สลดหนุ่มชิปปิ้งติดโควิด อาการกำเริบ รอเตียงอยู่บ้านจนตาย ไม่มีคนส่งอาหาร-น้ำมา 3 วัน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6558995
สลดหนุ่มชิปปิ้งติดโควิด รอเตียงอยู่บ้าน พนักงานส่งน้ำ-อาหารให้ บอกหายใจเริ่มติดชัด ไม่มีคนส่งอาหาร-น้ำมา 3 วัน เจออีกทีกลายเป็นศพ
เมื่อเวลา 15.30 น วันที่ 11 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่บ้านพฤกษา 3 ซอย 148 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ประตูรั้วเหล็กด้านหน้าถูกล็อกด้วยแม่กุญแจจากด้านใน ประตูบ้านถูกเปิดทิ้งไว้ ไฟด้านในเปิด พบสุนัขหนึ่งตัวเฝ้าศพอยู่ด้านใน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นาย
วันชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ทำงานเป็นชิปปิ้งส่งของ ย่านปิ่นเกล้า กทม. เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กตัดกุญแจออก เพื่อเข้าไปด้านใน
จากการสอบถาม นาย
ณัฏฐกิตติ์ สามารถ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลพิมลราช กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียว และเป็นผู้ป่วยติดโควิด ที่บริษัทสั่งให้กักตัวอยู่กับบ้านมาแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์ โดยจะมีพนักงานในบริษัทนำอาหารและยาส่งให้ แต่ในวันนี้เมื่อนำอาหารมาส่ง ปรากฏว่าเรียกเท่าไรก็ไม่มีเสียงตอบรับ เมื่อพยายามมองลอดประตูรั้วเข้าไป ก็เห็นปลายเท้าผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่พร้อมกับสุนัขตัวหนึ่ง โดยก่อนหน้าที่จะมาพบว่าผู้ตายนั้น ผู้ตายบอกกับเพื่อนพนักงานที่นำอาหารและยามาส่งมาว่า เริ่มหายใจติดขัด
ด้าน นาย
สุวิทย์ อายุ 64 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบมาก่อนหน้านี้เพียงสัปดาห์เดียว ว่าน้องชายติดเชื้อโควิด ซึ่งทางบริษัทของน้องชายพยายามหาเตียงโรงพยาบาลเพื่อจะไปรักษาตัว แต่ปรากฏว่าหาเตียงรักษาไม่ได้ จึงต้องกักตัวรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน โดยพนักงานที่บริษัทนำอาหารและน้ำมาส่งให้ แต่ปรากฏว่าพนักงานที่บริษัทไม่ได้นำอาหารและน้ำมาส่งให้เป็นเวลา 3 วัน จนกระทั่งวันนี้เพิ่งนำอาหารมาส่งจึงพบว่าน้องชายตนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักไปแล้ว เบื้องต้นจะนำศพน้องชายไปฌาปนกิจที่วัดเต็มรักสามัคคี ต.บางคูรัด อ.บางบัวทองต่อไป
แพทย์ชนบท ชวนจับตา รัฐจัดซื้อชุดตรวจโควิด หลังยี่ห้อชนะจากจีน ถูกอย.สหรัฐแบน
https://www.matichon.co.th/politics/news_2880153
แพทย์ชนบท ชวนจับตา รัฐจัดซื้อชุดตรวจโควิด หลังยี่ห้อชนะ คุณภาพต่ำ ถูกสหรัฐถอดจากลิสต์อย.
วันนี้ (11 ส.ค.) เพจ ชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์ชวนประชาชาจับตา การจัดซื้อ Antigen Test Kit (ATK) 8.5 ล้านชิ้น วงเงินเบื้องต้น 1,014 ล้านบาท เพื่อจัดหาชุดตรวจให้หน่วยบริการนำไปแจกจ่ายกับประชาชนทุกคนทุกสิทธิ โดยมีรายละเอียดดังนี้
“จับตาองค์การเภสัชกรรม จัดซื้อ ATK แม้จะได้ราคาที่ต่ำที่สุด แต่ก็ได้ของคุณภาพต่ำด้วยเช่นกัน
ATK คุณภาพต่ำ คือหายนะที่จะทำลายความเชื่อมั่นต่อ ATK ในการวินิจฉัยโควิด
องค์การเภสัชกรรม(จีพีโอ) ได้แถลงข่าวว่า ได้จัดซื้อชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุด ว่าได้บริษัทแล้ว เร่งส่งมอบให้สปสช.ก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม
แต่ทั้งนี้ยี่ห้อที่องค์การเภสัชกรรมเลือกนั้นคือยี่ห้อ Lepu ซึ่งเมื่อวันที28 พฤษภาคม 2564 ทาง อย. สหรัฐอเมริกา หรือ US FDA ได้ทำการประกาศเรียกคืนสินค้า Lepu Medical Technology SARS-CoV-2 Antigen Test และ Antibody Test ชื่อ Lecurate Antibody Test เป็นของผู้ผลิตชื่อ Lepu Medical Technology ผลิตภัณฑ์จากประเทศจีน เนื่องจากมีปัญหาทางด้านผลการทดสอบปลอม อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยสูงต่อผู้ใช้ ( performance of the test likely a high risk of false negative )
นี่คืออีกหายนะของการสู้ภัยโควิด ทำไมรัฐบาลจะให้ประชาชนคนไทยใช้ ATK ที่ได้มาตรฐานองค์การอนามัยโลกบ้างไม่ได้หรือ
รายละเอียด ทางชมรมแพทย์ชบทจะนำเสนอรายละเอียดต่อไป”
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4906698849357233&id=142436575783508
กลัวซิโนแวคเอาไม่อยู่! จีนทดลองฉีดผสมวัคซีนสหรัฐ
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/954221
อ.ย.จีนเห็นชอบทดลองวัคซีนซิโนแวคผสมวัคซีนสหรัฐในช่วงที่สายพันธุ์เดลตาระบาดหนักจนเกรงกันว่าวัคซีนจีนจะเอาไม่อยู่
บริษัทแอดวัคซีน ไบโอฟาร์มาซูติคอลส์ ซูโจว แถลงว่า คณะกรรมการอาหารและยาจีนเห็นชอบทดลองผสมวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดเชื้อตายผลิตโดยบริษัทซิโนแวค กับวัคซีนดีเอ็นเอพัฒนาโดยบริษัทอิโนวิโอของสหรัฐ
ทั้งนี้แอดวัคซีน ไบโอฟาร์มาซูติคอลส์ ซูโจวเป็นพันธมิตรการทดลองกับอิโนวิโอในจีน นายหวัง ปิด ประธานแอดวัคซีนเผยในแถลงการณ์ การทดลองช่วงพรีคลินิกพบว่า การใช้วัคซีนสองตัวที่แตกต่างกันสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งและสมดุลได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีหลายชนิด รวมถึงการใช้เชื้อตายหรือไวรัสอ่อนแรงนำมาสร้างภูมิคุ้มกัน และที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยสุดๆใช้อนุพันธ์ของอาร์เอ็นเอหรือดีเอ็นเอ ที่ให้ผลต่อการแปลโค้ดสร้างโปรตีน ในส่วนที่ใช้ป้องกันโรคโควิด 19 แล้วให้เซลล์ของร่างกายมนุษย์สร้างโปรตีนตัวนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันโรค
จีนอนุมัติใช้วัคซีน 7 ตัว ในจำนวนนี้ 5 ตัวเป็นวัคซีนเชื้อตายชนิด 2 โดส ประสิทธิผลน้อยกว่าวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์-ไบออนเทคและโมเดอร์นา ที่ประสิทธิผลช่วงก่อนเดลตาระบาดสูงเกิน 90%
ด้านองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กล่าวว่า ยังมีข้อมูลไม่มากพอบอกได้ว่า การฉีดวัคซีนไขว้ปลอดภัยหรือเพิ่มภูมิคุ้มกันได้
อิโนวิโอเองก็ยังไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลประสิทธิผลการทดลองทางคลินิกทั่วโลก นี่เป็นการทดลองวัคซีนที่ใช้ดีเอ็นเอครั้งแรกในจีน ที่ขณะนี้เผชิญการระบาดหนักสุดในรอบหลายเดือน ทางการกล่าวว่า หลายคนที่ติดโควิดฉีดวัคซีนแล้ว จึงเกิดเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้สองบริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของจีนทั้งรัฐวิสาหกิจซิโนฟาร์ม และซิโนแวคที่เป็นของเอกชน เปิดเผยข้อมูลที่พิสูจน์ได้ว่าวัคซีนใช้ได้ผลกับสายพันธุ์เดลตา ขณะเดียวกันถึงบัดนี้รัฐบาลปักกิ่งก็ยังไม่อนุมัติวัคซีนต่างชาติให้ใช้ในประเทศ
สถานทูตสวิส วอนสื่อจีนถอดบทความ “นักวิทย์ทิพย์” โจมตีการสืบต้นตอโควิด-19
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6558705
สถานทูตสวิส – วันที่ 11 ส.ค.
บีบีซี รายงานว่า สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ ประจำกรุงปักกิ่ง เรียกร้องให้สื่อมวลชนจีน ถอดบทความและโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ที่อ้างคำพูดของนักชีววิทยาชาวสวิสผู้หนึ่ง หลังระบุว่าข่าวดังกล่าวเป็นเท็จและนักชีววิทยาคนดังกล่าวไม่มีอยู่จริง
องค์กรสื่อจีนหลายแขนง รวมถึงซีจีทีเอ็น เซี่ยงไฮ้เดลี่ และโกลบอลไทม์ นำเสนอบทความที่มีความคิดเห็นจากนาย
วิลสัน เอ็ดเวิร์ดส์ ที่ระบุเป็นนักชีววิทยาชาวสวิส เกี่ยวกับต้นตอโควิด-19 และความเป็นอิสระขององค์การอนามัยโลก ต่อมา มีการถอดการอ้างชื่อนักชีววิทยาคนดังกล่าว
บทความจาก ไชน่าเดลี่ สื่อทางการจีน ระบุว่า นาย
วิลสัน เอ็ดเวิร์ด โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
“ในฐานะนักชีววิทยา ข้าพเจ้าเห็นการสนทนาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเกี่ยวกับการสืบสวนต้นตอโควิด-19 ถูกทำประเด็นทางการเมืองอย่างไร
ขณะที่เว็บไซต์ ไชน์ ซึ่งเป็นดิจิตอลแพลตฟอร์มของเซี่ยงไฮ้เดลี่ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กว่า
“นักชีววิทยาชาวยุโรปผู้หนึ่งออกมาอ้างอย่างน่าตกใจว่า คณะที่ปรึกษาขององค์การอนามัยโลกว่าด้วยการสอบสวนต้นตอเชื้อโรค รวมถึงไวรัสต้นเหตุการระบาดใหญ่ของโควิด-19 จะกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง”
ไชน์ระบุด้วยว่า นักชีววิทยาผู้นี้กังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระขององค์การอนามัยโลก และอ้างคำพูดของเจ้าตัวว่า
“สหรัฐหมกมุ่นกับการโจมตีจีนว่าด้วยประเด็นการสอบสวนต้นตอโควิด-19 จนสหรัฐไม่เต็มใจเบิกตาดูข้อมูลและข้อค้นพบต่างๆ”
อย่างไรก็ตาม สถานทูตสวิสระบุว่า บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวเปิดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และมีเพื่อนเพียง 3 คน จึงมีแนวโน้มว่า บัญชีเฟซบุ๊กนี้ไม่ได้เปิดเพื่อวัตถุประสงค์ในเครือข่ายทางสังคม นอกจากนี้ ไม่มีพลเมืองสวิสชื่อ “
วิลสัน เอ็ดเวิร์ดส์” ในทะเบียนราษฎร และไม่มีบทความฉบับใดมีชื่อบุคคลดังกล่าวด้วย
“สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ต้องแจ้งประชาชนชาวจีนว่า ข่าวนี้เป็นเท็จ ขอขอบคุณที่ให้ความสนใจในประเทศของเรา”
สถานทูตสวิสโพสต์ในทวิตเตอร์กล่าวและรับรองกับผู้อ่านว่า สถานทูตสันนิษฐานว่าการแพร่กระจายข่าวดังกล่าวเป็นไปโดยสุจริต แต่ขอให้สื่อทางการจีนนำข่าวดังกล่าวออกหรือแก้ไขถูกต้อง
JJNY : 5in1 หนุ่มชิปปิ้งรอเตียงจนตาย│ชวนจับตาซื้อชุดตรวจจีน│จีนทดลองฉีดผสมวัคซีนUS.│สวิสวอนสื่อจีน│เอกชนจี้เสรีวัคซีน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6558995
เมื่อเวลา 15.30 น วันที่ 11 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่บ้านพฤกษา 3 ซอย 148 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ประตูรั้วเหล็กด้านหน้าถูกล็อกด้วยแม่กุญแจจากด้านใน ประตูบ้านถูกเปิดทิ้งไว้ ไฟด้านในเปิด พบสุนัขหนึ่งตัวเฝ้าศพอยู่ด้านใน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายวันชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ทำงานเป็นชิปปิ้งส่งของ ย่านปิ่นเกล้า กทม. เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กตัดกุญแจออก เพื่อเข้าไปด้านใน
จากการสอบถาม นายณัฏฐกิตติ์ สามารถ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลพิมลราช กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียว และเป็นผู้ป่วยติดโควิด ที่บริษัทสั่งให้กักตัวอยู่กับบ้านมาแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์ โดยจะมีพนักงานในบริษัทนำอาหารและยาส่งให้ แต่ในวันนี้เมื่อนำอาหารมาส่ง ปรากฏว่าเรียกเท่าไรก็ไม่มีเสียงตอบรับ เมื่อพยายามมองลอดประตูรั้วเข้าไป ก็เห็นปลายเท้าผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่พร้อมกับสุนัขตัวหนึ่ง โดยก่อนหน้าที่จะมาพบว่าผู้ตายนั้น ผู้ตายบอกกับเพื่อนพนักงานที่นำอาหารและยามาส่งมาว่า เริ่มหายใจติดขัด
ด้าน นายสุวิทย์ อายุ 64 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบมาก่อนหน้านี้เพียงสัปดาห์เดียว ว่าน้องชายติดเชื้อโควิด ซึ่งทางบริษัทของน้องชายพยายามหาเตียงโรงพยาบาลเพื่อจะไปรักษาตัว แต่ปรากฏว่าหาเตียงรักษาไม่ได้ จึงต้องกักตัวรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน โดยพนักงานที่บริษัทนำอาหารและน้ำมาส่งให้ แต่ปรากฏว่าพนักงานที่บริษัทไม่ได้นำอาหารและน้ำมาส่งให้เป็นเวลา 3 วัน จนกระทั่งวันนี้เพิ่งนำอาหารมาส่งจึงพบว่าน้องชายตนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักไปแล้ว เบื้องต้นจะนำศพน้องชายไปฌาปนกิจที่วัดเต็มรักสามัคคี ต.บางคูรัด อ.บางบัวทองต่อไป
แพทย์ชนบท ชวนจับตา รัฐจัดซื้อชุดตรวจโควิด หลังยี่ห้อชนะจากจีน ถูกอย.สหรัฐแบน
https://www.matichon.co.th/politics/news_2880153
แพทย์ชนบท ชวนจับตา รัฐจัดซื้อชุดตรวจโควิด หลังยี่ห้อชนะ คุณภาพต่ำ ถูกสหรัฐถอดจากลิสต์อย.
วันนี้ (11 ส.ค.) เพจ ชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์ชวนประชาชาจับตา การจัดซื้อ Antigen Test Kit (ATK) 8.5 ล้านชิ้น วงเงินเบื้องต้น 1,014 ล้านบาท เพื่อจัดหาชุดตรวจให้หน่วยบริการนำไปแจกจ่ายกับประชาชนทุกคนทุกสิทธิ โดยมีรายละเอียดดังนี้
“จับตาองค์การเภสัชกรรม จัดซื้อ ATK แม้จะได้ราคาที่ต่ำที่สุด แต่ก็ได้ของคุณภาพต่ำด้วยเช่นกัน
ATK คุณภาพต่ำ คือหายนะที่จะทำลายความเชื่อมั่นต่อ ATK ในการวินิจฉัยโควิด
องค์การเภสัชกรรม(จีพีโอ) ได้แถลงข่าวว่า ได้จัดซื้อชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุด ว่าได้บริษัทแล้ว เร่งส่งมอบให้สปสช.ก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม
แต่ทั้งนี้ยี่ห้อที่องค์การเภสัชกรรมเลือกนั้นคือยี่ห้อ Lepu ซึ่งเมื่อวันที28 พฤษภาคม 2564 ทาง อย. สหรัฐอเมริกา หรือ US FDA ได้ทำการประกาศเรียกคืนสินค้า Lepu Medical Technology SARS-CoV-2 Antigen Test และ Antibody Test ชื่อ Lecurate Antibody Test เป็นของผู้ผลิตชื่อ Lepu Medical Technology ผลิตภัณฑ์จากประเทศจีน เนื่องจากมีปัญหาทางด้านผลการทดสอบปลอม อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยสูงต่อผู้ใช้ ( performance of the test likely a high risk of false negative )
นี่คืออีกหายนะของการสู้ภัยโควิด ทำไมรัฐบาลจะให้ประชาชนคนไทยใช้ ATK ที่ได้มาตรฐานองค์การอนามัยโลกบ้างไม่ได้หรือ
รายละเอียด ทางชมรมแพทย์ชบทจะนำเสนอรายละเอียดต่อไป”
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4906698849357233&id=142436575783508
กลัวซิโนแวคเอาไม่อยู่! จีนทดลองฉีดผสมวัคซีนสหรัฐ
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/954221
อ.ย.จีนเห็นชอบทดลองวัคซีนซิโนแวคผสมวัคซีนสหรัฐในช่วงที่สายพันธุ์เดลตาระบาดหนักจนเกรงกันว่าวัคซีนจีนจะเอาไม่อยู่
บริษัทแอดวัคซีน ไบโอฟาร์มาซูติคอลส์ ซูโจว แถลงว่า คณะกรรมการอาหารและยาจีนเห็นชอบทดลองผสมวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดเชื้อตายผลิตโดยบริษัทซิโนแวค กับวัคซีนดีเอ็นเอพัฒนาโดยบริษัทอิโนวิโอของสหรัฐ
ทั้งนี้แอดวัคซีน ไบโอฟาร์มาซูติคอลส์ ซูโจวเป็นพันธมิตรการทดลองกับอิโนวิโอในจีน นายหวัง ปิด ประธานแอดวัคซีนเผยในแถลงการณ์ การทดลองช่วงพรีคลินิกพบว่า การใช้วัคซีนสองตัวที่แตกต่างกันสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งและสมดุลได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีหลายชนิด รวมถึงการใช้เชื้อตายหรือไวรัสอ่อนแรงนำมาสร้างภูมิคุ้มกัน และที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยสุดๆใช้อนุพันธ์ของอาร์เอ็นเอหรือดีเอ็นเอ ที่ให้ผลต่อการแปลโค้ดสร้างโปรตีน ในส่วนที่ใช้ป้องกันโรคโควิด 19 แล้วให้เซลล์ของร่างกายมนุษย์สร้างโปรตีนตัวนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันโรค
จีนอนุมัติใช้วัคซีน 7 ตัว ในจำนวนนี้ 5 ตัวเป็นวัคซีนเชื้อตายชนิด 2 โดส ประสิทธิผลน้อยกว่าวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์-ไบออนเทคและโมเดอร์นา ที่ประสิทธิผลช่วงก่อนเดลตาระบาดสูงเกิน 90%
ด้านองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กล่าวว่า ยังมีข้อมูลไม่มากพอบอกได้ว่า การฉีดวัคซีนไขว้ปลอดภัยหรือเพิ่มภูมิคุ้มกันได้
อิโนวิโอเองก็ยังไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลประสิทธิผลการทดลองทางคลินิกทั่วโลก นี่เป็นการทดลองวัคซีนที่ใช้ดีเอ็นเอครั้งแรกในจีน ที่ขณะนี้เผชิญการระบาดหนักสุดในรอบหลายเดือน ทางการกล่าวว่า หลายคนที่ติดโควิดฉีดวัคซีนแล้ว จึงเกิดเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้สองบริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของจีนทั้งรัฐวิสาหกิจซิโนฟาร์ม และซิโนแวคที่เป็นของเอกชน เปิดเผยข้อมูลที่พิสูจน์ได้ว่าวัคซีนใช้ได้ผลกับสายพันธุ์เดลตา ขณะเดียวกันถึงบัดนี้รัฐบาลปักกิ่งก็ยังไม่อนุมัติวัคซีนต่างชาติให้ใช้ในประเทศ
สถานทูตสวิส วอนสื่อจีนถอดบทความ “นักวิทย์ทิพย์” โจมตีการสืบต้นตอโควิด-19
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6558705
สถานทูตสวิส – วันที่ 11 ส.ค. บีบีซี รายงานว่า สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ ประจำกรุงปักกิ่ง เรียกร้องให้สื่อมวลชนจีน ถอดบทความและโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ที่อ้างคำพูดของนักชีววิทยาชาวสวิสผู้หนึ่ง หลังระบุว่าข่าวดังกล่าวเป็นเท็จและนักชีววิทยาคนดังกล่าวไม่มีอยู่จริง
องค์กรสื่อจีนหลายแขนง รวมถึงซีจีทีเอ็น เซี่ยงไฮ้เดลี่ และโกลบอลไทม์ นำเสนอบทความที่มีความคิดเห็นจากนายวิลสัน เอ็ดเวิร์ดส์ ที่ระบุเป็นนักชีววิทยาชาวสวิส เกี่ยวกับต้นตอโควิด-19 และความเป็นอิสระขององค์การอนามัยโลก ต่อมา มีการถอดการอ้างชื่อนักชีววิทยาคนดังกล่าว
บทความจาก ไชน่าเดลี่ สื่อทางการจีน ระบุว่า นายวิลสัน เอ็ดเวิร์ด โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ในฐานะนักชีววิทยา ข้าพเจ้าเห็นการสนทนาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเกี่ยวกับการสืบสวนต้นตอโควิด-19 ถูกทำประเด็นทางการเมืองอย่างไร
ขณะที่เว็บไซต์ ไชน์ ซึ่งเป็นดิจิตอลแพลตฟอร์มของเซี่ยงไฮ้เดลี่ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กว่า “นักชีววิทยาชาวยุโรปผู้หนึ่งออกมาอ้างอย่างน่าตกใจว่า คณะที่ปรึกษาขององค์การอนามัยโลกว่าด้วยการสอบสวนต้นตอเชื้อโรค รวมถึงไวรัสต้นเหตุการระบาดใหญ่ของโควิด-19 จะกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง”
ไชน์ระบุด้วยว่า นักชีววิทยาผู้นี้กังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระขององค์การอนามัยโลก และอ้างคำพูดของเจ้าตัวว่า “สหรัฐหมกมุ่นกับการโจมตีจีนว่าด้วยประเด็นการสอบสวนต้นตอโควิด-19 จนสหรัฐไม่เต็มใจเบิกตาดูข้อมูลและข้อค้นพบต่างๆ”
อย่างไรก็ตาม สถานทูตสวิสระบุว่า บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวเปิดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และมีเพื่อนเพียง 3 คน จึงมีแนวโน้มว่า บัญชีเฟซบุ๊กนี้ไม่ได้เปิดเพื่อวัตถุประสงค์ในเครือข่ายทางสังคม นอกจากนี้ ไม่มีพลเมืองสวิสชื่อ “วิลสัน เอ็ดเวิร์ดส์” ในทะเบียนราษฎร และไม่มีบทความฉบับใดมีชื่อบุคคลดังกล่าวด้วย
“สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ต้องแจ้งประชาชนชาวจีนว่า ข่าวนี้เป็นเท็จ ขอขอบคุณที่ให้ความสนใจในประเทศของเรา”
สถานทูตสวิสโพสต์ในทวิตเตอร์กล่าวและรับรองกับผู้อ่านว่า สถานทูตสันนิษฐานว่าการแพร่กระจายข่าวดังกล่าวเป็นไปโดยสุจริต แต่ขอให้สื่อทางการจีนนำข่าวดังกล่าวออกหรือแก้ไขถูกต้อง