JJNY : 'ยิ่งลักษณ์'ปลื้มหลานเปิดเว็บ Thaksin Official│‘ภาคีพยาบาล’ค้านนิรโทษกรรม│สหรัฐฯเตือนงดเข้าไทย│มะกันมอบเงินให้ไทย

'ยิ่งลักษณ์' ปลื้มหลานเปิดเว็บ Thaksin Official เป็นช่องทางความรู้-มุมมองใหม่ 'พี่โทนี่'
https://www.khaosod.co.th/politics/news_6556043
 
‘ยิ่งลักษณ์’ ปลื้มหลานเปิดเว็บ Thaksin Official เป็นช่องทางความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ มุมมอง ตลอดจนแนวคิด และวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ของ ‘พี่โทนี่’
  
วันที่ 10 ส.ค.64 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ถึงกรณีพานทองแท้ ชินวัตร พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และแพทองธาร ชินวัตร เปิดเว็บไซต์ Thaksin official เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 72 ปีให้กับคุณพ่อ หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
โดยระบุว่า 
 
เช้าวันนี้ดิฉันได้มาเปิดดูเว็บไซต์ Thaksin Official ที่หลานๆ ทั้ง 3 คน ตั้งใจทำให้เป็นของขวัญวันเกิดพี่ชายในโอกาสครบรอบ 72 ปีแล้ว รู้สึกชื่นชมและปลื้มใจมากค่ะ ในเว็บไซต์ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ ทำให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์เกี่ยวกับตัวพี่ทักษิณ รวมถึงเรื่องราวองค์ความรู้ต่างๆ มากมาย และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เพราะพี่ชายเป็นคนที่ชอบเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และยังเคยสอนดิฉันว่า คนเราไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ต้องรู้จักเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะโลกปรับเปลี่ยนไปทุกวัน เราก็ต้องปรับตัวตามให้ทัน
 
“จะเห็นได้ว่าพี่ชายเดินทางไปในหลายประเทศ ได้พบปะผู้นำประเทศทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ และนักธุรกิจระดับแนวหน้ามากมาย เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิด และมุมมองต่าง ๆ ดิฉันจึงอยากให้เว็บไซต์นี้ได้มีส่วนแบ่งปันประสบการณ์ และการเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่งต่อทุกท่านค่ะ”
 
ลองคลิกเข้ามาดูเว็บไซต์ www.thaksinofficial.com นะคะ จะได้เป็นช่องทางสำคัญอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ทุกคนได้มีโอกาสได้รับรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ มุมมอง ตลอดจนแนวคิด และวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ของพี่ชาย เพื่อที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาองค์กร และร่วมกันสร้างอนาคตให้กับประเทศต่อไป เราต้องเรียนรู้พัฒนา และหาโอกาสใหม่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และความหวังสำหรับวันนี้ และอนาคตข้างหน้าค่ะ #THAKSINOFFICIAL #เราต้องมีความหวังในวันนี้และวันพรุ่งนี้
 
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/4612451705465915
 

 
‘ภาคีพยาบาล’ ค้าน พรก.นิรโทษกรรมวัคซีน หยุดอ้างปกป้องคนทำงาน ล่าชื่อต้าน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6555913
 
‘ภาคีพยาบาล’ ค้าน พรก.นิรโทษกรรมวัคซีน หยุดอ้างปกป้องคนทำงาน หยุดอ้างว่านี่คือการให้กำลังใจบุคลากรด่านหน้า เปิดช่องทางรวบรวมรายชื่อคัดค้าน
  
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. สืบเนื่องกรณีปรากฏเอกสารการนำเสนอแนวทางในการปรับปรุงกฎหมาย เพื่อเพิ่มความคุ้มครองบุคลากรการแพทย์ในสถานการณ์โควิด ในนาม “พระราชกำหนดจำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. …
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม Nurses Connect หรือ ภาคีพยาบาล เผยแพร่ข้อเขียนมีเนื้อหาโดยสรุปคัดค้าน พรก.ดังกล่าว รวมถึงเปิดช่องทางรวบรวมรายชื่อคัดค้านด้วย
 
รายละเอียดดังนี้ 
 
คัดค้านพรก.นิรโทษกรรมวัคซีน 
 
จากสถานการณ์ในวันนี้ เราพบว่าประเทศไทยนั้นมีจำนวนผู้ติดเชื้อต่อประชากรสูงเป็นอันดับ2ในอาเซียน แต่สวนทางกับจำนวนการระดมฉีดวัคซีน ที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 ไปได้เพียง 24% ของประชากรเท่านั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือผลลัพธ์ที่ล้มเหลวอันเป็นผลมาจากมาตรการการจัดการกับการระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาล
 
เป็นความล้มเหลวในการจัดสรรวัคซีนของคณะกรรมการจัดสรรวัคซีน และกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำให้ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนอยู่ในภาวะวิกฤต ประชาชน 6,259 รายเสียชีวิต เนื่องจากไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างเหมาะสม และมีประชาชนอีกจำนวนมากต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก
 
ในด้านของระบบสาธารณสุขนั้น โรงพยาบาลไม่มีอุปกรณ์และสถานที่เพียงพอในการรองรับผู้ติดเชื้อ ซึ่งหากพิจารณาตามบทบาทหน้าที่และจากผลงานในการบริหารจัดการโรคระบาดและวัคซีนของรัฐบาลแล้ว ก็เห็นสมควรว่าคนที่จะต้องรับผิดชอบเนื่องจากเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความล้มเหลวในระบบสาธารณสุข จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ศบค. และคณะกรรมการจัดสรรวัคซีน
 
แต่ทว่า กลับมีกระแสข่าวออกมาว่ามีการเตรียมออก พรก.จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งในวันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล ออกมาให้สัมภาษณ์ในกรณีนี้ อันเป็นการยืนยันว่า พรก.นั้น จะเกิดขึ้นจริง โดยมีเนื้อหาใจความว่า
 
“กฎหมายดังกล่าวมีเจตนารมณ์ที่จะให้ผู้รับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการ การจัดบริการทางแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานโควิด-19 ทั้งหมด ได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ในภาวะวิกฤตด้านสาธารณสุขของประเทศ โดยไม่ต้องกังวลกับความรับผิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยเจตนาดีของผู้ปฏิบัติงาน หากเป็นการกระทำโดยสุจริต ไม่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม บุคลากรดังกล่าวก็ไม่ต้องรับผิด
 
รวมถึงหากผู้ที่ได้รับมอบหมายในการเจรจาหรือจัดหาวัคซีนมีเจตนาสุจริต การตัดสินใจดำเนินการเป็นไปตามหลักวิชาการที่สนับสนุนในขณะนั้น กฎหมายนี้จึงเห็นควรให้ความคุ้มครองบุคคลหรือคณะบุคคลเหล่านั้นด้วย ซึ่งเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนที่เตรียมรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ยังไม่ได้มีการเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด”
 
ร่างกฎหมายนี้เป็นการให้ความมั่นใจกับผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ให้คลายความกังวล เช่น การวินิจฉัยโรคและรักษาพยาบาล ก็ต้องทำความมั่นใจว่าเขาจะได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะเรื่องของการฟ้องร้อง หากทำโดยเจตนาสุจริต ศาลก็ไม่เคยลงโทษ เราไม่ต้องการให้บรรดาแพทย์ พยาบาล มีความวิตกกังวลหากถูกฟ้องร้อง แม้จะมั่นใจว่าชนะก็ยังมีความวิตกกังวลระดับหนึ่ง เราต้องการให้แพทย์ พยาบาล มีขวัญกำลังใจเต็มที่ จะได้ทุ่มเทในการรักษาพยาบาล วัคซีนก็ต้องจัดหาเข็มสามเพื่อความปลอดภัยในการไปรักษาคนไข้ มีความกังวลให้น้อยที่สุด สุดท้ายประชาชน คนไข้ก็ได้ประโยชน์” นายอนุทิน กล่าว
 
จากร่างพรก.ดังกล่าว คลับคล้ายคลับคลาว่านี่คือการ “นิรโทษกรรมสุดซอย ให้กับบุคคลที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้การสาธารณสุขล้มเหลว จนประชาชนล้มตายกว่า 6 พันคน
 
ซึ่งหากมองย้อนไปในประวัติศาสตร์จะพบว่าประเทศไทยนั้นเคยออก พรก.และพรบ.นิรโทษกรรม ซึ่งมักจะเป็นการนิรโทษกรรมทางการเมืองหลังการทำรัฐประหารแล้วถึง 22 ครั้ง และล่าสุดเหตุการณ์ที่เรายังจำกันได้ดีคือ พรบ.นิรโทษกรรม-ปรองดอง แก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ที่ถูกเสนอเข้ารัฐสภา 6 ฉบับเมื่อปี 2555 ซึ่งสุดท้ายนั้นถูกถอนไปในปี 2556
 
ในแง่ดี การนิรโทษกรรม หรือ การยกเลิกความผิดทั้งหลายที่ได้กระทำผ่านมา ไม่เพ่งเล็งจะจับตัวบุคคลมาลงโทษให้เข็ดหลาบ เสมือนหนึ่งว่าเป็นการให้อภัยซึ่งกันและกัน เรื่องที่แล้วมาแล้วก็ให้แล้วต่อกันไป อาจสร้างบรรยากาศการความสมานฉันท์ขึ้นในสังคม เอื้อต่อการหันหน้ามาพูดคุยกัน แล้วเริ่มต้นกันใหม่อย่างสร้างสรรค์
 
แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง การออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมจะทำให้การกระทำที่ผ่านมาไม่เป็นความผิดโดยสมบูรณ์ ไม่สามารถกลับมาลงโทษตามความผิดที่เกิดขึ้นได้อีกเลย ไม่สามารถจะรื้อฟื้นกระบวนการหาตัวผู้กระทำความผิดและกระบวนการตามหาความจริงกลับขึ้นมาได้อีก ไม่ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
(อ้างอิง: การนิรโทษกรรมกับสังคมไทย – ilaw เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2553)
 
แต่ในครั้งนี้นั้นแตกต่างออกไปตรงที่เป็นการนิรโทษกรรมให้กับบุคคลที่มิได้เป็นผู้ชุมนุมทางการเมือง หากแต่เป็นการนิรโทษกรรมที่จงใจให้ผลประโยชน์กับตัวบุคคลที่บริหารงานบ้านเมืองในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดโรคระบาดได้อย่างล้มเหลว ทำให้พวกเขาไม่ต้องแบกรับความผิดจากผลการกระทำ เขากำลังจะทำให้ตัวเองปลอดมลทิน โดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรจากการบริหารจนระบบสาธารณสุขล้มเหลวแบบนี้
 
หยุดอ้างว่านี่คือการปกป้องคนทำงาน หยุดอ้างว่านี่คือการให้กำลังใจบุคลากรด่านหน้า เพราะบุคลากรด่านหน้า และอาสาสมัครต่างๆ ทำงานเต็มที่โดยอยู่บนมาตรฐานวิชาชีพอย่างสูงสุดเท่าที่สถานการณ์จะเอื้อให้ทำได้ หากท่านต้องการให้กำลังใจ จงรีบจัดสรรวัคซีน mRNA ให้พวกเขาทุกคน ไม่ใช่ต้องมากระเบียดกระเสียนเช่นนี้
 
และพวกท่านทั้งหลายจงหยุดอ้างว่าทั้งหมด เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน แต่พวกท่านจงระลึกว่าเพราะการทำงานของพวกท่านนั่นเองที่นำพาประเทศและการสาธารณสุขให้ดิ่งลงเหวมาจนถึงจุดนี้ และพวกท่านนั่นแหละต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง!
 
#คัดค้านพรก.นิรโทษกรรมวัคซีน
  
ประชาชนทุกคนสามารถลงชื่อเพื่อคัดค้านพรก.ฉบับนี้ได้ที่ 
https://www.change.org/p/คัดค้านพรกนิรโทษกรรมวัคซีน
 
https://www.facebook.com/nursesconnectth/posts/165325205690429
 

  
สหรัฐฯ เตือนพลเรือน งดเข้าไทยและอีกหลายประเทศชั่วคราว แม้ได้วัคซีนครบแล้ว หลังยอดโควิดพุ่งสูง
https://ch3plus.com/news/program/252648
 
ซีดีซี รวมทั้ง กระทรวงต่างประเทศ ได้ประกาศปรับระดับคำเตือนการเดินทางไปต่างประเทศครั้งล่าสุด เมื่อวานนี้ โดยปรับให้ประเทศไทย อยู่ในระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับความเสี่ยงมากสูงสุดต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยแนะให้พลเรือนชาวอเมริกัน งดการเดินทางไปยังประเทศไทย แม้ว่าผู้เดินทางจะได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม แต่ก็อาจมีความเสี่ยงที่ได้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ได้ หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
นอกจากอิสราเอล , ฝรั่งเศส , ไอซ์แลนด์ ก็ถูกปรับระดับคำเตือน ให้เป็นระดับ 4 ให้พลเรือนงดการเดินทางไปยังประเทศเหล่านี้อีกด้วย
 
อย่างไรก็ตาม ซีดีซี และ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ปรับลดระดับคำเตือนการเดินทางของแคนาดา มาอยู่ในระดับ 2 ซึ่งเป็นระดับความเสี่ยง “ปานกลาง” ด้วย ซึ่งสอดรับ กับที่รัฐบาลแคนาดา ดำเนินการเปิดพรมแดนที่ติดกันสหรัฐฯ อนุญาตให้ชาวอเมริกัน ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว หรือ มีผลตรวจเชื้อโควิด -19 เป็นลบ สามารถเดินทางเข้าแคนาดาได้เป็นครั้งแรก ในรอบ 16 เดือน นับตั้งแต่เชื้อโควิด-19 เริ่มการแพร่ระบาดไปทั่วโลก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่