.
เดือนนี้เป็นเดือนที่เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวแล้ว ช่วงกันยายนฝนก็เริ่มทิ้งช่วง อากาศก็เริ่มเย็นลง ลมเริ่มพัดเอาความหนาวเข้ามา ฝนเริ่มทิ้งช่วงห่างไป ต้นข้าวในท้องนาเริ่มตั้งท้องออกรวงเพื่อรอการเก็บเกี่ยว จากสีเขียวก็กำลังเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลือง
เดือนนี้ทุกคนต้องเตรียมตัวสอบปลายภาค ทั้งโรงเรียนของบูม และ โรงเรียนของเนสก็เริ่มทยอยสอบปลายภาคกันแล้ว บูมกับอาร์จึงคุยกันน้อยลง ทว่าก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความบอกฝันดีกันและกันทุกคืน
เขานั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบวิชาของวันพรุ่งนี้ นั่งอ่านทบทวนในส่วนที่คิดว่าครูจะออกข้อสอบ แต่ดูเหมือนจะสำคัญไปหมดทุกหัวข้อ นึกไปถึงแฟนสาว อาร์จะว่าอย่างไรกับหัวข้อนี้ เขาคิดว่ามันสำคัญครูต้องออกข้อสอบแน่ ส่งไลน์บอกหน่อยก็ดี เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงพิมพ์ไลน์หาสาวเจ้าทันที
“อาร์อย่าลืมหัวข้อนี้นะสำคัญ คิดว่าครูคงจะเอาไปออกข้อสอบ” เขาส่งไลน์หาอาร์
“อาร์โอเค” เธอส่งสติ๊กเกอร์ตอบกลับมาแทนข้อความ เขากดอ่านทว่าไม่ได้ตอบกลับ เผยยิ้มให้กับข้อความจากนั้นก็ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ
เวลาผ่านไปจนถึงสี่ทุ่ม เขาเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาถึงเวลานอนแล้ว จึงเก็บหนังสือเข้าที่ กำลังจะปิดไฟนอน เสียงแชทจากเฟซบุ๊กก็ดังขึ้น พอหยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นเนสที่ทักมานั้นเอง
“เนสทักมาทำไม” ครุ่นคิดพูดกับตัวเอง ตั้งแต่ขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กไป เนสไม่เคยทักมาเลย เขาเองก็ไม่กล้าทักไปด้วย ทว่าวันนี้เนสทักมาก่อน มีเรื่องอะไรนะ หรือว่า ! พอนึกถึงเรื่องนี้ก็เผยยิ้มที่มุมปาก หรือว่าเนสอยากคุยกับเขา
“โรงเรียนนายสอบหรือยัง” เนสพิมพ์ข้อความถาม ทำไมเขาต้องหัวเราะตลกด้วย แค่เนสถามแค่นี้เอง หัวเราะเบา ๆ นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงนอนอยู่อย่างนั้น
“สอบแล้ว พรุ่งนี้วันที่สอง โรงเรียนเนสอ่ะสอบยัง” จากที่จะนอนเริ่มไม่ง่วง เริ่มตาสว่าง ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เนสทักมาก่อนแบบนี้ชวนคุยสักหน่อย
“เริ่มสอบวันแรกพรุ่งนี้” ทันทีที่ส่งข้อความไป เธอตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาเผยยิ้มหัวเราะอึกอักกับข้อความที่ขึ้นว่าอ่านแล้ว “อยากคุยกับเราก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรกนะ ฟอร์มอยู่ได้” พูดคนเดียวกับข้อความในหน้าจอโทรศัพท์
“เราพึ่งอ่านหนังสือเสร็จ กำลังจะเข้านอน อย่าลืมอ่านหนังสือด้วยล่ะ ไม่เข้าใจตรงไหนถามเราได้” เขาแสดงความเป็นห่วงเรื่องเรียนหน่อย เนสจะได้ไม่หาว่าอยากคุยด้วยเหมือนที่เขาคิดเองเออเองกับเนส
“โอเค นอนเถอะ เราก็จะเข้านอนเหมือนกัน” เนสตอบกลับมาแล้วเงียบหายไป ไม่มีข้อความใด ๆ ส่งกลับมาอีก แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้ จะนอนได้อย่างไรยังไม่ได้บอกฝันดีอาร์เลย
“ฝันดีครับอาร์ บูมรักอาร์นะ และจะรักตลอดไป” พอนึกได้ก็ส่งข้อความโดยเร็ว บูมคิดว่าอาร์คงหลับไปแล้ว คงไม่ได้อ่าน ไม่เป็นไรอ่านตอนเช้าก็ได้ แต่ ไลน์ของอาร์ดันเด้งตอบกลับมาเสียอย่างนั้น
“อาร์รับแซบ” ตามด้วยส่งรูปหัวใจของคนรักกันตามมาติด ๆ นึกโกรธตนเองที่ทำให้คนรักต้องรอ มัวแต่คุยกับคนอื่น ดีที่อาร์ไม่ใช่คนงี่เง่าไม่อย่างนั้นคงได้นึกหาคำแก้ตัวแน่ว่ามัวทำอะไรอยู่ ถึงไม่ยอมส่งมาบอกฝันดีเหมือนทุก ๆ วัน เผลอ ๆ ดันคิดไปไกลว่ามีคนอื่นอีก
เช้าวันนี้บูมตื่นเช้าเองแม่ไม่ได้มาปลุก ตั้งแต่มีสอบบูมตื่นเช้าเองทุกวัน เพราะอยากไปโรงเรียนแต่เช้า อยากไปนั่งทบทวนเนื้อหาที่จะใช้สอบกับเพื่อน ๆ
เมื่อมาถึงห้องเรียนเขาเดินไปยังโต๊ะเรียนของตน หยิบกระดาษที่ตัวเองจดเอาไว้เมื่อคืนมาอ่านทบทวน สำหรับวิชาแรกก่อนที่จะสอบในช่วงเช้า ไม่ถึงสามนาทีอาร์ก็เดินเข้ามาในห้องเรียน เอากระเป๋ามาเก็บไว้ที่โต๊ะของตัวเองเช่นกัน เขาเห็นอาร์เดินเข้ามาจึงลุกขึ้นจากโต๊ะตนเองแล้วเดินมาหา ถือกระดาษมาด้วย
“นี่อาร์ของบูม บูมสรุปมาพอเข้าใจได้แค่นี้ เอาไปอ่าน” เขายื่นกระดาษเอสี่ที่สรุปเนื้อหาไว้อ่านก่อนเข้าห้องสอบให้กับแฟนสาว
“ของอาร์สรุปได้แค่นี้ ไม่รู้บูมจะเข้าใจเปล่า” สาวเจ้าก็เช่นกัน ยื่นกระดาษเอสี่ที่แม็กติดกันสองแผ่นให้แก่เขา ทั้งสองคนเอากระดาษที่ตัวเองอ่านแล้วสรุปไว้มาแลกเปลี่ยนกัน จะได้ทบทวนได้รวดเร็วขึ้นก่อนสอบ แลกเปลี่ยนความรู้กัน
ไม่นานเพื่อน ๆ สมาชิกในห้องก็ตามมาเกือบจะครบทุกคน ถ้าช่วงไหนมีสอบนักเรียนจะมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติ ยกเว้นพวกแล้วแต่ดวง ที่ไม่กระตือรือร้นอะไร
“กูว่านะครูต้องออกบทนี้ว่ะ กูเตรียมตัวมาอย่างดี” แก็บพูดขึ้น ระหว่างที่รอสอบ เรื่องสนทนากันระหว่างหมู่เพื่อน ๆ จะเป็นไปในทิศทางเรื่องเดียวกันหมด คือ เรื่องเนื้อหาที่จะใช้สอบของแต่ละวิชานั่นเอง
“เฮ้ย แต่กูว่าครูน่าจะออกตรงนี้นะ” บูมออกความคิดเห็นบ้าง
“กูว่าครูออกทั้งเล่มว่ะ กูอ่านมาทั้งเล่มเลย ! พวกมืงคอยดูนะ ตรงไหนครูไม่ได้สอน ตรงนั้นแหละครูจะออกข้อสอบ” โต้งพูดขึ้นอย่างตลก ทำเอาเพื่อน ๆ หัวเราะชอบใจกันใหญ่
“โต้งแกก็พูดไป ครูเค้าไม่ทำแบบนั้นหรอก” เพื่อนผู้หญิงอีกคนพูดแทรก เมื่อได้ยินที่โต้งพูด พวกเขาหันไปหัวเราะให้ แต่ละคนก็ต้องเป็นที่พึ่งของตนเองทั้งนั้นแหละ ไม่รู้เลยว่าครูจะออกข้อสอบแบบไหน แม้ครูจะบอกแนวข้อสอบมาแล้วก็ตาม
“อาร์ ได้ก็บอกกันด้วยนะ” แก๊บหันมาคุยกับอาร์บ้าง เห็นเงียบ ๆ ตั้งแต่มาถึง คงกลัวว่าพูดแล้วข้อสอบจะไหลออกจากสมองแน่เลย พูดพร้อมหัวเราะเมื่อนึกถึงเพื่อนไปในทางตลก ๆ
“พอ ๆ กันล่ะ พวกเธอได้อย่าลืมบอกเราด้วย” สาวเจ้าตอบ เห็นเงียบ ๆ ไม่ได้เก็งข้อสอบสักหน่อย แค่ไม่มีอะไรจะคุยต่างหาก
“บอกว่าไม่ได้ ๆ คะแนนออกมาทีไรได้ท็อปทุกทีเลย” โต้งแซวบ้าง พร้อมเผยยิ้มให้เพื่อนสาวเมื่อนึกถึงคราวสอบรอบก่อน ๆ
“ฟลุกน่า” บูมเถียงแทน
“ฮัลแน่ ! มีการออกรับแทนกันด้วย” พวกเพื่อนแซวสองคน
เสียงออดดังบอกเวลาให้นักเรียนทุกคนไปเข้าแถวหน้าเสาธง เพื่อทำกิจกรรมตอนเช้า วันนี้ครูเวรพูดเรื่องการสอบปลายภาคเทอมแรก ห้ามนักเรียนทุจริตการสอบเด็ดขาด
ไม่ว่าจะวิธีการใด ๆ ก็ตาม ห้ามเขียนใส่หน้าขาตัวเอง ห้ามเขียนใส่ยางลบ ห้ามเขียนใส่เสื้อนักเรียนข้างใน ห้ามนำกระเป๋าดินสอปากกาเข้าห้องสอบ นำอุปกรณ์เข้าไปแค่จำเป็นต้องใช้ ห้ามนำศัพท์ภาษาอังกฤษเข้าไปสอบคณิตศาสตร์เป็นอันขาด
ถ้าจับได้ว่าใครทุจริตการสอบ ต้องโดนกาหัวกระดาษอย่างเดียว ตกอย่างเดียวไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นแล้วแต่ดวง ใครไม่อ่านหนังสือมาก็ให้เป็นไปตามกรรม หรือ ใครจะใช้ตรรกะความน่าจะเป็นก็ได้ครูไม่ห้าม
ประโยคนี้ทำเอาขาประจำแล้วแต่ดวงหลายคนหัวเราะชอบใจกันมาก เมื่อทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จครูก็ปล่อยเข้าห้องสอบ
“อาร์ เต็มที่นะ” บอกกับเธอขณะนั่งอ่านกระดาษที่สรุปมาก่อนเข้าสอบตรงหน้าระเบียงห้อง
“เต็มที่อยู่แล้ว บูมด้วยนะ” วางกระดาษลงหันมาตอบเขา สายตาคู่หวานคู่นี้น่าทะนุถนอมที่สุด เขามองและอมยิ้มตาม
ทั้งสองคนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เวลานี้โรงเรียนเงียบสงบเพราะทุกคนเข้าห้องสอบกันหมดแล้ว ในห้องสอบเกือบจะทุกห้อง จะจัดโต๊ะแยกออกมาให้ห่างกัน
ในห้องสอบทุกคนนั่งเงียบไม่กระดุกกระดิก ตั้งใจก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบ ครูประจำวิชาก็เดินตรวจตราไม่ให้คลาดสายตา กลัวว่าจะมีนักเรียนทุจริตการสอบเกิดขึ้น
เดินไปยืนมุมนั้นทีมุมนี้ที คนไหนอ่านหนังสือมาก็ทำข้อสอบสบาย ๆ คนไหนมาอ่านเอาตอนเช้าก็ต้องทำการบ้านหนักหน่อย ส่วนคนไม่อ่านเลยก็ต้องเดาไป
บูมเผยยิ้มให้กับข้อสอบ ข้อนี้อ่านมาจำได้ เขียนคำตอบได้สบายมาก แต่จะถูกไหมก็ต้องแล้วแต่ปลายปากกาของครู
วิชาแรกผ่านไป วิชาที่สองผ่านไป และวิชาสุดท้ายของช่วงเช้า นักเรียนทุกคนนั่งทำข้อสอบอย่างตั้งใจ คนทำได้ก็ทำได้ คนทำไม่ได้ก็เดาต่อไป
“นักเรียน เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจะหมดเวลาแล้ว ใครเสร็จแล้วเอาข้อสอบมาส่ง ไม่ต้องรอเพื่อน แล้วออกไปทานข้าวได้” ครูผู้คุมสอบพูดบอก
บูมเหลือแค่สองข้อก็ใกล้จะเสร็จแล้ว เหลือบมองเห็นอาร์กำลังทำหน้าเครียด ๆ ทำข้อสอบได้หรือเปล่าใกล้จะเสร็จแล้วหรือยัง นึกเป็นห่วงแฟนสาว ส่วนตนเองจวนจะเสร็จทุกข้อแล้ว
เขายังไม่รีบทำอีกสองข้อที่เหลือ ที่จริงอ่านและรู้คำตอบแล้ว แต่ ยังไม่ทำรอออกไปพร้อมอาร์ ทำทีเป็นเปิดแผ่นกระดาษคำถามกลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น
“อ้าว ๆ อิทธิพล เสร็จแล้วก็เอาคำตอบมาส่งครู ไม่ต้องรอเพื่อน” เขาตกใจกับคำพูดของครูผู้คุมสอบ ครูรู้ได้อย่างไรว่าเขาทำเสร็จแล้ว สุดท้ายก็ต้องยอมลุกเอาข้อสอบไปส่งครู แล้วเดินออกไปนั่งรออาร์ข้างนอก ออกมาก็เห็นเพื่อน ๆ นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“พวกมืงทำข้อสอบได้กันเหรอ ถึงทำเสร็จกันเร็วขนาดนี้” บูมถาม เห็นเพื่อน ๆ ออกจากห้องสอบกันเร็วเหลือเกิน
“ฮื้อ เดาล้วน ๆ ว่ะบูม มืงทำได้มั้ยออกจากห้องช้า”
“พอได้ แต่ไม่รู้จะถูกมั้ย แค่ผ่านพอว่ะ ขี้เกียจสอบแก้” เขาพูดค่อนข้างมั่นใจกับวิชานี้มากพอสมควร
“อาร์ยังทำข้อสอบไม่เสร็จอีกเหรอ”
“ยังว่ะ ไม่รู้ทำข้อสอบได้หรือเปล่า” พอพูดถึงแฟนสาวเขาก็ทำสีหน้ากังวล เป็นห่วงว่าลืมที่อ่าน ๆ มาแล้วทำข้อสอบไม่ได้ ไม่อยากให้เธอคิดมาก
“บูมมืงไม่ต้องเป็นห่วงอาร์หรอก ท็อปทุกเทอม รายนี้ท็อปทุกเทอม”
เพื่อน ๆ และเขารออาร์ออกมาจากห้องสอบอย่างกังวล โดยเฉพาะเขานั่นแหละ คอยลุ้นภาวนาขอให้อาร์ทำข้อสอบได้ จะได้ผ่านวิชานี้ไปด้วยกัน ไม่รู้ทำถึงข้อไหนแล้ว เขาออกมาก็เหลือแค่ยี่สิบนาทีเอง ไม่รู้จะทำข้อสอบทันหรือป่าว
อาร์ทำข้อสอบยันนาทีสุดท้าย เดินออกมาด้วยหน้าตาเศร้าบูมสังเกตได้ “อาร์ทำข้อสอบทันมั้ย” บูมเดินไปหาอาร์เมื่อเห็นอาร์เดินออกมาจากห้องสอบ
“ทัน แต่ทำไม่ได้” เจ้าตัวตอบ สีหน้าของอาร์ยังเศร้า ๆ ที่ทำข้อสอบไม่ได้ คำถามข้อนี้ตนเองก็ทำการบ้านมา แต่ทำไมจำไม่ได้ ทั้งที่ก็อ่านมา ยังไม่พอก่อนเข้าห้องสอบก็ทบทวนเป็นอย่างดี
“ไม่เป็นไร ไม่ผ่านก็แค่สอบใหม่ ไม่ต้องคิดมาก บูมก็ทำข้อสอบไม่ได้เหมือนกัน” เขาปลอบใจอาร์ พูดให้รู้สึกดีขึ้น อยากให้อาร์ยิ้ม เพราะรอยยิ้มของอาร์น่ารัก เขาชอบที่อาร์ยิ้มแล้วมีเสน่ห์ เจ้าตัวพยักหน้าให้พร้อมเผยยิ้มออกมาให้เห็น เขาก็ยิ้มออกมาได้เช่นกันเมื่อเห็นเช่นนั้น
“เราไปหาอะไรกินกันเถอะ กินเสร็จจะได้มาเตรียมตัวสอบวิชาช่วงบ่าย” โต้งพูดขึ้น แล้วพวกเธอก็พากันไปทานมื้อเที่ยง รอสอบในช่วงบ่ายต่อไป
รักสามเศร้า….บทที่ 6 (รีไรท์)
.
เดือนนี้เป็นเดือนที่เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวแล้ว ช่วงกันยายนฝนก็เริ่มทิ้งช่วง อากาศก็เริ่มเย็นลง ลมเริ่มพัดเอาความหนาวเข้ามา ฝนเริ่มทิ้งช่วงห่างไป ต้นข้าวในท้องนาเริ่มตั้งท้องออกรวงเพื่อรอการเก็บเกี่ยว จากสีเขียวก็กำลังเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลือง
เดือนนี้ทุกคนต้องเตรียมตัวสอบปลายภาค ทั้งโรงเรียนของบูม และ โรงเรียนของเนสก็เริ่มทยอยสอบปลายภาคกันแล้ว บูมกับอาร์จึงคุยกันน้อยลง ทว่าก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความบอกฝันดีกันและกันทุกคืน
เขานั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบวิชาของวันพรุ่งนี้ นั่งอ่านทบทวนในส่วนที่คิดว่าครูจะออกข้อสอบ แต่ดูเหมือนจะสำคัญไปหมดทุกหัวข้อ นึกไปถึงแฟนสาว อาร์จะว่าอย่างไรกับหัวข้อนี้ เขาคิดว่ามันสำคัญครูต้องออกข้อสอบแน่ ส่งไลน์บอกหน่อยก็ดี เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงพิมพ์ไลน์หาสาวเจ้าทันที
“อาร์อย่าลืมหัวข้อนี้นะสำคัญ คิดว่าครูคงจะเอาไปออกข้อสอบ” เขาส่งไลน์หาอาร์
“อาร์โอเค” เธอส่งสติ๊กเกอร์ตอบกลับมาแทนข้อความ เขากดอ่านทว่าไม่ได้ตอบกลับ เผยยิ้มให้กับข้อความจากนั้นก็ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ
เวลาผ่านไปจนถึงสี่ทุ่ม เขาเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาถึงเวลานอนแล้ว จึงเก็บหนังสือเข้าที่ กำลังจะปิดไฟนอน เสียงแชทจากเฟซบุ๊กก็ดังขึ้น พอหยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นเนสที่ทักมานั้นเอง
“เนสทักมาทำไม” ครุ่นคิดพูดกับตัวเอง ตั้งแต่ขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กไป เนสไม่เคยทักมาเลย เขาเองก็ไม่กล้าทักไปด้วย ทว่าวันนี้เนสทักมาก่อน มีเรื่องอะไรนะ หรือว่า ! พอนึกถึงเรื่องนี้ก็เผยยิ้มที่มุมปาก หรือว่าเนสอยากคุยกับเขา
“โรงเรียนนายสอบหรือยัง” เนสพิมพ์ข้อความถาม ทำไมเขาต้องหัวเราะตลกด้วย แค่เนสถามแค่นี้เอง หัวเราะเบา ๆ นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงนอนอยู่อย่างนั้น
“สอบแล้ว พรุ่งนี้วันที่สอง โรงเรียนเนสอ่ะสอบยัง” จากที่จะนอนเริ่มไม่ง่วง เริ่มตาสว่าง ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เนสทักมาก่อนแบบนี้ชวนคุยสักหน่อย
“เริ่มสอบวันแรกพรุ่งนี้” ทันทีที่ส่งข้อความไป เธอตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาเผยยิ้มหัวเราะอึกอักกับข้อความที่ขึ้นว่าอ่านแล้ว “อยากคุยกับเราก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรกนะ ฟอร์มอยู่ได้” พูดคนเดียวกับข้อความในหน้าจอโทรศัพท์
“เราพึ่งอ่านหนังสือเสร็จ กำลังจะเข้านอน อย่าลืมอ่านหนังสือด้วยล่ะ ไม่เข้าใจตรงไหนถามเราได้” เขาแสดงความเป็นห่วงเรื่องเรียนหน่อย เนสจะได้ไม่หาว่าอยากคุยด้วยเหมือนที่เขาคิดเองเออเองกับเนส
“โอเค นอนเถอะ เราก็จะเข้านอนเหมือนกัน” เนสตอบกลับมาแล้วเงียบหายไป ไม่มีข้อความใด ๆ ส่งกลับมาอีก แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้ จะนอนได้อย่างไรยังไม่ได้บอกฝันดีอาร์เลย
“ฝันดีครับอาร์ บูมรักอาร์นะ และจะรักตลอดไป” พอนึกได้ก็ส่งข้อความโดยเร็ว บูมคิดว่าอาร์คงหลับไปแล้ว คงไม่ได้อ่าน ไม่เป็นไรอ่านตอนเช้าก็ได้ แต่ ไลน์ของอาร์ดันเด้งตอบกลับมาเสียอย่างนั้น
“อาร์รับแซบ” ตามด้วยส่งรูปหัวใจของคนรักกันตามมาติด ๆ นึกโกรธตนเองที่ทำให้คนรักต้องรอ มัวแต่คุยกับคนอื่น ดีที่อาร์ไม่ใช่คนงี่เง่าไม่อย่างนั้นคงได้นึกหาคำแก้ตัวแน่ว่ามัวทำอะไรอยู่ ถึงไม่ยอมส่งมาบอกฝันดีเหมือนทุก ๆ วัน เผลอ ๆ ดันคิดไปไกลว่ามีคนอื่นอีก
เช้าวันนี้บูมตื่นเช้าเองแม่ไม่ได้มาปลุก ตั้งแต่มีสอบบูมตื่นเช้าเองทุกวัน เพราะอยากไปโรงเรียนแต่เช้า อยากไปนั่งทบทวนเนื้อหาที่จะใช้สอบกับเพื่อน ๆ
เมื่อมาถึงห้องเรียนเขาเดินไปยังโต๊ะเรียนของตน หยิบกระดาษที่ตัวเองจดเอาไว้เมื่อคืนมาอ่านทบทวน สำหรับวิชาแรกก่อนที่จะสอบในช่วงเช้า ไม่ถึงสามนาทีอาร์ก็เดินเข้ามาในห้องเรียน เอากระเป๋ามาเก็บไว้ที่โต๊ะของตัวเองเช่นกัน เขาเห็นอาร์เดินเข้ามาจึงลุกขึ้นจากโต๊ะตนเองแล้วเดินมาหา ถือกระดาษมาด้วย
“นี่อาร์ของบูม บูมสรุปมาพอเข้าใจได้แค่นี้ เอาไปอ่าน” เขายื่นกระดาษเอสี่ที่สรุปเนื้อหาไว้อ่านก่อนเข้าห้องสอบให้กับแฟนสาว
“ของอาร์สรุปได้แค่นี้ ไม่รู้บูมจะเข้าใจเปล่า” สาวเจ้าก็เช่นกัน ยื่นกระดาษเอสี่ที่แม็กติดกันสองแผ่นให้แก่เขา ทั้งสองคนเอากระดาษที่ตัวเองอ่านแล้วสรุปไว้มาแลกเปลี่ยนกัน จะได้ทบทวนได้รวดเร็วขึ้นก่อนสอบ แลกเปลี่ยนความรู้กัน
ไม่นานเพื่อน ๆ สมาชิกในห้องก็ตามมาเกือบจะครบทุกคน ถ้าช่วงไหนมีสอบนักเรียนจะมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติ ยกเว้นพวกแล้วแต่ดวง ที่ไม่กระตือรือร้นอะไร
“กูว่านะครูต้องออกบทนี้ว่ะ กูเตรียมตัวมาอย่างดี” แก็บพูดขึ้น ระหว่างที่รอสอบ เรื่องสนทนากันระหว่างหมู่เพื่อน ๆ จะเป็นไปในทิศทางเรื่องเดียวกันหมด คือ เรื่องเนื้อหาที่จะใช้สอบของแต่ละวิชานั่นเอง
“เฮ้ย แต่กูว่าครูน่าจะออกตรงนี้นะ” บูมออกความคิดเห็นบ้าง
“กูว่าครูออกทั้งเล่มว่ะ กูอ่านมาทั้งเล่มเลย ! พวกมืงคอยดูนะ ตรงไหนครูไม่ได้สอน ตรงนั้นแหละครูจะออกข้อสอบ” โต้งพูดขึ้นอย่างตลก ทำเอาเพื่อน ๆ หัวเราะชอบใจกันใหญ่
“โต้งแกก็พูดไป ครูเค้าไม่ทำแบบนั้นหรอก” เพื่อนผู้หญิงอีกคนพูดแทรก เมื่อได้ยินที่โต้งพูด พวกเขาหันไปหัวเราะให้ แต่ละคนก็ต้องเป็นที่พึ่งของตนเองทั้งนั้นแหละ ไม่รู้เลยว่าครูจะออกข้อสอบแบบไหน แม้ครูจะบอกแนวข้อสอบมาแล้วก็ตาม
“อาร์ ได้ก็บอกกันด้วยนะ” แก๊บหันมาคุยกับอาร์บ้าง เห็นเงียบ ๆ ตั้งแต่มาถึง คงกลัวว่าพูดแล้วข้อสอบจะไหลออกจากสมองแน่เลย พูดพร้อมหัวเราะเมื่อนึกถึงเพื่อนไปในทางตลก ๆ
“พอ ๆ กันล่ะ พวกเธอได้อย่าลืมบอกเราด้วย” สาวเจ้าตอบ เห็นเงียบ ๆ ไม่ได้เก็งข้อสอบสักหน่อย แค่ไม่มีอะไรจะคุยต่างหาก
“บอกว่าไม่ได้ ๆ คะแนนออกมาทีไรได้ท็อปทุกทีเลย” โต้งแซวบ้าง พร้อมเผยยิ้มให้เพื่อนสาวเมื่อนึกถึงคราวสอบรอบก่อน ๆ
“ฟลุกน่า” บูมเถียงแทน
“ฮัลแน่ ! มีการออกรับแทนกันด้วย” พวกเพื่อนแซวสองคน
เสียงออดดังบอกเวลาให้นักเรียนทุกคนไปเข้าแถวหน้าเสาธง เพื่อทำกิจกรรมตอนเช้า วันนี้ครูเวรพูดเรื่องการสอบปลายภาคเทอมแรก ห้ามนักเรียนทุจริตการสอบเด็ดขาด
ไม่ว่าจะวิธีการใด ๆ ก็ตาม ห้ามเขียนใส่หน้าขาตัวเอง ห้ามเขียนใส่ยางลบ ห้ามเขียนใส่เสื้อนักเรียนข้างใน ห้ามนำกระเป๋าดินสอปากกาเข้าห้องสอบ นำอุปกรณ์เข้าไปแค่จำเป็นต้องใช้ ห้ามนำศัพท์ภาษาอังกฤษเข้าไปสอบคณิตศาสตร์เป็นอันขาด
ถ้าจับได้ว่าใครทุจริตการสอบ ต้องโดนกาหัวกระดาษอย่างเดียว ตกอย่างเดียวไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นแล้วแต่ดวง ใครไม่อ่านหนังสือมาก็ให้เป็นไปตามกรรม หรือ ใครจะใช้ตรรกะความน่าจะเป็นก็ได้ครูไม่ห้าม
ประโยคนี้ทำเอาขาประจำแล้วแต่ดวงหลายคนหัวเราะชอบใจกันมาก เมื่อทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จครูก็ปล่อยเข้าห้องสอบ
“อาร์ เต็มที่นะ” บอกกับเธอขณะนั่งอ่านกระดาษที่สรุปมาก่อนเข้าสอบตรงหน้าระเบียงห้อง
“เต็มที่อยู่แล้ว บูมด้วยนะ” วางกระดาษลงหันมาตอบเขา สายตาคู่หวานคู่นี้น่าทะนุถนอมที่สุด เขามองและอมยิ้มตาม
ทั้งสองคนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เวลานี้โรงเรียนเงียบสงบเพราะทุกคนเข้าห้องสอบกันหมดแล้ว ในห้องสอบเกือบจะทุกห้อง จะจัดโต๊ะแยกออกมาให้ห่างกัน
ในห้องสอบทุกคนนั่งเงียบไม่กระดุกกระดิก ตั้งใจก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบ ครูประจำวิชาก็เดินตรวจตราไม่ให้คลาดสายตา กลัวว่าจะมีนักเรียนทุจริตการสอบเกิดขึ้น
เดินไปยืนมุมนั้นทีมุมนี้ที คนไหนอ่านหนังสือมาก็ทำข้อสอบสบาย ๆ คนไหนมาอ่านเอาตอนเช้าก็ต้องทำการบ้านหนักหน่อย ส่วนคนไม่อ่านเลยก็ต้องเดาไป
บูมเผยยิ้มให้กับข้อสอบ ข้อนี้อ่านมาจำได้ เขียนคำตอบได้สบายมาก แต่จะถูกไหมก็ต้องแล้วแต่ปลายปากกาของครู
วิชาแรกผ่านไป วิชาที่สองผ่านไป และวิชาสุดท้ายของช่วงเช้า นักเรียนทุกคนนั่งทำข้อสอบอย่างตั้งใจ คนทำได้ก็ทำได้ คนทำไม่ได้ก็เดาต่อไป
“นักเรียน เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจะหมดเวลาแล้ว ใครเสร็จแล้วเอาข้อสอบมาส่ง ไม่ต้องรอเพื่อน แล้วออกไปทานข้าวได้” ครูผู้คุมสอบพูดบอก
บูมเหลือแค่สองข้อก็ใกล้จะเสร็จแล้ว เหลือบมองเห็นอาร์กำลังทำหน้าเครียด ๆ ทำข้อสอบได้หรือเปล่าใกล้จะเสร็จแล้วหรือยัง นึกเป็นห่วงแฟนสาว ส่วนตนเองจวนจะเสร็จทุกข้อแล้ว
เขายังไม่รีบทำอีกสองข้อที่เหลือ ที่จริงอ่านและรู้คำตอบแล้ว แต่ ยังไม่ทำรอออกไปพร้อมอาร์ ทำทีเป็นเปิดแผ่นกระดาษคำถามกลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น
“อ้าว ๆ อิทธิพล เสร็จแล้วก็เอาคำตอบมาส่งครู ไม่ต้องรอเพื่อน” เขาตกใจกับคำพูดของครูผู้คุมสอบ ครูรู้ได้อย่างไรว่าเขาทำเสร็จแล้ว สุดท้ายก็ต้องยอมลุกเอาข้อสอบไปส่งครู แล้วเดินออกไปนั่งรออาร์ข้างนอก ออกมาก็เห็นเพื่อน ๆ นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“พวกมืงทำข้อสอบได้กันเหรอ ถึงทำเสร็จกันเร็วขนาดนี้” บูมถาม เห็นเพื่อน ๆ ออกจากห้องสอบกันเร็วเหลือเกิน
“ฮื้อ เดาล้วน ๆ ว่ะบูม มืงทำได้มั้ยออกจากห้องช้า”
“พอได้ แต่ไม่รู้จะถูกมั้ย แค่ผ่านพอว่ะ ขี้เกียจสอบแก้” เขาพูดค่อนข้างมั่นใจกับวิชานี้มากพอสมควร
“อาร์ยังทำข้อสอบไม่เสร็จอีกเหรอ”
“ยังว่ะ ไม่รู้ทำข้อสอบได้หรือเปล่า” พอพูดถึงแฟนสาวเขาก็ทำสีหน้ากังวล เป็นห่วงว่าลืมที่อ่าน ๆ มาแล้วทำข้อสอบไม่ได้ ไม่อยากให้เธอคิดมาก
“บูมมืงไม่ต้องเป็นห่วงอาร์หรอก ท็อปทุกเทอม รายนี้ท็อปทุกเทอม”
เพื่อน ๆ และเขารออาร์ออกมาจากห้องสอบอย่างกังวล โดยเฉพาะเขานั่นแหละ คอยลุ้นภาวนาขอให้อาร์ทำข้อสอบได้ จะได้ผ่านวิชานี้ไปด้วยกัน ไม่รู้ทำถึงข้อไหนแล้ว เขาออกมาก็เหลือแค่ยี่สิบนาทีเอง ไม่รู้จะทำข้อสอบทันหรือป่าว
อาร์ทำข้อสอบยันนาทีสุดท้าย เดินออกมาด้วยหน้าตาเศร้าบูมสังเกตได้ “อาร์ทำข้อสอบทันมั้ย” บูมเดินไปหาอาร์เมื่อเห็นอาร์เดินออกมาจากห้องสอบ
“ทัน แต่ทำไม่ได้” เจ้าตัวตอบ สีหน้าของอาร์ยังเศร้า ๆ ที่ทำข้อสอบไม่ได้ คำถามข้อนี้ตนเองก็ทำการบ้านมา แต่ทำไมจำไม่ได้ ทั้งที่ก็อ่านมา ยังไม่พอก่อนเข้าห้องสอบก็ทบทวนเป็นอย่างดี
“ไม่เป็นไร ไม่ผ่านก็แค่สอบใหม่ ไม่ต้องคิดมาก บูมก็ทำข้อสอบไม่ได้เหมือนกัน” เขาปลอบใจอาร์ พูดให้รู้สึกดีขึ้น อยากให้อาร์ยิ้ม เพราะรอยยิ้มของอาร์น่ารัก เขาชอบที่อาร์ยิ้มแล้วมีเสน่ห์ เจ้าตัวพยักหน้าให้พร้อมเผยยิ้มออกมาให้เห็น เขาก็ยิ้มออกมาได้เช่นกันเมื่อเห็นเช่นนั้น
“เราไปหาอะไรกินกันเถอะ กินเสร็จจะได้มาเตรียมตัวสอบวิชาช่วงบ่าย” โต้งพูดขึ้น แล้วพวกเธอก็พากันไปทานมื้อเที่ยง รอสอบในช่วงบ่ายต่อไป