ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์เป็นผู้ป่วยโควิดเผื่อเป็นประโยชน์ อาการเริ่มต้นมีอาการคล้ายไข้หวัด มีไข้ 38 ปัญหาของผู้ป่วยทีประสบพบเจอเหมือนกันคือ หาที่ตรวจ PCR ไม่ได้ จากการป่วยเล็กน้อยสีเขียวก็อาจจะเป็นสีเหลืองหรือแดงได้ เนื่องจากเชื้อมันเข้าร่างกายเร็วมาก จึงอยากให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่าประมาทเด็ดขาด เพราะส่วนตัวระวังตัวมากแต่ติดเชื้อเนื่องจากมาจากครอบครัว คนที่ติดเชื้อสิ่งที่เลวร้ายคือ เราจะกลายเป็นตัวเชื้อโรคในทันที ยังไม่รวมเรื่องหาเตียงนะคะ ของเราเข้าระบบ Home Isolation โดยรพ จะมียาฟาวิพิราเวียร์มาให้ทาง 5 วัน ทั้งหมด 50 เม็ด (ทานทุก 12 ชม เวลาต้องตรงเป๊ะในการทานยา)
ขอรวบรวมความเลวร้ายของระบบการรักษาหรือสาธารณสุขของบ้านเรานะคะ ขอเอาประสบการณ์ของตัวเองเลย ขอแจงเป็นข้อๆ ดังนี้
1. หาเตียงในการรักษา ต่อให้มีเงินมีเส้นก็ไม่ช่วย เพราะมันเต็ม ล้นรพออกมาหน้าถนนแล้ว
2. ความช้าของการรักษา เพราะกว่าจะโทรหา 1330 รอไปชาตินึง แถมจะเริ่มเข้าระบบคือต้องมีผล Swab ถึงจะเริ่มเข้าระบบ แล้วถึงเริ่มให้ยา (นับจากวัน Swab + 3 วัน ได้ผล PCR + 3 วันเข้าระบบ จ่ายยา = รวม 6 วัน เชื้อโควิดไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว)
3. การเข้าระบบ Home Isolation 14 วัน จะมีหมอโทรมาหา ให้เราวัด oxigen และปรอท ทุกวัน และแจ้งอาการของผู้ป่วยเพื่อประเมินอาการ โดยไม่มีการ X-ray ปอด เค้าสมมุติฐานว่าเชื้อคงไม่ลงปอด ให้ยารักษาตามอาการ โดยช่วงนี้ห้ามนอนห้องแอร์ กินน้ำเยอะๆอุณหภูมิห้อง หรือทานน้ำอุ่น
4. พอจบ course Home Isolation 14 วันให้กักตัวต่อ อีก 14 วันโดยหมอแจ้งว่าเชื้อในร่างกายจะน้อยลงแล้วให้กักตัว หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอกคือใส่หน้ากากดูแลตัวเองดีๆเหมือน 14 วันแรก
5. สิ่งที่พบคือเราไม่ได้ X-ray ปอด พอเรากักตัวไปแล้ว 20 วันลองติดต่อ รพ เอกชนเพื่อขอทำการ check up ใหม่หมด สิ่งที่เจอคือเค้าไม่อยากรับเราเข้ารักษา (เหมือนเดิม คือมีเงินไมไ่ด้ช่วย) เลยไม่รู้ว่าไอ้ที่สาธารณสุขแจ้งว่ากักตัวถึง 28 วัน หลังจากนั้นใช้ชีวิตได้ปกติ นี่จริงหรือเปล่า เพราะรพ เอกชน แค่ได้ยินว่าเราติดเชื้อมา เค้าก็พร้อมที่จะตัดสายเราทันที ขอบอกเลยคะ ว่ามันโคตรแย่ ลำพังอยู่บ้านกักตัวก็เครียดจะแย่อยู่แล้ว แต่ที่แย่คือสังคมมองเราเป็นเชื้อโรค นี่แย่กว่า (ไม่ได้โทษบุคคลากรทางการแพทย์นะ) แต่มีสิ่งนึงที่อยากให้ผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจเอาไปคิดต่อ (ไม่รู้ว่าจะฉลาดพอหาคำตอบให้เราได้ไหม) คือ
*** หลังจากรักษาแล้ว เป็นเวลา 20 วัน บังเอิญเกิดอุบัติเหตุโดนหมากัด และเราอยากรับวัคซีนบาทยัก เราอยากรับผิดชอบต่อสังคม คือโทรไปถาม รพ เอกชนแผนกฉุกเฉิน ว่าเราอยากจะเข้าทำการรักษา โดยเรามีประวัติติดเชื้อ โดยรพ ที่รักษาเราบอกว่าให้เราใส่หน้ากาก 2 ชั้นแล้วใส่ Face Shield ด้วย เพื่อป้องกันการรับเชื้อใหม่และแพร่เชื้อ (เพราะไม่มีใครรู้) พอแจ้งแผนกฉุกเฉินเค้ากลับตอบมาว่าไม่รับรักษาเนื่องจากไม่มีระบบ Swab เหมือนเหตุการณ์เรื่องจะ Check up ร่างกายเลย แล้วยังงี้ไปยังไงต่อละทีนี้ ส่วนตัวเลยไม่สงสัยว่าทำไมบุคลากรด่านหน้าถึงติดกันเยอะขึ้นเพราะระบบมันแย่คือบอกความจริงก็ไม่รับ ถึงมีคนโกหก หรือปกปิดข้อมูล (เอาจริงๆ ไม่รู้ว่าจะด่าใครเลยงานนี้ ด่าคนป่วย หรือจะด่าระบบการรักษา)
ยังไงก็ขอฝากให้ทุกคนดูแลตัวเองกันดีๆละกัน อยู่บ้านหยุดเชื้อเพราะสงสารหมอพยาบาลที่รักษาโควิดมากๆ หากผู้ใหญ่บ้านเมืองยังการเมืองมาครอบงำหมด บอกเลยคะว่าอนาคตมีแต่จะทำให้คนตายเยอะขึ้น หวังว่าประสบการณ์อันเลวร้ายครั้งนี้จะมีประโยชน์กับคนอ่านนะคะ
ขอแชร์ประสบการณ์เป็นผู้ป่วยโควิด
ขอรวบรวมความเลวร้ายของระบบการรักษาหรือสาธารณสุขของบ้านเรานะคะ ขอเอาประสบการณ์ของตัวเองเลย ขอแจงเป็นข้อๆ ดังนี้
1. หาเตียงในการรักษา ต่อให้มีเงินมีเส้นก็ไม่ช่วย เพราะมันเต็ม ล้นรพออกมาหน้าถนนแล้ว
2. ความช้าของการรักษา เพราะกว่าจะโทรหา 1330 รอไปชาตินึง แถมจะเริ่มเข้าระบบคือต้องมีผล Swab ถึงจะเริ่มเข้าระบบ แล้วถึงเริ่มให้ยา (นับจากวัน Swab + 3 วัน ได้ผล PCR + 3 วันเข้าระบบ จ่ายยา = รวม 6 วัน เชื้อโควิดไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว)
3. การเข้าระบบ Home Isolation 14 วัน จะมีหมอโทรมาหา ให้เราวัด oxigen และปรอท ทุกวัน และแจ้งอาการของผู้ป่วยเพื่อประเมินอาการ โดยไม่มีการ X-ray ปอด เค้าสมมุติฐานว่าเชื้อคงไม่ลงปอด ให้ยารักษาตามอาการ โดยช่วงนี้ห้ามนอนห้องแอร์ กินน้ำเยอะๆอุณหภูมิห้อง หรือทานน้ำอุ่น
4. พอจบ course Home Isolation 14 วันให้กักตัวต่อ อีก 14 วันโดยหมอแจ้งว่าเชื้อในร่างกายจะน้อยลงแล้วให้กักตัว หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอกคือใส่หน้ากากดูแลตัวเองดีๆเหมือน 14 วันแรก
5. สิ่งที่พบคือเราไม่ได้ X-ray ปอด พอเรากักตัวไปแล้ว 20 วันลองติดต่อ รพ เอกชนเพื่อขอทำการ check up ใหม่หมด สิ่งที่เจอคือเค้าไม่อยากรับเราเข้ารักษา (เหมือนเดิม คือมีเงินไมไ่ด้ช่วย) เลยไม่รู้ว่าไอ้ที่สาธารณสุขแจ้งว่ากักตัวถึง 28 วัน หลังจากนั้นใช้ชีวิตได้ปกติ นี่จริงหรือเปล่า เพราะรพ เอกชน แค่ได้ยินว่าเราติดเชื้อมา เค้าก็พร้อมที่จะตัดสายเราทันที ขอบอกเลยคะ ว่ามันโคตรแย่ ลำพังอยู่บ้านกักตัวก็เครียดจะแย่อยู่แล้ว แต่ที่แย่คือสังคมมองเราเป็นเชื้อโรค นี่แย่กว่า (ไม่ได้โทษบุคคลากรทางการแพทย์นะ) แต่มีสิ่งนึงที่อยากให้ผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจเอาไปคิดต่อ (ไม่รู้ว่าจะฉลาดพอหาคำตอบให้เราได้ไหม) คือ
*** หลังจากรักษาแล้ว เป็นเวลา 20 วัน บังเอิญเกิดอุบัติเหตุโดนหมากัด และเราอยากรับวัคซีนบาทยัก เราอยากรับผิดชอบต่อสังคม คือโทรไปถาม รพ เอกชนแผนกฉุกเฉิน ว่าเราอยากจะเข้าทำการรักษา โดยเรามีประวัติติดเชื้อ โดยรพ ที่รักษาเราบอกว่าให้เราใส่หน้ากาก 2 ชั้นแล้วใส่ Face Shield ด้วย เพื่อป้องกันการรับเชื้อใหม่และแพร่เชื้อ (เพราะไม่มีใครรู้) พอแจ้งแผนกฉุกเฉินเค้ากลับตอบมาว่าไม่รับรักษาเนื่องจากไม่มีระบบ Swab เหมือนเหตุการณ์เรื่องจะ Check up ร่างกายเลย แล้วยังงี้ไปยังไงต่อละทีนี้ ส่วนตัวเลยไม่สงสัยว่าทำไมบุคลากรด่านหน้าถึงติดกันเยอะขึ้นเพราะระบบมันแย่คือบอกความจริงก็ไม่รับ ถึงมีคนโกหก หรือปกปิดข้อมูล (เอาจริงๆ ไม่รู้ว่าจะด่าใครเลยงานนี้ ด่าคนป่วย หรือจะด่าระบบการรักษา)
ยังไงก็ขอฝากให้ทุกคนดูแลตัวเองกันดีๆละกัน อยู่บ้านหยุดเชื้อเพราะสงสารหมอพยาบาลที่รักษาโควิดมากๆ หากผู้ใหญ่บ้านเมืองยังการเมืองมาครอบงำหมด บอกเลยคะว่าอนาคตมีแต่จะทำให้คนตายเยอะขึ้น หวังว่าประสบการณ์อันเลวร้ายครั้งนี้จะมีประโยชน์กับคนอ่านนะคะ