นิวไฮ! ผู้ป่วยโควิดเพิ่มวันนี้ 22,782 ราย เสียชีวิต 147 ราย
https://www.matichon.co.th/covid19/news_2880624
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ประเทศไทย พบจํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น รวม 22,782 ราย
จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 22,407 ราย ติดเชื้อใหม่ภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 375 ราย ผู้ป่วยสะสม 810,908 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
ผู้ป่วยหายป่วยกลับบ้าน 23,649 ราย หายป่วยสะสม 596,375 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 209,028 ราย และเสียชีวิต 147 ราย
ญาติร้อง แม่ค้าส้มตำหมดสติ เป็นตายเท่ากัน หลังฉีดวัคซีน หมอให้ทำใจ จู่ๆ เจอโรคเพิ่ม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6559124
ญาติร้อง แม่ค้าส้มตำหมดสติ เป็นตายเท่ากัน หลังฉีดวัคซีนได้วันเดียว อาการทรุด หมอให้ทำใจ ตอนนี้ยังไม่ได้สติ จู่ๆ เจอโรคเพิ่ม
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 11 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.อรทัย เวลาแจ้ง อายุ 46 ปี อยู่หมู่บ้านพฤกษา 3 หมู่ 8 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อาชีพขายส้มตำ กรณีพี่สาวคือ นางพัชรินทร์ เอิบอาบ อายุ 47 ปี อาชีพขายส้มตำ หมดสติ หลังจากฉีดวัคซีนแอสต้าเซนเนก้า ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้เข้ารับการรักษาตัวที่ ร.พ.บางบัวทอง 1 จนถึงวันที่ 10 ส.ค.และถูกนำตัวส่งไปรักษาต่อที่ ร.พ.พระนั่งเกล้า แต่อาการไม่ดีขึ้น
น.ส.
อรทัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา พี่สาวได้พาเเม่ไปตรวจดวงตาที่ ร.พ.ศิริราช จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ของ ร.พ.มาประชาสัมพันธ์ว่า ใครมีความประสงค์ที่จะฉีดวัคซีนแอสต้าเซนเนก้าบ้าง พี่สาวจึงลงชื่อเพื่อเข้ารับวัคซีน โดยก่อนฉีดวัคซีนได้มีเจ้าหน้าที่ซักประวัติและสอบถามถึงโรคประจำตัว ซึ่งปกติพี่สาวมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวานกับโรคความดันสูง
หลังจากฉีดวัควันแรกพี่สาวไม่มีอาการแพ้แต่อย่างใด ต่อมาวันที่ 4 ส.ค.พี่สาวมีอาการหน้ามืด อาเจียน ร่างกายซีกซ้ายไม่มีแรง ปากเบี้ยว พูดติดอ่าง จึงนำตัวส่ง ร.พ.บางบัวทอง ซึ่งทาง ร.พ.บางบัวทอง ได้ประสานไปยัง ร.พ.ศิริราช จากนั้น ร.พ.ศิริราช ได้นำรถสเเกนสมองเคลื่อนที่มาตรวจหาสาเหตุ พบว่าเส้นเลือดในสมองตีบ จึงนำตัวเข้ารับการรักษาต่อที่ ร.พ.บางบัวทอง ซึ่งเเพทย์ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ จากนั้นวันที่ 5 ส.ค.พี่สาวได้หมดสติ และอาการไม่ดีขึ้น มีแต่ทรุดลงทุกวัน
น.ส.
อรทัย กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันที่ 10 ส.ค.พี่สาวถูกนำตัวไปรักษาต่อที่ ร.พ.พระนั่งเกล้า ซึ่งแพทย์เเจ้งว่าพี่สาวมีโรคหัวใจโต น้ำท่วมปอด เส้นเลือดสมองตีบ เป็นตายเท่ากัน เพราะส่งตัวพี่สาวมาช้าเกินไป และให้ญาติทำใจ ซึ่งตนได้เเจ้งกับแพทย์ไปว่า พี่สาวมีโรคประจำตัวเบาหวานกับความดันเท่านั้น ตนสงสัยว่าสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากการฉีดวัคซีน
ตนจึงได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้มาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ตอนนี้ครอบครัวของตนเครียดมากไม่รู้จะทำยังไงต่อไป พรุ่งนี้ (12 ส.ค.) เป็นวันแม่เเห่งชาติ ตนจะทำอาหารแจกให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากพิษโควิด-19 จำนวน 500 ชุด ก็หวังว่าผลบุญที่ทำในครั้งนี้จะส่งผลให้พี่สาวหายจากอาการป่วยที่เป็นอยู่และกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง
ชายวัย 59 ติดโควิด รักษาหายแล้ว ออกจากรพ.กระโดดน้ำดับ คาดเครียดสะสม
https://www.matichon.co.th/region/news_2880513
ชายวัย 59 ปี ติดเชื้อโควิด19 รักษาตัวที่โรงพยาบาลหายแล้ว ญาติรับกลับบ้านหนีออกมากระโดดน้ำฆ่าตัวตาย
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ต.ท
มาโนช ฤทธิพูน สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุชายกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ ลานจอดรถให้เช่า ตรงข้ามโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำสมาคมอยุธยารวมใจ ไปงมค้นหา
ที่เกิดเหตุเป็นลานให้เช่าที่จอดรถ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ริมเขื่อนสูงจากแม่น้ำเจ้าพระยา ประมาณ 3 เมตร พบรอยเลือด ในป่าหญ้าราบเป็นทางไปในแม่น้ำ พบญาติของผู้เสียชีวิตร้องไห้ สอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 59 ปี เป็น ชาว อำเภออุทัย จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ติดเชื้อโควิด 19 และมีโรคประจำตัวหลายโรค รักษาตัวตั้งวันที่ 1 สิงหาคม รักษาตัวจนหาย
ทางโรงพยาบาลให้ญาติรับกลับบ้าน ระหว่างที่รอรับยาผู้เสียชีวิตได้ เดิน ออกมาจากโรงพยาบาล จึงออกตามหาจนมีชาวบ้านเห็นว่าเดินไปกระโดดน้ำลงไปในแม่น้ำ เจ้าพระยา ชาวบ้านพยายามช่วยแล้วไม่ทันเห็นจมลงไปในแม่น้ำ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ระดม แบ่งกำลังลงงมค้นหา ภายในแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้เวลาประมาณ 20 นาที พบร่าง จมอยู่กลางแม่น้ำ จากนั้นจึงนำร่างขึ้นมา โดยเจ้าหน้าที่ต้องสวมชุด PPE และทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ นำร่างใส่ถุงบรรจุศพกันเชื้อกระจาย พร้อมกับบรรจุใส่โลงศพ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวนญาติ และพยานที่เห็นเหตุการณ์ ในเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตมีประวัติโรคประจำตัว และมาติดเชื้อโควิด 19 รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวัน จนแพทย์ให้กลับไปกักตัวที่บ้านอีกระยะหนึ่ง ผู้เสียชีวิตน่าจะเกิดความเครียดสะสม ตัดสินใจ เดินออกมาจากโรงพยาบาลมากระโดดน้ำฆ่าตัวตาย จึงได้มอบศพให้ทางญาติ ไปฌาปนกิจ ที่วัดเทพกุญชร อ. อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
JJNY : นิวไฮ ป่วย22,782 เสียชีวิต147│แม่ค้าส้มตำหมดสติ หลังฉีดวัคซีน│ชายวัย59ติดโควิดหายแล้วโดดน้ำดับ│โควิดทุบอสังหากทม.
https://www.matichon.co.th/covid19/news_2880624
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ประเทศไทย พบจํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น รวม 22,782 ราย
จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 22,407 ราย ติดเชื้อใหม่ภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 375 ราย ผู้ป่วยสะสม 810,908 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
ผู้ป่วยหายป่วยกลับบ้าน 23,649 ราย หายป่วยสะสม 596,375 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 209,028 ราย และเสียชีวิต 147 ราย
ญาติร้อง แม่ค้าส้มตำหมดสติ เป็นตายเท่ากัน หลังฉีดวัคซีน หมอให้ทำใจ จู่ๆ เจอโรคเพิ่ม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6559124
ญาติร้อง แม่ค้าส้มตำหมดสติ เป็นตายเท่ากัน หลังฉีดวัคซีนได้วันเดียว อาการทรุด หมอให้ทำใจ ตอนนี้ยังไม่ได้สติ จู่ๆ เจอโรคเพิ่ม
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 11 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.อรทัย เวลาแจ้ง อายุ 46 ปี อยู่หมู่บ้านพฤกษา 3 หมู่ 8 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อาชีพขายส้มตำ กรณีพี่สาวคือ นางพัชรินทร์ เอิบอาบ อายุ 47 ปี อาชีพขายส้มตำ หมดสติ หลังจากฉีดวัคซีนแอสต้าเซนเนก้า ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้เข้ารับการรักษาตัวที่ ร.พ.บางบัวทอง 1 จนถึงวันที่ 10 ส.ค.และถูกนำตัวส่งไปรักษาต่อที่ ร.พ.พระนั่งเกล้า แต่อาการไม่ดีขึ้น
น.ส.อรทัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา พี่สาวได้พาเเม่ไปตรวจดวงตาที่ ร.พ.ศิริราช จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ของ ร.พ.มาประชาสัมพันธ์ว่า ใครมีความประสงค์ที่จะฉีดวัคซีนแอสต้าเซนเนก้าบ้าง พี่สาวจึงลงชื่อเพื่อเข้ารับวัคซีน โดยก่อนฉีดวัคซีนได้มีเจ้าหน้าที่ซักประวัติและสอบถามถึงโรคประจำตัว ซึ่งปกติพี่สาวมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวานกับโรคความดันสูง
หลังจากฉีดวัควันแรกพี่สาวไม่มีอาการแพ้แต่อย่างใด ต่อมาวันที่ 4 ส.ค.พี่สาวมีอาการหน้ามืด อาเจียน ร่างกายซีกซ้ายไม่มีแรง ปากเบี้ยว พูดติดอ่าง จึงนำตัวส่ง ร.พ.บางบัวทอง ซึ่งทาง ร.พ.บางบัวทอง ได้ประสานไปยัง ร.พ.ศิริราช จากนั้น ร.พ.ศิริราช ได้นำรถสเเกนสมองเคลื่อนที่มาตรวจหาสาเหตุ พบว่าเส้นเลือดในสมองตีบ จึงนำตัวเข้ารับการรักษาต่อที่ ร.พ.บางบัวทอง ซึ่งเเพทย์ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ จากนั้นวันที่ 5 ส.ค.พี่สาวได้หมดสติ และอาการไม่ดีขึ้น มีแต่ทรุดลงทุกวัน
น.ส.อรทัย กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันที่ 10 ส.ค.พี่สาวถูกนำตัวไปรักษาต่อที่ ร.พ.พระนั่งเกล้า ซึ่งแพทย์เเจ้งว่าพี่สาวมีโรคหัวใจโต น้ำท่วมปอด เส้นเลือดสมองตีบ เป็นตายเท่ากัน เพราะส่งตัวพี่สาวมาช้าเกินไป และให้ญาติทำใจ ซึ่งตนได้เเจ้งกับแพทย์ไปว่า พี่สาวมีโรคประจำตัวเบาหวานกับความดันเท่านั้น ตนสงสัยว่าสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากการฉีดวัคซีน
ตนจึงได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้มาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ตอนนี้ครอบครัวของตนเครียดมากไม่รู้จะทำยังไงต่อไป พรุ่งนี้ (12 ส.ค.) เป็นวันแม่เเห่งชาติ ตนจะทำอาหารแจกให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากพิษโควิด-19 จำนวน 500 ชุด ก็หวังว่าผลบุญที่ทำในครั้งนี้จะส่งผลให้พี่สาวหายจากอาการป่วยที่เป็นอยู่และกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง
ชายวัย 59 ติดโควิด รักษาหายแล้ว ออกจากรพ.กระโดดน้ำดับ คาดเครียดสะสม
https://www.matichon.co.th/region/news_2880513
ชายวัย 59 ปี ติดเชื้อโควิด19 รักษาตัวที่โรงพยาบาลหายแล้ว ญาติรับกลับบ้านหนีออกมากระโดดน้ำฆ่าตัวตาย
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ต.ท มาโนช ฤทธิพูน สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุชายกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ ลานจอดรถให้เช่า ตรงข้ามโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำสมาคมอยุธยารวมใจ ไปงมค้นหา
ที่เกิดเหตุเป็นลานให้เช่าที่จอดรถ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ริมเขื่อนสูงจากแม่น้ำเจ้าพระยา ประมาณ 3 เมตร พบรอยเลือด ในป่าหญ้าราบเป็นทางไปในแม่น้ำ พบญาติของผู้เสียชีวิตร้องไห้ สอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 59 ปี เป็น ชาว อำเภออุทัย จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ติดเชื้อโควิด 19 และมีโรคประจำตัวหลายโรค รักษาตัวตั้งวันที่ 1 สิงหาคม รักษาตัวจนหาย
ทางโรงพยาบาลให้ญาติรับกลับบ้าน ระหว่างที่รอรับยาผู้เสียชีวิตได้ เดิน ออกมาจากโรงพยาบาล จึงออกตามหาจนมีชาวบ้านเห็นว่าเดินไปกระโดดน้ำลงไปในแม่น้ำ เจ้าพระยา ชาวบ้านพยายามช่วยแล้วไม่ทันเห็นจมลงไปในแม่น้ำ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ระดม แบ่งกำลังลงงมค้นหา ภายในแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้เวลาประมาณ 20 นาที พบร่าง จมอยู่กลางแม่น้ำ จากนั้นจึงนำร่างขึ้นมา โดยเจ้าหน้าที่ต้องสวมชุด PPE และทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ นำร่างใส่ถุงบรรจุศพกันเชื้อกระจาย พร้อมกับบรรจุใส่โลงศพ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวนญาติ และพยานที่เห็นเหตุการณ์ ในเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตมีประวัติโรคประจำตัว และมาติดเชื้อโควิด 19 รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวัน จนแพทย์ให้กลับไปกักตัวที่บ้านอีกระยะหนึ่ง ผู้เสียชีวิตน่าจะเกิดความเครียดสะสม ตัดสินใจ เดินออกมาจากโรงพยาบาลมากระโดดน้ำฆ่าตัวตาย จึงได้มอบศพให้ทางญาติ ไปฌาปนกิจ ที่วัดเทพกุญชร อ. อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข