พูดหลังเกมส์ : STGT ผมขอพูดกับนักลงทุน และ gapfocus ทุกท่าน ฝากไปยังเสี่ยด้วย

กระทู้สนทนา
“ถูกต้องครับ ไตรมาสที่ผ่านมามันถึงเวลาต้องเปิดเมืองกันแล้ว ทุกอย่างต้องกลับสู่ปกติในไม่ช้า”

ผมก็คิดอย่างนั้นจึงได้ขายหุ้นถุงมือยางออกมา เพราะทนกับกระแส re-opening ไม่ไหว

สรุปมาถึงวันนี้ เหตุการณ์บานปลายครับ ไม่จบไม่สิ้น คีย์หลักๆคือ สายพันธ์เดลต้าตัวร้าย

ทีนี้มองไปข้างหน้า เดลต้าเกิดระบาดไปทุกแห่งหน

ความเห็นส่วนตัวของผมเองมองว่า น่าจะมีสายพันธ์ใหม่ๆเกิดขึ้นมาอีกในไม่ช้า และนักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงต้องวิจัยและผลิตวัคซีนมาต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

ย้อนกลับไปความคิดแรกตอนเกิดโควิดใหม่ๆ

เราเคยคิดว่า”ฉีดวัคซีนแล้วจะไม่ติดแล้ว ร้อยทั้งร้อยคิดแบบนั้น” อ่าววว ชิหาย ฉีดแล้วก็ติดนี่หว่า ต้องทำใจยอมรับ

เราเคยคิดว่า ปกติสองโดส อ่าววววว จนมีคำว่าสามโดส เมื่อไหร่ไม่รู้

เราเคยคิดว่าเป็นโรคๆหนึ่ง เดี๋ยวก็หาย แต่ อ่าววว มันกลายพันธ์นี่หว่า

เราเคยตั้งเป้าหมายว่าจะกลับมาใช้ชีวิตปกติ อ่าวววว ยืดไปอีกปีหนึ่ง และมีแนวโน้มยืดไปเรื่อยๆ

เราถอยความคิดเรา ถอยแล้วถอยอีก ด้วยความหวังว่าจะได้เปิดประเทศสมใจ

คำพูดก่อนเปิดประเทศคือ กำไรหุ้นถุงมือยาง “ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว”

ขอถามว่าแล้วเมื่อไหร่ กำไรของกลุ่ม re-opening จะ “ผ่านจุดต่ำสุดไปได้”

การกลับมาโชว์ผลงานใน q3 จะทำให้ได้เห็นกันครับ

กลับมาเถอะครับเสี่ย ที่ผ่านมาถือว่า sap ละกัน อิอิ

บางท่านเล่นหุ้นกับอนาคตเยอะเกินไปครับ

หุ้นเราอยู่กับปัจจุบัน ทำจริง ผลิตจริง กำไรจริง ปันผลจริง ส่งออกจริง บาทอ่อนจริง ขยายกำลังผลิตจริง และเป็นการลงทุนจริงๆครับ

ผมว่าคราวนี้มาจริงว่ะ. Q3-Q4 อย่าพูดเเป็นเล่นไปนานาจบข่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่