 ทีมญี่ปุ่นเองก็ผลงานไม่ดีและตอนนี้ป้ายังหาบทสัมภาษณ์ล่าสุดของอารากิไม่เจอ แต่แน่นอนแล้วว่าอารากิเล่นโอลิมปิก 2020 เป็นครั้งสุดท้าย แต่อาจจะเล่นลีกอาชีพอยู่ค่ะ

จากการนั่งแปลมาจากภาษาอังกฤษ ส่วนตัวก็อดชื่นชมในระบบความคิดของอารากิไม่ได้ ตัวอารากิเองก็เป็นคนที่ไม่หยุดพัฒนาจริง ๆ เธอมีฝันและเธอทำทุกอย่างให้ฝันเธอเป็นจริง เธอเป็นผู้เล่นญี่ปุ่นไม่กี่คนที่ได้ไปเล่นในลีกอิตาลี (เป็นปีที่ Bergamo ชนะถ้วยยุโรปด้วย แม้เธอจะเป็นสำรองก็ตาม เพราะไลน์อัพแน่นมากค่ะ) และยังได้เห็นผลของการที่ครอบครัวสนับสนุนลูกอย่างเต็มที่ คือคุณพ่อคุณแม่ของอารากิสนับสนุนอารากิเต็มที่ และอารากิกับสามีก็จะทำสิ่งเดียวกันกับหนูวากะในอนาคต ไม่แน่ว่าหนูวากะอาจจะเป็นเพชรงามในอนาคตให้กับญี่ปุ่นก็ได้นะคะ 

ในนามของอวตารป้าหงส์ ขอคารวะสดุดีแด่ คุณ เอริกะ อารากิ ชื่นชมในการเป็น EMPOWERED WOMAN ที่กล้าจะแตกต่างของเธอมาก ยอดเยี่ยมในทั้งทั้งบทบาทลูก นักกีฬา กัปตันทีม ภรรยา มารดา และทุ่มเทร่างกายและเวลาให้กับความฝันของเธอ เธอเป็นอีกคนที่น่านับถือเลยนะคะ และดีใจแทนพรพรรณในฤดูกาลที่แล้วมาก ๆ ที่ได้เล่นกับบอลเร็วในตำนานญี่ปุ่นคนหนึ่งนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ
สุดท้าย สุขสันต์วันแม่นะคะ    หัวใจ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
บอกตามตรงว่าเคยไม่ชอบมาก่อนช่วงนึง แต่พอทัศนคติเปิดกว้างในโลกกีฬามากขึ้นก็ชอบทีมญี่ปุ่นหลายคนมากเลยล่ะคะ หนึ่งในนั้นคือคุณนายชิโนมิยะ 55555 ตัวอย่างของการไม่หยุดพัฒนาตัวเองจริงๆ เป็นศูนย์รวมจิตใจของน้องๆรุ่นใหม่ ความมั่นใจ แพชชั่น ร่างกาย และฝีมือที่โดดเด่นควบคู่กัน ไม่ง่ายเลยจริงๆสำหรับ Asian player ที่จะอยู่ยงได้ถึง 4 โอลิมปิก (อาจ 5 ด้วยซ้ำถ้าเดบิวต์โอลิมปิกแรกตอน 2004) Happy retirement นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่