JJNY : “อ้ายโทนีตอบ คำผกาถาม”│รู้จัก"โควิด-19สายพันธุ์เอปซิลอน”│โควิดพุ่ง ต่างชาติเบรกเที่ยวสมุย│ภูเก็ตทรุดยาว โควิดพุ่ง

'อ้ายโทนี่ตอบ คำผกาถาม' คลับเฮาส์นัดพิเศษ ขันโตกความคิด อู้คำเมืองตลอดรายการ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2868335


 
กลุ่มแคร์ จัดคลับเฮาส์นัดพิเศษ ขันโตกความคิด “อ้ายโทนี่ตอบ คำผกาถาม” ศุกร์ที่ 6 ส.ค.นี้ 
 
วันนี้ (5 ส.ค.) เพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยว่า กลุ่มแคร์เตรียมจัดคลับเฮาส์ ตอนพิเศษ ในคืนวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคมนี้ โดยมี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นแขกรับเชิญ และมี แขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำผกา คอลัมนิสต์ และพิธีกรชื่อดัง เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยใช้ชื่อว่า  “ขันโตกความคิด” รวมมิตรไอเดีย คำผกาถาม อ้ายโทนี่ตอบ” โดยรายละเอียดดังนี้
 
“กิ๋นข้าวน้ำ จ้ำข้าวแลงกั๋นเสร็จแล้ว วันศุกร์นี้กลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทยเฮา ก่อขอเชิญชวนปี้น้องคนเมืองบ้านเฮากู่คู้กู่คน มาตั้งวงขันโตกความคิด ร่วมกับปี้แขก คำผกา กับ อ้ายโทนี่
 
ปรึกษาปั๋นหาชีวิต ทุกข์อกทุกข์ใจ๋ ขายข้าวก่อถูก ค่าปุ๋ยก่อซ้ำมาแพง หนี้นักหนี้หลาย หยุบกำอันใดก่อเป็นหนี้เป็นสิน โควิดก่อมาระบาด ลูกหลานก่อบ่ได้ฮ่ำได้เฮียน ยะอันใดก่อบ่ถูกบ่ต้อง กั้บอกกั้บใจ๋
 
เชิญปี้น้องทังหลายมาอู้มาจ๋า มาปรึกษาปัญหากับอ้ายโทนี่ กับ ปี้แขกได้ ที่รายการ CARE TAlK x CARE ClubHouse (EP.พิเศษ คำเมือง) ได้ที่เพจเฟศบุ๊ก หรือ ยูทูบ CARE : คิดเคลื่อนไทย หรือ ไค่อู้ไค่จ๋ากั๋น ก่อเชิญมาได้ที่ CARE คลับเฮาส์เน้อ

วันศุกร์ 6 สิงหาคมนี้ เวลา 20.00 น. เน้อป้อแม่ปี้น้อง
ถึงตั๋วอยู่ไกล๋ แต่ใจ๋ยังกึ้ดเติงหาเน้อ…”
 
https://www.facebook.com/careorth/posts/378525763899120
 

 
รู้จัก "โควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอน” ระบาดในปากีสถาน หวั่นลามมาไทย
https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/153403
 
รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอน (แคลิฟอร์เนีย) ซึ่งมีความกังวลเกิดขึ้นหลังพบการระบาดในปากีสถาน
 
โควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอน” กลายเป็นที่พูดถึงในชั่วข้ามคืนในแถบภูมิภาคเอเชีย หลังพบการระบาดในกรุงลาฮอร์ของประเทศปากีสถาน โดยเฉพาะในอินเดียซึ่งมีพรมแดนติดกันและยังได้รับผลกระทบจากสายพันธุ์เดลตา จนเกรงว่าจะรับมือโควิด-19 อีกสายพันธุ์ไม่ไหว
 
แต่จุดสำคัญที่ทำให้โควิด-19 เอปซิลอนได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือ มีการศึกษาในต่างประเทศระบุว่า 
 
“โควิด-19 เอปซิลอนลดประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ได้”
  
แต่ก่อนจะไปพูดถึงข้อมูลดังกล่าว นิวมีเดีย พีพีทีวี ขอพาไปทำความรู้จักเบื้องต้นกับโควิด-19 สายพันธุ์นี้ก่อน
 
โควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอน มี 2 สายพันธุ์ย่อย ชื่อทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการคือ B.1.427 และ B.1.429 พบครั้งแรกในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เมื่อเดือน มี.ค. 2020 ในช่วงแรกจึงมักเรียกว่า “สายพันธุ์แคลิฟอร์เนีย” ต่อมาเมื่อองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศวิธีเรียกชื่อสายพันธุ์ใหม่ ก็ได้ชื่อ “เอปซิลอน (Epsilon)” หรืออักษรกรีกตัวที่ 5 มา และถูกจัดระดับให้อยู่ใน “สายพันธุ์ต้องให้ความสนใจ (VOI)” ในเดือน มี.ค. 2021
 
โดยผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า อัตราการแพร่ระบาด เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ปกติ สูงขึ้น 18.6-24.2% ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ก็ระบุว่า มีความสามารถในการแพร่ระบาดสูงกว่าสายพันธุ์ปกติประมาณ 20% เช่นกัน
 
โควิด-19 เอปซิลอน มีการกลายพันธุ์ที่น่ากังวล 5 ตำแหน่ง คือ I4205V และ D1183Y ในยีน ORF1ab และ S13I, W152C, L452R ในยีน S ของโปรตีนหนาม
 
เมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันซึ่งได้รับการตีพิมพ์ ระบุว่า การกลายพันธุ์ 3 ตำแหน่งในโปรตีนหนาม (S13I, W152C, L452R) ของโควิด-19 เอปซิลอน “ลดศักยภาพแอนติบอดีของผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 หรือภูมิที่เกิดจากการติดเชื้อ” โดยความสามารถในการต่อต้านสายพันธุ์เอปซิลอนลดลงประมาณ 2-3.5 เท่า หรือ 50-70%
 
การกลายพันธุ์ L452R เป็นการกลายพันธุ์ที่เพิ่มความสามารถในการเกาะเซลล์ และสามารถลดแอนติบอดีที่เกิดจากวัคซีนโควิด-19 ได้ ทำให้ติดเชื้อง่ายขึ้น และยังมีฤทธิ์ดื้อต่อ T-Cell ซึ่งเป็นเซลล์ที่จำเป็นต่อการกำหนดเป้าหมายและทำลายเซลล์ที่ติดไวรัสด้วย
 
นอกจากนี้ โควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอนนี้ ยังลดประสิทธิภาพการรักษาด้วยโมโนโคลนอลแอนติบอดี (Monoclonal Antibody) ได้ปานกลาง ซึ่งวิธีการรักษานี้เป็นหนึ่งในวิธีที่สหรัฐฯ อนุมัติให้ใช้ได้
 
นอกจากนี้ การทดลองหนึ่งในห้องทดลองยังพบว่า แอนติบอดีชนิด Neutralizing Antibody ที่เกิดจากการติดเชื้อตามธรรมชาติหรือการฉีดวัคซีนชนิด mRNA มีระดับลดลง 3-6 เท่าเมื่อเจอสายพันธุ์เอปซิลอน แต่ยังต้องมีการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ต่อไป
  
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน  WHO ได้ถอดชื่อสายพันธุ์เอปซิลอนออกจากสายพันธุ์ต้องให้ความสนใจแล้ว และจัดระดับเป็นเพียง “สายพันธุ์ตรวจสอบเพิ่มเติม (Alerts for Further Monitoring)” เท่านั้น เนื่องจากพบการระบาดน้อย และยากับวัคซีนที่มีแม้ประสิทธิภาพลดลงแต่ยัง "เอาอยู่" แม้แต่ในสหรัฐฯ ที่เคยมีสัดส่วนการระบาดเป็นสายพันธุ์เอปซิลอน 15% ปัจจุบันสัดส่วนลดลงเหลือน้อยกว่า 1% แล้ว
  
แต่ในขณะเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุขของบางประเทศ เช่น CDC สหรัฐฯ ยังคงระดับความอันตรายไว้ที่สายพันธุ์ต้องให้ความสนใจอยู่ เพื่อเป็นการไม่ประมาท และคอยจับตาการระบาดอยู่อย่างต่อเนื่อง
   
ปัจจุบันมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอนในอย่างน้อย 46 ประเทศทั่วโลก พบมากเป็นพิเศษในแถบทวีปอเมริกา นั่นทำให้การระบาดในปากีสถานเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ
  
เรียบเรียงจาก CDC / Global Virus NetworkIndependent


 
ยอดติดโควิดพุ่ง ทำต่างชาติเบรกเที่ยว ‘สมุยพลัสโมเดล’ เผยนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 15 ก.ค. สะสม 155 คน
https://www.matichon.co.th/economy/news_2867774
 
นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการสมุย พลัส โมเดล ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา ทั้งหมดจำนวน 4 คน จากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ จำนวน 1 เที่ยวบิน โดยตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 พบผู้ติดเชื้อ 1 คน ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ถึง 3 สิงหาคม 2564 แบ่งเป็นเกาะสมุย 155 คน เกาะพะงัน 8 คน และเกาะเต่า 3 คน ส่วนนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ สะสมอยู่ที่ 257 คน โดยสถานการณ์โควิดในพื้นที่ 3 เกาะ พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้น 7 คน เป็นคนไทย 6 คน และต่างชาติ 1 คน ซึ่งตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการจนถึงปัจจุบัน พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มีเชื้อโควิดเพียง 2 คนเท่านั้น จากจำนวนรวม 155 คน โดยจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในภาพรวมประเทศ และในตัวจังหวัดเอง ที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายประเทศในยุโรป จัดอันดับประเทศไทยเป็นประเทศที่เฝ้าระวัง จึงเริ่มเห็นการชะลอการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากยุโรป ที่เป็นฐานลูกค้าหลักเพิ่มขึ้น เนื่องจากหากเดินทางมาเที่ยวไทยแล้ว เมื่อกลับไปประเทศต้นทาง จะต้องทำการกักตัว 14 วัน ซึ่งถือเป็นปัจจัยกระทบหลัดที่ทำให้ต่างชาติชะลอและงดการเดินทางในช่วงนี้
  
“หลังจากเริ่มต้นโครงการสมุย พลัส โมเดล เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยังเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาน้อย เพราะเป็นช่วงเริ่มต้น ทำให้พอมาเจอการระบาดในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ก็เห็นการชะลอการเดินทางของนักท่องเที่ยวไปก่อน โดยประเมินว่าเกาะสมุยยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการเดินทางเข้ามาพักผ่อนอยู่ จึงเชื่อว่าหากสามารถควบคุมการระบาดในประเทศได้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มเดินทางเข้ามาใหม่อีกครั้ง” นายรัชชพร กล่าว
  
นายรัชชพร กล่าวว่า ขณะนี้อยากให้อำเภอเกาะสมุย หรือภาครัฐยกระดับมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าพื้นที่เกาะสมุย ให้เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะกับคนต่างถิ่นที่จะเข้ามา เนื่องจากคนในเกาะได้รับวัคซีนจนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นแล้ว ทำให้สัดส่วนของผู้ที่เดินทางเข้ามาเพิ่มในพื้นที่ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะรักษาภูมิคุ้มกันไว้ได้ และทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนคนในพื้นที่เกาะ พบว่าสาธารณสุขและโรงพยาบาลได้ตั้งจุดตรวจคัดกรองเชิงรุกตามชุมชน เพื่อตรวจหาเชื้อเชิงรุก ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจหาเชื้อโควิดของคนในพื้นที่ไปแล้วกว่า 2,000 คน โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จะตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มแล้ว เพราะในยอดการตรวจ 2,000 คน พบว่ามีผู้ติดเชื้อในหลักหน่วย หรือเลขตัวเดียวเท่านั้น
  
นายรัชชพร กล่าวว่า สำหรับการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในรูปแบบ 7+7 คือ นักท่องเที่ยวจะต้องพักในภูเก็ตครบ 7 วันก่อน ตรวจหาเชื้อโควิด 2 ครั้ง จึงจะสามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวเกาะสมุยต่อได้ จากเดิมที่กำหนดให้ต้องพักในภูเก็ตอย่างน้อย 14 วัน จึงจะสามารถเดินทางไปเที่ยวพื้นที่อื่นๆ ได้ แต่ยังต้องพักค้างคืนในสมุยให้ครบ 7 วัน หลังจากนั้นสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศ โดยขณะนี้ตามประกาศควบคุมโควิดของรัฐบาล ทำให้สายการบินบางกอกแอร์เวย์สไม่สามารถทำการบินในเส้นทางจากภูเก็ตไปสมุยได้ แต่คาดว่าจะสามารถเริ่มทำการบินใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถจองเที่ยวบินและเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสมุยได้ตามปกติ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่