รับราชการทหาร ไม่เคยมีความสุข

สวัสดีค่ะ เรา อายุ 19 ปี รับราชการทหาร ได้ 7 เดือนกว่าแล้ว จบ ปวช.มา ก็สอบทหารได้เลย ที่เราจะมาพูดก็คือ ตั้งแต่เราเข้าทำงานมา เรามีใจเต็มร้อย พร้อมทำทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยความที่เราไม่เคยรู้ว่าระบบทหารมันเป็นแบบไหน แล้วภาพฝันตอนเด็กกับอาชีพทหาร + กับ ความคาดหวังของแม่และครอบครัว ที่อยากให้รับราชการ เรามีพี่สองคน เป็นข้าราชการทหารเหมือนกัน แม่เราคอยบอกคอยสอนเรา ตั้งแต่เด็กๆว่า จบมาต้องสอบทำงานเลยนะ แม่ไม่มีเงินส่งเรียนนะ เราเห็นแม่ร้องไห้ทุกวัน แต่ก่อนแม่เราจน ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวในกระเป๋า มีหนี้มีสิน แล้วแม่ก็ร้องไห้อยู่เรื่อยๆ ด้วยเรื่องชีวิตของแม่ เราเป็นคนที่เห็นน้ำตาแม่บ่อยที่สุด เพราะพี่เราอยู่ต่างจังหวัดทั้งคู่ ที่จะมาพูดคือ ตั้งแต่วันที่เราเห็นน้ำตาแม่ เราตั้งใจเรียน ตั้งใจศึกษา ทำทุกอย่างตามที่แม่อยากให้เป็น จนสอบข้าราชการทหารได้ตั้งแต่เรียนจบ จนตอนนี้ทำงานได้ 7 เดือนแล้ว มันมีแต่ทุกข์เรื่อยๆ ทุกข์ไม่พอ เครียดมากด้วย ไม่ใช่ว่างานไม่ดี หรืออะไรนะ แต่เราไม่มีความสุขกับงานที่ทำเลย และไม่ชอบระบบทหารเลย ไม่ชอบกฎ ไม่ชอบระเบียบ และที่ทำงานเรา หัวหน้าเป็นคนค่อยข้างซีเรียส ( ผญ ) เวลามีเรื่องอะไรมา ทำให้เราเครียดไปด้วยมากๆ เราทำงานเกี่ยวกับเงินๆทองๆ หัวหน้าเวลาโมโหให้คนอื่น หรือเวลาแกมีเรื่องปวดหัวมา จะมาลงที่ลูกน้อง (แต่ไม่ใช่ลูกน้องทุกคนนะ) เมื่อวานเราเพิ่งเจอมา ร้องใส่เรา ทำหน้าทำตาหงุดหงิดใส่เรา และ พูดกับทุกคนในห้องยกเว้นเรา เรารู้สึกแย่มากๆ เพียงแต่เราแก้แค่ใบปะหน้าให้ผู้หมวดตามคำสั่ง เราก็ไม่รู้ว่าเนื้อในมันผิดอะไร เราก็แค่ไปถาม แกรู้แกก็โมโห แล้วก็มาร้องใส่เรานั่นแหละ ระบบนี้ ถ้าอธิบายคือเถียง ทำได้แต่ค่ะ/ครับ นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นอยากให้เราออกมันซะวันนี้วันพรุ่งเลย ก่อนจะเกิดเรื่องนี้ เราก็อยากออกอยู่แล้วนะคะ อยากออกตลอดเวลา เรารู้สึกมาสักพักแล้วว่ามันไม่ใช่ ตลอดเวลาที่เรายิ่งอยู่ไป เราก็ยิ่งได้เรียนรู้ว่า มันไม่ใช่ตัวเราเลย เราเสียความเป็นตัวเองไปมากๆ เสียความสุข เสียความเป็นอิสระในคน ขนาดเราไม่ตอบไลน์ ยังโดนเขียนรายงาน เราอึดอัดมากๆ เราไม่ชอบระบบนี้จริงๆ เราเหนื่อย เราท้อมากเลย ทุกครั้งที่เราอยู่ในห้อง เราไม่มีความสุขเลย จนเมื่อวานเราโทรไปปรึกษาพี่เรื่องลาออก พี่ก็บอกให้อดทน รอสอบนายทหาร แต่เราไม่อยากเอาดีในด้านนี้แล้ว เราไม่ชอบงาน ไม่ชอบระบบนี้อยู่แล้ว เราเลยจะมาขอความคิดเห็นทุกคน ว่าเราควรทำไง วันนี้วันแม่ เราอยากบอกกับแม่ว่าเราทำงานมา เราไม่มีความสุข เราเครียด เครียดมากๆ มันทำให้ชีวิตและความรู้สึกเราดิ่งลงไปมากๆ เรารอคอยแต่ตอนไหนจะถึงเวลากลับ เราอยากบอกแม่ ว่าเราขอลาออกได้ไหม เราอาจจะโดนค่าปรับ 4 หมื่น แต่เรายอมแลกนะ เพราะมันคือความสุขทั้งชีวิตของเราจริงๆ ไม่รู้แม่จะเข้าใจเรามั้ย ไม่รู้แม่จะเข้าใจถึงความรู้สึกเราหรือเปล่า (ตอนนี้แม่เรามีฐานะขึ้นมาพอสมควรแล้วนะคะ ตั้งแต่ก่อนเรารับราชการ แม่เรามีบ้าน มีรถ ด้วยลำแข้งของตัวแม่เอง) เราอยากพูดให้แม่เข้าใจถึงความรู้สึกเรา ว่าเราไม่ไหวแล้วจริงๆ เราพยายามแล้ว มันมีช่วงที่ดิ่งลงไปมากๆ แล้วเราก็หลับตาตื่นมาวันใหม่ เริ่มใหม่ ปรับทัศนคติใหม่ แต่เราพยายามแล้วจริงๆนะ 😢 เราควรบอกแม่ไหม ???  เรากลัวแม่เสียใจ เพราะแม่คาดหวังกับเรามาก เราเป็นลูกคนสุดท้อง เราแค่อยากมีความสุขในทุกๆวัน เราไม่อยากมีทุกข์แบบนี้เลย ...
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
อะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา ต่อให้คุณทุ่มเทแค่ไหน
เราก็ไม่สามารถเดินไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตได้

บริษัทสุดท้ายที่ผมเป็นมนุษย์เงินดือน ผมทำงาน 9 โมงเช้าเลิก 5 เย็น
แต่ผมทำจนถึง 3 ทุ่มเกือบทุกวัน บางวันก็ถึง 4 ทุ่ม โดยที่ผมไม่ได้เรียกร้อง OT ใดๆ
แถมวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผมยังไปทำงาน วันหยุดยาวเช่นสงกรานต์ ผมก็ยังทำงานได้

ตอนที่ผมเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง ผมทำงานถึงเที่ยงคืนทุกวัน

เพราะผมได้ทำในสิ่งที่ผมรัก ผมจึงไม่รู้สึกว่าตัวเองทำงาน

งานที่เรารัก ต่อให้หนักแค่ไหน ก็เหมือนเบา
งานที่เราไม่ชอบไม่ใช่ตัวเรา ต่อให้เบาแค่ไหนก็เหมือนหนัก

สิ่งที่คุณต้องทำคือ ลองตั้งเป้าหมายชีวิต ตั้งความฝัน แล้วออกมาทำตามความฝันดีกว่า

ต้องถามแม่ว่า ระหว่างหน้าตาทางสังคม
กับชีวิตของเราอันไหนมีค่ามากกว่า เพราะชีวิตคุณเมือนตายทั้งเป็น

ถ้าคุณตื่นขึ้นมา ขีเกียจลุกจากที่นอน ไม่อยากไปทำงาน วันจันทร์อีกแล้วเหรอ เร็วจัง
ถ้าคุณรู้สึกเช่นนี้ มันกำลังจะทำลายชีวิตคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่