โควิด-19 คร่าชีวิตหนุ่มวัย 15 ป่วยติดเตียงตายคาบ้าน ไม่มี รพ.รับไปรักษา
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2163112
ผู้ป่วยติดเตียงหนุ่มวัย 15 ติดโควิดอาการหนัก เสียชีวิตแล้วในบ้านริมคลองวัดลาดพร้าว ไม่มี รพ.รับไปรักษา หลัง จนท.มาตรวจเชิงรุกพบติดโควิด-19 ยกบ้าน ขณะที่ ตายายและคนในครอบครัวยังนอนป่วย
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 64 ร.ต.ท.
จักรกฤช สุวรรณวงศ์ รองสว. (สอบสวน) สน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เหตุเกิดที่บ้านไม่มีเลขที่ ภายในชุมชนริมคลองวัดลาดพร้าว แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงประสานชุดปฏิบัติการพิเศษของมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพ ด.ช.
กิตติกร จำปี อายุ 15 ปี อยู่ในสภาพนอนติดเตียง เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงมอบหมายให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัยรวม 7 คน โดยตายายของ ด.ช.
กิตติกร ป่วยเป็นโรคโควิค-19 โดยได้รับการตรวจเชิงรุกจากหน่วยแพทย์ชุมชนที่มาตรวจในวัดลาดพร้าว เมื่อผลปรากฏว่าติดโควิด-19 แต่ไม่สามารถไปรักษายังโรงพยาบาลได้เนื่องจากไม่มีผลแล็บจากการตรวจทางโรงพยาบาล จึงไม่ได้รับรักษา กระทั่ง ด.ช.กิตติกร ซึ่งป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองติดเชื้อ กระทั่งเสียชีวิตลงจากการติดเชื้อโรค โควิด-19 ขณะที่ตายายและครอบครัวยังคงมีอาการป่วยอยู่ภายในบ้าน เนื่องจากไม่มีโรงพยาบาลรับไปรักษาแต่อย่างใด.
หมอค้านออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรม ลั่นคนบริหารจัดการวัคซีนล้มเหลวต้องรับผิดชอบ
https://www.dailynews.co.th/news/144968/
หมอค้านออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรม คนบริหารจัดการวัคซีนล้มเหลว ลั่นต้องรับผิดชอบ และด่านหน้าต้องได้ไฟเซอร์ จี้นำ mRNA vaccine มาเป็นวัคซีนหลักให้ประชาชน
จากกรณีมีการเตรียมออก พ.ร.ก.จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการนิรโทษกรรมให้กับคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหาวัคซีน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. เพจ Dr.Review ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
R.I.P. 235 ราย +19843 คัดค้านพ.ร.ก.นิรโทษกรรม คนบริหารจัดการวัคซีนล้มเหลว ต้องรับผิดชอบ อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เงียบครับ ด่านหน้าต้องได้Pfizer ต้องนำ mRNA vaccine มาเป็นวัคซีนหลักให้ประชาชน ทุกคนต้องไม่เสียชีวิตเปล่า #คนเหมือนกัน
https://www.facebook.com/dr.reviewbydr.p/posts/378689066952121
อดีตคณบดีนิติฯ มธ.เห็นด้วย กม.นิรโทษฯ จนท.ด่านหน้า แต่ต้องไม่รวม ศบค.-ผู้บริหาร สธ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2877232
อดีตคณบดีนิติฯ มธ.เห็นด้วย กม.นิรโทษฯ จนท.ด่านหน้า แต่ต้องไม่รวม ศบค.-ผู้บริหาร สธ.
กรณี ส.ส.พรรคฝ่ายค้านออกมาแฉผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมออกกฎหมายไม่ให้เอาผิดแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงคณะผู้จัดหาวัคซีน ไม่ให้มีความผิดใดๆ จากการทำหน้าที่
นาย
พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “
Panat Tasneeyanond” ระบุว่า
“เห็นด้วยกับ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะบุคลากรด่านหน้าและ อสม.กับ อสส.เท่านั้นไม่รวม ศบค.และผู้บริหาร สธ.”
นาย
จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความทางทวิตเตอร์ ระบุว่า
“นอกจากข้อความตามเอกสารที่หลุดออกมาแล้ว ข้อความตามที่ รมต.ชี้แจงก็บอกว่าจะเป็นปัญหาการนิรโทษให้ฝ่ายบริหารระดับสูงได้เพราะเรื่องจัดหาจัดซื้อและบริหารจัดการวัคซีนเป็นความรับผิดชอบระดับนโยบายมากกว่าผู้ปฏิบัติ”
เช่นเดียวกับนาย
ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เขียนข้อความระบุว่า
“ช่างกล้า!! รบ.เร่งออก กม.นิรโทษฯ ยกเว้นความผิด อันเกิดจากบริหาร-จัดหา วัคซีนบกพร่อง ก่อผลเสียถึงชีวิต ทรัพย์สิน ปช.อย่างรุนแรง…เราไม่ติดใจ ‘คนด่านหน้า’ ที่เสียสละและผิดพลาด แต่ ‘คนคุมนโยบาย’ ที่บกพร่องและส่อไม่สุจริต…เราไม่ยอม ‘ทำสิ่งxxxร้ายไว้ ต้องรับผล'”
https://www.facebook.com/t.panat/posts/4665427863469273
https://twitter.com/chaturon/status/1424974187232387073
https://twitter.com/phumtham/status/1424968633365630983
โควิด วัคซีนโมเดอร์นาต้านเดลต้าดีสุด นักวิจัยพบเจ๋งยิ่งกว่าไฟเซอร์
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6556534
โควิด – วันที่ 10 ส.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ผลการศึกษาใหม่ล่าสุด 2 ชิ้น ซึ่งเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ medRxiv พบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 จากบริษัทโมเดอร์นา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสิทธิภาพต่อเชื้อชนิดกลายพันธุ์เดลต้ามากกว่าไฟเซอร์-บิออนเทค
ผลการศึกษาดังกล่าวในสหรัฐอเมริกาบ่งชี้ว่าวัคซีนที่ดีที่สุดต่อเชื้อชนิดกลายพันธุ์เดลต้าอาจเป็นวัคซีนโมเดอร์นา หลังการศึกษาในผู้รับวัคซีน 5 หมื่นคน
โดย
Mayo Clinic Health System พบประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อลดลงเหลือร้อยละ 76 เมื่อช่วงเดือนก.ค. 2564 จากเดิมร้อยละ 86 ในช่วงต้นปีเดียวกัน ช่วงเวลาข้างต้นเป็นช่วงที่เชื้อชนิดกลายพันธุ์เดลต้าเป็นเชื้อที่ระบาดส่วนใหญ่ในพื้นที่การศึกษา
ส่วนวัคซีนจากไฟเซอร์นั้นมีประสิทธิภาพลดลงเหลือร้อยละ 42 ช่วงเดือนก.ค. 2564 จากเดิมร้อยละ 76 ในช่วงต้นปีเดียวกัน
นพ.
เว็นกี สุนทรราชัน จากศูนย์วิเคราะห์ข้อมูล nference รัฐแมสซาชูเซตส์ ระบุว่า แม้วัคซีนทั้งสองบริษัทจะยังสามารถป้องกันอาการป่วยรุนแรงจนต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ การฉีดเข็มที่สามด้วยวัคซีนจากโมเดอร์น่าเป็นบูสเตอร์ให้กับผู้ได้รับวัคซีนไฟเซอร์อาจจำเป็น
รายงานระบุว่า การศึกษาข้างต้นสอดคล้องกันกับผลการวิจัยในบ้านพักผู้สูงวัยที่รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา พบปริมาณแอนติบอดีโดยเฉพาะต่อเชื้อกลายพันธุ์ในผู้สูงวัยที่ได้รับวัคซีนโมเดอร์นาสูงกว่าผู้สูงวัยที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์
ด้านโฆษกไฟเซอร์ กล่าวถึงผลการวิจัยทั้ง 2 ชิ้นว่า การจะคงระดับการป้องกันที่สูงสุดไว้ได้นั้นจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มที่สามภายใน 6-12 เดือน
JJNY : 5in1 หนุ่ม15ตายคาบ้าน│หมอค้านพ.ร.ก.│อดีตคณบดีเห็นด้วยนิรโทษ│โมเดอร์นาต้านเดลต้าดีสุด│หอต่างชาติกังวลจัดการโควิด
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2163112
ผู้ป่วยติดเตียงหนุ่มวัย 15 ติดโควิดอาการหนัก เสียชีวิตแล้วในบ้านริมคลองวัดลาดพร้าว ไม่มี รพ.รับไปรักษา หลัง จนท.มาตรวจเชิงรุกพบติดโควิด-19 ยกบ้าน ขณะที่ ตายายและคนในครอบครัวยังนอนป่วย
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 64 ร.ต.ท.จักรกฤช สุวรรณวงศ์ รองสว. (สอบสวน) สน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เหตุเกิดที่บ้านไม่มีเลขที่ ภายในชุมชนริมคลองวัดลาดพร้าว แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงประสานชุดปฏิบัติการพิเศษของมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพ ด.ช.กิตติกร จำปี อายุ 15 ปี อยู่ในสภาพนอนติดเตียง เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงมอบหมายให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัยรวม 7 คน โดยตายายของ ด.ช.กิตติกร ป่วยเป็นโรคโควิค-19 โดยได้รับการตรวจเชิงรุกจากหน่วยแพทย์ชุมชนที่มาตรวจในวัดลาดพร้าว เมื่อผลปรากฏว่าติดโควิด-19 แต่ไม่สามารถไปรักษายังโรงพยาบาลได้เนื่องจากไม่มีผลแล็บจากการตรวจทางโรงพยาบาล จึงไม่ได้รับรักษา กระทั่ง ด.ช.กิตติกร ซึ่งป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองติดเชื้อ กระทั่งเสียชีวิตลงจากการติดเชื้อโรค โควิด-19 ขณะที่ตายายและครอบครัวยังคงมีอาการป่วยอยู่ภายในบ้าน เนื่องจากไม่มีโรงพยาบาลรับไปรักษาแต่อย่างใด.
หมอค้านออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรม ลั่นคนบริหารจัดการวัคซีนล้มเหลวต้องรับผิดชอบ
https://www.dailynews.co.th/news/144968/
หมอค้านออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรม คนบริหารจัดการวัคซีนล้มเหลว ลั่นต้องรับผิดชอบ และด่านหน้าต้องได้ไฟเซอร์ จี้นำ mRNA vaccine มาเป็นวัคซีนหลักให้ประชาชน
จากกรณีมีการเตรียมออก พ.ร.ก.จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการนิรโทษกรรมให้กับคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหาวัคซีน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. เพจ Dr.Review ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
R.I.P. 235 ราย +19843 คัดค้านพ.ร.ก.นิรโทษกรรม คนบริหารจัดการวัคซีนล้มเหลว ต้องรับผิดชอบ อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เงียบครับ ด่านหน้าต้องได้Pfizer ต้องนำ mRNA vaccine มาเป็นวัคซีนหลักให้ประชาชน ทุกคนต้องไม่เสียชีวิตเปล่า #คนเหมือนกัน
https://www.facebook.com/dr.reviewbydr.p/posts/378689066952121
อดีตคณบดีนิติฯ มธ.เห็นด้วย กม.นิรโทษฯ จนท.ด่านหน้า แต่ต้องไม่รวม ศบค.-ผู้บริหาร สธ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2877232
อดีตคณบดีนิติฯ มธ.เห็นด้วย กม.นิรโทษฯ จนท.ด่านหน้า แต่ต้องไม่รวม ศบค.-ผู้บริหาร สธ.
กรณี ส.ส.พรรคฝ่ายค้านออกมาแฉผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมออกกฎหมายไม่ให้เอาผิดแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงคณะผู้จัดหาวัคซีน ไม่ให้มีความผิดใดๆ จากการทำหน้าที่
นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Panat Tasneeyanond” ระบุว่า
“เห็นด้วยกับ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะบุคลากรด่านหน้าและ อสม.กับ อสส.เท่านั้นไม่รวม ศบค.และผู้บริหาร สธ.”
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความทางทวิตเตอร์ ระบุว่า
“นอกจากข้อความตามเอกสารที่หลุดออกมาแล้ว ข้อความตามที่ รมต.ชี้แจงก็บอกว่าจะเป็นปัญหาการนิรโทษให้ฝ่ายบริหารระดับสูงได้เพราะเรื่องจัดหาจัดซื้อและบริหารจัดการวัคซีนเป็นความรับผิดชอบระดับนโยบายมากกว่าผู้ปฏิบัติ”
เช่นเดียวกับนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เขียนข้อความระบุว่า
“ช่างกล้า!! รบ.เร่งออก กม.นิรโทษฯ ยกเว้นความผิด อันเกิดจากบริหาร-จัดหา วัคซีนบกพร่อง ก่อผลเสียถึงชีวิต ทรัพย์สิน ปช.อย่างรุนแรง…เราไม่ติดใจ ‘คนด่านหน้า’ ที่เสียสละและผิดพลาด แต่ ‘คนคุมนโยบาย’ ที่บกพร่องและส่อไม่สุจริต…เราไม่ยอม ‘ทำสิ่งxxxร้ายไว้ ต้องรับผล'”
https://www.facebook.com/t.panat/posts/4665427863469273
https://twitter.com/chaturon/status/1424974187232387073
https://twitter.com/phumtham/status/1424968633365630983
โควิด วัคซีนโมเดอร์นาต้านเดลต้าดีสุด นักวิจัยพบเจ๋งยิ่งกว่าไฟเซอร์
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6556534
โควิด – วันที่ 10 ส.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ผลการศึกษาใหม่ล่าสุด 2 ชิ้น ซึ่งเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ medRxiv พบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 จากบริษัทโมเดอร์นา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสิทธิภาพต่อเชื้อชนิดกลายพันธุ์เดลต้ามากกว่าไฟเซอร์-บิออนเทค
ผลการศึกษาดังกล่าวในสหรัฐอเมริกาบ่งชี้ว่าวัคซีนที่ดีที่สุดต่อเชื้อชนิดกลายพันธุ์เดลต้าอาจเป็นวัคซีนโมเดอร์นา หลังการศึกษาในผู้รับวัคซีน 5 หมื่นคน
โดย Mayo Clinic Health System พบประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อลดลงเหลือร้อยละ 76 เมื่อช่วงเดือนก.ค. 2564 จากเดิมร้อยละ 86 ในช่วงต้นปีเดียวกัน ช่วงเวลาข้างต้นเป็นช่วงที่เชื้อชนิดกลายพันธุ์เดลต้าเป็นเชื้อที่ระบาดส่วนใหญ่ในพื้นที่การศึกษา
ส่วนวัคซีนจากไฟเซอร์นั้นมีประสิทธิภาพลดลงเหลือร้อยละ 42 ช่วงเดือนก.ค. 2564 จากเดิมร้อยละ 76 ในช่วงต้นปีเดียวกัน
นพ.เว็นกี สุนทรราชัน จากศูนย์วิเคราะห์ข้อมูล nference รัฐแมสซาชูเซตส์ ระบุว่า แม้วัคซีนทั้งสองบริษัทจะยังสามารถป้องกันอาการป่วยรุนแรงจนต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ การฉีดเข็มที่สามด้วยวัคซีนจากโมเดอร์น่าเป็นบูสเตอร์ให้กับผู้ได้รับวัคซีนไฟเซอร์อาจจำเป็น
รายงานระบุว่า การศึกษาข้างต้นสอดคล้องกันกับผลการวิจัยในบ้านพักผู้สูงวัยที่รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา พบปริมาณแอนติบอดีโดยเฉพาะต่อเชื้อกลายพันธุ์ในผู้สูงวัยที่ได้รับวัคซีนโมเดอร์นาสูงกว่าผู้สูงวัยที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์
ด้านโฆษกไฟเซอร์ กล่าวถึงผลการวิจัยทั้ง 2 ชิ้นว่า การจะคงระดับการป้องกันที่สูงสุดไว้ได้นั้นจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มที่สามภายใน 6-12 เดือน